Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Historical

Read the books of the Bible as they were written historically, according to the estimated date of their writing.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 ซามูเอล 7-10

คำสัญญาที่พระเจ้าให้กับดาวิด

(1 พศด. 17:1-15)

หลังจากที่กษัตริย์ดาวิดเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านแล้ว พระยาห์เวห์ได้ให้เขาพักจากการรบกับศัตรูรอบด้าน กษัตริย์ดาวิดได้พูดกับนาธันผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ดูสิ เราอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่ทำจากต้นสนซีดาร์ ในขณะที่หีบของพระเจ้า ยังคงอยู่ในเต็นท์”

นาธันตอบกษัตริย์ไปว่า “ในใจท่านคิดอะไร ก็ไปทำตามนั้นเถิด เพราะพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับท่าน”

แต่คืนนั้น คำพูดของพระยาห์เวห์มาถึงนาธันว่า

“ให้ไปบอกดาวิดคนรับใช้ของเราว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ เจ้าไม่ใช่คนนั้นที่จะสร้างบ้านให้เราอาศัยอยู่ ตั้งแต่วันที่เราได้นำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์มาจนถึงวันนี้ เราไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้าน เราได้ย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งโดยใช้เต็นท์เป็นที่อาศัย ไม่ว่าเราได้ย้ายไปไหนกับชนชาติอิสราเอลทั้งหมด เราเคยพูดกับพวกผู้นำของอิสราเอลที่เราได้สั่งให้คอยดูแลชาวอิสราเอลคนของเรา หรือเปล่าว่า ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ได้สร้างบ้านที่ทำจากไม้สนซีดาร์ให้กับเรา’

ตอนนี้ให้บอกกับดาวิดคนรับใช้ของเราว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด เราได้นำเจ้ามาจากทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ จากการไล่ต้อนฝูงแพะแกะ มาเป็นผู้นำเหนือชาวอิสราเอลคนของเรา เราอยู่กับเจ้าในทุกๆที่ที่เจ้าไป และได้กำจัดศัตรูของเจ้าทั้งหมดไปต่อหน้าเจ้า ตอนนี้เราจะทำให้เจ้าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ในโลกคนหนึ่ง 10 และเราจะหาที่ให้กับชาวอิสราเอลคนของเรา และจะปลูกฝังพวกเขาไว้ที่นั่น เพื่อพวกเขาจะได้สร้างบ้านของตัวเอง และไม่ต้องถูกรบกวนอีกต่อไป คนชั่วทั้งหลายจะไม่สามารถกดขี่ข่มเหงพวกเขาอีกเหมือนที่พวกมันเคยทำตอนที่ชาวอิสราเอลเข้ามาในช่วงแรกนั้น 11 และยังทำเรื่อยมาในสมัยที่เราได้แต่งตั้งพวกผู้นำกู้ชาติ[a] ขึ้นเหนืออิสราเอลคนของเรา เราจะให้เจ้าได้พักจากการรบกับศัตรูทั้งหมดของเจ้า พระยาห์เวห์ได้ประกาศกับเจ้าว่า พระยาห์เวห์เองจะเป็นผู้สร้างบ้านให้กับเจ้า[b]

12 เมื่อวันเวลาของเจ้าจบลง แล้วเจ้าได้ไปนอนพักอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า เราจะตั้งลูกของเจ้าขึ้นมาสืบทอดเจ้า เป็นลูกแท้ๆของเจ้าเอง และเราจะก่อตั้งอาณาจักรของเขา 13 เขาคือคนที่จะสร้างบ้านให้กับชื่อของเรา และเราจะตั้งบัลลังก์ของอาณาจักรเขาให้มั่นคงตลอดไป 14 เราจะเป็นพ่อของเขา และเขาจะเป็นลูกชายของเรา[c] เมื่อเขาทำผิด เราจะใช้คนอื่นมาลงโทษเขา คนเหล่านั้นจะเป็นไม้เรียวของเรา 15 แต่เราจะไม่เอาความรักของเราไปจากเขา อย่างที่เราเคยเอามันไปจากซาอูลผู้ที่เราได้กำจัดไปให้พ้นหน้าเจ้า 16 ครอบครัวของเจ้าและอาณาจักรของเจ้าจะยั่งยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าตลอดไป บัลลังก์ของเจ้าจะถูกก่อตั้งไว้ตลอดไป’”

17 แล้วนาธันก็บอกดาวิด ถึงนิมิตและทุกอย่างที่พระเจ้าได้พูด

ดาวิดอธิษฐานกับพระเจ้า

(1 พศด. 17:16-27)

18 กษัตริย์ดาวิดจึงเข้าไปข้างในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และนั่งลงต่อหน้าพระยาห์เวห์และพูดว่า

“ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ข้าพเจ้าเป็นใครกัน ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นใครกัน พระองค์ถึงได้อวยพรข้าพเจ้ามากมายขนาดนี้ 19 แต่ดูเหมือนว่ามันยังน้อยไปในสายตาของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์ยังได้พูดถึงอนาคตของครอบครัวของผู้รับใช้พระองค์คนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์ทำกับข้าพเจ้าราวกับเป็นคนสำคัญมาก 20 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต มีอะไรอีกไหมที่จะให้ดาวิดทำเพื่อพระองค์ ในเมื่อพระองค์ก็รู้จักผู้รับใช้คนนี้ของพระองค์ดี 21 เพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์คนนี้[d] พระองค์ได้ทำทั้งหมดนี้ คือเรื่องยิ่งใหญ่นี้[e] และได้เปิดเผยให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย เพราะพระองค์ตัดสินใจว่าจะทำอย่างนั้น 22 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้า พระองค์ช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ และไม่มีพระเจ้าอื่นอีกนอกจากพระองค์ พวกเราไม่เคยได้ยินเลยว่ามีพระองค์ไหนสามารถทำเรื่องน่าทึ่งทั้งหมดนี้ได้

23 และจะมีใครเป็นเหมือนอิสราเอลชนชาติของพระองค์เล่า ผู้ที่พระองค์ได้ไถ่ออกมาจากการเป็นทาสในอียิปต์[f] เพื่อจะได้มาเป็นประชาชนของพระองค์ พระองค์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์เอง ด้วยการกระทำอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเหล่านี้เพื่อพวกเขา ด้วยการขับไล่ชนชาติ และพวกพระทั้งหลายของพวกมันออกไปต่อหน้าคนของพระองค์ 24 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้ตั้งชาวอิสราเอลให้เป็นคนของพระองค์ตลอดไป และพระองค์ก็กลายเป็นพระเจ้าของพวกเขา

25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้เป็นพระเจ้า ตอนนี้ ขอให้พระองค์รักษาสัญญาที่เกี่ยวกับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ และครอบครัวของข้าพเจ้า ตอนนี้ ได้โปรดทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ 26 เพื่อชื่อเสียงของพระองค์จะได้ยิ่งใหญ่ตลอดไป แล้วคนทั้งหลายจะพูดว่า ‘พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเป็นพระเจ้าเหนืออิสราเอล’ และขอให้ครอบครัวของดาวิดผู้รับใช้พระองค์ ตั้งมั่นคงอยู่ต่อหน้าพระองค์

27 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์ได้เปิดเผยสิ่งนี้กับข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ โดยพูดว่า ‘เราจะสร้างบ้าน[g] ให้เจ้า’ นั่นเป็นเหตุที่ข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ ถึงกล้าอธิษฐานอย่างนี้กับพระองค์ 28 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์คือพระเจ้า และคำพูดของพระองค์เชื่อถือได้ และพระองค์ได้สัญญาสิ่งดีนี้ให้กับข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ 29 ตอนนี้ ขอโปรดอวยพรครอบครัวของข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ ให้คงอยู่ตลอดไปต่อหน้าพระองค์ เพราะพระองค์ได้พูดอย่างนั้นไว้ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต อย่างนี้ ครอบครัวของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับพรตลอดไป ตามคำอวยพรของพระองค์”

ดาวิดชนะสงครามหลายครั้ง

(1 พศด. 18:1-13)

ต่อมา ดาวิดได้ชัยชนะเหนือชาวฟีลิสเตียและทำให้พวกนั้นอยู่ใต้บังคับ และได้ยึดเมืองเมเธก-ฮัมมาห์ที่ชาวฟีลิสเตียเคยครอบครองอยู่ ดาวิดยังเอาชนะชาวโมอับ และได้บังคับให้คนโมอับนอนราบไปกับพื้นดิน และแบ่งพวกเขาออกมาเป็นแถวๆตามความยาวของเชือกเส้นหนึ่ง คนในสองแถวแรกที่ถูกเชือกแบ่งออกมาจะถูกฆ่าตายหมด ส่วนแถวที่สามจะได้รับการไว้ชีวิต ดังนั้น ชาวโมอับจึงกลายเป็นทาสของดาวิดและยอมส่งส่วย[h] ให้เขา

ดาวิดได้รบชนะฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์ ลูกชายของเรโหบ ตอนที่ดาวิดไปตั้งอนุสาวรีย์[i] ให้กับตนเองที่ลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส

ดาวิดได้ยึดรถม้าศึกหนึ่งพันคัน คนขับรถม้าศึกเจ็ดพันคน[j] และทหารเดินเท้าสองหมื่นคน ดาวิดได้ตัดเส้นเอ็นที่ขาของพวกม้าทั้งหมด ยกเว้นม้าหนึ่งร้อยตัวสำหรับรถรบ[k]

ชาวอารัมจากเมืองดามัสกัสได้มาช่วยฮาดัดเอเซอร์กษัตริย์เมืองโศบาห์รบ แต่ดาวิดได้ฆ่าพวกเขาตายไปสองหมื่นสองพันคน ดาวิดส่งทหารขึ้นไปประจำป้อมในเมืองดามัสกัสของชาวอารัม และชาวอารัมก็กลายเป็นทาสของเขาและส่งส่วยให้เขา พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป

ดาวิดยึดเอาโล่ทองคำที่ทหารของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ถือ และขนพวกมันกลับไปไว้ที่เมืองเยรูซาเล็ม กษัตริย์ดาวิดได้ยึดเอาทองสัมฤทธิ์ที่ได้มาจากเมืองเทบาห์[l] และเมืองเบโรธัยที่เคยเป็นของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ ไว้เป็นจำนวนมาก

เมื่อโทอิกษัตริย์เมืองฮามัทได้ยินว่าดาวิดเอาชนะกองทัพทั้งหมดของกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ได้ 10 เขาได้ส่งโยรัม[m] ลูกชายของเขาไปพบดาวิด เพื่อถามทุกข์สุขดาวิดและแสดงความยินดีกับดาวิดที่รบชนะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์ เพราะกษัตริย์ฮาดัดเอเซอร์เคยทำสงครามกับกษัตริย์โทอิอยู่บ่อยๆ โยรัมนำของขวัญที่ทำจากเงิน ทองและทองสัมฤทธิ์ไปให้กับดาวิดด้วย 11 กษัตริย์ดาวิดได้อุทิศของเหล่านั้นให้พระยาห์เวห์ เหมือนกับที่เขาเคยอุทิศเงินและทองที่ยึดมาได้จากชาติต่างๆที่เขาเคยไปปราบปรามมา 12 คือ เอโดม[n] โมอับ ชาวอัมโมน ชาวฟีลิสเตีย และชาวอามาเลค ในทำนองเดียวกัน ดาวิดก็ได้อุทิศของที่ยึดมาได้จากฮาดัดเอเซอร์ กษัตริย์เมืองโศบาห์ลูกชายของเรโหบ ให้กับพระเจ้าด้วย 13 หลังจากที่ดาวิดกลับมาจากการโจมตีชาวเอโดมหนึ่งหมื่นแปดพันคนในหุบเขาเกลือแล้ว เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้น 14 ดาวิดได้ให้กองทหารเข้าประจำการอยู่ตามป้อมต่างๆทั่วเมืองเอโดม และชาวเมืองเอโดมทั้งหมดก็ตกเป็นทาสของดาวิด พระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะกับดาวิดในทุกๆที่ที่เขาไป

รัฐบาลของดาวิด

(1 พศด. 18:14-17)

15 ดาวิดได้ปกครองทั่วทั้งอิสราเอล เขาได้ให้ความยุติธรรมและความถูกต้องกับประชาชนทั้งหมดของเขา 16 โยอาบลูกชายของนางเศรุยาห์ได้เป็นแม่ทัพ เยโฮชาฟัทลูกชายอาหิลูดเป็นผู้จดบันทึกเหตุการณ์ 17 ศาโดกลูกชายอาหิทูบและอาหิเมเลคลูกชายอาบียาธาร์เป็นนักบวช เสไรอาห์เป็นเลขา 18 เบไนยาห์ลูกชายเยโฮยาดาเป็นผู้ควบคุมชาวเคเรธีและชาวเปเลท[o] และบรรดาลูกชายของดาวิดเป็นที่ปรึกษากษัตริย์[p]

ดาวิดเมตตาครอบครัวซาอูล

ดาวิดถามว่า “มีใครในครอบครัวซาอูลที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง เราจะได้เมตตาปรานีเขา เพราะเห็นแก่โยนาธาน”

ขณะนั้นมีคนรับใช้ในครอบครัวซาอูลคนหนึ่งชื่อศิบา พวกเขาเรียกตัวศิบามาพบดาวิด และกษัตริย์ดาวิดพูดกับเขาว่า “เจ้าคือศิบาหรือ”

เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าคือศิบาผู้รับใช้ท่าน”

กษัตริย์ถามเขาว่า “มีใครในครอบครัวซาอูลที่ยังหลงเหลืออยู่อีกบ้าง เราอยากแสดงความรักของพระเจ้าให้แก่เขา”

ศิบาตอบกษัตริย์ว่า “ยังเหลือลูกชายคนหนึ่งของโยนาธาน เท้าทั้งสองข้างเป็นง่อย”

กษัตริย์ถามต่อว่า “เขาอยู่ที่ไหน”

ศิบาตอบว่า “เขาอยู่ที่บ้านของมาคีร์ ลูกชายของอัมมีเอล ในเมืองโลเดบาร์”

กษัตริย์ดาวิดก็เลยสั่งให้คนไปนำตัวเขามาจากบ้านของมาคีร์ลูกชายอัมมีเอล ในเมืองโลเดบาร์ เมื่อเมฟีโบเชทลูกชายของโยนาธาน ที่เป็นลูกชายซาอูล มาพบดาวิด เขาก้มหน้ากราบลงถึงพื้น

ดาวิดพูดว่า “เมฟีโบเชทหรือ”

เขาตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านอยู่ที่นี่”

ดาวิดพูดกับเขาว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเราจะเมตตาปรานีเจ้าอย่างแน่นอน เพื่อเห็นแก่โยนาธานพ่อของเจ้า เราจะคืนที่ดินทั้งหมดที่เคยเป็นของซาอูลปู่ของเจ้า ให้กับเจ้า และเจ้าจะได้นั่งกินอาหารโต๊ะเดียวกับเราตลอดไป”

เมฟีโบเชทก้มลงกราบอีกครั้งและพูดว่า “คนรับใช้ท่านคนนี้เป็นใครหรือ ท่านถึงได้มาสนใจหมาที่ตายแล้วอย่างข้าพเจ้า”

แล้วกษัตริย์ก็เรียกตัวศิบาคนรับใช้ของซาอูลเข้ามา และพูดกับเขาว่า “เราได้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของซาอูลและของครอบครัวเขา ไว้กับหลานของเจ้านายเจ้า 10 เจ้าและพวกลูกชายและคนรับใช้ของเจ้าจะได้ทำไร่อยู่บนที่ดินนั้นให้กับเขาและผลิตพืชผลให้กับเขา เพื่อว่าหลานของเจ้านายเจ้า จะได้มีของเหล่านี้ไว้ใช้ และเมฟีโบเชทหลานชายของเจ้านายเจ้าจะได้นั่งกินอาหารที่โต๊ะเดียวกับเราตลอดไป”

(ตอนนั้นศิบามีลูกชายสิบห้าคนและมีคนรับใช้ยี่สิบคน) 11 ศิบาจึงพูดกับกษัตริย์ว่า “ข้ารับใช้ของท่าน จะทำทุกอย่างตามที่กษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้าสั่งให้ทำ”

ดังนั้นเมฟีโบเชทจึงได้นั่งกินอาหารที่โต๊ะเดียวกับดาวิดเหมือนพวกลูกชายของกษัตริย์ดาวิด 12 เมฟีโบเชทมีลูกชายคนหนึ่งยังเด็กอยู่ชื่อมีคา และสมาชิกในครอบครัวศิบาทั้งหมดก็กลายเป็นคนรับใช้ของเมฟีโบเชท 13 เมฟีโบเชทอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม เขามีเท้าที่เป็นง่อยทั้งสองข้าง และทุกวันเขาก็ได้นั่งกินอาหารที่โต๊ะเดียวกับกษัตริย์

ฮานูนทำให้คนของดาวิดอับอาย

(1 พศด. 19:1-5)

10 ในเวลาต่อมา กษัตริย์ของชาวอัมโมนได้ตายไป ลูกชายของเขาชื่อฮานูนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อของเขา ดาวิดคิดว่า “เราจะดีต่อฮานูนลูกชายของนาหาชเหมือนกับที่พ่อของเขาเคยดีต่อเรา”

ดาวิดจึงส่งพวกตัวแทนมาปลอบโยนฮานูนเรื่องพ่อของเขา เมื่อคนของดาวิดมาถึงแผ่นดินของชาวอัมโมน พวกผู้นำของชาวอัมโมนพูดกับฮานูนนายของพวกเขาว่า “ท่านคิดว่าดาวิดกำลังให้เกียรติพ่อของท่านหรือ ที่ส่งคนมาเพื่อปลอบโยนท่านอย่างนี้ ดาวิดส่งคนของเขามา เพื่อสำรวจ สอดแนมเมือง และเตรียมทำสงครามกับท่าน”

ฮานูนจึงจับพวกคนของดาวิดไว้ แล้วโกนเคราของพวกเขาออกข้างหนึ่ง และตัดเสื้อผ้าของพวกเขาออกข้างหนึ่งตั้งแต่สะโพกลงไปและไล่พวกเขาออกไป

เมื่อมีคนมาบอกดาวิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดาวิดส่งคนส่งข่าวมาพบคนเหล่านั้น เพราะพวกเขารู้สึกอับอายมาก กษัตริย์พูดว่า “ให้อยู่ที่เมืองเยริโคจนกว่าเคราของพวกท่านจะงอกขึ้นมาใหม่ แล้วค่อยกลับมา”

สงครามกับชาวอัมโมน

(1 พศด. 19:6-15)

เมื่อชาวอัมโมนรู้ว่าพวกเขาทำให้ดาวิดเกลียดชังเสียแล้ว พวกเขาจึงจ้างทหารเดินเท้าชาวอารัมสองหมื่นคนมาจากเมืองเบธเรโหบและเมืองโศบาห์ รวมทั้งจ้างกษัตริย์มาอาคาห์กับคนของเขาอีกหนึ่งพันคน และจ้างชาวเมืองโทบอีกหนึ่งหมื่นสองพันคน

เมื่อดาวิดรู้เรื่องนี้ เขาได้ส่งโยอาบพร้อมกับกองทัพนักรบทั้งหมดของเขาออกไป ชาวอัมโมนออกมาเตรียมรบอยู่ที่ทางเข้าประตูเมือง ขณะที่ชาวอารัมจากเมืองโศบาห์และเมืองเรโหบ และคนของเมืองโทบกับของมาอาคาห์อยู่ในทุ่งกว้าง

เมื่อโยอาบเห็นว่ามีกองทัพล้อมเขาอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เขาจึงเลือกทหารที่ดีที่สุดในกองทหารของอิสราเอลออกมากองหนึ่ง และสั่งให้พวกเขาออกไปต่อสู้กับชาวอารัม 10 เขาจัดกองทัพที่เหลือภายใต้การบัญชาการของอาบีชัยน้องชายของเขาให้เข้าไปต่อสู้กับชาวอัมโมน 11 โยอาบพูดกับอาบีชัยว่า “ถ้าชาวอารัมแข็งแกร่งเกินไปสำหรับเรา ท่านต้องมาช่วยเหลือเรา แต่ถ้าชาวอัมโมนแข็งแกร่งเกินไปสำหรับท่าน เราจะมาช่วยเหลือท่าน 12 กล้าหาญไว้ และสู้ให้สมกับเป็นชายชาติทหารเพื่อคนของพวกเรา และเพื่อเมืองต่างๆของพระเจ้าของพวกเรา ขอให้พระยาห์เวห์จัดการตามที่พระองค์เห็นสมควรเถิด”

13 แล้วโยอาบและกองทัพที่ไปกับเขา ก็ได้บุกเข้าสู้รบกับชาวอารัม และชาวอารัมได้ถอยหนีไปต่อหน้าเขา 14 เมื่อชาวอัมโมนเห็นว่าชาวอารัมกำลังหลบหนี พวกเขาจึงหลบหนีไปต่อหน้าอาบีชัยและกลับเข้าไปในเมือง

โยอาบก็กลับมาจากการสู้รบกับชาวอัมโมนและมาถึงเมืองเยรูซาเล็ม

ชาวอารัมตัดสินใจรบอีกครั้ง

(1 พศด. 19:16-19)

15 หลังจากที่ชาวอารัมเห็นว่าพวกเขาถูกอิสราเอลตีแตก พวกเขาจึงรวมตัวกันอีกครั้ง 16 ฮาดัด-เอเซอร์[q] นำชาวอารัมมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ[r] พวกเขาไปที่เฮลามโดยมีโชบัคแม่ทัพของกษัตริย์ฮาดัด-เอเซอร์เป็นผู้นำทัพ

17 เมื่อมีคนมาบอกดาวิดถึงเรื่องนี้ ดาวิดจึงรวบรวมอิสราเอลทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดน และไปที่เฮลาม

ชาวอารัมจัดทัพและได้เข้าสู้รบกับดาวิด 18 แต่ดาวิดรบชนะพวกเขา และพวกเขาหลบหนีไปต่อหน้าอิสราเอล ดาวิดได้ฆ่าคนขับรถรบของพวกเขาไปเจ็ดร้อยคนและทหารเดินเท้า[s] อีกสี่หมื่นคน ดาวิดได้ทำให้โชบัคแม่ทัพของชาวอารัมบาดเจ็บ เขาจึงตายที่นั่นด้วย

19 เมื่อกษัตริย์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้อำนาจของฮาดัดเอเซอร์ เห็นว่าพวกเขาพ่ายแพ้ต่ออิสราเอลแล้ว พวกเขาจึงทำสัญญาสงบศึกและยอมตกเป็นทาสของอิสราเอล ชาวอารัมจึงกลัวและไม่กล้าช่วยชาวอัมโมนอีกต่อไป

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International