Old/New Testament
พระเจ้าอยู่กับคนของพระองค์เสมอ
43 ยาโคบ พระยาห์เวห์ที่สร้างเจ้าขึ้นมา
อิสราเอล พระยาห์เวห์ที่ปั้นเจ้าขึ้นมานั้น
ตอนนี้พระองค์พูดอย่างนี้ว่า
“ไม่ต้องกลัว เพราะเราได้ไถ่เจ้าให้เป็นอิสระแล้ว
เราได้เรียกชื่อของเจ้าโดยเฉพาะ
และเจ้าเป็นของเรา
2 เมื่อเจ้าต้องลุยน้ำลึกไป เราจะอยู่กับเจ้า
เมื่อเจ้าต้องข้ามแม่น้ำ เจ้าก็จะไม่จมลงไป
เมื่อเจ้าต้องเดินลุยไฟ เจ้าก็จะไม่ไหม้
และเปลวเพลิงก็จะไม่เผาผลาญเจ้า
3 เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
เราคือผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
เราได้ให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ตัวเจ้า
เราได้แลกเอธิโอเปียและเสบากับตัวเจ้า
4 เพราะเจ้ามีค่ามาก
และมีเกียรติในสายตาเราและเรารักเจ้า
เราได้ให้คนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้า
และให้ชนชาติต่างๆเพื่อแลกกับชีวิตเจ้ามา”
5 “ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า
เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากทางทิศตะวันออก
และเราจะรวบรวมเจ้าจากทางทิศตะวันตก
6 เราจะพูดกับทิศเหนือว่า ‘ปล่อยพวกเขาไป’
และพูดกับทิศใต้ว่า ‘อย่าได้ยึดพวกเขาไว้’
ให้นำพวกลูกชายของเรากลับมาจากแดนไกล
และนำพวกลูกสาวของเรากลับมาจากสุดปลายโลก
7 ให้นำทุกคนที่เป็นของเรามา
คือคนที่เราสร้างขึ้นเพื่อประดับบารมีของเรา
คนที่เราได้ปั้นและทำขึ้นมา”
อิสราเอลเป็นพยานให้กับพระเจ้า
8 ให้นำคนเหล่านั้นออกมา คือคนที่มีตา แต่กลับบอด
และคนที่มีหู แต่กลับหนวก
9 ให้ชนชาติทั้งหมดรวบรวมกันเข้ามา
ให้ประชาชาติทั้งหมดมาชุมนุมกัน
ใครในพวกพระของเขาได้ทำนายว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น
หรือได้ประกาศล่วงหน้าถึงเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
ก็ให้พวกเขานำพวกพยานของเขามาพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาถูก
เพื่อว่าคนอื่นจะได้ฟัง และพูดว่า “เป็นจริง”
10 พระยาห์เวห์พูดว่า “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา
และเป็นผู้รับใช้ของเราที่เราได้เลือกมา
เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รู้จักและเชื่อเราและจะได้เข้าใจเสียทีว่าเราคือพระองค์ พระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
ก่อนหน้าเราไม่มีพระเจ้าอื่นที่ถูกปั้นขึ้นและหลังจากเราก็จะไม่มีเหมือนกัน
11 เรา เรานี่แหละคือยาห์เวห์
และนอกจากเรา ไม่มีใครเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
12 เราได้ทำนายเรื่องเหล่านี้ให้กับเจ้าล่วงหน้าและได้มาช่วยกู้เจ้าและเราได้ประกาศสิ่งเหล่านี้ออกไปล่วงหน้า
ไม่ใช่พระต่างชาติในหมู่พวกเจ้าทำหรอกและเจ้าเป็นพยานให้กับเรา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
13 เราคือพระเจ้า และเราก็จะเป็นพระเจ้าต่อไป
ไม่มีพระไหนสามารถช่วยกู้ใครก็ตามให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้
เมื่อเราทำอะไรไป ใครจะมาเปลี่ยนมันกลับไปได้
พระเจ้าจะช่วยคนของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง
14 พระยาห์เวห์ องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
ผู้ที่ไถ่พวกเจ้าให้เป็นอิสระ พูดว่า
“เราจะส่งกองทัพไปบาบิโลนเพื่อช่วยเจ้า
และจะพังทลายสลักประตูทั้งหลายลง
และจะทำให้เสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนบาบิโลนกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
15 เราคือยาห์เวห์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า
พระผู้สร้างแห่งอิสราเอลผู้เป็นกษัตริย์ของเจ้า”
16 พระยาห์เวห์
ผู้สร้างทางข้ามในทะเล
เป็นทางในน้ำที่ซัดส่ายไปมา
17 ผู้ที่นำรถรบและม้ารวมทั้งกองทัพและนักรบ
ออกไปให้ถูกทำลายพร้อมๆกัน
พวกเขานอนลงที่นั่น และไม่ได้ลุกขึ้น
พวกเขาถูกดับไปเหมือนไส้ตะเกียง
18 พระองค์พูดว่า “ไม่ต้องจดจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
หรือไปคิดถึงอดีต
19 ดูสิ เรากำลังจะทำสิ่งใหม่
และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว
เจ้าไม่เห็นหรือ
เราจะทำทางในทะเลทราย
และให้พวกแม่น้ำในที่แห้งแล้ง
20 พวกสัตว์ป่ารวมถึงหมาป่าและนกฮูกจะให้เกียรติเรา
เพราะเราได้ทำให้น้ำเกิดขึ้นในทะเลทราย
พวกแม่น้ำเกิดขึ้นในที่แห้งแล้ง
เพื่อจะได้ให้น้ำดื่มกับชนชาติที่เราได้เลือกไว้
21 เป็นชนชาติที่เราได้ปั้นขึ้นเพื่อตัวเราเอง
เพื่อพวกเขาจะได้ประกาศถึง
สิ่งอันน่าสรรเสริญนี้ที่เราได้ทำ
22 แต่ยาโคบเอ๋ย เจ้าก็ไม่ได้ร้องเรียกหาเรา
อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเบื่อหน่ายเราแล้ว
23 เจ้าไม่ได้เอาแพะแกะของเจ้ามาเผาทั้งตัวบูชาให้กับเรา
และเจ้าก็ไม่ได้ให้เกียรติเราด้วยพวกเครื่องบูชาของเจ้า
เราไม่ได้บังคับให้เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช
หรือทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยเพราะต้องถวายเครื่องหอม
24 เจ้าไม่ได้เอาเงินไปซื้อไม้หอมให้เรา
เจ้าไม่ได้ทำให้เราอิ่มหนำสำราญด้วยไขมันสัตว์จากพวกเครื่องบูชาของเจ้า
แต่พวกเจ้ากลับทำให้เราแบกภาระหนักคือบาปทั้งหลายของพวกเจ้านั่นแหละ
และความผิดทั้งหลายของเจ้าทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย
25 เรา เราคือพระองค์นั้นที่ลบล้างการกบฏทั้งหลายของเจ้าเพราะเห็นแก่หน้าเรา
และเราจะไม่จดจำความบาปทั้งหลายของเจ้า
26 กล่าวหาเราได้เลย ไปขึ้นศาลสู้คดีกัน
