Add parallel Print Page Options

ภาค 5

บทที่ 107-150

ความเมตตานานาประการ

จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
ให้บรรดาผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าไถ่ไว้แล้วกล่าวเช่นนั้นเถิด
    คือคนที่พระองค์ไถ่มาจากอำนาจของศัตรู
และรวบรวมมาจากดินแดนทั้งหลาย
    จากตะวันออกและตะวันตก
    จากเหนือและใต้

พวกเขาพเนจรอยู่ในถิ่นทุรกันดารอันแร้นแค้น
    และไม่สามารถหาทางเข้าเมืองเพื่ออาศัยอยู่ได้
ทั้งหิวและกระหาย
    ชีวิตจิตใจอ่อนระอา
พวกเขาจึงร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าในยามลำบาก
    พระองค์ก็ได้ช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์
พระองค์นำพวกเขามุ่งตรงไป
    จนถึงเมืองเพื่ออาศัยอยู่
ให้พวกเขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในความรักอันมั่นคงของพระองค์
    ในสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบรรดาบุตรของมนุษย์
เพราะพระองค์ทำให้ผู้กระหายได้รับจนพอใจ
    และมอบสิ่งดีๆ แก่ผู้หิวโหย

10 บ้างก็ตกอยู่ในความมืดมิด
    นักโทษรับทุกข์ทรมานเพราะถูกล่ามโซ่
11 เพราะพวกเขาฝ่าฝืนคำกล่าวของพระเจ้า
    และดูหมิ่นความตั้งใจขององค์ผู้สูงสุด
12 ใจของพวกเขาท้อแท้เพราะงานหนัก
    เมื่อล้มลงก็ไม่มีใครช่วย
13 พวกเขาจึงร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าในยามลำบาก
    พระองค์ก็ได้ช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์
14 ปลดปล่อยให้พ้นจากความมืดมิด
    และทำให้โซ่ที่ล่ามไว้ขาดออก
15 ให้พวกเขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในความรักอันมั่นคงของพระองค์
    ในสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบรรดาบุตรของมนุษย์
16 เพราะพระองค์พังประตูทองสัมฤทธิ์ลง
    รวมทั้งที่ได้หักดาลประตู

17 พวกโง่เขลาที่ยังคงฝ่าฝืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ก็ต้องทนทุกข์ต่อไปเพราะความชั่วของตนเอง
18 พวกเขาแขยงอาหารทุกชนิด
    และเขยิบเข้าไปใกล้ประตูแดนคนตาย
19 พวกเขาจึงร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าในยามลำบาก
    พระองค์ก็ได้ช่วยให้พ้นจากความทุกข์
20 เมื่อพระองค์บัญชา โรคที่พวกเขาเป็นอยู่ก็หายขาด
    พระองค์ยังช่วยให้พ้นจากความพินาศอีกด้วย
21 ให้พวกเขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในความรักอันมั่นคงของพระองค์
    ในสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบรรดาบุตรของมนุษย์
22 ให้พวกเขามอบของถวายแห่งการขอบคุณ
    และประกาศสิ่งที่พระองค์ได้กระทำด้วยเพลงแห่งความยินดี

23 บางคนออกเรือเดินทะเล
    ท่องไปในมหาสมุทรเพื่อทำการค้า
24 พวกนั้นได้เห็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากระทำ
    เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ในท่ามกลางทะเลลึก
25 เพียงพระองค์กล่าว ก็เกิดลมอันแรงกล้า
    ซึ่งทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่
26 พวกคนในเรือถูกโยนลอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะดำดิ่งลงสู่ห้วงลึก
    ความกล้าของพวกเขามลายไปสิ้นเมื่ออันตรายย่างกรายเข้ามา
27 พวกเขาสะดุดและโซเซไปมาราวกับคนเมา
    ความชำนาญของพวกเขาไร้ประโยชน์
28 พวกเขาจึงร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าในยามลำบาก
    พระองค์ก็ได้ช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์
29 พระองค์ทำให้พายุสงบ
    และคลื่นสงบนิ่ง
30 ครั้นแล้วพวกเขาก็พากันดีใจเพราะคลื่นลมสงบลง
    และพระองค์นำไปยังท่าที่พวกเขาต้องการ
31 ให้พวกเขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในความรักอันมั่นคงของพระองค์
    ในสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อบรรดาบุตรของมนุษย์
32 ให้พวกเขายกย่องพระองค์ต่อหน้าที่ประชุมของชนชาติ
    และสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมของบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่

33 พระองค์ทำให้แม่น้ำกลายเป็นถิ่นทุรกันดาร
    แหล่งน้ำกลายเป็นดินที่แห้งแตกระแหง
34 ดินที่เคยอุดมกลับกลายเป็นดินเค็ม
    เพราะผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นชั่วร้าย
35 พระองค์เปลี่ยนถิ่นทุรกันดารให้กลายเป็นแอ่งน้ำได้
    จากดินที่แห้งผากกลับเป็นแหล่งน้ำ
36 พระองค์ให้ผู้หิวกระหายตั้งถิ่นฐาน
    และพวกเขาก็สร้างเมืองขึ้นเพื่อพักอาศัย
37 พวกเขาหว่านเมล็ดในไร่นาและปลูกสวนองุ่น
    ซึ่งก็เก็บเกี่ยวได้ผลดี
38 ด้วยพระพรของพระองค์ เขาทั้งหลายจึงทวีจำนวนลูกหลานมากขึ้น
    และไม่ปล่อยให้ฝูงสัตว์ลดจำนวนลง

39 ครั้นเมื่อถูกลดจำนวนลงและอับอาย
    เพราะถูกบีบบังคับ เผชิญกับความวิบัติและความเศร้า
40 พระองค์ให้บรรดาผู้นำเป็นที่ถูกดูหมิ่น
    และทำให้พวกเขาพเนจรไปในถิ่นทุรกันดาร
41 แต่พระองค์ฉุดคนยากไร้ขึ้นจากความทุกข์ทรมาน
    และทำให้ครอบครัวของคนเหล่านั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้นดั่งฝูงแกะ
42 บรรดาผู้มีความชอบธรรมเห็นแล้วก็ยินดี
    และคนชั่วทั้งปวงก็ปิดปาก

43 ผู้ใดเรืองปัญญาก็ให้เขาใส่ใจในสิ่งเหล่านี้
    ให้เขาระลึกถึงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้า

เพลงสรรเสริญพระเจ้าผู้ทำให้เรามีชัยเหนือศัตรู

บทเพลง เพลงสดุดีของดาวิด

ใจข้าพเจ้ามั่นคง โอ พระเจ้า
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและร้องสรรเสริญด้วยชีวิตจิตใจ
โอ พิณสิบสายและพิณเล็ก จงตื่นเถิด
    ข้าพเจ้าจะปลุกอโณทัย
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ท่ามกลางบรรดาชนชาติ
    และข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชาติทั้งปวง
ด้วยว่า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ยิ่งใหญ่กว้างไกลถึงแดนฟ้าสวรรค์
    ความสัตย์จริงของพระองค์สูงเทียมเมฆ

โอ พระเจ้า ขอพระองค์เป็นที่ยกย่องเหนือเบื้องฟ้าสวรรค์เถิด
    ขอพระบารมีของพระองค์แผ่ปกไปทั่วแผ่นดินโลก[a]
โปรดให้เราได้ชัยชนะด้วยมือขวาของพระองค์ และตอบคำอธิษฐานของพวกเรา
    เพื่อว่าบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์จะได้รับความรอดพ้น

พระเจ้าได้กล่าวในสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์ว่า
    “ด้วยชัยชนะเราจะแบ่งเมืองเชเคม
    และแบ่งหุบเขาสุคคท
กิเลอาดเป็นของเรา และมนัสเสห์เป็นของเรา
    เอฟราอิมเป็นหมวกเหล็กของเรา
    ยูดาห์เป็นคทาของเรา
โมอับเป็นอ่างชำระล้างของเรา
    และเราจะเหวี่ยงรองเท้าของเราลงบนเอโดม
    เรากู่ร้องด้วยความมีชัยต่อฟีลิสเตีย”

10 ใครจะพาข้าพเจ้าไปยังเมืองที่แข็งแกร่ง
    ใครจะนำข้าพเจ้าไปยังเอโดม
11 โอ พระเจ้า ไม่ใช่พระองค์หรอกหรือที่ไม่ยอมรับพวกเรา
    และไม่ออกไปกับกองทัพของพวกเราอีกแล้ว
12 โปรดช่วยพวกเราต่อต้านข้าศึก
    เพราะความช่วยเหลือจากพวกมนุษย์นั้นไร้ประโยชน์
13 พวกเรามีพระเจ้าอยู่ด้วย เราจะมีชัยชนะ
    พระองค์จะทำให้พวกศัตรูทลายราบเป็นหน้ากลอง

ขอให้พระเจ้าตัดสินด้วยความยุติธรรม

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด

โอ พระเจ้าเป็นผู้ที่ข้าพเจ้าสรรเสริญ
    ขออย่าได้เมินเฉย
เพราะคนชั่วและคนหลอกลวงเปิดปากว่าร้ายข้าพเจ้า
    ลิ้นของพวกเขาใส่ร้ายข้าพเจ้า
พวกเขากล่าวด้วยความเกลียดชังรอบข้างข้าพเจ้า
    และโจมตีข้าพเจ้าโดยไร้สาเหตุ
พวกเขาตอบแทนความรักของข้าพเจ้าด้วยการกล่าวหาข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าก็ยังคงอธิษฐาน
พวกเขาตอบความดีของข้าพเจ้าด้วยความเลว
    และตอบแทนความรักของข้าพเจ้าด้วยความเกลียดชัง

ให้คนชั่วคนหนึ่งมาคัดค้านเขา
    ให้ผู้กล่าวหาผู้หนึ่งยืนอยู่เบื้องขวา
เวลาเขาถูกไต่สวน ก็ให้เขาถูกตัดสินเป็นฝ่ายผิด
    แม้คำอธิษฐานของเขาก็ยังนับว่าเป็นบาป
ขอให้เขาอายุสั้น
    ขอให้ผู้อื่นมาเป็นผู้นำแทนในตำแหน่งของเขา[b]
ขอให้พวกลูกๆ ของเขากำพร้าพ่อ
    และให้ภรรยาของเขาเป็นม่าย
10 ขอให้พวกลูกๆ ของเขาเป็นขอทานที่ต้องซัดเซพเนจรไป
    ขอให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจากที่อยู่อันเสื่อมโทรม
11 ขอให้เจ้าหนี้ยึดทุกสิ่งที่เขามี
    ขอให้คนแปลกหน้ายึดเอาผลที่ได้จากแรงงานของเขาไป
12 ขออย่าให้มีผู้ใดหยิบยื่นความกรุณาให้แก่เขา
    หรืออย่ามีใครได้สงสารพวกลูกกำพร้าของเขาเลย
13 ขอให้ผู้สืบเชื้อสายของเขาจงวอดวาย
    ชื่อสกุลของเขาถูกลบออกในชั่วอายุต่อไป
14 ขอให้ความชั่วของบรรพบุรุษของเขาตรึงในความทรงจำของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เลือนลาง
    และไม่ยกโทษบาปของมารดาของเขา
15 ขอให้บาปทั้งปวงเป็นที่ประจักษ์แก่พระผู้เป็นเจ้าเสมอไป
    ขอให้พระองค์ลบพวกเขาออกไปจากความทรงจำบนแผ่นดินโลก

16 เพราะเขาไม่เคยคิดถึงความกรุณา
    รังแต่จะกดขี่ข่มเหงผู้ขัดสน คนยากไร้
    และผู้มีใจท้อแท้ จนพวกเขาเหล่านั้นต้องถึงแก่ความตาย
17 เพราะเขาชอบสาปแช่ง
    ก็ขอให้เขาถูกแช่งเสียเอง
เขาไม่ชอบอวยพรให้ใคร
    ก็ขอให้พรห่างหายไปจากตัวเขา
18 เขาแช่งคนจนติดเป็นนิสัย
    ขอให้การแช่งซึมเข้าตัวเขาเหมือนน้ำ
    และซึมเข้ากระดูกเหมือนน้ำมัน
19 ขอให้เป็นเหมือนเสื้อผ้าที่เขานุ่งห่มรัดแน่น
    เหมือนเข็มขัดที่คาดตัวเขาไว้อยู่เสมอ
20 ขอให้พระผู้เป็นเจ้าลงโทษพวกผู้กล่าวหาข้าพเจ้าเช่นนี้
    พวกที่พูดว่าร้ายข้าพเจ้านั่นแหละ

21 โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
    ขอพระองค์กระทำตอบโต้เพื่อข้าพเจ้า เพื่อพระนามของพระองค์
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดปลอดภัยเถิด เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ประเสริฐยิ่งนัก
22 ด้วยว่า ข้าพเจ้าขัดสนและยากไร้
    ข้าพเจ้าเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ในทรวงอก
23 ข้าพเจ้าเป็นดั่งเงาที่พร่าเลือนในยามสายัณห์
    ถูกสลัดออกดั่งตัวตั๊กแตน
24 เข่าของข้าพเจ้าอ่อนยวบเพราะขาดอาหาร
    ร่างกายข้าพเจ้าซูบลงเหลือแต่กระดูก
25 ข้าพเจ้ากลายเป็นที่ดูหมิ่นของพวกเขา
    เวลาที่เห็นข้าพเจ้า เขาก็พากันส่ายหัว

26 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าโปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น ตามความรักอันมั่นคงของพระองค์
27 เพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่า นี่คือฝีมือของพระองค์
    และข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เองเป็นผู้กระทำ
28 ถึงพวกเขาแช่งสาป แต่พระองค์ก็อวยพร
    ให้พวกที่โจมตีข้าพเจ้าต้องอับอาย
    ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ยินดี
29 ขอให้กลุ่มผู้กล่าวหาข้าพเจ้าต้องสวมใส่ด้วยความเหยียดหยาม
    และคลุมตัวด้วยความอับอาย

30 ข้าพเจ้าจะเอ่ยปากกล่าวขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าหลายๆ ครั้ง
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางที่ประชุมใหญ่
31 เพราะพระองค์ยืนอยู่เบื้องขวาเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้
    เพื่อช่วยเขาให้พ้นจากพวกที่กล่าวโทษเขาให้ถึงแก่ความตาย

กษัตริย์และปุโรหิตของพระเจ้า

เพลงสดุดีของดาวิด

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับพระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า
    “จงนั่งทางด้านขวาของเรา
จนกว่าเราจะทำให้พวกศัตรูของเจ้าอยู่ใต้เท้าดั่งที่วางเท้าของเจ้า”[c]

พระผู้เป็นเจ้าจะยื่นคทาของท่านอันกอปรด้วยพลานุภาพจากศิโยน
    จงปกครองท่ามกลางพวกศัตรูของท่าน
ชนชาติของท่านจะขันอาสา
    ในวันที่ท่านต่อสู้ข้าศึก
ท่านจะได้หยาดน้ำค้างแห่งวัยหนุ่มจากรุ่งอรุณ
    ณ ภูเขาอันบริสุทธิ์
พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณ
    และจะไม่เปลี่ยนใจว่า
“เจ้าเป็นปุโรหิตเป็นนิตย์
    ตามแบบอย่างเมลคีเซเดค”[d]

พระผู้เป็นเจ้าอยู่ทางด้านขวาของท่าน
    พระองค์จะทำให้บรรดากษัตริย์แตกพ่ายไปในวันแห่งการลงโทษของพระองค์
พระองค์จะตัดสินลงโทษบรรดาประชาชาติ กองศพคนไว้เป็นพะเนิน
    พระองค์จะทำให้คนระดับหัวหน้าพ่ายแพ้ไปทั่วทั้งปฐพีอันไพศาล
ท่านจะดื่มจากลำธารข้างทาง
    ฉะนั้นท่านจะเงยศีรษะขึ้นด้วยความมีชัย

พระเจ้าปฏิบัติงาน

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจของข้าพเจ้า
    ในสภาอันเป็นที่ประชุมของผู้มีความชอบธรรม
สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากระทำใหญ่ยิ่งนัก
    และน่าศึกษาสำหรับทุกคนที่ยินดีในการกระทำของพระองค์
สิ่งที่พระองค์กระทำนั้นยิ่งใหญ่และควรแก่การสรรเสริญ
    และความชอบธรรมของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
พระองค์ทำให้สิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่กล่าวถึง
    พระผู้เป็นเจ้ามีพระคุณและเมตตายิ่งนัก
คนที่เกรงกลัวในพระองค์จะมีอาหารรับประทาน
    พระองค์จดจำพันธสัญญาของพระองค์ได้เสมอ
พระองค์ให้ชนชาติของพระองค์รู้แจ้งถึงการกระทำอันกอปรด้วยอานุภาพของพระองค์
    โดยให้ได้เป็นเจ้าของดินแดนซึ่งเป็นของบรรดาประชาชาติ
มือของพระองค์กระทำสิ่งอันสัตย์จริงและเป็นธรรม
    ข้อบังคับทุกข้อของพระองค์เป็นที่วางใจได้
และทุกข้อก็ถูกจัดตั้งไว้ให้ยืนยงชั่วนิรันดร์กาล
    เพื่อให้ปฏิบัติตามด้วยความสัตย์จริงและความเที่ยงธรรม
พระองค์ไถ่ชนชาติของพระองค์
    พระองค์บัญชาให้รักษาพันธสัญญาของพระองค์ไว้ตลอดกาล
    พระนามของพระองค์บริสุทธิ์และน่าเกรงขาม
10 ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือจุดเริ่มต้นของสติปัญญา
    ทุกคนที่ปฏิบัติตามก็ฉลาดรอบรู้
    ให้การสรรเสริญของพระองค์คงอยู่เป็นนิตย์

ความสุขที่คนดีพึงได้รับ

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นสุข
    เขายินดีในพระบัญญัติของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเขาจะมีอานุภาพบนแผ่นดิน
    ผู้สืบวงศ์ตระกูลของผู้มีความชอบธรรมจะได้รับพระพร
ความมั่งมีและความเป็นปึกแผ่นอยู่ในเรือนของเขา
    และความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์
ย่อมมีแสงสว่างสาดส่องผ่านไปในที่มืดสำหรับผู้มีความเที่ยงธรรม
    พระองค์กอปรด้วยพระคุณ ความสงสาร และความชอบธรรม
พระพรจะเป็นของคนใจกว้าง และคนที่รู้จักให้คนอื่นหยิบยืม
    เขาดำเนินกิจการของเขาด้วยความเป็นธรรม
เขาจะไม่มีวันสะทกสะท้านหวั่นไหว
    ผู้มีความชอบธรรมจะเป็นที่ระลึกถึงตลอดกาล
เขาไม่ตื่นตระหนกต่อข่าวร้าย
    ด้วยมีใจหนักแน่น วางใจในพระผู้เป็นเจ้า
ใจของเขามั่นคง เขาจึงไม่หวาดกลัว
    เขาแน่ใจว่าจะได้เห็นศัตรูของเขาพ่ายแพ้
เขาเอื้อเฟื้อแก่ผู้ยากไร้
    ความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์[e]
    พละกำลังของเขาย่อมได้รับเกียรติยกย่องเชิดชู
10 คนชั่วจะโกรธเมื่อได้เห็น
    เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วก็ต้องแพ้พ่ายถอยกลับไป
    ความหวังของคนชั่วจะสูญเปล่า

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าในพระคุณของพระองค์

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

โอ บรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญเถิด
    สรรเสริญพระนามของพระผู้เป็นเจ้า

ให้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับพระพร
    ตั้งแต่บัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล
นับแต่ยามที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงยามที่ดวงอาทิตย์ลาลับไป
    ให้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการสรรเสริญเถิด

พระผู้เป็นเจ้าถูกเชิดชูเหนือประชาชาติทั้งปวง
    และพระบารมีของพระองค์อยู่เหนือฟ้าสวรรค์
มีใครบ้างที่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
    พระองค์สถิตบนบัลลังก์ ณ เบื้องบน
พระองค์ก้มลงดูฟ้าสวรรค์
    และแผ่นดินโลก
พระองค์หยิบยกคนสิ้นไร้ไม้ตอกขึ้นจากผงธุลี
    และหยิบยกคนยากไร้ขึ้นจากกองขี้เถ้า
ให้พวกเขานั่งในตำแหน่งเทียบกับบรรดาเจ้าขุนมูลนาย
    ในระดับบรรดาเจ้าขุนมูลนายของชนชาติของพระองค์
พระองค์โปรดให้หญิงที่เป็นหมันได้อยู่อาศัยในเรือน
    เป็นแม่ผู้มีใจยินดีของลูกๆ

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

เพลงเทศกาลปัสกา

เมื่ออิสราเอลออกพ้นจากประเทศอียิปต์
    ครอบครัวของยาโคบไปจากชนต่างชาติต่างภาษา
ยูดาห์กลายเป็นสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์
    อิสราเอลอยู่ในการปกครองของพระองค์

ทะเลแห้งเหือดลง
    แม่น้ำจอร์แดนหยุดไหล[f]
ภูเขาลิงโลดราวกับแกะตัวผู้
    เนินเขาลิงโลดราวกับลูกแกะ

ทะเลเอ๋ย เจ้าเป็นอะไรไป เจ้าจึงได้เหือดแห้ง
    และจอร์แดน เหตุใดเจ้าจึงหยุดไหล
ภูเขา เหตุใดเจ้าจึงลิงโลดราวกับแกะตัวผู้
    เนินเขาลิงโลดราวกับลูกแกะ

โอ แผ่นดินโลกเอ๋ย จงหวั่นไหว ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
    ณ เบื้องหน้าพระเจ้าของยาโคบ
ผู้บันดาลให้ก้อนหินเป็นสระน้ำ
    และหินเหล็กไฟเป็นน้ำพุ

พระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์เดียว

แด่พระองค์เพียงผู้เดียว โอ พระผู้เป็นเจ้า แด่พระองค์เพียงผู้เดียว
    ขอพระบารมีจงมีแด่พระนามของพระองค์
    เพราะความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์

ทำไมบรรดาประชาชาติจึงพากันพูดว่า
    “พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน”
พระเจ้าของพวกเราอยู่ในเบื้องฟ้าสวรรค์
    พระองค์ทำตามความประสงค์ของพระองค์
รูปเคารพของพวกเขาเป็นเงินและทองคำ
    เป็นสิ่งที่ทำด้วยมือมนุษย์
รูปเหล่านั้นมีปาก แต่พูดไม่ได้
    มีตา แต่มองไม่เห็น
มีหู แต่ไม่สามารถได้ยิน
    มีจมูกที่สูดดมกลิ่นไม่ได้
มีมือที่ไร้ความรู้สึก
    มีเท้าซึ่งก้าวเดินไม่ได้
    และทำเสียงให้เกิดขึ้นในลำคอก็ไม่ได้
พวกที่ปั้นรูปเคารพขึ้นก็ย่อมเป็นเหมือนกับรูปเคารพ
    ผู้ใดวางใจในรูปเคารพก็เป็นดั่งรูปนั้น

โอ อิสราเอลเอ๋ย จงไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าเถิด
    พระองค์ช่วยพวกเขา และเป็นดั่งโล่ของพวกเขา
10 พงศ์พันธุ์ของอาโรนเอ๋ย จงไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าเถิด
    พระองค์ช่วย และเป็นดั่งโล่ของพวกเขา
11 พวกท่านที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า จงไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าเถิด
    พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือและเป็นดั่งโล่ของพวกเขา

12 พระผู้เป็นเจ้าระลึกถึงพวกเรา พระองค์จะให้พร
    พระองค์จะให้พรแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล
    พระองค์จะให้พรแก่พงศ์พันธุ์ของอาโรน
13 พระองค์จะให้พรแก่บรรดาผู้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่

14 ขอพระผู้เป็นเจ้าเพิ่มจำนวนลูกหลานของท่าน
    ให้ทั้งท่านและลูกๆ ของท่าน
15 ขอให้พระผู้เป็นเจ้า ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
    อวยพรท่าน

16 ฟ้าสวรรค์เป็นฟ้าสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า
    แต่พระองค์มอบแผ่นดินโลกให้แก่บรรดาบุตรของมนุษย์
17 คนตายไม่สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    รวมทั้งพวกที่ก้าวไปสู่ความสงัดด้วยเช่นกัน
18 แต่พวกเราจะสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    นับแต่บัดนี้และตลอดไปเป็นนิตย์

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

พระเจ้าช่วยคนให้รอดพ้นจากความตาย

ข้าพเจ้ารักพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ได้ยินเสียง
    และคำอ้อนวอนของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์เงี่ยหูฟังข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าจะร้องเรียกถึงพระองค์ไปตลอดชีวิต
เงื้อมเงาแห่งความตายรัดรอบตัวข้าพเจ้า
    ความเจ็บปวดรวดร้าวแห่งแดนคนตายยึดตัวข้าพเจ้าไว้
    ข้าพเจ้าต้องผจญกับความลำบากและความกลัดกลุ้ม
ครั้นแล้วข้าพเจ้าร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
    “โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าอธิษฐานขอพระองค์ โปรดช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วย”

พระผู้เป็นเจ้ากอปรด้วยพระคุณและความชอบธรรม
    พระเจ้าของเรามีเมตตายิ่งนัก
พระผู้เป็นเจ้าปกป้องคนเขลา
    เวลาข้าพเจ้าไร้ที่พึ่ง พระองค์ก็ช่วยข้าพเจ้าไว้
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เจ้าควรกลับมาสงบนิ่ง
    เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิบัติต่อเจ้าด้วยดี

ใช่แล้ว พระองค์ได้ช่วยจิตวิญญาณข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากความตาย
    ช่วยดวงตาให้พ้นจากการร้องไห้
    และช่วยเท้าข้าพเจ้าให้พ้นจากการสะดุดล้ม
ข้าพเจ้าดำเนินชีวิต ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
    ในดินแดนของคนเป็น
10 ข้าพเจ้าเชื่อ แม้เวลาข้าพเจ้าประกาศว่า[g]
    “ข้าพเจ้ากำลังทนทุกข์ทรมานอยู่”
11 ข้าพเจ้าเอ่ยปากโดยพลันว่า
    “ไม่ว่าคนไหนก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น”

12 พระผู้เป็นเจ้าให้ข้าพเจ้ามีอย่างเหลือล้น
    แล้วข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาตอบแทนพระองค์เล่า
13 ข้าพเจ้าจะยกถ้วยแห่งความรอดพ้น
    และร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
14 ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
    ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์

15 ความตายของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
    มีค่าอนันต์ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า
16 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
    ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ บุตรของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ได้แก้โซ่แห่งความเจ็บปวดให้ข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าจะมอบของถวายแห่งการขอบคุณ
    และร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
18 ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
    ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์
19 ในลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
    ท่ามกลางเยรูซาเล็ม

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

ประชาชาติทั้งปวงจงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    และชนชาติทั้งปวงจงสรรเสริญพระองค์เถิด
เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อเรานั้นยิ่งใหญ่นัก
    และความสัตย์จริงของพระผู้เป็นเจ้าจะดำรงอยู่ตลอดกาล

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

ขอบคุณพระองค์สำหรับชัยชนะ

จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล

ให้อิสราเอลกล่าวเถิดว่า
    “ความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล”
ขอให้พงศ์พันธุ์ของอาโรนได้เป็นผู้กล่าวว่า
    “ความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล”
ขอให้บรรดาผู้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า
    “ความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล”

ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้าจากห้วงเหวแห่งความทุกข์ยาก
    พระผู้เป็นเจ้าตอบข้าพเจ้าและช่วยให้พ้นจากบ่วงอันตราย
พระผู้เป็นเจ้าอยู่ฝ่ายข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นกลัว
    มนุษย์จะทำอะไรต่อข้าพเจ้าได้หรือ[h]
พระผู้เป็นเจ้าอยู่ฝ่ายข้าพเจ้า เป็นผู้ช่วยข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะได้เห็นคนที่เกลียดชังข้าพเจ้าเป็นผู้พ่ายแพ้

การพึ่งพิงในพระผู้เป็นเจ้า
    ดีกว่าการไว้วางใจในมนุษย์
การเข้ามาหาพระผู้เป็นเจ้าเป็นที่พึ่ง
    ดีกว่าการไว้วางใจในพวกเจ้าขุนมูลนาย

10 ประชาชาติทั้งปวงอยู่รายล้อมข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าเอาชนะพวกเขาได้ด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
11 พวกเขาอยู่รายล้อมข้าพเจ้า รายล้อมข้าพเจ้าอยู่รอบด้าน
    ข้าพเจ้าเอาชนะพวกเขาได้ด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
12 พวกเขารายล้อมข้าพเจ้าดั่งฝูงผึ้ง
    แล้วก็กลับลุกเป็นไฟอย่างเปลวไฟไหม้กอหนาม
    ข้าพเจ้าเอาชนะพวกเขาได้ด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
13 ข้าพเจ้าถูกผลักจนเกือบล้มลง
    แต่พระผู้เป็นเจ้าช่วยข้าพเจ้าไว้

14 พระผู้เป็นเจ้าเป็นพละกำลังและอานุภาพของข้าพเจ้า
    พระองค์มาเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
15 เสียงร้องตะโกนด้วยความยินดีและมีชัย
    กู่ก้องจากกระโจมของผู้มีความชอบธรรมว่า
“มือขวาของพระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งต่างๆ ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่
16     มือขวาของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการยกย่อง
    มือขวาของพระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งต่างๆ ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่”

17 ข้าพเจ้าจะไม่ตาย แต่ยังมีชีวิตอยู่
    เพื่อประกาศว่า พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งใดบ้าง
18 พระผู้เป็นเจ้าลงโทษข้าพเจ้าอย่างหนัก
    แต่พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้ข้าพเจ้าตาย

19 โปรดเปิดประตูแห่งความชอบธรรมให้ข้าพเจ้าเถิด
    ข้าพเจ้าจะได้ผ่านเข้าไปเพื่อขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า
20 นี่คือประตูของพระผู้เป็นเจ้า
    บรรดาผู้มีความชอบธรรมจะผ่านเข้าไปทางนี้
21 ข้าพเจ้าขอบคุณที่พระองค์ตอบข้าพเจ้า
    และมาเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
22 ศิลาที่พวกช่างก่อสร้างทิ้ง
    ได้กลายเป็นศิลามุมเอก
23 พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการนี้
    และเป็นสิ่งวิเศษยิ่งในสายตาของเรา[i]
24 วันนี้เป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้น
    พวกเรามายินดีและร่าเริงกันเถิด

25 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยพวกเราให้รอดพ้นเถิด ได้โปรดเถิด
    โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดให้พวกเราได้รับความสำเร็จเถิด ได้โปรดเถิด

26 ขอให้ผู้มาในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าจงเป็นสุขเถิด
    พวกเราอวยพรท่านทั้งหลายจากพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
27 พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้า
    และพระองค์มอบความสว่างแก่เรา
เริ่มขบวนแห่ของเทศกาลด้วยกิ่งไม้
    ไปจนถึงเชิงงอนที่แท่นบูชา

28 พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์
    พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายกย่องพระองค์
29 จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล

กฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า

א อาเลฟ[j]

บรรดาผู้อยู่ในวิถีทางอันปราศจากข้อตำหนิใดๆ ก็เป็นสุข
    คือผู้ดำเนินตามกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า
บรรดาผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ก็เป็นสุข
    คือผู้แสวงหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
คือผู้ไม่กระทำผิดใดๆ
    แต่ดำเนินตามวิถีทางของพระองค์
พระองค์ออกคำสั่งให้ถือเป็นข้อบังคับ
    เพื่อให้เชื่อฟังอย่างเคร่งครัด
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะภักดี
    โดยเชื่อฟังกฎเกณฑ์ของพระองค์
แล้วข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความอับอาย
    เมื่อใจจดจ่ออยู่กับพระบัญญัติของพระองค์ทุกข้อ
ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์ด้วยใจจริง
    ขณะที่ข้าพเจ้าเรียนรู้คำบัญชาอันชอบธรรมของพระองค์
ข้าพเจ้าจะรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
    กรุณาอย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าโดยสิ้นเชิง

ב เบธ

ชายหนุ่มจะรักษาวิถีทางของเขาให้บริสุทธิ์ได้อย่างไรเล่า
    เขาจะรักษาทางนั้นได้ด้วยการกระทำตามคำกล่าวของพระองค์
10 ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
    อย่าให้ข้าพเจ้าเห็นผิดไปจากพระบัญญัติของพระองค์
11 ข้าพเจ้าเก็บรักษาคำกล่าวของพระองค์ไว้ในใจ
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ทำบาปต่อพระองค์
12 สรรเสริญพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
    โปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
13 ริมฝีปากข้าพเจ้าพูดทบทวนคำบัญชาทั้งปวง
    ที่ออกจากปากของพระองค์
14 ข้าพเจ้ายินดีในคำสั่งของพระองค์
    เท่าๆ กับความมั่งคั่งทั้งหลาย
15 ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงข้อบังคับของพระองค์
    และมีใจจดจ่ออยู่กับวิถีทางของพระองค์
16 ข้าพเจ้าจะยินดีในกฎเกณฑ์ของพระองค์
    ข้าพเจ้าจะไม่ลืมคำกล่าวของพระองค์

ג กิมเมิล

17 โปรดเอื้อเฟื้อต่อผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีชีวิต
    และรักษาคำกล่าวของพระองค์
18 โปรดเปิดตาข้าพเจ้า
    เพื่อจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ในกฎบัญญัติของพระองค์
19 ข้าพเจ้าเป็นผู้อาศัยอยู่ในโลกเพียงชั่วคราว
    ขออย่าซ่อนพระบัญญัติของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
20 จิตวิญญาณข้าพเจ้าใฝ่ฝันถึง
    คำบัญชาของพระองค์เสมอไป
21 พระองค์ห้ามพวกหยิ่งยโส ซึ่งเป็นพวกที่ถูกสาปแช่ง
    ผู้สำคัญผิดไปจากพระบัญญัติของพระองค์
22 อย่าให้ข้าพเจ้าถูกดูหมิ่นและอับอาย
    เพราะข้าพเจ้าทำตามคำสั่งของพระองค์
23 แม้ว่าบรรดาผู้อยู่ในระดับปกครองจะนั่งเตรียมการต่อต้านข้าพเจ้า
    ผู้รับใช้ของพระองค์จะใคร่ครวญถึงกฎเกณฑ์ของพระองค์
24 คำสั่งของพระองค์เป็นสิ่งที่น่ายินดีของข้าพเจ้า
    และเป็นที่ปรึกษาที่ดีของข้าพเจ้า

ד ดาเลธ

25 ชีวิตข้าพเจ้าเคียงคู่อยู่กับธุลีดิน
    โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามคำกล่าวของพระองค์
26 ข้าพเจ้าแจ้งพระองค์ถึงวิถีทางของข้าพเจ้า พระองค์ก็ตอบข้าพเจ้า
    โปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
27 ช่วยข้าพเจ้าให้เข้าใจทางแห่งข้อบังคับของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์
28 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าท่วมท้นด้วยความเศร้า
    โปรดให้ข้าพเจ้ามีพลังขึ้นตามคำกล่าวของพระองค์
29 ให้ความฉ้อฉลห่างไกลจากข้าพเจ้า
    และขอพระองค์กรุณามอบกฎบัญญัติของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
30 ข้าพเจ้าได้เลือกวิถีทางแห่งความจริง
    ข้าพเจ้าใส่ใจในคำบัญชาของพระองค์
31 โอ พระผู้เป็นเจ้า ชีวิตข้าพเจ้าอยู่เคียงข้างคำสั่งของพระองค์
    อย่าให้ข้าพเจ้าถูกลบหลู่เลย
32 ข้าพเจ้าจะกระวีกระวาดไปตามทางแห่งพระบัญญัติของพระองค์
    เพราะพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจมากขึ้น

ה เฮ

33 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดสอนทางแห่งกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติตามจนถึงวาระสุดท้าย
34 โปรดให้ข้าพเจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ และข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
    และเชื่อฟังอย่างสุดกำลัง
35 ให้ข้าพเจ้าไปตามทางที่พระองค์บัญชา
    เพราะข้าพเจ้ามีใจยินดีในทางนั้น
36 โปรดน้อมใจข้าพเจ้าให้เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะไม่มุ่งหาผลประโยชน์ให้ตนเอง
37 ช่วยข้าพเจ้าให้เมินหน้าไปจากสิ่งไร้ค่า
    และมีชีวิตตามวิถีทางของพระองค์
38 โปรดทำตามคำสัญญาของพระองค์ที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
    คือให้แก่บรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
39 ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการดูหมิ่นอันน่าหวาดหวั่น
    การตัดสินของพระองค์ดียิ่งนัก
40 ข้าพเจ้าใคร่จะเชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์
    พระองค์มีความชอบธรรม ฉะนั้นโปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตใหม่เถิด

ו วาฟ

41 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดแสดงความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้าเถิด
    และให้ข้าพเจ้ารอดพ้นตามคำสัญญาของพระองค์
42 แล้วข้าพเจ้าจะได้ตอบพวกที่ดูหมิ่นข้าพเจ้าได้
    เพราะข้าพเจ้าวางใจในคำกล่าวของพระองค์
43 โปรดให้ข้าพเจ้าพูดแต่ความจริงเสมอไป
    เพราะความหวังของข้าพเจ้าอยู่ที่การตัดสินของพระองค์
44 ข้าพเจ้าจะรักษากฎบัญญัติ
    ของพระองค์ไปจนชั่วนิรันดร์กาล
45 ข้าพเจ้าจะดำเนินชีวิตไปอย่างอิสระ
    เพราะข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์
46 และข้าพเจ้าจะประกาศคำสั่งของพระองค์ต่อหน้ากษัตริย์ทั้งปวง
    โดยปราศจากความละอาย
47 ข้าพเจ้ายินดีในพระบัญญัติของพระองค์
    อันเป็นพระบัญญัติที่ข้าพเจ้ารัก
48 ข้าพเจ้าเคารพและรักพระบัญญัติของพระองค์
    และข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงกฎเกณฑ์ของพระองค์

ז ซายิน

49 โปรดระลึกถึงคำกล่าวของพระองค์ที่มีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
    เพราะคำกล่าวเป็นความหวังของข้าพเจ้า
50 นี่คือความอุ่นใจของข้าพเจ้าในยามทุกข์ยาก
    คือคำสัญญาของพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าคงชีวิตอยู่
51 พวกที่ยโสเยาะเย้ยข้าพเจ้าอยู่เสมอ
    แต่ข้าพเจ้าก็ไม่หันเหไปจากกฎบัญญัติของพระองค์
52 โอ พระผู้เป็นเจ้า เมื่อข้าพเจ้านึกถึงคำสั่งของพระองค์ที่มีแต่กาลก่อน
    ข้าพเจ้าก็อุ่นใจ
53 ข้าพเจ้าโกรธเหลือเกินในยามที่เห็น
    คนชั่วละทิ้งกฎบัญญัติของพระองค์
54 กฎเกณฑ์ของพระองค์ได้เป็นหัวข้อบทเพลงของข้าพเจ้า
    ในที่ต่างแดนอันเป็นที่อาศัยของข้าพเจ้า
55 ในยามค่ำ ข้าพเจ้านึกถึงพระนามของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
    และข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์
56 ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติเรื่อยมา
    ข้าพเจ้าทำตามข้อบังคับของพระองค์

ח เคธ

57 พระผู้เป็นเจ้าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าให้สัญญาว่าจะรักษาคำกล่าวของพระองค์ไว้
58 ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
    ขอพระองค์กรุณาต่อข้าพเจ้าตามคำสัญญาของพระองค์
59 ข้าพเจ้าได้ตรึกตรองวิถีทางของข้าพเจ้าแล้ว
    และหันวิถีทางไปตามคำสั่งของพระองค์
60 ข้าพเจ้ารีบทำตามพระบัญญัติ
    ของพระองค์โดยไม่รอช้า
61 แม้สายรัดจากคนชั่วจะเป็นบ่วงแร้วมัดรอบตัวข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าก็ไม่ลืมกฎบัญญัติของพระองค์
62 ข้าพเจ้าลุกขึ้นกลางดึกเพื่อขอบคุณพระองค์
    สำหรับการตัดสินอันกอปรด้วยความชอบธรรมของพระองค์
63 ข้าพเจ้าเป็นมิตรกับทุกคนที่เกรงกลัวพระองค์
    และกับบรรดาผู้รักษาข้อบังคับของพระองค์
64 โอ พระผู้เป็นเจ้า แผ่นดินโลกอุดมด้วยความรักอันมั่นคงของพระองค์
    โปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้าเถิด

