Book of Common Prayer
กษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือก
2 ทำไมชนชาติอื่นๆถึงชุลมุนวุ่นวายเหลือเกิน
    ทำไมคนเหล่านั้นถึงวางแผนโง่ๆ
2 พวกกษัตริย์ในโลกต่างเตรียมพร้อมรบ
    พวกผู้นำของประเทศเหล่านั้น
    ร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์และกษัตริย์ที่พระองค์ทรงเลือกไว้[a]
3 พวกเขาพูดว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวนที่พระยาห์เวห์และกษัตริย์ของพระองค์ได้เอามามัดเราไว้
    และโยนมันทิ้งไป”
4 แต่องค์เจ้าชีวิตนั่งอยู่บนสวรรค์
    พระองค์หัวเราะเยาะใส่พวกเขา
5 แล้ว พระองค์ ก็ต่อว่าพวกเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
    จนทำให้พวกนั้นตกใจขวัญกระเจิง
6 พระองค์พูดว่า
“เราได้แต่งตั้งกษัตริย์ที่เราได้เลือกมาไว้บนศิโยน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
7 กษัตริย์องค์นี้พูดว่า “ให้เราอธิบายให้เจ้าฟัง ถึงประกาศิตของพระยาห์เวห์
    พระองค์บอกกับเราว่า ‘เจ้าคือลูกชายของเรา ในวันนี้ เราได้เป็นพ่อของเจ้าแล้ว’
8 แค่ขอเรามา แล้วเราจะมอบชนชาติต่างๆให้กับเจ้าเป็นมรดก
    เราจะมอบโลกทั้งโลกให้เจ้าเป็นเจ้าของ
9 เจ้าจะทำลายชนชาติเหล่านั้นด้วยกระบองเหล็ก
    เจ้าจะฟาดพวกเขา ให้แตกกระจายเหมือนหม้อดิน”
10 ตอนนี้ พวกเจ้า กษัตริย์ทั้งหลาย ให้ฉลาดขึ้น
    พวกผู้นำทั้งหลาย ให้ฟังคำตักเตือนของเรา
11-12 ให้รับใช้พระยาห์เวห์ด้วยความเคารพยำเกรง
    ให้กราบลงต่อหน้าพระองค์ด้วยตัวสั่นเทิ้ม
ไม่อย่างนั้นพระองค์จะโกรธ แล้วเจ้าจะต้องพินาศทันที
    ให้ทำอย่างนี้ เพราะความโกรธของพระองค์ลุกเป็นไฟได้ในพริบตา
คนที่ลี้ภัยในพระองค์นั้น ก็เป็นคนที่มีเกียรติจริงๆ
โปรดให้เรามีชีวิตใหม่อีกครั้ง
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของตระกูลโคราห์
85 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์แสดงความชอบต่อแผ่นดินของพระองค์
    และทำให้คนของยาโคบกลับมามีสภาพดีเหมือนเดิม
2 พระองค์อภัยให้กับความผิดของคนของพระองค์
    และกลบเกลื่อนความบาปทั้งหมดของพวกเขา เซลาห์
3 พระองค์ถอนความโกรธทั้งหมดของพระองค์ไป
    พระองค์กลับหันหลังให้กับความเดือดดาลของพระองค์
4 ตอนนี้ พระเจ้า องค์เจ้าชีวิตของพวกเรา โปรดช่วยให้เรากลับไปมีสภาพดีเหมือนเดิม
    หยุดโกรธเคืองพวกเราด้วยเถิด
5 พระองค์จะเกรี้ยวกราดพวกเราอยู่อย่างนี้ไปตลอดหรือ
    พระองค์จะกริ้วโกรธไปตลอดชั่วลูกชั่วหลานหรือ
6 พระองค์จะให้ชีวิตใหม่กับเราอีกครั้ง ใช่ไหม
    แล้วคนของพระองค์จะได้มีความสุขในพระองค์
7 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อพวกเรา
    และช่วยพวกเราให้รอดด้วยเถิด
8 ข้าพเจ้าจะฟังสิ่งที่พระเจ้าพูด
    แน่นอน พระยาห์เวห์จะสัญญาให้คนที่จงรักภักดีต่อพระองค์อยู่เย็นเป็นสุข
    แต่พวกเขาจะต้องไม่หันกลับไปทำเรื่องโง่ๆของพวกเขาอีก
9 ในไม่ช้าพระองค์จะช่วยกู้คนที่ยำเกรงพระองค์อย่างแน่นอน
    และแผ่นดินของเราจะเต็มไปด้วยสง่าราศีของพระองค์
