Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
โฮเชยา 11:1-11

ความรักของพระผู้เป็นเจ้ามีต่ออิสราเอล

11 เมื่ออิสราเอลยังเป็นเด็ก เรารักเขามาก
    และเราเรียกบุตรของเราออกมาจากประเทศอียิปต์[a]
ยิ่งเขาถูกเรียกให้มา
    พวกเขายิ่งหนีห่างออกไป
พวกเขามอบเครื่องสักการะให้แก่บาอัล
    และเผาเครื่องบูชาให้แก่รูปเคารพทั้งหลาย
แต่ก็เป็นเรานั่นแหละที่สั่งสอนเอฟราอิมให้เดิน
    เราจูงมือจูงแขนของพวกเขา
แต่พวกเขาไม่ตระหนักใจเลยว่า
    เราได้รักษาพวกเขาให้หายขาด
เรานำพวกเขาไปด้วยสายใยของความเป็นมนุษย์
    ด้วยความผูกพันแห่งความรัก
และเราคลายแอกจากคอของพวกเขา
    และเราก้มลงให้อาหารแก่พวกเขา

พวกเขาจะไม่กลับไปยังแผ่นดินอียิปต์
    แต่อัสซีเรียจะเป็นกษัตริย์ของพวกเขา
    เพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะกลับมาหาเรา
ดาบจะห้ำหั่นเมืองต่างๆ
    และจะพังดาลประตูของพวกเขา
    และทำให้แผนการของพวกเขาพินาศ
ชนชาติของเราได้ตัดสินใจหันเหไปจากเรา
    และถ้าแม้ว่าพวกเขาจะร้องเรียกถึงองค์ผู้สูงสุด
    พระองค์ก็จะไม่ช่วยพวกเขาให้ลุกขึ้นมาได้อีก

โอ เอฟราอิมเอ๋ย เราจะไม่แยแสเจ้าได้อย่างไร
    โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะยกเจ้าให้ผู้อื่นได้อย่างไร
เราจะทำให้เจ้าเป็นอย่างอัดมาห์ได้อย่างไร
    เราจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเศโบยิมได้อย่างไร[b]
ส่วนลึกในใจของเราเปลี่ยนไป
    พร้อมกับความเมตตาของเราที่ถูกกระตุ้นขึ้น
เราจะไม่ปฏิบัติตามความกริ้วของเราที่คุขึ้น
    เราจะไม่ทำลายเอฟราอิมอีก
เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์
    เราเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ท่ามกลางเจ้า
    และเราจะไม่มาพร้อมกับการลงโทษ[c]

10 พวกเขาจะตามพระผู้เป็นเจ้าไป
    พระองค์จะคำรามเหมือนสิงห์
เมื่อพระองค์คำราม
    บรรดาลูกๆ ของพระองค์จะมาด้วยตัวสั่นเทาจากทิศตะวันตก
11 พวกเขาจะมาด้วยตัวสั่นเทาเหมือนนกจากอียิปต์
    และเหมือนนกพิราบจากแผ่นดินของอัสซีเรีย
และเราจะให้พวกเขากลับไปยังบ้านของพวกเขา”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

สดุดี 107:1-9

ภาค 5

บทที่ 107-150

ความเมตตานานาประการ

จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
ให้บรรดาผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าไถ่ไว้แล้วกล่าวเช่นนั้นเถิด
    คือคนที่พระองค์ไถ่มาจากอำนาจของศัตรู
และรวบรวมมาจากดินแดนทั้งหลาย
    จากตะวันออกและตะวันตก
    จากเหนือและใต้

พวกเขาพเนจรอยู่ในถิ่นทุรกันดารอันแร้นแค้น
    และไม่สามารถหาทางเข้าเมืองเพื่ออาศัยอยู่ได้
ทั้งหิวและกระหาย
    ชีวิตจิตใจอ่อนระอา
พวกเขาจึงร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าในยามลำบาก
    พระองค์ก็ได้ช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์
พระองค์นำพวกเขามุ่งตรงไป
    จนถึงเมืองเพื่ออาศัยอยู่
ให้พวกเขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในความรักอันมั่นคงของพระองค์
    ในสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบรรดาบุตรของมนุษย์
เพราะพระองค์ทำให้ผู้กระหายได้รับจนพอใจ
    และมอบสิ่งดีๆ แก่ผู้หิวโหย

สดุดี 107:43

43 ผู้ใดเรืองปัญญาก็ให้เขาใส่ใจในสิ่งเหล่านี้
    ให้เขาระลึกถึงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้า

โคโลสี 3:1-11

ก้าวสู่เส้นทางเดินชีวิตใหม่

ถ้าท่านได้ฟื้นคืนชีวิตกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งที่อยู่เบื้องบนซึ่งเป็นที่พระคริสต์นั่งอยู่ ณ เบื้องขวาของพระเจ้า จงใฝ่ใจในสิ่งที่เป็นฝ่ายเบื้องบน ไม่ใช่ในสิ่งที่เป็นฝ่ายโลก ด้วยว่า ท่านได้ตายไปแล้ว และชีวิตแท้จริงของท่านถูกซ่อนไว้กับพระคริสต์ด้วยความผูกพันในพระเจ้า เมื่อพระคริสต์ผู้เป็นชีวิตของเราปรากฏขึ้น ท่านก็จะปรากฏกับพระองค์พร้อมกับมีส่วนในพระบารมีของพระองค์

ฉะนั้น จงตายต่อความต้องการฝ่ายโลกที่อยู่ในตัวท่าน อันได้แก่การประพฤติผิดในเรื่องเพศ เรื่องมลทิน กิเลสในกาม การใฝ่ชั่ว และความโลภซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับการบูชารูปเคารพ การลงโทษของพระเจ้ากำลังจะมาก็เพราะสิ่งเหล่านี้ ในคราวที่ท่านดำเนินตามความต้องการฝ่ายโลก ท่านก็เคยเดินตามทางนั้น แต่บัดนี้สิ่งที่ท่านต้องกำจัดเสียคือความโกรธ ความเกรี้ยวกราด การปองร้าย การใส่ร้าย และวาจาหยาบคายที่หลุดจากปากของท่าน อย่าโกหกกัน ในเมื่อท่านได้เลิกจากการดำเนินชีวิตเก่าอันประกอบด้วยการประพฤติชั่ว 10 และได้ก้าวสู่เส้นทางการดำเนินชีวิตใหม่ ซึ่งกำลังถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ในความรู้ ตามอย่างภาพลักษณ์ขององค์ผู้สร้าง 11 คือไม่มีการแยกว่าเป็นชาวกรีกหรือชาวยิว เข้าสุหนัตหรือไม่ได้เข้าสุหนัต ชาวต่างชาติหรือชาวสิเธีย[a] เป็นทาสหรืออิสระ แต่พระคริสต์เป็นทุกอย่างและสถิตในตัวเราทุกคน

ลูกา 12:13-21

อุปมาเรื่องคนมั่งมีกับความเขลา

13 มีคนหนึ่งในฝูงชนได้บอกพระองค์ว่า “อาจารย์ ช่วยบอกพี่ชายของข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้แก่ข้าพเจ้าบ้าง” 14 พระเยซูกล่าวว่า “เจ้าหนุ่มเอ๋ย ใครแต่งตั้งให้เราเป็นผู้พิพากษาหรือผู้แบ่งมรดกให้แก่เจ้า” 15 แล้วก็กล่าวกับคนเหล่านั้นว่า “จงระวังเถิด จงระวังตัวจากความโลภทุกชนิด ชีวิตของคนไม่ได้นับจากการมีทรัพย์สินมั่งคั่ง” 16 แล้วพระองค์ได้กล่าวเป็นอุปมากับเขาว่า “คนมั่งมีคนหนึ่งมีที่ดินผืนงามที่ให้ผลดี 17 เขาคิดในใจว่า ‘จะทำอย่างไรดีหนอในเมื่อเราไม่มีที่เก็บพืชผลเลย’ 18 แล้วเขาพูดขึ้นว่า ‘เอาอย่างนี้ดีกว่า เราจะรื้อยุ้งเดิมออก แล้วสร้างให้ใหญ่ขึ้น จะได้มีที่เก็บพืชผลและสินค้า 19 ครั้งนี้เราจะได้บอกตัวเองได้ว่า “เจ้ามีสรรพสิ่งที่สะสมไว้อย่างอุดมสมบูรณ์จนพอใช้ไปอีกหลายปี จงใช้ชีวิตแบบสบาย กินและดื่มและสำเริงสำราญเถิด”’ 20 แต่พระเจ้ากล่าวกับเขาว่า ‘เจ้าคนเขลา ในคืนนี้แหละที่ชีวิตของเจ้าจะดับลง แล้วใครจะได้สิ่งที่เจ้าตระเตรียมไว้สำหรับตนเอง’ 21 นี่คือสิ่งที่จะเกิดกับคนที่สะสมทรัพย์สมบัติให้ตัวเอง แต่ไม่เผื่อแผ่แก่พระเจ้าเลย”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation