Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the EHV. Switch to the EHV to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อาโมส 7-9

นิมิตเกี่ยวกับตั๊กแตน

พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตแสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น พระองค์กำลังทำให้ฝูงตั๊กแตนเกิดขึ้น ในขณะที่ผลผลิตชุดหลังกำลังเกิดผล มันเป็นผลผลิตชุดหลัง หลังจากที่กษัตริย์ได้เก็บเกี่ยวชุดแรกไปแล้ว หลังจากที่ฝูงตั๊กแตนกินพืชผักในแผ่นดินจนหมดแล้ว ผมก็พูดว่า “พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต โปรดยกโทษให้ด้วย ยาโคบจะทนได้ยังไง เขาเป็นชนชาติที่อ่อนแอและเล็กมาก”

แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “มันจะไม่เกิดขึ้น”

นิมิตเกี่ยวกับไฟ

พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น พระองค์เรียกห่าไฟให้ตกลงมา ไฟนั้นเผาผลาญมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ และไฟนั้นก็เริ่มเผาผลาญทุ่งนา แล้วผมก็พูดว่า “พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ได้โปรดหยุดเถอะ ยาโคบจะไปทนได้ยังไง เพราะเขาเป็นชนชาติที่อ่อนแอและเล็กมาก” แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “มันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว”

นิมิตเกี่ยวกับกำแพงที่ทำจากแร่ดีบุก

พระองค์แสดงสิ่งนี้ให้กับผมเห็น องค์เจ้าชีวิตยืนอยู่ข้างกำแพงที่ทำจากแร่ดีบุก[a] และพระองค์ก็ถือแร่ดีบุกอยู่ในมือ แล้วพระองค์ก็ถามผมว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไรบ้าง” ผมตอบว่า “แร่ดีบุกครับท่าน” แล้วพระองค์ก็พูดกับผมว่า “ดูนี่สิ เรากำลังเอาแร่ดีบุกวางไว้ท่ามกลางอิสราเอลที่เป็นคนของเรา เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป สถานที่บูชาต่างๆของอิสอัคจะถูกทำลายลง และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลจะต้องพังพินาศ และเราจะลุกขึ้นมาต่อต้านและฆ่าฟันราชวงศ์ของเยโรโบอัมด้วยดาบ”

อามาซิยาห์พยายามหยุดอาโมส

10 อามาซิยาห์ นักบวชคนหนึ่งที่เบธเอล ส่งคนไปบอกกษัตริย์เยโรโบอัมของอิสราเอลว่า “อาโมสกำลังวางแผนชั่วร้ายต่อต้านท่านในอิสราเอลนี่เอง ผู้คนทั้งประเทศทนฟังคำพูดทั้งหลายของอาโมสไม่ได้

11 เพราะอาโมสพูดว่า ‘เยโรโบอัมจะต้องตายด้วยคมดาบ และคนอิสราเอลก็จะต้องถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยจากแผ่นดินของเขาอย่างแน่นอน’”

12 อามาซิยาห์พูดกับอาโมสว่า “ไปให้พ้น เจ้าผู้ที่เห็นนิมิต หนีกลับไปอยู่ที่แผ่นดินยูดาห์ ไปทำมาหากินและไปพูดแทนพระเจ้าที่นั่นซะ 13 แต่อย่าได้มาพูดแทนพระเจ้าที่เบธเอลอีกเป็นอันขาด เพราะที่นี่เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ และเป็นวิหารของอาณาจักร”

14 แล้วอาโมสก็ตอบอามาซิยาห์ว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นผู้พูดแทนพระเจ้ามืออาชีพ และข้าพเจ้าก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของผู้พูดแทนพระเจ้าด้วย ข้าพเจ้าเป็นคนดูแลฝูงสัตว์และต้นมะเดื่อ 15 แต่พระยาห์เวห์เอาข้าพเจ้ามาจากการติดตามดูแลฝูงแพะแกะ และพระยาห์เวห์พูดกับข้าพเจ้าว่า ‘ไปพูดแทนเรา ให้กับชาวอิสราเอลคนของเรา’ 16 ดังนั้น ตอนนี้ให้ท่านฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ให้ดี ท่านพูดว่า ‘อย่าพูดแทนพระเจ้าต่อว่าคนอิสราเอล และอย่าเทศนาต่อว่าครอบครัวของอิสอัค’ 17 ดังนั้น พระยาห์เวห์ถึงได้พูดอย่างนี้ว่า ‘เมียของเจ้าจะกลายเป็นหญิงโสเภณีในเมืองนี้ และลูกชายลูกสาวของเจ้าจะถูกฆ่าฟันด้วยดาบ และคนอื่นๆก็จะมายึดที่ดินของเจ้าไปแบ่งปันกัน และเจ้าก็จะต้องไปตายในต่างแดน และอิสราเอลก็จะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย และต้องย้ายออกไปจากดินแดนของตน’”

นิมิตเกี่ยวกับผลไม้ที่สุกงอม

พระยาห์เวห์แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น คือผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่ง พระยาห์เวห์พูดว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร”

ผมตอบว่า “ผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่งครับ”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “จุดจบ[b] มาถึงอิสราเอลคนของเราแล้ว เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป ในวันนั้น เสียงร้องเพลงต่างๆในวิหารจะกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “จะมีซากศพมากมาย และผู้คนก็จะมาขนพวกมันไปทิ้งอย่างเงียบๆในที่ทุกหนแห่ง”

นักธุรกิจสนใจแต่กำไรเท่านั้น

ฟังให้ดีเจ้าที่ชอบเหยียบย่ำคนจน
    และพยายามกำจัดพวกเขาให้หมดไปจากแผ่นดิน
เจ้าพูดว่า “เมื่อไหร่เทศกาลพระจันทร์ใหม่จะหมดนะ
    เราจะได้ไปขายข้าวสารของเราซะที
เมื่อไหร่วันหยุดทางศาสนาจะหมดนะ
    เราจะได้เปิดคลังข้าวสารของเราออกขาย
    เราจะทำถ้วยตวงให้เล็กกว่าปกติ ทำลูกตุ้มให้หนักกว่ามาตรฐานและโกงตราชั่ง
เราจะเอาแกลบมาผสมข้าวสารขาย
    แล้วเราจะเอาเงินซื้อคนจนมาเป็นทาส
    และซื้อคนที่ขัดสนด้วยราคาเท่ากับรองเท้าสานคู่เดียว”

พระยาห์เวห์ ที่คนอิสราเอลภาคภูมิใจนั้น พระองค์สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เองว่า

“เราจะไม่มีวันลืมความชั่วร้ายทั้งหลายที่พวกเขาทำลงไป
แผ่นดินจะสะท้านเพราะสิ่งที่เจ้าทำนี้
    และทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนั้นก็จะเศร้าโศกเสียใจ
ทั้งแผ่นดินก็จะเอ่อท่วมท้นขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์
    และจะซัดไปซัดมา สุดท้ายก็จมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์”
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
    “ในวันนั้นเราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกในตอนเที่ยงวัน
    และจะทำให้โลกนี้มืดมนไปตอนกลางวัน
10 เราจะเปลี่ยนการเฉลิมฉลองของเจ้าให้กลายเป็นเวลาเศร้าหมอง
    และเปลี่ยนเสียงเพลงของเจ้าให้กลายเป็นเพลงไว้ทุกข์
เราจะทำให้เจ้าต้องสวมใส่ผ้ากระสอบรอบเอวของเจ้าทุกคน
    และจะทำให้พวกเจ้าต้องโกนหัวเพราะเศร้าโศกเสียใจ
เราจะทำให้ความเศร้าโศกนั้นเหมือนเศร้าโศกที่สูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไป
    วันเวลานั้นจะขมขื่นถึงที่สุด”