10 ความรักมั่นคงของพระเจ้าและความสัตย์ซื่อของพระองค์จะมาพบกัน
    ความชอบธรรมและสันติสุขของพระองค์จะมาจูบกัน
11 ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะงอกขึ้นมาจากแผ่นดิน
    และความดีงามของพระองค์จะมองลงมาจากฟ้าสวรรค์
12 พระยาห์เวห์เองจะให้สิ่งดีๆกับพวกเรา
    และแผ่นดินของเราก็จะผลิตผลของมัน
13 ความชอบธรรมจะเดินอยู่เบื้องหน้าพระองค์
    และจัดเตรียมทางให้กับเท้าของพระองค์
พระยาห์เวห์ให้คำสัญญากับกษัตริย์
เพลงสดุดีของดาวิด
110 พระยาห์เวห์ พูดกับกษัตริย์องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้าว่า
    “นั่งลงทางขวามือของเรา จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้ากลายเป็นที่รองเท้าของเจ้า”
2 พระยาห์เวห์จะแผ่ขยายอำนาจของท่านออกไปจากเมืองศิโยน
    และท่านจะได้ปกครองอยู่เหนือพวกศัตรูของท่าน
3 คนของท่านจะสมัครใจเข้าร่วมกับท่านในวันศึกสงครามบนพวกเนินเขาอันศักดิ์สิทธิ์นั้น
    คนหนุ่มของท่านจะมาหาท่านเหมือนกับน้ำค้างในตอนเช้า[a]
4 พระยาห์เวห์ได้สาบานไว้และพระองค์จะไม่เปลี่ยนใจ ที่ว่า
    “ท่านจะเป็นนักบวชตลอดไปเหมือนกับเมลคีเซเดค”
5 องค์เจ้าชีวิตยืนอยู่ทางด้านขวาของท่าน
    พระองค์จะฟาดพวกกษัตริย์ให้แตกละเอียดในวันที่พระองค์โกรธ
6 พระองค์จะลงโทษชนชาติทั้งหลาย
    และทำให้ชนชาติเหล่านั้นเต็มไปด้วยซากศพ
    พระองค์จะฟาดหัวคนทั่วแผ่นดินโลกให้แตกละเอียด
7 กษัตริย์จะดื่มน้ำจากลำธารข้างทาง
    แล้วท่านก็จะเชิดหน้าในชัยชนะ
คำสัญญาที่พระยาห์เวห์ให้กับกษัตริย์ดาวิดและศิโยน
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
132 ข้าแต่พระยาห์เวห์โปรดระลึกถึงดาวิด
    และความทุกข์ยากลำบากทั้งหมดของเขา
2 เขาได้สาบานต่อพระยาห์เวห์
    และบนบานต่อผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบ
3 ดาวิดพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่เข้าไปในบ้านของตัวเอง
    และจะไม่นอนลงบนเตียงของตัวเอง
4 ข้าพเจ้าจะไม่ยอมหลับตาลง
    จะไม่ยอมให้หนังตาปิดลง
5 จนกว่าจะพบสถานที่สำหรับก่อตั้งเต็นท์อันศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระยาห์เวห์
    เพื่อพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยาโคบจะได้พักอาศัยอยู่ที่นั่น”
6 ดูเถิด ตอนที่เราอยู่ที่เอฟราธาห์ พวกเราได้ยินเรื่องหีบศักดิ์สิทธิ์
    และเราได้พบหีบศักดิ์สิทธิ์นั้นในท้องทุ่งแห่งคีเรียธ ยาอาร์
7 พวกเราพูดกันว่า “ไปเต็นท์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์กัน
    ไปกราบลงตรงที่วางเท้าของพระองค์กันเถิด”
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ลุกขึ้นและไปยังที่พักผ่อนแห่งใหม่ของพระองค์เถิด
    ทั้งพระองค์และหีบที่แสดงถึงฤทธิ์อำนาจของพระองค์
9 ขอให้พวกนักบวชของพระองค์สวมใส่ชัยชนะ
    ขอให้พวกที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์โห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี
10 แล้วเพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์