ให้การของเจ้ามา เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าถูก
27 บรรพบุรุษคนแรกของเจ้าทำบาป
และพวกตัวแทนของเจ้าก็ได้กบฏต่อเรา
28 เราจึงทำให้พวกผู้นำในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป
มอบยาโคบให้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
มอบอิสราเอลให้ถูกหัวเราะเยาะ
พระยาห์เวห์จะอวยพรอิสราเอล
44 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘ยาโคบ ผู้รับใช้ของเรา
อิสราเอล ผู้ที่เราเลือกมา ตอนนี้ฟังให้ดี’
2 พระยาห์เวห์ผู้ที่สร้างเจ้าขึ้นมานั้น
ผู้ที่ปั้นเจ้าตอนอยู่ในครรภ์ ผู้ที่จะช่วยเจ้า พูดอย่างนี้ว่า
‘ยาโคบ ผู้รับใช้ของเรา
เยชุรูน[a] ผู้ที่เราเลือกมาไม่ต้องกลัว
3 เพราะเราจะเทน้ำลงบนแผ่นดินที่กระหาย
และให้ลำธารต่างๆไหลบนดินแห้ง
เราจะเทพระวิญญาณของเราลงบนลูกหลานของเจ้า
และเทพระพรของเราลงบนลูกๆของเจ้า
4 พวกเขาจะงอกขึ้นมาเหมือนกับต้นป๊อปลาร์สีเขียว
และเหมือนพวกต้นหลิวที่ขึ้นอยู่ตามลำธาร’
5 คนหนึ่งจะบอกด้วยความภาคภูมิใจว่า ‘เราเป็นของพระยาห์เวห์’
และอีกคนหนึ่งก็จะบอกว่า ‘ข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของยาโคบ’
และอีกคนหนึ่งจะเขียนลงบนมือของเขาว่า ‘ของพระยาห์เวห์’
และตั้งนามสกุลว่า ‘อิสราเอล’”
พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้
6 พระยาห์เวห์ผู้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ปกป้องอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า
“เราเป็นผู้แรกและผู้สุดท้าย
นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
7 พระไหนเป็นเหมือนเรา ก็ให้พระนั้นพูดออกมาและประกาศออกมา
และให้แสดงหลักฐานต่อหน้าเรา
ใครได้ทำนายนานแสนนานมาแล้วถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ก็ให้พระพวกนั้นออกมาบอกพวกเราถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
8 ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องขวัญผวา
เราได้บอกเจ้าตั้งแต่สมัยโบราณแล้วไม่ใช่หรือ เราได้ทำนายว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่หรือ
เจ้าก็เป็นพยานให้กับเราได้
นอกจากเราแล้วยังมีพระเจ้าอื่นอีกหรือ
เราไม่เห็นรู้จักเลย ไม่มีหิน[b] หลบภัยอื่นนอกจากเราอีกแล้ว”
พวกรูปเคารพไม่มีประโยชน์
9 คนพวกนั้นทั้งหมดที่ทำรูปเคารพต่างๆขึ้นมาก็ไม่มีค่าอะไรเลย และรูปเคารพที่พวกเขาชื่นชอบนักหนาก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย พวกที่นมัสการรูปเคารพนั้นก็เป็นพยานให้กับพวกรูปเคารพนั้น คนที่นมัสการรูปเคารพนั้นก็มองไม่เห็นและไม่เข้าใจ ดังนั้นพวกเขาจะได้รับความอับอาย 10 ใครจะไปปั้นพระหรือหล่อรูปเคารพที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ 11 ดูสิ พวกนั้นทั้งหมดที่นับถือรูปเคารพจะต้องอับอาย พวกช่างฝีมือที่สร้างมันก็เป็นแค่มนุษย์ ให้พวกเขาชุมนุมกันทุกคนและยืนขึ้นสู้คดี พวกเขาก็จะต้องขวัญผวาและอับอายขายหน้าไป