ט เทธ

65 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้กระทำดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
    ตามคำกล่าวของพระองค์
66 โปรดสอนข้าพเจ้าให้มีความรู้และมีความสามารถหยั่งรู้ได้
    เพราะข้าพเจ้าวางใจในพระบัญญัติของพระองค์
67 ก่อนที่ข้าพเจ้าจะต้องรับทุกข์ทรมาน ข้าพเจ้าได้หลงผิดไป
    แต่มาบัดนี้ ข้าพเจ้าปฏิบัติตามคำกล่าวของพระองค์
68 พระองค์ผู้ประเสริฐและกระทำแต่สิ่งดีงาม
    โปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
69 พวกที่ยโสปั้นเรื่องให้ร้ายป้ายสีข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
70 จิตใจของพวกเขากระด้างจนสิ้นความรู้สึก
    แต่ข้าพเจ้ายินดีในกฎบัญญัติของพระองค์
71 นับว่าเป็นสิ่งดีที่ข้าพเจ้าได้เผชิญกับความทุกข์
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้เรียนรู้ถึงกฎเกณฑ์ของพระองค์
72 ข้าพเจ้านับว่ากฎบัญญัติจากปากของพระองค์
    ล้ำค่าเสียยิ่งกว่าเงินและทองคำนับพันชิ้น

י โยธ

73 พระองค์สร้างและปั้นข้าพเจ้าด้วยมือของพระองค์เอง
    โปรดให้ข้าพเจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อเรียนรู้พระบัญญัติของพระองค์
74 บรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์จะเห็นข้าพเจ้า และยินดี
    เพราะข้าพเจ้ามีความหวังในคำกล่าวของพระองค์
75 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าทราบว่าการตัดสินของพระองค์กอปรด้วยความชอบธรรม
    และพระองค์ลงโทษข้าพเจ้าเพราะความสัตย์จริงของพระองค์
76 ขอความรักอันมั่นคงของพระองค์ปลอบโยนข้าพเจ้า
    ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
77 โปรดให้ข้าพเจ้าได้รับความเมตตาเถิด ข้าพเจ้าจะได้คงชีวิตอยู่
    เพราะข้าพเจ้ายินดีในกฎบัญญัติของพระองค์
78 ให้พวกที่ยโสต้องอับอายที่กระทำผิดต่อข้าพเจ้าด้วยการโกหก
    ส่วนข้าพเจ้าก็จะใคร่ครวญถึงข้อบังคับของพระองค์
79 ขอให้บรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์กลับมาหาข้าพเจ้าเถิด
    ให้เขาได้ทราบคำสั่งของพระองค์
80 ขอให้ใจข้าพเจ้าปราศจากข้อตำหนิใดๆ ในเรื่องกฎเกณฑ์ของพระองค์
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ต้องอับอาย

כ คอฟ

81 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าอ่อนล้า เพราะการรอคอยความรอดพ้นจากพระองค์
    ข้าพเจ้ามีความหวังในคำกล่าวของพระองค์
82 ข้าพเจ้ารอคอยคำสัญญาของพระองค์จนตาพร่าพราย
    ข้าพเจ้าถามว่า “เมื่อไหร่พระองค์จะปลอบประโลมข้าพเจ้า”
83 เพราะข้าพเจ้ากลายเป็นเหมือนถุงหนังเหล้าองุ่นที่ถูกห้อยทิ้งไว้ท่ามกลางกลุ่มควัน
    แม้กระนั้น ข้าพเจ้าก็ยังไม่ลืมกฎเกณฑ์ของพระองค์
84 ผู้รับใช้ของพระองค์จะต้องอดทนนานเพียงไร
    เมื่อไหร่พระองค์จะตัดสินพวกที่กดขี่ข่มเหงข้าพเจ้า
85 คนยโสที่ขุดหลุมพรางดักข้าพเจ้า
    เป็นพวกที่ไม่เชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์
86 พระบัญญัติทั้งหมดของพระองค์ล้วนน่าเชื่อถือ
    คนพวกนั้นข่มเหงข้าพเจ้าด้วยการลวงหลอก โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย
87 พวกเขาเกือบจะทำให้ชีวิตในแผ่นดินโลกของข้าพเจ้าต้องยุติลง
    แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ลืมข้อบังคับของพระองค์เลย
88 โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามความรักอันมั่นคงของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะรักษาคำสั่งที่มาจากปากของพระองค์

ל ลาเมด

89 โอ พระผู้เป็นเจ้า คำกล่าวของพระองค์ยังคงอยู่อย่างมั่นคง
    ในสวรรค์ตลอดกาล
90 ความสัตย์จริงของพระองค์ยืนยงอยู่ทุกยุคทุกสมัย
    พระองค์ได้สร้างแผ่นดินโลกซึ่งก็ยังคงอยู่
91 สิ่งเหล่านี้คงอยู่ มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะคำสั่งของพระองค์
    เพราะทุกสิ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
92 ถ้าหากว่าข้าพเจ้าไม่ยินดีในกฎบัญญัติของพระองค์
    ข้าพเจ้าก็คงตายไปแล้วด้วยความทุกข์ยาก
93 ข้าพเจ้าไม่มีวันลืมกฎบัญญัติของพระองค์
    เพราะพระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าคงชีวิตอยู่ได้ด้วยกฎบัญญัติ
94 ข้าพเจ้าเป็นของพระองค์ โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด
    เพราะข้าพเจ้าได้แสวงหาคำสั่งของพระองค์
95 พวกคนชั่วจึงคอยที่จะทำให้ข้าพเจ้าพินาศ
    แต่ข้าพเจ้าใส่ใจในคำสั่งของพระองค์
96 ข้าพเจ้าเห็นแล้วว่าความบริบูรณ์ในสิ่งทั้งปวงมีขอบเขตจำกัด
    แต่พระบัญญัติของพระองค์หามีขีดจำกัดไม่

מ เมม

97 ข้าพเจ้ารักกฎบัญญัติของพระองค์ยิ่งนัก
    และเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงตลอดวันเวลา
98 พระบัญญัติของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญาเกินกว่าพวกศัตรูของข้าพเจ้า
    เพราะพระบัญญัตินั้นอยู่กับข้าพเจ้าเป็นนิตย์
99 ข้าพเจ้ามีความเข้าใจมากกว่าครูทุกคนของข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงคำสั่งของพระองค์
100 ข้าพเจ้าหยั่งรู้มากกว่าบรรดาผู้สูงอายุ
    เพราะข้าพเจ้าปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์
101 ข้าพเจ้ายั้งเท้าไม่ให้ย่างไปในวิถีทางอันชั่วร้ายทั้งปวง
    เพื่อปฏิบัติตามคำกล่าวของพระองค์
102 ข้าพเจ้าไม่ละเลยต่อคำสั่งของพระองค์
    เพราะพระองค์เป็นผู้สอนข้าพเจ้า
103 ถ้อยคำของพระองค์หวานชื่นใจ
    ยิ่งกว่ารสน้ำผึ้งในปากข้าพเจ้า
104 ข้าพเจ้าหยั่งรู้ได้โดยข้อบังคับของพระองค์
    ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเกลียดชังวิถีทางอันลวงหลอกทั้งปวง

נ นูน

105 คำกล่าวของพระองค์เป็นเสมือนตะเกียงสำหรับเท้าของข้าพเจ้า
    และเป็นแสงส่องทางของข้าพเจ้า
106 ข้าพเจ้าได้ให้คำสาบานและยืนยันแล้วว่า
    จะรักษาคำสั่งอันชอบธรรมของพระองค์
107 ข้าพเจ้าทุกข์ยากแสนสาหัส
    โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามคำกล่าวของพระองค์เถิด
108 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดรับเครื่องสักการะแห่งการสรรเสริญจากปากของข้าพเจ้า
    และสอนคำสั่งของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
109 ข้าพเจ้าบงการชีวิตของข้าพเจ้าเองเสมอ
    แต่ข้าพเจ้าไม่ลืมกฎบัญญัติของพระองค์
110 พวกคนชั่ววางกับดักไว้ลวงข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าไม่ได้หลงผิดไปจากข้อบังคับของพระองค์
111 คำสั่งของพระองค์เป็นสมบัติอันล้ำค่าสำหรับข้าพเจ้าเป็นนิตย์
    อันเป็นความยินดีในใจของข้าพเจ้า
112 ข้าพเจ้าตั้งใจจะกระทำตามกฎเกณฑ์ของพระองค์ไปตลอดกาล
    จนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย

ס ซาเมค

113 ข้าพเจ้าเกลียดพวกคนสองจิตสองใจ
    แต่ข้าพเจ้ารักกฎบัญญัติของพระองค์
114 พระองค์เป็นที่หลบภัยและโล่ป้องกันของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้ามีความหวังในคำกล่าวของพระองค์
115 เจ้าพวกทำความชั่ว เจ้าจงไปให้พ้น
    เราตั้งใจทำตามพระบัญญัติของพระเจ้าของเรา
116 โปรดพยุงข้าพเจ้าไว้ตามคำสัญญาของพระองค์ เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีชีวิต
    และไม่ผิดไปจากสิ่งที่ข้าพเจ้าหวังไว้
117 โปรดประคองข้าพเจ้าให้ปลอดภัย
    ข้าพเจ้าจะใส่ใจในกฎเกณฑ์ของพระองค์เสมอไป
118 พระองค์ปฏิเสธทุกคนที่ละเลยและห่างหายไปจากกฎเกณฑ์ของพระองค์
    ฉะนั้นการหลอกลวงของพวกเขาจึงไร้ประโยชน์
119 พระองค์กำจัดคนชั่วทั้งปวงในแผ่นดินโลกออกไป เหมือนกำจัดขี้แร่
    ฉะนั้น ข้าพเจ้ารักคำสั่งของพระองค์
120 เนื้อตัวข้าพเจ้าสั่นเทาเพราะหวั่นกลัวในพระองค์
    และข้าพเจ้าเกรงกลัวการตัดสินของพระองค์