เวลาแห่งความอดอยากพระคำของพระเจ้า

11 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“ดูสิ วันเหล่านั้นกำลังจะมาแล้ว
    เป็นวันที่เราจะส่งความอดอยากหิวโหยมาในแผ่นดินนี้
มันไม่ใช่ความอดอยากหิวโหยอาหารและก็ไม่ใช่ความกระหายน้ำด้วย
    แต่จะเป็นความอดอยากหิวโหยโอกาสที่จะได้ฟังพระคำของพระยาห์เวห์
12 พวกเขาท่องไปจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงทะเลตาย
    และท่องจากเหนือจดตะวันออก
พวกเขาจะท่องกลับไปกลับมาเพื่อแสวงหาพระคำของพระยาห์เวห์
    แต่พวกเขาก็จะหาไม่เจอ
13 ในวันนั้น หญิงสาวสวยๆและคนหนุ่มๆ
    ก็จะเป็นลมล้มพับไปเพราะความกระหาย
14 และพวกนั้นที่สาบานว่าจะทำโน่นทำนี่โดยอ้างพระรูปปั้นของสะมาเรีย[c]
    อ้างพระเจ้าของดาน[d]
อ้างพระเจ้าของเบเออร์เชบา[e]
    คนที่สาบานพวกนี้จะล้มลงและจะไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย”

นิมิตเห็นพระยาห์เวห์ยืนอยู่ที่แท่นบูชา

ผมเห็นองค์เจ้าชีวิต ยืนอยู่ข้างๆแท่นบูชา และพระองค์ก็พูดว่า

“ตีหัวเสาพวกนี้แล้วทั้งตึกนี้ก็จะสั่นสะเทือน
    ทุบเสาพวกนี้ให้พังลงมาบนหัวของคนพวกนี้
และที่เหลือเราจะฆ่าด้วยดาบ
    จะไม่มีใครวิ่งหนีไปได้
    จะไม่มีใครรอดชีวิตไปได้
ถึงพวกเขาจะมุดลงไปถึงแดนคนตาย
    มือของเราก็จะเอาพวกเขาขึ้นมาจากที่นั่น
ถ้าพวกเขาปีนขึ้นไปถึงสวรรค์
    เราก็จะเอาพวกเขาลงมาจากที่นั่น
ถ้าพวกเขาไปแอบถึงยอดเขาคารเมล
    เราก็จะค้นหาและเอาพวกเขามาจากที่นั่น
ถ้าพวกเขาไปแอบอยู่ใต้ก้นทะเลลึก
    เราก็จะสั่งให้พญานาคไปกัดพวกเขาที่นั่น
ถ้าพวกเขาถูกกวาดต้อนอยู่ต่อหน้าศัตรูของเขา
    เราจะให้พวกเขาถูกฆ่าฟันด้วยดาบ
และเราก็จะคอยจ้องทำร้ายพวกเขา
    ไม่ใช่คอยเฝ้าดูแลพวกเขา”

องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์อำนาจทั้งสิ้น
พระองค์แตะแผ่นดิน และมันก็หลอมละลายไป
    และคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินก็เศร้าโศกเสียใจ
และแผ่นดินโลกก็เอ่อท่วมขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์
    และจมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์
พระองค์สร้างห้องชั้นบนของพระองค์บนฟ้าสวรรค์
    และเอาท้องฟ้ามาครอบโลกไว้
พระองค์เรียกน้ำจากทะเล
    และเทมันเป็นฝนลงบนพื้นโลก
ยาห์เวห์คือชื่อของพระองค์

พระยาห์เวห์ประกาศว่าอิสราเอลจะต้องพินาศ

พระยาห์เวห์พูดว่า
“อิสราเอลเอ๋ย ในสายตาเรา พวกเจ้าเหมือนกับคนเอธิโอเปียเลย
    เรานำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์
    และนำคนฟีลิสเตียมาจากคัฟโทร์[f]
    และนำคนอารัมมาจากคีร์[g]

ดูสิ สายตาของพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตคอยจ้องมองอาณาจักรที่เต็มไปด้วยบาป[h]
    และเรายาห์เวห์ ก็จะทำลายอาณาจักรนั้นให้หายไปจากโลกนี้
    แต่เราจะไม่ทำลายครอบครัวของยาโคบไปจนหมดสิ้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
“เพราะดูสิ เราจะออกคำสั่ง
    และเราจะเขย่าครอบครัวของอิสราเอลให้กระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติต่างๆ
เราจะร่อนอิสราเอลเหมือนกับร่อนเมล็ดทรายบนตะแกรง
    และจะไม่มีเมล็ดกรวดเล็ดลอดตกดินไปได้เลย

10 คนของเราทุกคนที่เป็นคนบาป
ที่ชอบพูดว่า ‘เรื่องเลวร้ายตามเราไม่ทันหรอก’
    คนพวกนี้ทุกคนจะต้องตายด้วยคมดาบ

พระเจ้าจะก่อตั้งอาณาจักรขึ้นมาใหม่

11 ในวันนั้น เราก็จะตั้งเต็นท์ของดาวิดที่ล้มไปแล้วขึ้นมาใหม่[i]
เราก็จะซ่อมแซมช่องกำแพงที่แตกร้าว
    เราจะซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
    และสร้างมันขึ้นมาใหม่ให้เหมือนกับในอดีต
12 เพื่อที่ว่าคนอิสราเอลก็จะได้ยึดครองส่วนที่เหลือของประเทศเอโดม
    และชนชาติทั้งหลายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเรา”
พระยาห์เวห์ ผู้ที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นพูดไว้อย่างนั้น
13 พระยาห์เวห์พูดว่า “วันเวลานั้นกำลังมาแล้ว
    ถึงช่วงไถอีกครั้ง แต่คนเกี่ยวก็ยังเกี่ยวไม่เสร็จ
    ถึงเวลาปลูกอีกแล้ว แต่คนย่ำองุ่นก็ยังย่ำไม่เสร็จ
ภูเขาทั้งหลายก็จะไหลนองไปด้วยเหล้าองุ่นใหม่
    เนินเขาทั้งหมดก็จะไหลนองด้วยเหล้าองุ่น
14 เราจะอวยพรชาวอิสราเอลคนของเราอย่างเดิม[j]
    พวกเขาจะสร้างเมืองและอาศัยอยู่ในเมืองพวกนั้น
พวกเขาจะปลูกสวนองุ่นและดื่มเหล้าองุ่นจากสวนนั้น
    พวกเขาจะทำสวนและกินผลจากสวนนั้น
15 เราจะปลูกพวกเขาไว้ในแผ่นดินนั้น
    พวกเขาก็จะไม่มีวันถูกถอนขึ้นมาอีกจากแผ่นดินของพวกเขา ที่เราได้ให้กับพวกเขานั้น”
พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า พูดไว้ว่าอย่างนั้น

วิวรณ์ 3:7-22

ข่าวที่ส่งไปถึงหมู่ประชุมเมืองฟิลาเดลเฟีย

ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองฟิลาเดลเฟียว่า

“พระองค์ผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์และซื่อสัตย์ ซึ่งถือกุญแจของดาวิด คือผู้ที่เปิดประตูแล้วจะไม่มีใครปิดได้ และเป็นผู้ที่ปิดประตูแล้วก็ไม่มีใครเปิดได้ พระองค์พูดว่า เรารับรู้การกระทำของเจ้า ฟังให้ดี เราได้เปิดประตูให้กับเจ้า[a] ซึ่งไม่มีใครปิดได้ เรารู้ว่าเจ้าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล แต่เจ้าได้ทำตามคำสอนของเรา และไม่ยอมพูดว่าไม่รู้จักเรา ฟังไว้ให้ดี มีกลุ่มคนอยู่ที่นั่น ที่อ้างว่าพวกเขาเป็นคนยิว แต่เขาโกหก เขาเป็นพวกของซาตาน คอยดูนะ เราจะทำให้พวกเขามากราบลงแทบเท้าของเจ้าและทำให้พวกนั้นรู้ว่าเรารักเจ้า 10 เจ้าได้รักษาคำสั่งที่บอกให้อดทน ดังนั้นเราจะรักษาเจ้าให้พ้นจากช่วงเวลาของความทุกข์ยากที่จะทำให้คนชั่วในโลกนี้เดือดร้อน

11 เราจะมาในไม่ช้านี้ แต่ให้เจ้ายึดมั่นในความไว้วางใจที่มีต่อเรา เพื่อจะได้ไม่มีใครชิงเอารางวัลแห่งชัยชนะไปจากเจ้า 12 เราจะตั้งให้คนนั้นที่ได้รับชัยชนะ เป็นเสาหลักในพระวิหารของพระเจ้าของเรา และเขาจะอยู่ที่นั่นตลอดไป เราจะเขียนชื่อของพระเจ้าลงบนตัวเขาและชื่อเมืองของพระเจ้า คือนครเยรูซาเล็มใหม่[b] ที่ลงมาจากพระเจ้าบนสวรรค์ นอกจากนี้เราจะเขียนชื่อใหม่ของเราไว้ที่ตัวของเขาด้วย 13 ใครมีหู ก็ให้ฟังถึงสิ่งที่พระวิญญาณบอกกับหมู่ประชุมต่างๆ”

ข่าวที่ส่งไปถึงหมู่ประชุมเมืองเลาดีเซีย

14 ให้เขียนถึงทูตสวรรค์ของหมู่ประชุมในเมืองเลาดีเซียว่า

“พระองค์ผู้ที่ได้ชื่อว่าอาเมน ผู้ที่ซื่อสัตย์ ผู้เป็นพยานที่แท้จริง พระเจ้าได้สร้างทุกสิ่งขึ้นมาผ่านทางผู้นี้พูดว่า 15 เรารับรู้การกระทำของเจ้า เจ้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว เราอยากให้เจ้ารู้ร้อนหรือรู้หนาว อย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า 16 แต่เจ้าเพียงแค่อุ่นๆ ไม่ร้อนและไม่หนาว ดังนั้นเราจะสำรอกเจ้าออกจากปากของเรา 17 เจ้าพูดว่า เจ้าร่ำรวยและมั่งคั่งไม่ขาดอะไรเลย แต่เจ้าไม่รู้ว่าตัวเจ้านั้นน่าสมเพช น่าสงสาร ยากไร้ ตาบอด และเปลือยกายอยู่ 18 เราแนะนำให้เจ้าซื้อทองคำจากเรา ที่ได้หลอมด้วยไฟให้บริสุทธิ์แล้ว เจ้าจะได้ร่ำรวยจริงๆ ให้เจ้าซื้อเสื้อผ้าสีขาวไปใส่เพื่อจะได้ไม่ต้องอายเพราะเปลือยกายอยู่ แล้วให้ซื้อยามาใส่ตาของเจ้าเพื่อจะได้มองเห็น”

19 “เรารักใครเราก็จะตักเตือนและตีสอนคนนั้น ดังนั้นให้มีไฟและกลับตัวกลับใจ 20 ฟังไว้ให้ดี เรายืนเคาะประตูอยู่ ถ้าใครได้ยินเสียงของเราแล้วเปิดประตู เราจะเข้าไปข้างใน และกินอาหารร่วมกับคนนั้น

21 เราจะให้สิทธิ์กับคนนั้นที่ได้รับชัยชนะ นั่งบนบัลลังก์กับเรา เหมือนกับที่เราได้รับชัยชนะและได้นั่งกับพระบิดาของเราบนบัลลังก์ของพระองค์ 22 ใครมีหู ก็ให้ฟังสิ่งที่พระวิญญาณได้บอกกับหมู่ประชุมต่างๆ”

สดุดี 131

สงบนิ่งในพระยาห์เวห์

เพลงที่ร้องในระหว่างทางขึ้นไปยังวิหาร เพลงของดาวิด

131 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าไม่ใช่เป็นคนเย่อหยิ่ง
    ไม่วางมาดใหญ่โต
ไม่ชอบทำงานที่เพ้อฝันใหญ่โต
    หรือทำในสิ่งที่ยากเกินตัว
ใช่แล้ว ข้าพเจ้าทำให้จิตใจตัวเองสงบนิ่ง
    เหมือนเด็กที่หย่านมอยู่ในอ้อมแขนของแม่
    จิตใจของข้าพเจ้าสงบนิ่งเหมือนเด็กคนนั้น

อิสราเอลเอ๋ย ฝากความหวังของเจ้าไว้กับพระยาห์เวห์ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป

สุภาษิต 29:23

23 ความเย่อหยิ่งจะทำให้คนตกต่ำ
    แต่คนที่ถ่อมตัวจะได้รับเกียรติ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International