Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Book of Common Prayer

Daily Old and New Testament readings based on the Book of Common Prayer.
Duration: 861 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 16-17

ความเชื่อมั่นในพระยาห์เวห์

มิคทาม[a] บทหนึ่งของดาวิด

16 ข้าแต่พระเจ้า ได้โปรดคุ้มครองข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์
เจ้าพูด[b] กับพระยาห์เวห์ว่า “พระองค์คือองค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า
    สิ่งดีๆทั้งหลายที่ข้าพเจ้ามีล้วนมาจากพระองค์ทั้งสิ้น”

แล้วเจ้าก็พูดด้วยว่า “ข้าพเจ้าก็รักพระเจ้าทั้งหลาย[c] ของแผ่นดินนี้
    พวกเขาช่างเลอเลิศเสียเหลือเกิน”

แต่คนที่แสวงหาพระเจ้าอื่นนั้น จะพบแต่ความทุกข์ยาก
    ข้าพเจ้าจะไม่เข้าร่วมพิธีถวายเลือดเป็นเครื่องบูชากับพวกเขา
    และข้าพเจ้าจะไม่เอ่ยชื่อของพระเจ้าอื่นเลย

พระยาห์เวห์คือมรดกของข้าพเจ้า พระองค์คือถ้วยแห่งพระพรของข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ชะตาชีวิตของข้าพเจ้าอยู่ในกำมือของพระองค์
ข้าพเจ้าได้รับที่ดินผืนงามจากพระองค์
    ข้าพเจ้าได้ส่วนแบ่งที่สวยเหลือเกิน

ข้าพเจ้าสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระองค์ให้คำปรึกษากับข้าพเจ้า
    แม้ในยามค่ำคืน จิตใจข้าพเจ้าก็ยังสอนเตือนข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าตั้งพระยาห์เวห์อยู่ตรงหน้าเสมอ ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว
    เพราะพระองค์อยู่ข้างขวาของข้าพเจ้า
เพราะอย่างนี้นี่เอง หัวใจของข้าพเจ้าถึงเบิกบาน จิตวิญญาณของข้าพเจ้าก็เป็นสุขยิ่งนัก
    ร่างกายของข้าพเจ้าก็อยู่อย่างปลอดภัยด้วย
10 เพราะพระยาห์เวห์จะไม่ทอดทิ้งข้าพเจ้าให้อยู่ในแดนคนตาย
    พระองค์จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ติดตามที่จงรักภักดีของพระองค์ต้องลงไปในหลุมศพ

11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์สอนให้ข้าพเจ้ารู้จักทางที่นำไปสู่ชีวิต
    เมื่อข้าพเจ้าอยู่ต่อหน้าพระองค์ ข้าพเจ้ามีความสุขอย่างเต็มที่
    เมื่อข้าพเจ้าอยู่เคียงข้างพระองค์ ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเสมอ

ผู้บริสุทธิ์อธิษฐานขอความเป็นธรรม

คำอธิษฐานของดาวิด

17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังคำร้องขอของข้าพเจ้าสำหรับความยุติธรรม
    โปรดฟังเสียงเรียกให้ช่วยของข้าพเจ้า
    โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าที่ออกมาจากริมฝีปากที่ไม่หลอกลวง
ขอให้ประกาศว่าข้าพเจ้าเป็นฝ่ายถูก
    ขอให้ดวงตาของพระองค์มองเห็นว่าอะไรถูกต้องในเรื่องนี้

พระองค์เป็นผู้ตรวจสอบจิตใจของข้าพเจ้า พระองค์ตรวจดูข้าพเจ้าในตอนกลางคืน
    พระองค์ได้ทดสอบข้าพเจ้าแต่ไม่พบความผิดใดๆ
    ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะไม่ทำบาปด้วยปาก
ไม่ว่าคนอื่นจะทำอะไรก็ช่าง
    ข้าพเจ้าเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์และหลีกเลี่ยงทางของคนโหดเหี้ยม
เท้าของข้าพเจ้ายึดติดอยู่บนทางของพระองค์
    ย่างเท้าของข้าพเจ้าไม่ได้หลุดไปจากทางของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ เพราะพระองค์จะตอบข้าพเจ้า
    โปรดเอียงหูของพระองค์มาหาข้าพเจ้าเพื่อฟังเสียงอธิษฐานของข้าพเจ้า
โปรดแสดงความรักมั่นคงอันอัศจรรย์ของพระองค์ให้ข้าพเจ้าเห็นด้วยเถิด
    เพราะพระองค์เป็นผู้ใช้ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ช่วยคนเหล่านั้นที่มาลี้ภัยในพระองค์จากคนที่โจมตีพวกเขา

โปรดคุ้มครองข้าพเจ้าเหมือนกับข้าพเจ้าเป็นดังแก้วตาของพระองค์
    โปรดซ่อนตัวข้าพเจ้าไว้ เหมือนแม่นกที่ซ่อนลูกน้อยไว้ใต้ร่มเงาปีกของมัน ด้วยเถิด
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคนชั่วที่พยายามทำลายข้าพเจ้า
    จากศัตรูที่รายล้อมคอยเข่นฆ่าข้าพเจ้าอยู่
10 คนพวกนี้ไม่มีความสงสาร
    ปากของพวกเขาพูดโอ้อวดในสิ่งที่เขาทำ
11 คนชั่วพวกนั้นไล่ล่าข้าพเจ้า ตอนนี้เขาได้รายล้อมข้าพเจ้าอยู่
    และพร้อมที่จะเหวี่ยงข้าพเจ้าลงกับพื้น
12 ศัตรูของข้าพเจ้าเป็นเหมือนสิงโตที่พร้อมจะฉีกเนื้อเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ
    เป็นเหมือนสิงห์หนุ่มที่หมอบซุ่มโจมตีอยู่

13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ลุกขึ้นเถิด ปะทะกับเขา โค่นพวกเขาลง
    ใช้ดาบของพระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคนชั่วเหล่านั้นด้วยเถิด
14 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ใช้มือของพระองค์ฆ่าพวกเขา ฆ่าพวกเขาไปเสียจากโลกนี้
    ขจัดพวกเขาออกไปจากท่ามกลางคนที่มีชีวิตอยู่
แต่ส่วนคนเหล่านั้นที่มีค่าสำหรับพระองค์ โปรดให้อาหารกับพวกเขากินอย่างเหลือเฟือ
    เพื่อว่าแม้แต่ลูกๆของพวกเขาก็จะมีอาหารกินอย่างอิ่มหนำ
    และจะมีเหลือเพียงพอไว้เลี้ยงหลานเหลนของเขา

15 ข้าพเจ้าเป็นฝ่ายถูก และข้าพเจ้าจะเห็นใบหน้าของพระองค์
    เมื่อข้าพเจ้าตื่นขึ้น ข้าพเจ้าจะเห็นพระองค์ และอิ่มเอมใจยิ่งนัก

สดุดี 22

คำอธิษฐานของคนที่ทนทุกข์ทรมาน

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องตามทำนองกวางในยามรุ่งเช้า[a] เพลงสดุดีของดาวิด

22 พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์ถึงได้ละทิ้งข้าพเจ้าเสีย
    ทำไมพระองค์ถึงได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้าเสียเหลือเกิน
    ทำไมไม่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ทำไมไม่ได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ตลอดทั้งวัน แต่พระองค์ก็ไม่ตอบข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าก็ยังร้องเรียกต่อไปตลอดทั้งคืน ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์

แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังเป็นองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์
    พระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ และชาวอิสราเอลสรรเสริญพระองค์
บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์
    และพระองค์ช่วยกู้พวกเขา
พวกเขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์
    พวกเขาวางใจในพระองค์ พวกเขาจึงไม่ผิดหวัง

ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวหนอน ไม่ใช่คน
    ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูถูก มันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูหมิ่น
ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้า ต่างก็เย้ยหยันข้าพเจ้า
    พวกเขาพากันทำหน้าและส่ายหัวใส่ข้าพเจ้า
แล้วพูดว่า
“เขาวางใจในพระยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ ให้พระยาห์เวห์ช่วยให้เขารอดสิ
    ถ้าพระยาห์เวห์ชื่นชอบเขา ก็ให้พระยาห์เวห์ปลดปล่อยเขาสิ”

พระเจ้าของข้าพเจ้า ความจริงแล้ว พระองค์คือผู้ที่ดึงข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์
    พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัยในอ้อมอกของแม่
10 ตอนที่ข้าพเจ้าเกิดมา ข้าพเจ้าก็ถูกวางไว้ในอ้อมแขนของพระองค์แล้ว
    พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าคลอดออกมาจากท้องแม่แล้ว
11 ดังนั้น โปรดอย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
    เพราะความทุกข์ยากอยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า และก็ไม่มีใครช่วยด้วย

12 มีวัวตัวผู้จำนวนมากที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่
    วัวตัวผู้ที่ดุร้ายของบาชานกำลังรายล้อมข้าพเจ้าอยู่
13 พวกมันอ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า
    เหมือนกับสิงโตที่กำลังร้องคำรามฉีกกินเหยื่อของมัน

14 กำลังของข้าพเจ้าถูกเทออกเหมือนน้ำ
    กระดูกของข้าพเจ้าหลุดออกจากข้อ
จิตใจของข้าพเจ้าได้หลอมละลาย
    เหมือนขี้ผึ้งภายในตัวข้าพเจ้า
15 พละกำลังของข้าพเจ้าเหือดแห้งไปเหมือนหม้อดินแตก
    ลิ้นของข้าพเจ้าจุกอยู่ที่เพดานปาก
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์วางข้าพเจ้าไว้ในฝุ่นของหลุมศพ

16 พวกหมาได้รายล้อมข้าพเจ้าไว้
    กลุ่มคนชั่วร้ายได้รุมล้อมข้าพเจ้าไว้
พวกมันได้แทงมือแทงเท้าของข้าพเจ้า[b]
17 ข้าพเจ้าผ่ายผอมจนนับกระดูกของข้าพเจ้าได้หมด
    พวกเขาจ้องมองข้าพเจ้าตาเขม็ง
18 พวกเขาก็เอาพวกเสื้อผ้าของข้าพเจ้ามาแบ่งปันกัน
    พวกเขาเอาชุดของข้าพเจ้ามาจับสลากว่าใครจะได้

19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้อยู่ห่างไกลข้าพเจ้า
    พระองค์ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า รีบมาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด
20 ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคมดาบ
    ช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีอยู่จากฝูงหมาพวกนั้นด้วยเถิด
21 ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากปากสิงโต
    พ้นจากคมเขาของฝูงวัวกระทิงเปลี่ยวด้วยเถิด พระองค์ได้ตอบข้าพเจ้าแล้ว

22 ดังนั้นข้าพเจ้าจะบอกพี่น้องของข้าพเจ้าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
23 พวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ ถวายเกียรติให้กับพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล ยำเกรงพระองค์เถิด
24 เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้
    พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า

25 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
    ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
26 คนยากจนทั้งหลาย มาเถิด มากินเครื่องบูชาแก้บนเหล่านั้นให้อิ่มหนำสำราญ
    พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    และขอให้จิตใจของพวกเจ้ามีความสุขตลอดไป
27 ขอให้คนทั่วทุกมุมโลก ระลึกถึงพระยาห์เวห์และหันมาหาพระองค์
    ขอให้คนทุกชาติ ก้มกราบนมัสการต่อหน้าพระองค์
28 เพราะพระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
    และครอบครองอยู่เหนือชนชาติทั้งหลาย

29 คนเหล่านั้นที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะกินเลี้ยงกันและก้มกราบลงต่อหน้าพระองค์
    ส่วนคนที่กำลังจะตายกลับไปสู่ผงธุลีดิน และแม้แต่คนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วก็จะก้มกราบลงต่อหน้าพระเจ้าเหมือนกัน
30 เหล่าลูกหลานของพวกเขาจะรับใช้พระองค์
    คนจะพากันพูดถึงชื่อเสียงขององค์เจ้าชีวิตให้กับคนรุ่นหลังฟัง
31 พวกเขาจะเล่าให้กับคนรุ่นหลังที่ยังไม่ได้เกิดมา
    ฟังเกี่ยวกับการช่วยกู้ที่พระองค์ได้ทำไป

เยเรมียาห์ 38:14-28

เศเดคียาห์ขอคำปรึกษาจากเยเรมียาห์

14 กษัตริย์เศเดคียาห์ ส่งคนไปนำตัวเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้ามาพบพระองค์ ที่ตรงประตูที่สามซึ่งอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพระองค์ก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “เราจะถามเจ้าบางอย่าง อย่าได้ปิดบังอะไรจากเราละ”

15 เยเรมียาห์จึงบอกกับกษัตริย์เศเดคียาห์ว่า “ถ้าข้าพเจ้าบอกพระองค์ พระองค์จะไม่ฆ่าข้าพเจ้าหรือ และถ้าข้าพเจ้าให้คำแนะนำกับพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ฟังข้าพเจ้าหรอก” 16 ดังนั้นกษัตริย์เศเดคียาห์จึงสาบานกับเยเรมียาห์อย่างลับๆว่า “เราขอสาบานต่อพระยาห์เวห์ผู้สร้างพวกเราและประทานชีวิตให้พวกเราว่า เราจะไม่ฆ่าเจ้า และจะไม่มอบตัวเจ้าให้กับคนพวกนี้ที่อยากจะฆ่าเจ้า”

17 เยเรมียาห์จึงบอกกับเศเดคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า ‘ถ้าเจ้ายอมออกไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์แห่งบาบิโลนจริงๆเจ้าก็จะรอดชีวิต และเมืองนี้ก็จะไม่ถูกไฟเผา เจ้าและครอบครัวของเจ้าก็จะรอดชีวิต 18 แต่ถ้าเจ้าไม่ออกไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์แห่งบาบิโลน เมืองนี้ก็จะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของชาวบาบิโลน แล้วพวกเขาก็จะจุดไฟเผาเมือง แล้วเจ้าก็จะไม่รอดพ้นเงื้อมมือพวกเขา’”

19 แล้วกษัตริย์เศเดคียาห์ก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “เรากลัวพวกยิวที่ทิ้งเมืองไปหาพวกบาบิโลน กลัวว่าเราจะถูกส่งไปให้พวกมันทำร้ายเอา”

20 เยเรมียาห์จึงพูดว่า “พวกเขาจะไม่ส่งพระองค์ไปอยู่ในเงื้อมมือของคนพวกนั้นหรอก โปรดฟังเสียงของพระยาห์เวห์ผู้ที่ข้าพเจ้ากำลังพูดแทนอยู่เถิด และทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดีสำหรับพระองค์ และพระองค์ก็จะรอดชีวิต

21 แต่พระยาห์เวห์ได้แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้น ถ้าพระองค์ไม่ยอมออกไปมอบตัว 22 คือผู้หญิงทุกคนที่เหลืออยู่ในบ้านของกษัตริย์แห่งยูดาห์จะถูกจับไปให้กับพวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์แห่งบาบิโลน แล้วพวกเขาก็จะพูดว่า ‘พันธมิตรของแกหักหลังแกแล้ว พวกเขาชนะแก เท้าของแกจมโคลนแล้ว และพวกเขาก็ทอดทิ้งแกไป’

23 พวกเมียและลูกทุกคนของพระองค์จะต้องไปหาชาวบาบิโลน และพระองค์ก็จะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขาไปได้ เพราะกษัตริย์แห่งบาบิโลนจะจับกุมพระองค์และเอาไฟเผาเมืองนี้”

24 แล้วกษัตริย์เศเดคียาห์ก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “ถ้าเจ้าไม่บอกให้ใครรู้ ถึงเรื่องที่เราได้พูดคุยกันในวันนี้ เจ้าก็จะไม่ตาย 25 ถ้าพวกเจ้านายรู้ว่าเราพูดกับเจ้า แล้วพวกเขามาถามเจ้าว่า ‘ช่วยบอกพวกเราหน่อยว่า เจ้าได้พูดอะไรกับกษัตริย์ และกษัตริย์ได้พูดอะไรกับเจ้าบ้าง ถ้าเจ้าบอกเราทุกอย่าง เราจะไม่ฆ่าเจ้า’

26 เจ้าก็ต้องบอกพวกเขาว่า ‘ผมได้ขอร้องพระองค์ ว่าอย่าได้ส่งผมกลับไปตายที่บ้านของโยนาธานเลย’”

27 แล้วพวกเจ้านายทั้งหมดก็ตรงเข้ามาถามเยเรมียาห์ เขาก็ตอบไปตามที่กษัตริย์สั่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเลิกถามเพราะพวกเขาเองก็ไม่ได้ยินการพูดคุย

28 แล้วเยเรมียาห์ก็อยู่ในลานของทหารยาม จนถึงวันที่บาบิโลนยึดเมืองเยรูซาเล็มได้

1 โครินธ์ 15:1-11

ข่าวดีเกี่ยวกับพระคริสต์

15 พี่น้องครับ ผมก็อยากจะเตือนพวกคุณไม่ให้ลืมข่าวดีที่ผมได้ประกาศให้กับพวกคุณ เป็นข่าวดีที่พวกคุณได้รับเอาไว้แล้ว และยึดมั่นอยู่ ถ้าคุณยังคงยึดมั่นในข่าวดีที่ผมบอก ข่าวดีนี้แหละจะช่วยให้พวกคุณรอด ไม่อย่างนั้นความเชื่อของคุณก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ผมมอบเรื่องที่สำคัญที่สุดให้กับพวกคุณ เป็นเรื่องที่ผมเองก็รับมอบมาอีกทีหนึ่งเหมือนกัน คือพระคริสต์ตายเพื่อจัดการกับบาปของพวกเราตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้ พระองค์ถูกฝังและฟื้นขึ้นมาใหม่ในวันที่สามตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้ แล้วพระองค์ก็ไปปรากฏกับเปโตรและศิษย์เอกทั้งสิบสองคน จากนั้นพระองค์ก็ไปปรากฏให้พี่น้องมากกว่าห้าร้อยคนเห็นในเวลาเดียวกัน ซึ่งพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้จะมีบางคนตายไปบ้างแล้ว ต่อมาพระองค์ปรากฏกับยากอบและศิษย์เอกทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง แล้วสุดท้ายพระองค์มาปรากฏกับผมด้วย ผมเหมือนเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เพราะผมต่ำต้อยที่สุดในพวกศิษย์เอกทั้งหมด ความจริงแล้วผมไม่เหมาะที่จะได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกเสียด้วยซ้ำไป เพราะผมเคยข่มเหงหมู่ประชุมของพระเจ้ามาก่อน 10 แต่ที่ผมเป็นศิษย์เอกก็เพราะความเมตตากรุณาของพระเจ้า และผมก็ไม่ได้รับเอาความเมตตากรุณานี้มาไว้เฉยๆ แต่ผมทำงานหนักกว่าพวกศิษย์เอกทุกคน อันที่จริงไม่ใช่ผมหรอกที่ทำ แต่เป็นความเมตตากรุณาของพระเจ้าที่อยู่กับผมต่างหากที่ทำ 11 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผมประกาศหรือศิษย์เอกคนอื่นๆประกาศให้กับพวกคุณ เราทุกคนก็ประกาศเรื่องนี้แหละ และนี่ก็เป็นเรื่องที่พวกคุณมาไว้วางใจ

มัทธิว 11:1-6

พระเยซูและยอห์นผู้ทำพิธีจุ่มน้ำ

(ลก. 7:18-35)

11 เมื่อพระเยซูสั่งพวกศิษย์ทั้งสิบสองคนเสร็จแล้ว พระองค์ก็จากที่นั่นไปประกาศสั่งสอนตามเมืองต่างๆในแคว้นกาลิลี

ยอห์นผู้ทำพิธีจุ่มน้ำซึ่งอยู่ในคุก ได้ยินข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่พระคริสต์ทำ จึงให้ลูกศิษย์ของเขาไป ถามพระเยซูว่า “ท่านคือคนๆนั้นที่กำลังจะมา หรือเราจะต้องรออีกคนหนึ่งครับ”

พระเยซูตอบว่า “กลับไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่คุณได้ยินและได้เห็น คือ คนตาบอดมองเห็น คนง่อยเดินได้ คนเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงก็หาย คนหูหนวกได้ยิน คนตายกลับฟื้นขึ้นมาใหม่ และคนจนก็ได้ยินข่าวดี คนที่ไม่ทิ้งเราเพราะสิ่งที่เราทำเป็นคนที่มีเกียรติจริงๆ”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International