ע ใอยิน

121 ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามความเป็นธรรมและถูกต้อง
    อย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าไว้กับพวกศัตรูของข้าพเจ้าเลย
122 ขอให้พระองค์รับรองว่า ผู้รับใช้ของพระองค์จะปลอดภัย
    อย่าให้พวกที่ยโสบีบบังคับข้าพเจ้า
123 ข้าพเจ้ารอคอยความรอดพ้น
    และคำสัญญาอันชอบธรรมของพระองค์จนดวงตาพร่าพราย
124 โปรดกระทำต่อผู้รับใช้ของพระองค์ตามความรักอันมั่นคงของพระองค์
    และโปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้าด้วย
125 ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ โปรดให้ข้าพเจ้าได้หยั่งรู้
    ให้ได้ทราบคำสั่งของพระองค์
126 ได้เวลาแล้วที่พระผู้เป็นเจ้าจะดำเนินการ
    เนื่องจากมีคนฝ่าฝืนกฎบัญญัติของพระองค์
127 ฉะนั้น ข้าพเจ้ารักพระบัญญัติของพระองค์ยิ่งกว่าทองคำ
    ยิ่งกว่าทองนพคุณ
128 ฉะนั้น ข้าพเจ้าก้าวไปในทางอันควรโดยข้อบังคับของพระองค์ทุกข้อ
    ข้าพเจ้าเกลียดชังทุกวิถีทางที่จอมปลอม

פ เผ

129 คำสั่งของพระองค์ช่างล้ำเลิศ
    ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงปฏิบัติตาม
130 ขณะที่คำกล่าวของพระองค์ถูกเผยออกให้คนทราบ ความสว่างก็เกิดขึ้นกับเขา
    และแม้แต่คนเขลาก็เข้าใจได้
131 ข้าพเจ้ากระหายในพระบัญญัติของพระองค์ยิ่งนัก
    จนถึงกับปากอ้ากระหืดกระหอบ
132 โปรดหันมาทางข้าพเจ้า และเมตตาข้าพเจ้า
    อย่างที่พระองค์กระทำต่อบรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์
133 ให้ข้าพเจ้าก้าวไปอย่างมั่นคงตามคำสัญญาของพระองค์
    และอย่าปล่อยให้อำนาจแห่งความชั่วใดๆ คุมข้าพเจ้าไว้
134 ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการบีบบังคับของมนุษย์
    ข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์
135 โปรดหันหน้ามาทางผู้รับใช้ด้วยแสงอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
    และโปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้าเถิด
136 น้ำตาไหลพรั่งพรูจากดวงตาของข้าพเจ้า
    เพราะผู้คนไม่ปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์

ץ ธซาเด

137 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์มีความชอบธรรม
    และการตัดสินของพระองค์ก็ยุติธรรม
138 คำสั่งของพระองค์ที่ได้บัญชาไว้ล้วนมีความชอบธรรม
    และความสัตย์จริงโดยบริบูรณ์
139 ความปรารถนาอันแรงกล้าท่วมท้นใจข้าพเจ้า
    เพราะศัตรูของข้าพเจ้าลืมคำกล่าวของพระองค์
140 คำพูดของพระองค์บริสุทธิ์ยิ่งนัก
    และผู้รับใช้ของพระองค์รักคำสัญญานั้น
141 แม้ข้าพเจ้าถูกดูหมิ่นและไม่มีความสำคัญใดๆ
    แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ลืมข้อบังคับของพระองค์
142 ความชอบธรรมของพระองค์จะคงอยู่ตลอดกาล
    และกฎบัญญัติของพระองค์เป็นความจริง
143 ความลำบากและความทุกข์โหมกระหน่ำข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้ายินดีในพระบัญญัติของพระองค์
144 คำสั่งของพระองค์มีความชอบธรรมตลอดกาล
    โปรดให้ข้าพเจ้าได้หยั่งรู้เพื่อมีชีวิตคงอยู่ได้

ק โคฟ

145 ข้าพเจ้าร่ำร้องอย่างหมดใจ โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดตอบข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์
146 ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์ โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
    ข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
147 ข้าพเจ้าลุกขึ้นก่อนรุ่งอรุณ และร้องขอความช่วยเหลือ
    ข้าพเจ้าหวังในคำกล่าวของพระองค์
148 ตาของข้าพเจ้าเปิดอยู่ทุกยาม
    เพื่อใคร่ครวญถึงคำสัญญาของพระองค์
149 โปรดฟังเสียงข้าพเจ้าด้วยความรักอันมั่นคงของพระองค์
    โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามคำตัดสินของพระองค์
150 พวกที่วางแผนเพื่อประสงค์ร้ายกำลังใกล้เข้ามา
    พวกเขาอยู่ห่างไกลจากกฎบัญญัติของพระองค์
151 พระผู้เป็นเจ้า พระองค์อยู่แนบชิด
    และพระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์เป็นความจริง
152 ข้าพเจ้าทราบมานานแล้วว่าพระองค์ทำพันธสัญญา
    เพื่อให้ยืนยงตลอดกาล

ר เรช

153 ดูความทุกข์ยากของข้าพเจ้า และช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด
    เพราะข้าพเจ้าไม่ลืมกฎบัญญัติของพระองค์
154 ขอพระองค์สู้ความให้ข้าพเจ้า โปรดไถ่ข้าพเจ้า
    ให้มีชีวิตตามคำสัญญาของพระองค์เถิด
155 พวกคนชั่วอยู่ห่างจากความรอดพ้น
    เพราะเขาไม่แสวงหากฎเกณฑ์ของพระองค์
156 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์มีเมตตายิ่งนัก
    ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามคำตัดสินของพระองค์เถิด
157 ทั้งพวกที่จะมาข่มเหง และพวกที่อยู่ตรงข้ามข้าพเจ้ามีจำนวนมาก
    แต่ข้าพเจ้าไม่หันเหไปจากคำสั่งของพระองค์
158 ข้าพเจ้ามองดูพวกไร้ความเชื่อด้วยความขยะแขยง
    เพราะเขาไม่ปฏิบัติตามคำกล่าวของพระองค์
159 ดูเถิดว่า ข้าพเจ้ารักข้อบังคับของพระองค์เพียงไร
    โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามความรักอันมั่นคงของพระองค์เถิด
160 แก่นแท้ของคำกล่าวของพระองค์คือความจริง
    และคำบัญชาทั้งมวลอันกอปรด้วยความชอบธรรมของพระองค์จะยืนยงตลอดกาล

ש ซีน และ ชีน

161 พวกเจ้าขุนมูลนายข่มเหงข้าพเจ้าอย่างไร้สาเหตุ
    แต่ใจข้าพเจ้าครั่นคร้ามในคำกล่าวของพระองค์
162 ข้าพเจ้ายินดีในคำสัญญาของพระองค์
    ราวกับผู้พบสมบัติมหาศาล
163 ข้าพเจ้าทั้งเกลียดทั้งชังความจอมปลอม
    แต่ข้าพเจ้ารักกฎบัญญัติของพระองค์
164 ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์วันละ 7 ครั้ง
    เพราะคำตัดสินอันชอบธรรมของพระองค์
165 บรรดาผู้รักกฎบัญญัติของพระองค์ย่อมมีสันติสุขมาก
    ไม่มีสิ่งใดทำให้เขาพลาดได้
166 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าหวังว่าจะได้รับความรอดพ้นจากพระองค์
    และข้าพเจ้าปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์
167 จิตวิญญาณข้าพเจ้าปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
    และข้าพเจ้าก็รักคำสั่งนั้นมาก
168 ข้าพเจ้าปฏิบัติตามข้อบังคับและคำสั่งของพระองค์
    เพราะพระองค์รู้เห็นทุกสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำ

ת ทาฟ

169 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดให้เสียงร้องของข้าพเจ้าอยู่เบื้องหน้าพระองค์
    โปรดให้ข้าพเจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ตามคำกล่าวของพระองค์
170 โปรดให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าอยู่เบื้องหน้าพระองค์
    ช่วยข้าพเจ้าให้ปลอดภัยตามคำสัญญาของพระองค์
171 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะเปล่งคำสรรเสริญ
    เพราะพระองค์สอนกฎเกณฑ์แก่ข้าพเจ้า
172 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงคำสัญญาของพระองค์
    เพราะพระบัญญัติทุกข้อของพระองค์ล้วนชอบธรรม
173 ขอให้มือของพระองค์พร้อมที่จะช่วยข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าได้เลือกข้อบังคับของพระองค์
174 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ากระหายในความรอดพ้นที่จะได้รับจากพระองค์
    และข้าพเจ้ายินดีในกฎบัญญัติของพระองค์
175 โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ เพื่อจะได้สรรเสริญพระองค์
    และให้คำตัดสินของพระองค์ช่วยข้าพเจ้า
176 ข้าพเจ้าสำคัญผิดไปเหมือนแกะที่หลงหาย โปรดแสวงหาผู้รับใช้ของพระองค์
    เพราะข้าพเจ้าไม่ลืมพระบัญญัติของพระองค์

คำอธิษฐานขอความช่วยเหลือ

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ในยามทุกข์ยากข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้า
    และพระองค์ตอบข้าพเจ้า
โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้น
    จากริมฝีปากของคนพูดปด
    จากลิ้นที่ลวงหลอก

พระองค์จะให้อะไรแก่เจ้าเล่า
    และจะกระทำอะไรต่อเจ้าอีก
    โอ ลิ้นที่ลวงหลอก
โดยลูกธนูเฉียบแหลมของนักรบ
    พร้อมกับถ่านไม้ซากลุกโชติช่วงนั่นแหละ

วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าอาศัยอยู่ที่เมเชค
    และพักอยู่ท่ามกลางกระโจมที่พักของเคดาร์[k]
ข้าพเจ้าพักอยู่ท่ามกลางฝูงชน
    ที่เกลียดสันติสุขนานเกินไปแล้ว
ข้าพเจ้าเป็นฝ่ายสันติตามที่ข้าพเจ้าพูด
    แต่พวกเขาเป็นฝ่ายสงคราม

พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้คุ้มกันเรา

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ข้าพเจ้าแหงนหน้าไปทางภูเขา
    เพื่อดูว่า ความช่วยเหลือที่ข้าพเจ้าจะได้รับมาจากไหน
ความช่วยเหลือนั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้า
    ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก

พระองค์จะไม่ปล่อยให้เท้าของท่านพลาด
    พระองค์ผู้คอยดูแลท่านย่อมไม่พักผ่อนนอนหลับ
ดูเถิด พระองค์เป็นผู้ดูแลอิสราเอล
    ที่ไม่นอนหลับหรือเผลอหลับไป

พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ดูแลท่าน
    พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้คุ้มครองอยู่ทางขวามือของท่าน
ดวงอาทิตย์จะไม่ทำอันตรายท่านในเวลากลางวัน
    และดวงจันทร์ก็ไม่ทำอันตรายในเวลากลางคืน

พระผู้เป็นเจ้าจะดูแลท่านให้พ้นจากภัยทั้งปวง
    พระองค์จะดูแลรักษาชีวิตท่าน
พระผู้เป็นเจ้าจะดูแลท่าน
    ไม่ว่าท่านจะทำอะไรอยู่ที่ไหน
    นับแต่บัดนี้จนชั่วนิรันดร์กาล

คำอธิษฐานสำหรับเยรูซาเล็ม

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของดาวิด

ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีเมื่อพวกเขาพูดกับข้าพเจ้าว่า
    “พวกเราไปยังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้ากันเถิด”
เยรูซาเล็มเอ๋ย เท้าของเรายืนอยู่
    ภายในประตูของเจ้า

เยรูซาเล็มถูกสร้างขึ้นเป็นเมือง
    ที่มีความพอเหมาะพอเจาะแก่ความต้องการ
เป็นสถานที่ซึ่งเผ่าต่างๆ ขึ้นไป
    เป็นเผ่าของพระผู้เป็นเจ้า
เพื่อสรรเสริญพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
    ตามคำสั่งที่ได้ให้ไว้กับอิสราเอล
บัลลังก์แห่งการตัดสินคดีก็ถูกตั้งไว้ ณ ที่นั้น
    คือบัลลังก์ของพงศ์พันธุ์ดาวิด

จงอธิษฐานให้เยรูซาเล็มมีสันติสุขเถิด
    “ขอให้บรรดาผู้ที่รักเจ้าจงประสบแต่ความเจริญ
ขอสันติสุขจงมีภายในกำแพงเมืองของเจ้า
    และความปลอดภัยจงมีภายในป้อมปราการของเจ้า”
เพราะความรักที่มีต่อพี่น้องและมิตรสหายของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะพูดว่า “สันติสุขจงมีอยู่ภายในเจ้า”
เพราะความรักที่มีต่อพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
    ข้าพเจ้าจะอธิษฐานขอความเจริญให้แก่เจ้า

คำอธิษฐานขอความเมตตา

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ข้าพเจ้าทอดสายตาไปทางพระองค์
    ผู้สถิตบนบัลลังก์ในฟ้าสวรรค์
ดูเถิด นัยน์ตาของบรรดาผู้รับใช้
    แลจับอยู่ที่มือเจ้านายของเขา
และนัยน์ตาของสาวรับใช้
    ที่จับจ้องมือนายหญิงของนางฉันใด
สายตาของเราก็ทอดไปทางพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราฉันนั้น
    จนกว่าพระองค์จะเมตตาเรา

โปรดเมตตาพวกเราเถิด พระผู้เป็นเจ้า โปรดเมตตาพวกเราด้วย
    เพราะเราถูกดูหมิ่นมามากพอแล้ว
ชีวิตพวกเราอดทนต่อการเยาะเย้ยของพวกไม่เคยลำบาก
    และการดูหมิ่นของคนยโสมามากแล้ว

พระเจ้าเป็นผู้คุ้มครองชนชาติของพระองค์

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของดาวิด

ถ้าหากว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
    ชาวอิสราเอลจงกล่าวต่อไปเถิด
ถ้าหากว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
    เวลาคนโจมตีเรา
เขาคงได้กลืนกินพวกเราไปแล้วทั้งเป็น
    ยามที่ความกริ้วพลุ่งเข้าใส่พวกเรา
น้ำคงพัดพาเราไหลไป
    กระแสน้ำคงซัดเอาตัวเราจนมิดไปแล้ว
กระแสน้ำอันเชี่ยวกราก
    คงซัดเราจนมิดไปแล้ว

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    พระองค์ไม่ได้ให้เราตกเป็นเหยื่อในปากใคร
พวกเราหนีรอดพ้นมาได้ดั่งนก
    หลีกหนีจากกับดักของนายพราน
เมื่อกับดักหักไป
    เราก็หนีรอดพ้นมาได้
ความช่วยเหลือที่พวกเราได้รับอยู่ภายใต้พระนามของพระผู้เป็นเจ้า
    ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก

คนของพระเจ้าไม่หวั่นไหว

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

บรรดาผู้ไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าเป็นเหมือนภูเขาศิโยน
    ที่ไม่ขยับเขยื้อน แต่ตั้งมั่นอยู่ตลอดกาล
ภูเขาโอบล้อมอยู่รอบเยรูซาเล็มฉันใด
    พระผู้เป็นเจ้าก็จะโอบล้อมคนของพระองค์ฉันนั้น
    นับแต่บัดนี้ไปตลอดกาล

อำนาจของผู้ปกครองที่ชั่วร้ายจะไม่คงอยู่ในแผ่นดินที่ถูกมอบให้เป็นของบรรดาผู้มีความชอบธรรม
    เพื่อไม่ให้ผู้มีความชอบธรรมปฏิบัติชั่ว

โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดมอบสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่คนดี
    รวมถึงบรรดาผู้มีความชอบธรรมในจิตใจเถิด
ส่วนพวกที่หันเข้าหาทางเคี้ยวคดของตน
    พระผู้เป็นเจ้าจะให้พวกเขาจบชีวิตลงพร้อมๆ กับพวกที่ทำความชั่ว
    ขอให้อิสราเอลมีสันติสุขเถิด

พระเจ้าทำให้ความสมบูรณ์คืนสู่สภาพเดิมได้

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของศิโยนคืนสู่สภาพเดิม
    ดูเหมือนว่าเป็นเพียงความฝันสำหรับพวกเรา
แต่แล้วปากของเรากลับได้หัวเราะ
    ขณะที่ลิ้นของเราตะโกนร้องด้วยความยินดี
เป็นที่พูดกันในบรรดาประชาชาติว่า
    พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการอันใหญ่ยิ่งให้แก่พวกเขา”
พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำการอันใหญ่ยิ่งให้แก่พวกเรา
    เรายินดียิ่งนัก

โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดทำให้ความอุดมสมบูรณ์กลับคืนสู่พวกเรา
    ดั่งน้ำไหลลงสู่ท้องน้ำที่แห้งผากในเนเกบด้วยเถิด
ขอให้บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตา
    ได้เก็บเกี่ยวด้วยเสียงร้องแห่งความยินดีเถิด
ผู้หอบเมล็ดพืชเดินออกไปหว่าน
    พร้อมการร่ำไห้
จะกลับมาบ้านด้วยเสียงโห่ร้องแห่งความยินดี
    พร้อมกับนำต้นข้าวที่เก็บเกี่ยวได้มาหลายฟ่อน

สิ่งดีทั้งปวงมาจากพระเจ้า

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของซาโลมอน

ถ้าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เป็นผู้สร้างบ้าน
    ผลงานของพวกช่างก่อสร้างก็ไร้ประโยชน์
ถ้าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้เฝ้ารักษาเมืองไว้
    ผู้เฝ้ายามก็ตื่นอยู่โดยเปล่าประโยชน์
ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยถ้าท่านตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่
    และนอนดึก
เพื่อตรากตรำหาอาหารเลี้ยงตนเอง
    เพราะพระองค์ให้บรรดาผู้ที่พระองค์รักได้หลับพักผ่อน

ดูเถิด บุตรทั้งหลายเป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า
    ผลจากครรภ์เป็นรางวัลจากพระองค์
บรรดาบุตรชายของคนวัยหนุ่ม
    เป็นเสมือนลูกธนูในมือของนักรบ
คนที่มีลูกธนูเต็มแล่งก็เป็นสุข
    เขาจะไม่พบความปราชัย
    ในยามปะทะคารมกับศัตรูของเขาที่ประตูเมือง

รางวัลแห่งการเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ผู้ใดเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    และดำเนินในวิถีทางของพระองค์
    ผู้นั้นก็เป็นสุข
ท่านจะดื่มกินผลที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของท่าน
    ท่านจะเป็นสุขและดำเนินไปด้วยดี
ภรรยาของท่านจะเป็นดั่งเถาองุ่น
    ผลดกภายในเรือนของท่าน
พวกลูกๆ ของท่านจะเป็นดั่งหน่อมะกอก
    อยู่รายรอบโต๊ะอาหารของท่าน
ดูเถิด คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    จะได้รับพระพรเช่นนี้

ขอให้พระผู้เป็นเจ้าอวยพรท่านจากศิโยน
    และท่านจะได้เห็นความเจริญของเยรูซาเล็มตลอดชั่วชีวิตของท่าน
ขอให้ท่านได้เห็นลูกหลานของท่าน
    ขอให้อิสราเอลมีสันติสุขเถิด

คำอธิษฐานต่อต้านศัตรูของอิสราเอล

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

หลายต่อหลายครั้งที่พวกเขาทำให้ข้าพเจ้าต้องทุกข์ยากนับแต่ข้าพเจ้ายังเยาว์
    ให้คนของอิสราเอลพูดเถิด
หลายต่อหลายครั้งที่พวกเขาทำให้ข้าพเจ้าต้องทุกข์ยากนับแต่ข้าพเจ้ายังเยาว์
    แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็เอาชนะข้าพเจ้าไม่ได้
คนไถนาไถบนหลังข้าพเจ้า
    จนเกิดเป็นร่องยาว
พระผู้เป็นเจ้ามีความชอบธรรม
    พระองค์ตัดสายรัดของคนชั่วออก