    ขออย่าปฏิเสธกษัตริย์ที่พระองค์ได้เลือกไว้แล้ว[a]
11 พระยาห์เวห์ได้สาบานต่อดาวิด
    และพระองค์จะไม่คืนคำ ที่ว่า “เราจะให้ลูกหลานของเจ้าสืบต่อบัลลังก์จากเจ้า
12 ถ้าหากลูกหลานของเจ้าจะยังคงรักษาข้อตกลงและคำสั่งต่างๆที่เราสอนพวกเขาไว้
    ลูกหลานของพวกเขาก็จะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของเจ้าตลอดไป”
13 พระยาห์เวห์ได้เลือกศิโยน
    พระองค์ตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ที่นั่น
14 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะอาศัยอยู่ในสถานที่นี้ตลอดไป
    เราจะอยู่ที่นี่เพราะเราได้เลือกสถานที่นี้มา
15 เราจะอวยพรให้ศิโยน
    อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารและเราจะทำให้คนยากจนอิ่มหนำ
16 เราจะสวมใส่ความรอดให้กับพวกนักบวชของศิโยน
    และผู้ที่สัตย์ซื่อของศิโยนจะโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี
17 และที่นั่นเราจะทำให้ราชวงศ์ของดาวิดแข็งแกร่ง
    ราชวงศ์ของกษัตริย์ที่เราได้เลือกไว้นั้นจะคงอยู่ตลอดไปเหมือนตะเกียงที่ไม่มีวันดับ
18 เราจะสวมใส่ความอับอายให้กับพวกศัตรูของเขา
    แต่เราจะทำให้มงกุฎของเขาส่องประกายเจิดจ้า”
คำสั่งสอนจะมาจากเยรูซาเล็ม
4 แต่ในวันข้างหน้านั้น เนินของวิหาร ของพระยาห์เวห์จะถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็นยอดสูงสุดของภูเขาทั้งหมด
    มันจะถูกยกขึ้นสูงเหนือเนินเขาทั้งหมด
และคนทั้งหลายจะหลั่งไหลกันไปที่นั่น
2 ชนชาติต่างๆมากมายจะพากันไปที่นั่น
พวกเขาจะพูดว่า
    “ไป ให้พวกเราขึ้นไปยังภูเขาของพระยาห์เวห์กันเถอะ
    ไปยังวิหารของพระเจ้าของยาโคบ
เพื่อพระองค์จะได้สอนวิถีทางของพระองค์ให้กับพวกเรา
    แล้วพวกเราจะได้เดินตามเส้นทางของพระองค์”
คำสั่งสอนจะออกมาจากศิโยน
    และคำพูดของพระยาห์เวห์จะออกมาจากเยรูซาเล็ม
3 พระองค์จะเป็นผู้พิพากษาระหว่างคนจำนวนมาก
    พระองค์จะตัดสินระหว่างชนชาติทั้งหลายที่เข้มแข็งที่อยู่ห่างไกล
พวกเขาจะตีดาบของพวกเขาให้เป็นคันไถ
    และตีหอกของพวกเขาให้เป็นเครื่องมือตัดแต่งกิ่งไม้
ชนชาติหนึ่งจะไม่ชูดาบขึ้นต่อสู้กับอีกชนชาติหนึ่ง
    และพวกเขาจะไม่มีการฝึกทำสงครามอีกต่อไป
4 แต่ละคนจะนั่งอยู่ใต้ต้นองุ่นและใต้ต้นมะเดื่อของเขา
    จะไม่มีใครมาทำให้พวกเขาตกใจกลัว
    เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นบอกไว้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้
5 ถึงแม้ว่าชนชาติอื่นๆจะติดตามพวกพระของเขาไป
    แต่เราจะยังคงติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตลอดไป
2 แต่เจ้า เบธเลเฮม เอฟราธาห์
    เจ้าเป็นแค่เมืองเล็กๆท่ามกลางแคว้นต่างๆของยูดาห์
แต่จากเจ้านี่แหละจะมีผู้ปกครองคนหนึ่งออกมาให้กับเรา
    เขาจะปกครองอยู่เหนืออิสราเอล
เขาจะสืบเชื้อสายมาจากพวกคนที่มีชื่อเสียงในยุคแรกๆของชนชาตินี้
3 พระยาห์เวห์จะมอบคนของพระองค์ให้กับศัตรูจนกว่านางที่กำลังเบ่งคลอดอยู่ จะคลอดลูกออกมา[a]
    หลังจากนั้น พี่น้องที่เหลือของเขาจะกลับไปยังลูกๆของอิสราเอล
4 ผู้ปกครองคนนั้น จะยืนขึ้นและเลี้ยงดูอิสราเอลเหมือนผู้เลี้ยงแกะด้วยพละกำลังของพระยาห์เวห์
    ด้วยสิทธิอำนาจในพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา
พวกเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย
    เพราะความยิ่งใหญ่ของเขาจะแผ่ไปจนถึงสุดขอบโลก
ความรักมาจากพระเจ้า
7 เพื่อนๆที่รัก ขอให้เรารักกันและกัน เพราะความรักนั้นมาจากพระเจ้า ทุกคนที่มีความรัก ก็ได้เกิดเป็นลูกของพระเจ้า และรู้จักพระองค์ 8 ส่วนคนที่ไม่มีความรัก ก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าเป็นความรัก 9 นี่คือวิธีที่พระเจ้าได้แสดงความรักให้กับเรา คือพระองค์ได้ส่งพระบุตรเพียงองค์เดียวมาอยู่ในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยผ่านทางพระบุตรของพระองค์นั้น 10 นี่แหละคือความรักแท้ ไม่ใช่ว่าเราไปรักพระองค์ แต่พระองค์รักเราและส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นเครื่องบูชา เพื่อจัดการกับบาปของเราให้หมดไป
11 เพื่อนๆที่รัก ถ้าพระเจ้ารักเราขนาดนี้ เราก็ควรจะรักกันและกันด้วย 12 ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักกันและกัน พระเจ้าก็อยู่ในเราและความรักของพระองค์ก็ได้สำเร็จในชีวิตของเราตามเป้าหมายของพระองค์
13 แบบนี้สิเราถึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์ และพระองค์อยู่ในเรา คือพระองค์ได้ยอมให้เรามีส่วนร่วมกับพระวิญญาณของพระองค์ 14 เราได้เห็นและเราได้เป็นพยานว่า พระบิดาได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นผู้ช่วยให้โลกนี้รอดพ้นจากบาป 15 คนที่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็อยู่ในคนๆนั้นและคนๆนั้นก็อยู่ในพระเจ้า 16 ดังนั้นเราจึงแน่ใจและไว้วางใจในความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา พระเจ้าคือความรักและคนที่อยู่ในความรักต่อไปก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็อยู่ในคนๆนั้นด้วย
ผู้ที่ลงมาจากสวรรค์
31 พระองค์ผู้ที่ลงมาจากเบื้องบนนั้นใหญ่เหนือทุกคน คนที่มาจากโลกก็เหมือนกับคนทั่วไปในโลกนี้ที่พูดแต่เรื่องของโลก แต่พระองค์ผู้ลงมาจากสวรรค์นั้นเป็นใหญ่เหนือทุกคน 32 พระองค์เล่าเรื่องที่พระองค์ได้เห็นและได้ยินมา แต่ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่พระองค์บอก 33 ส่วนคนที่เชื่อในสิ่งที่พระองค์บอกนั้นก็แสดงว่าเขาเชื่อว่า พระเจ้าพูดความจริงด้วย 34 เพราะผู้ที่พระเจ้าส่งมานั้นพูดตามที่พระเจ้าพูด เพราะพระเจ้าให้พระองค์มีฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ไม่จำกัดเลย 35 พระบิดารักพระบุตร และให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับพระบุตร 36 คนที่ไว้วางใจพระบุตรนั้นก็มีชีวิตอยู่กับพระเจ้าตลอดไป แต่คนที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบุตรนั้นก็จะไม่พบกับชีวิตนั้น และยังต้องตกอยู่ภายใต้การลงโทษของพระเจ้า[a]
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International