12 ช่างเหล็กก็ตัดเหล็กเอามาทำให้ร้อนบนไฟและเขาใช้ค้อนตีขึ้นรูปและทำงานกับเหล็กนั้นด้วยแขนอันแข็งแกร่งของเขา แต่เมื่อเขาหิว เขาก็จะหมดแรงไป ถ้าเขาไม่ดื่มน้ำเขาก็จะอ่อนเปลี้ยไป 13 ช่างไม้ก็ขึงเชือกวัดและใช้ปากกาเหล็ก และวงเวียนขีดเขียนเป็นรูปร่างขึ้นมา และเขาก็แกะสลักมันด้วยเครื่องมือแกะสลัก เขาสร้างมันขึ้นมาเหมือนรูปร่างคน และมีความสวยงามของมนุษย์ แล้วเอามันไปตั้งไว้ในศาลเจ้า 14 เขาไปตัดต้นสนซีดาร์ หรือไม่ก็ไปเลือกต้นโฮม์หรือต้นโอ๊ก เขาปล่อยให้ต้นไม้โตขึ้นตามลำพังท่ามกลางไม้อื่นๆในป่า เขาปลูกต้นสนซีดาร์และฝนก็ทำให้มันสูงขึ้น 15 และเมื่อถึงเวลาที่จะเอามันมาทำฟืนให้กับมนุษย์ เขาก็เอาไม้นั้นมาส่วนหนึ่ง มาเผาให้ความอบอุ่นกับตัวเอง เอามาก่อไฟและอบขนมปังและเขาก็เอาอีกส่วนหนึ่งมาสร้างเป็นพระและนมัสการมัน เขาแกะสลักรูปเคารพขึ้นมาและกราบไหว้อยู่ต่อหน้ามัน 16 เขาเอาไม้ครึ่งหนึ่งมาเผาไฟและย่างเนื้อบนมัน เอามากินจนอิ่มหนำสำราญและผิงไฟนั้นให้ร่างกายอบอุ่น และพูดว่า “ข้าอุ่นจัง ขณะที่ดูไฟนี้” 17 และไม้ที่เหลือก็เอามาสร้างเป็นพระ ให้เป็นรูปเคารพของเขา และเขาก็ก้มกราบและนมัสการมัน แถมเขาได้อธิษฐานกับมันว่า “ช่วยกู้ชีวิตข้าด้วย เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของข้า”
18 พวกเขาไม่รู้ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำอยู่ ตาของพวกเขาปิดสนิท เขาจึงมองอะไรไม่เห็น และจิตใจของเขาก็เหมือนกันเขาก็เลยไม่เข้าใจ 19 ไม่มีใครหยุดพิจารณา และพวกเขาก็ไม่มีความรู้ หรือความคิดแยกแยะ ที่จะพูดว่า “ข้าเผาไม้ครึ่งหนึ่งในไฟ และอบขนมปังบนมัน ข้าย่างเนื้อและกินเนื้อนั้น แล้วต่อไปข้าควรจะเอาไม้ที่เหลือมาสร้างสิ่งที่น่าขยะแขยงนี้หรือเปล่า ข้าควรจะก้มลงกราบต่อหน้าท่อนไม้ท่อนหนึ่งหรือเปล่า” 20 มันเหมือนกับการเลี้ยงสัตว์ด้วยขี้เถ้า จิตใจที่หลอกลวงของเขาได้นำเขาให้หลงทางไป เขาไม่สามารถช่วยกู้ตัวเองได้ หรือพูดว่า “สิ่งนี้ที่อยู่ในมือขวาของข้าเป็นเรื่องหลอกลวงไม่ใช่หรือ”
พระยาห์เวห์ไถ่อิสราเอล
21 พระยาห์เวห์พูดว่า “ยาโคบเอ๋ย จำเรื่องพวกนี้ไว้ให้ดี
อิสราเอลเอ๋ย จำเรื่องพวกนี้ให้ดี เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราได้ปั้นเจ้าขึ้นมา เจ้าคือผู้รับใช้ของเรา
อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่มีวันลืมเจ้า
22 เราได้กวาดการกบฏของเจ้าทิ้งไปเหมือนลมพัดเมฆไป
และกวาดความบาปของเจ้าทิ้งไปเหมือนหมอกปลิวไป
กลับมาหาเราเถิด เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว”
23 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ส่วนลึกที่สุดของโลกเอ๋ย โห่ร้องเถิด
ภูเขา ป่าไม้ และต้นไม้ทั้งหลายเอ๋ย ระเบิดเสียงเพลงออกมาเลย
เพราะพระยาห์เวห์ได้ไถ่ยาโคบแล้ว
และพระองค์ได้เสริมบารมีของพระองค์โดยช่วยอิสราเอล
24 พระยาห์เวห์ผู้ไถ่เจ้า ผู้ปั้นเจ้าในครรภ์
พูดไว้ว่าอย่างนี้
“เราคือยาห์เวห์ ผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
เราได้ขึงท้องฟ้านี้ออกแต่เพียงผู้เดียว
เราได้กางแผ่นดินออกด้วยตัวเราเอง
25 เราคือผู้ที่ทำให้คำทำนายของพวกนักต้มตุ๋นผิดเพี้ยนไป
และทำให้พวกหมอดูกลายเป็นตัวตลกโง่ๆไป
และเราเป็นผู้ที่ทำให้คนฉลาดหัวหมุน
และทำให้ความรู้ของเขานั้นโง่เขลาไป
26 แต่เราทำให้คำพูดของผู้รับใช้เราเกิดขึ้นจริง
และทำให้คำทำนายของพวกทูตของเราสำเร็จผล
เราพูดถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนมาอาศัยอยู่ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง’
และเราก็พูดถึงเมืองต่างๆของยูดาห์ว่า
‘พวกมันจะถูกสร้างขึ้นใหม่’
และเราพูดถึงซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มว่า
‘เราจะยกซากปรักหักพังเหล่านั้นขึ้นมาใหม่’
27 เราพูดกับมหาสมุทรว่า ‘เหือดแห้งไปซะ’
เราจะทำให้แม่น้ำทั้งหลายของเจ้าเหือดแห้งไป
28 เราพูดถึงไซรัส[c] ว่า ‘เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา
เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากให้เขาทำ’
ไซรัสจะพูดถึงเยรูซาเล็มว่า ‘ให้สร้างมันขึ้นมาใหม่’
และพูดถึงพระวิหารว่า ‘ให้วางฐานรากของมันขึ้นมาใหม่’”
งานรับใช้ของเปาโลในเธสะโลนิกา
2 พี่น้องครับ พี่น้องก็รู้ว่า ตอนที่พวกเราเริ่มประกาศข่าวดีท่ามกลางพวกคุณนั้น มันไม่ได้ไร้ประโยชน์ 2 ตรงกันข้าม ถึงแม้ก่อนหน้านั้นที่เมืองฟีลิปปี[a]พวกเราได้รับความทุกข์ยากและโดนดูถูก แต่พระเจ้าได้ทำให้พวกเราสามารถประกาศข่าวดีที่มาจากพระองค์ในท่ามกลางพวกคุณอย่างกล้าหาญ ทั้งๆที่มีคนจำนวนมากต่อต้านพวกเราอย่างหนัก 3 แน่นอน เมื่อพวกเราอ้อนวอนให้คนมายอมรับข่าวดีนั้น มันไม่ได้มาจากแรงจูงใจที่ผิดๆหรือความไม่จริงใจ หรือหวังที่จะหลอกลวงใคร 4 แต่ตรงกันข้าม พระเจ้าพอใจพวกเราจึงได้มอบข่าวดีนี้ให้กับพวกเรา พวกเราถึงได้ประกาศออกไป เราไม่ได้ทำเพื่อเอาใจคน แต่เพื่อเอาใจพระเจ้า ผู้ตรวจสอบใจของพวกเรา 5 คุณก็รู้อยู่แล้วว่า เราไม่เคยประจบสอพลอ หรือเอาคำสอนมาบังหน้าความโลภ พระเจ้ารับรองได้ว่านี่เป็นความจริง 6 เราไม่สนใจคำเยินยอของมนุษย์คนไหนหรอก ไม่ว่าจะเป็นพวกคุณหรือคนอื่นๆก็ตาม
7 ในฐานะที่พวกเราเป็นศิษย์เอกของพระคริสต์ เรามีสิทธิ์ที่จะบังคับคุณก็ได้ แต่เมื่ออยู่กับพวกคุณ เรากลับอยู่อย่างสุภาพอ่อนโยน[b] เหมือนแม่นมที่รักและเอาใจใส่ลูกๆของเธอ 8 เรารักคุณมากจนพร้อมที่จะทุ่มชีวิตทั้งหมดให้กับคุณ ไม่ใช่แค่เอาข่าวดีจากพระเจ้ามาบอกเฉยๆ 9 พี่น้องทั้งหลายคงจำได้ว่า ตอนที่เรามาประกาศข่าวดีจากพระเจ้าให้กับคุณนั้น เราได้ทำงานอย่างหนัก อาบเหงื่อต่างน้ำทั้งวันทั้งคืน เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของใคร
10 พวกคุณและพระเจ้าก็เป็นพยานได้ว่า ตอนที่เราอยู่กับคุณที่ไว้วางใจนั้น เราได้ทุ่มเทตัวเองให้กับพระเจ้า ทำตามใจพระองค์ และมีชีวิตที่สะอาดหมดจดขนาดไหน 11 คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเราเป็นเหมือนกับพ่อที่เลี้ยงดูลูกแต่ละคน 12 เราได้เคี่ยวเข็ญ ปลอบใจ และสั่งให้คุณใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับคนที่พระเจ้าเรียกให้มามีส่วนร่วมในอาณาจักรและเกียรติยศของพระองค์
13 พวกเราขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะตอนที่คุณยอมรับถ้อยคำของพระเจ้าที่ได้ยินจากเรานั้น คุณไม่ได้รับไว้เหมือนเป็นแค่คำพูดของมนุษย์ แต่ยอมรับว่าเป็นถ้อยคำของพระเจ้า และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้อยคำนี้เองกำลังทำงานอยู่ในตัวพวกคุณที่ไว้วางใจ 14 พี่น้องครับ พวกคุณได้เลียนแบบหมู่ประชุมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ที่แคว้นยูเดีย[c] คือพวกคุณได้รับความทุกข์ยากแบบเดียวกันจากคนของคุณเอง เหมือนกับที่พวกเขาได้รับจากพวกยิวที่เป็นคนของเขาเอง 15 พวกยิวพวกนี้ ก็เป็นพวกที่ฆ่าพระเยซูเจ้าและพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ยิวพวกนี้แหละได้ทำร้ายพวกเราอย่างสาหัส และขับไล่เราออกมา พวกนี้ได้ทำให้พระเจ้าไม่พอใจ และยังต่อต้านทุกคนด้วย 16 พวกเราประกาศกับคนที่ไม่ใช่ยิวเพื่อเขาจะได้รอดด้วย แต่คนยิวพวกนี้พยายามขัดขวางไม่ให้เราทำ เมื่อพวกเขาทำอย่างนี้ เขาก็เพิ่มความบาปขึ้นเรื่อยๆจนเต็ม แล้วในที่สุดพระเจ้าก็ได้ลงโทษพวกเขา
เปาโลอยากจะมาเยี่ยมพวกเขาอีก
17 พี่น้องครับ เราก็ถูกแยกจากคุณแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่เราจากกันแค่กาย ใจนั้นยังอยู่กับคุณ เราอยากจะเจอหน้าคุณจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว 18 อันที่จริงเราได้พยายามที่จะมาหาคุณ ที่แน่ๆอย่างน้อยตัวผมเอง เปาโล ก็ได้พยายามแล้วพยายามอีก แต่ซาตานก็ขัดขวางพวกเราไว้ 19 แล้วใครกันล่ะจะเป็นความหวัง เป็นความชื่นชมยินดี หรือเป็นรางวัลที่เราจะคุยโอ้อวดได้ต่อหน้าพระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์กลับมา ก็พวกคุณนั่นแหละ 20 พวกคุณเป็นความภาคภูมิใจและความชื่นชมยินดีของพวกเรา
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International