ขอให้ทุกคนที่เกลียดชังศิโยน
    จะต้องหันกลับไปด้วยความอับอาย
ขอให้พวกเขาเป็นดั่งต้นหญ้าบนหลังคา
    ซึ่งเหี่ยวแห้งไปก่อนที่จะแตกยอด
ซึ่งคนเกี่ยวเก็บรวบได้ไม่เต็มกำ
    และคนมัดฟ่อนหญ้าได้ไม่เต็มอ้อมแขน
ขออย่าให้คนที่ผ่านไปมาพูดว่า
    “พระพรของพระผู้เป็นเจ้าจงอยู่กับท่าน
    เราขออวยพรท่านในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า

คำอธิษฐานขอความช่วยเหลือ

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์จากห้วงเหวแห่งความสิ้นหวัง
โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดฟังเสียงข้าพเจ้า
    โปรดเงี่ยหูฟังเสียงร้องขอความเมตตาของข้าพเจ้าเถิด

โอ พระผู้เป็นเจ้า ถ้าพระองค์บันทึกบาปที่เรากระทำแล้ว
    โอ พระผู้เป็นเจ้า ใครจะสามารถทนอยู่ได้เล่า
แต่พระองค์กลับให้อภัย
    ฉะนั้น พระองค์จึงเป็นที่ยำเกรง
ข้าพเจ้าคอยพระผู้เป็นเจ้า จิตวิญญาณของข้าพเจ้ารอคอย
    และจึงตั้งความหวังในคำกล่าวของพระองค์
จิตวิญญาณของข้าพเจ้ารอคอยพระผู้เป็นเจ้า
    ยิ่งกว่าคนเฝ้ายามรอคอยอรุณรุ่ง
    ยิ่งกว่าคนเฝ้ายามรอคอยอรุณรุ่ง

อิสราเอลเอ๋ย จงตั้งความหวังในพระผู้เป็นเจ้าเถิด
    เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้ามีความรักอันมั่นคง
    และพระองค์ทำการไถ่อย่างบริบูรณ์
และพระองค์จะไถ่อิสราเอลให้พ้น
    จากบาปทั้งปวงของเขา

อธิษฐานด้วยความมั่นใจ

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของดาวิด

โอ พระผู้เป็นเจ้า ใจข้าพเจ้าไม่หยิ่งผยอง
    และดวงตาก็ไม่หยิ่งจองหองด้วยเช่นกัน
ข้าพเจ้าไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับเรื่องใหญ่โต
    หรือมหัศจรรย์เกินตัวข้าพเจ้า
แต่ข้าพเจ้าผ่อนคลายและใจสงบ
    เหมือนเด็กน้อยที่หย่านมแล้ว ซบไออุ่นอยู่ในอ้อมอกแม่
    จิตวิญญาณภายในตัวข้าพเจ้าเป็นเหมือนเด็กน้อยหย่านมแล้ว

อิสราเอลเอ๋ย จงตั้งความหวังในพระผู้เป็นเจ้า
    นับแต่บัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล

พระผู้เป็นเจ้าได้เลือกศิโยน

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดระลึกถึงดาวิดว่า
    ท่านต้องทนต่อความยากลำบากทั้งปวงขนาดไหน
ท่านสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า
    และสัญญาต่อองค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบอย่างไรบ้าง
“ข้าพเจ้าจะไม่ไปในกระโจมที่พักของข้าพเจ้า
    หรือเข้านอน
ข้าพเจ้าจะไม่หลับตานอน
    หรือแม้แต่พักตาสักงีบ
จนกว่าข้าพเจ้าจะพบที่อยู่สำหรับพระผู้เป็นเจ้า
    คือกระโจมที่พำนักสำหรับองค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบ”

ดูเถิด พวกเราเคยได้ยินเรื่องนี้ในเมืองเอฟราธาห์
    และก็พบแล้วในนาของยาอาร์[l]
“ให้เราไปยังกระโจมที่พำนักของพระองค์
    กราบ ณ ที่วางเท้าของพระองค์เถิด”

ได้โปรดลุกขึ้นเถิด โอ พระผู้เป็นเจ้า และไปยังที่พักของพระองค์
    ทั้งพระองค์และหีบพันธสัญญาอันมีอานุภาพของพระองค์
ขอให้บรรดาปุโรหิตของพระองค์สวมคลุมด้วยความชอบธรรม
    และให้บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี
10 เพื่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์
    ขออย่าเมินหน้าไปจากผู้ได้รับการเจิมของพระองค์

11 พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณกับดาวิดอย่างแม่นมั่นแล้วว่า
    พระองค์จะไม่คืนคำ
“เราจะให้ผู้หนึ่งในบรรดาผู้สืบวงศ์ตระกูลของเจ้า
    ครองบนบัลลังก์ของเจ้า
12 ถ้าบรรดาบุตรของเจ้ารักษาพันธสัญญา
    และคำสั่งที่เราจะสอนพวกเขา
รวมไปถึงบุตรของเขาก็จะได้นั่งบนบัลลังก์ของเจ้า
    ไปตลอดกาลนาน”

13 เพราะพระผู้เป็นเจ้าเลือกศิโยน
    พระองค์ประสงค์ให้เป็นที่พำนักของพระองค์
14 “นี่เป็นที่พำนักของเราไปชั่วกาลนาน
    เราจะอยู่ที่นี่ เพราะเราต้องการเช่นนั้น
15 เราจะอวยพรให้ศิโยนได้รับอย่างท่วมท้น
    คนยากไร้ของศิโยนจะมีอาหารจนเป็นที่พอใจ
16 เราจะให้บรรดาปุโรหิตของศิโยนถึงซึ่งความรอดพ้น
    และบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าในศิโยนสามารถเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี
17 เราจะทำให้เกิดพละกำลังขึ้น ณ ที่นั้นเพื่อดาวิด
    เราได้เตรียมตะเกียงไว้ให้แก่คนที่เราเจิม
18 เราจะให้พวกศัตรูของเขาอับอายเป็นที่สุด
    แต่มงกุฎของเขาจะเปล่งประกายบนตัวเขา”

ความรักกันฉันพี่น้อง

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของดาวิด

ดูเถิด เป็นสิ่งดีและน่าเบิกบานใจอะไรเช่นนี้
    เวลาพี่น้องได้มาอยู่ร่วมกันอย่างมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เสมือนน้ำมันอันประเสริฐชโลมไว้บนศีรษะ
    ที่ไหลลงอาบบนเครา
บนเคราของอาโรน
    ไหลรินลงสู่คอเสื้อของท่าน
เสมือนน้ำค้าง ณ ภูเขาเฮอร์โมน
    ที่พร่างพรมสู่เทือกเขาของศิโยน
นั่นคือสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้มอบพระพร
    คือการมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์

มาสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา

ดูเถิด บรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าทุกคน จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    ทุกคนที่ยืนอยู่ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าในยามค่ำ
จงยกมือของท่านขึ้นสู่สถานที่บริสุทธิ์
    และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

ขอให้พระผู้เป็นเจ้าอวยพรท่านจากศิโยน
    พระองค์เป็นผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก

พระคุณอันสูงส่ง

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

จงสรรเสริญพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
    บรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญเถิด
ท่านที่ยืนอยู่ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
    ในลานพระตำหนักของพระเจ้าของเรา
จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ
    จงร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์ เพราะเป็นที่น่าเบิกบานใจ
เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้เลือกยาโคบไว้สำหรับพระองค์เอง
    เลือกอิสราเอลไว้เป็นสมบัติอันมีค่าของพระองค์

เพราะข้าพเจ้าทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าใหญ่ยิ่งนัก
    และพระผู้เป็นเจ้าของเรายิ่งใหญ่เหนือเทพเจ้าทั้งปวง
พระผู้เป็นเจ้ากระทำตามความประสงค์ของพระองค์
    ทั้งเบื้องสวรรค์และแหล่งหล้า
    ทั้งในทะเลและห้วงน้ำลึกทั้งปวง
พระองค์เป็นผู้ทำให้เมฆลอยขึ้นจากทุกมุมโลก
    เป็นผู้ให้กำเนิดฟ้าแลบกับสายฝน
    และลมพัดออกจากแหล่งเก็บลมของพระองค์

พระองค์เป็นผู้ฆ่าบุตรหัวปีในอียิปต์
    ไม่เลือกว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง
พระองค์บันดาลปรากฏการณ์และสิ่งมหัศจรรย์ในท่ามกลางประเทศอียิปต์
    เป็นการต่อต้านฟาโรห์และหมู่บริวาร
10 พระองค์เป็นผู้ฆ่าประชาชาติมากหลาย
    และสังหารหมู่กษัตริย์ใจฉกาจ
11 สิโหนกษัตริย์ของชาวอาโมร์
    โอกกษัตริย์แห่งแคว้นบาชาน
    และอาณาจักรทั้งหมดของคานาอัน[m]
12 พระองค์มอบผืนแผ่นดินของคนเหล่านั้นให้เป็นมรดก
    เป็นมรดกแก่คนของพระองค์คืออิสราเอล

13 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระนามของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
    โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะเป็นที่ระลึกถึงทุกชั่วอายุคนจนชั่วลูกชั่วหลาน
14 เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะพิสูจน์ว่าชนชาติของพระองค์ไม่ผิด
    และเมตตาบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์

15 รูปเคารพของบรรดาประชาชาติเป็นเงินและทองคำ
    เป็นสิ่งที่ทำด้วยมือมนุษย์
16 รูปเหล่านั้นมีปาก แต่พูดไม่ได้
    มีตา แต่มองไม่เห็น
17 มีหู แต่ไม่สามารถได้ยิน
    และไม่มีลมหายใจในปาก
18 พวกที่ปั้นรูปเคารพขึ้นก็ย่อมเป็นเหมือนกับรูปเคารพ
    ผู้ใดวางใจในรูปเคารพก็เป็นดั่งรูปนั้น

19 พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    พงศ์พันธุ์ของอาโรนเอ๋ย จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
20 พงศ์พันธุ์ของเลวีเอ๋ย จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    ท่านที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
21 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าจากศิโยน
    พระองค์พำนักอยู่ที่เยรูซาเล็ม

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเถิด

ความรักอันมั่นคงดำรงอยู่ตลอดกาล

จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
จงขอบคุณพระเจ้า ผู้อยู่เหนือบรรดาเทพเจ้า
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ผู้อยู่เหนือบรรดาเจ้า
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล