Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
โยเอล 2:1-2

วันของพระผู้เป็นเจ้า

จงเป่าแตรงอนในศิโยน
    ส่งสัญญาณบนภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา

ให้บรรดาผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินตัวสั่นเทา
    เพราะวันของพระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง ซึ่งใกล้เข้ามาแล้ว
วันแห่งความมืดและความมืดมน
    วันแห่งเมฆหมอกและดำอับแสง
กองทัพใหญ่อันแข็งแกร่งกองหนึ่งเดินทัพมา
    เหมือนกับความมืดสลัวที่แผ่ปกเทือกเขา
อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
    และจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป
    จนตลอดทุกชั่วอายุคน

โยเอล 2:12-17

กลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า

12 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้
    “แม้เวลานี้ พวกเจ้าก็จงกลับมาหาเราด้วยสุดจิตสุดใจ
    ด้วยการอดอาหาร ด้วยการร้องรำพัน และด้วยการร้องคร่ำครวญ
13 อย่าฉีกเสื้อผ้าของตนเพื่อแสดงว่าสำนึกผิด
    แต่จงฉีกใจของพวกเจ้า”
จงกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกท่าน
    เพราะพระองค์มีพระคุณและความสงสาร
ไม่โกรธง่าย และบริบูรณ์ด้วยความรักอันมั่นคง
    และพระองค์เปลี่ยนความตั้งใจและไม่ให้ความวิบัติเกิดขึ้น
14 ใครจะทราบได้ พระองค์อาจจะเปลี่ยนใจและสงสาร
    ทั้งประทานพรไว้เบื้องหลัง
เป็นเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชา
    สำหรับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกท่าน

15 จงเป่าแตรงอนในศิโยน
    จงประกาศให้มีการอดอาหาร
ให้มีการประชุมอันบริสุทธิ์
16     รวบรวมประชาชน
ชำระที่ประชุมให้บริสุทธิ์
    เรียกประชุมบรรดาผู้อาวุโส
รวบรวมเด็กๆ
    แม้จะเป็นเด็กอ่อนที่ยังไม่หย่านม
ให้เจ้าบ่าวออกไปจากห้อง
    และเจ้าสาวออกไปจากห้องหอของตน
17 ให้บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า
    ร้องไห้ระหว่างห้องมุขและแท่นบูชา
และพูดดังนี้ว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ไว้ชีวิตชนชาติของพระองค์เถิด
    และอย่าทำให้ผู้สืบมรดกของพระองค์เป็นที่ดูหมิ่น
    เป็นดั่งคำเปรียบเปรยในสุภาษิตท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
ทำไมพวกเขาจึงจะพูดในท่ามกลางบรรดาชนชาติดังนี้ว่า
    ‘พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่ไหน’”

อิสยาห์ 58:1-12

การอดอาหารที่แท้จริงและปลอม

58 “จงส่งเสียงร้องดัง ไม่ต้องยับยั้งไว้
    ส่งเสียงร้องของเจ้าเหมือนเสียงแตร
จงประกาศแก่ชนชาติของเราถึงการล่วงละเมิดของเขา
    แก่พงศ์พันธุ์ยาโคบถึงบาปของพวกเขา
พวกเขาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า
    และยินดีที่จะรู้วิถีทางของเรา
เหมือนกับว่า พวกเขาเป็นประชาชาติที่กระทำสิ่งอันเป็นความชอบธรรม
    และไม่ได้ทอดทิ้งคำบัญชาของพระเจ้าของเขา
พวกเขาถามเราถึงการตัดสินอันชอบธรรม
    พวกเขายินดีเดินเข้าใกล้พระเจ้า
พวกเขาพูดว่า ‘พวกเราอดอาหารไปทำไม
    ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่เห็น
พวกเราเจียมตัวไปทำไม
    ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่รับทราบ’
ดูเถิด ในวันที่เจ้าอดอาหาร เจ้าก็ทำไปเพียงเพื่อตนเอง
    แล้วก็บีบบังคับลูกจ้างของเจ้าทุกคน
ดูเถิด เจ้าอดอาหารก็เพื่อจะก่อการวิวาทและต่อสู้เท่านั้น
    และเพื่อชกด้วยหมัดที่มุ่งร้าย
การอดอาหารอย่างที่พวกเจ้ากระทำในวันนี้
    จะไม่ทำให้เสียงของเจ้าเป็นที่ได้ยินในเบื้องสูงหรอก
การอดอาหารแบบนี้น่ะหรือที่เราเลือก
    เป็นวันที่ให้คนถ่อมตนหรือ
ให้เขาก้มศีรษะลงอย่างไม้อ้อ
    และนอนบนผ้ากระสอบและขี้เถ้าหรือ
เจ้าจะเรียกว่านั่นเป็นการอดอาหาร
    และเป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้ายอมรับได้หรือ

การอดอาหารแบบที่เราเลือกมิใช่อย่างนี้หรือ
    คือแก้สิ่งผูกมัดของความชั่ว
    แก้สายรัดของแอก
ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ
    และปลดแอกทั้งหมดออก
เพื่อแบ่งปันอาหารของเจ้าให้กับผู้ที่หิว
    และนำผู้ยากไร้ที่ไม่มีบ้านอยู่เข้าไปในบ้านของเจ้า
เมื่อเจ้าเห็นผู้ที่ไร้เครื่องนุ่งห่ม ก็จัดหาให้เขา
    และไม่ซ่อนตัวเจ้าจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า มิใช่หรือ
แล้วแสงสว่างของเจ้าก็จะสาดส่องดั่งอรุณรุ่ง
    และการเจ็บไข้ของเจ้าจะหายขาดอย่างรวดเร็ว
ความชอบธรรมของเจ้าจะนำหน้าเจ้าไป
    บารมีของพระผู้เป็นเจ้าจะคุ้มกันที่ข้างหลังเจ้า
เวลาที่เจ้าร้องเรียก พระผู้เป็นเจ้าก็จะตอบ
    เจ้าจะร้องให้ช่วย พระองค์ก็จะกล่าวว่า ‘เราอยู่นี่’
ถ้าเจ้าเอาแอกนั้นออกไปจากท่ามกลางพวกเจ้า
    และเลิกจากการตำหนิติเตียนผู้อื่น หรือการพูดว่าร้าย
10 ถ้าเจ้าช่วยเหลือผู้หิวกระหาย
    และให้ผู้มีความลำบากได้รับจนพอใจ
แล้วแสงสว่างของเจ้าก็จะส่องในความมืด
    และความมืดมนของเจ้าก็จะสว่างดั่งเที่ยงวัน
11 และพระผู้เป็นเจ้าจะนำทางเจ้าเสมอไป
    และให้เจ้าได้รับจนพอใจในยามลำเค็ญ
    และทำให้กระดูกของเจ้าแข็งแรง
และเจ้าจะเป็นอย่างสวนที่ได้น้ำรด
    เป็นอย่างน้ำพุ
    ที่ไม่มีวันแห้งเหือด
12 และสิ่งปรักหักพังโบราณของเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่
    เจ้าจะสร้างฐานรากให้กับหลายชั่วอายุคน
เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ซ่อมกำแพง
    ผู้สร้างถนนขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยได้

สดุดี 51:1-17

คำอธิษฐานขออภัย

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด เมื่อนาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ามาหาท่าน หลังจากที่ท่านเข้าไปหานางบัทเช-บาแล้ว[a]

โอ พระเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้า
    เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์
เพราะพระองค์มีเมตตาเป็นล้นพ้น
    โปรดลบล้างการล่วงละเมิดของข้าพเจ้า
ชำระล้างความชั่วทั้งปวงของข้าพเจ้าให้หมดสิ้น
    และทำให้ข้าพเจ้าบริสุทธิ์จากบาป

เพราะข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้าล่วงละเมิด
    และตระหนักในบาปของข้าพเจ้าแล้ว
ข้าพเจ้าทำบาปต่อพระองค์ ต่อพระองค์เพียงผู้เดียว
    และได้กระทำสิ่งที่ชั่วในสายตาของพระองค์
เพื่อพระองค์เป็นที่เห็นว่าถูกต้องเวลาพระองค์กล่าว
    และไร้ความผิดเวลาพระองค์ตัดสินโทษ
จริงทีเดียวที่ข้าพเจ้าเป็นคนบาปตั้งแต่แรกเกิด
    เป็นคนบาปตั้งแต่เริ่มชีวิตในครรภ์มารดา
ดูเถิด พระองค์ต้องการความภักดีที่มาจากใจ
    ฉะนั้นขอพระองค์สั่งสอนสติปัญญาให้กับส่วนลึกๆ ในใจของข้าพเจ้า

โปรดลบล้างบาปข้าพเจ้าด้วยก้านหุสบ ข้าพเจ้าจะได้สะอาด
    ชำระล้างข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะได้ขาวยิ่งกว่าหิมะ
ให้ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับเสียงแห่งความยินดีและรื่นเริงใจ
    ให้กระดูกที่พระองค์หักเป็นเสี่ยงๆ ยินดีได้เถิด
โปรดซ่อนหน้าพระองค์ไปเสียจากบาปของข้าพเจ้า
    และลบล้างความชั่วทั้งปวงของข้าพเจ้าให้หมดสิ้น
10 โอ พระเจ้า โปรดบันดาลให้ใจของข้าพเจ้าสะอาด
    และทำให้วิญญาณของข้าพเจ้ามั่นคงขึ้นมาใหม่
11 อย่าขับไสข้าพเจ้าไปให้พ้นจากพระองค์
    และอย่าพรากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
12 ขอให้ความรอดพ้นที่มาจากพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าเกิดความยินดีขึ้นอีก
    และด้วยวิญญาณที่ยอมเชื่อฟัง พระองค์ให้ข้าพเจ้ายืนหยัดได้

13 แล้วข้าพเจ้าจะสอนวิถีทางของพระองค์แก่คนที่ล่วงละเมิด
    และพวกคนบาปจะกลับมาหาพระองค์
14 โอ พระเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นโทษอันเนื่องมาจากการฆาตกรรม
    พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
    และลิ้นของข้าพเจ้าจะเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถึงความชอบธรรมของพระองค์
15 โอ พระผู้เป็นเจ้า เปิดริมฝีปากของข้าพเจ้าเถิด
    และปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
16 เพราะพระองค์ไม่ชื่นชอบกับเครื่องสักการะ
    ถ้าหากว่าข้าพเจ้ามอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย พระองค์จะไม่พึงพอใจ
17 เครื่องสักการะอันแท้จริงสำหรับพระเจ้าคือจิตวิญญาณที่น้อมนอบถ่อมลง
    โอ พระเจ้า พระองค์ไม่ปฏิเสธคนที่สำนึกตัวและกลับใจอย่างแท้จริง

2 โครินธ์ 5:20-6:10

20 ฉะนั้น พวกเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์ เหมือนกับว่าพระเจ้าขอร้องผ่านพวกเรา เราจึงขอพวกท่านในนามของพระคริสต์ว่า จงคืนดีกับพระเจ้าเถิด 21 พระเจ้าได้ให้พระองค์ผู้ไม่เคยกระทำบาปมาเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปของเรา เพื่อเราจะได้เป็นผู้มีความชอบธรรมของพระเจ้าในพระคริสต์

ในฐานะที่พวกเราเป็นผู้ร่วมงานของพระเจ้า เราขอร้องท่านด้วยว่า อย่ารับพระคุณของพระเจ้าโดยไร้ประโยชน์ เพราะพระองค์กล่าวว่า

“เมื่อถึงเวลาที่เราจะโปรดปราน
    เราก็ฟังเสียงของเจ้า
และเมื่อถึงวันช่วยให้รอดพ้น
    เราก็ช่วยเจ้า”[a]

เราขอบอกท่านว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่จะโปรดปราน ดูเถิด ขณะนี้เป็นวันช่วยให้รอดพ้น

เราไม่วางเครื่องกีดขวางเพื่อขวางทางของผู้ใด เพื่อว่างานรับใช้ของเราจะได้ไม่ถูกตำหนิ ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า เราชี้ให้เห็นว่าเราเป็นอย่างไรในทุกๆ ด้าน ด้วยความเพียรอดทนอย่างยิ่ง ในการทนทุกข์ทรมาน ในความยากลำบาก และความเจ็บปวดรวดร้าว ในการถูกโบย ในการถูกจำจอง ท่ามกลางการจลาจล ในการทำงานหนัก อดหลับอดนอน และหิวโหย ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ความรู้ ความอดทน ความกรุณา ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และความรักจริงใจ ด้วยการประกาศความจริง ด้วยอานุภาพของพระเจ้า โดยใช้อาวุธแห่งความชอบธรรมทั้งมือขวาและมือซ้าย ทั้งเวลาที่มีเกียรติและไร้เกียรติ ทั้งเวลาที่ชื่อเสียงดีและเสื่อมเสีย แม้จะจริงใจแต่ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หลอกลวง ทั้งในยามที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ก็ยังเป็นที่รู้จักดี เป็นเหมือนคนที่สิ้นใจไปแล้ว แต่ดูเถอะเรายังมีชีวิตอยู่ ทั้งถูกลงโทษ แต่ก็ยังไม่ตาย 10 ทั้งโศกเศร้าแต่ยังชื่นชมยินดีเสมอ ทั้งยากไร้แต่ก็ทำให้หลายคนได้มั่งคั่ง ทั้งที่ตัวเปล่าแต่ก็ยังเป็นเจ้าของสารพัดสิ่ง

มัทธิว 6:1-6

การให้ทานสงเคราะห์

จงระวัง อย่าทำดีต่อหน้าผู้คนเพื่อหวังให้เขาเห็นว่าท่านมีความชอบธรรม เพราะถ้าทำอย่างนั้น ท่านจะไม่ได้รับรางวัลจากพระบิดาของท่านผู้อยู่ในสวรรค์

ฉะนั้น เมื่อท่านให้ทานสงเคราะห์ ก็อย่าเป่าแตรนำหน้าไปอย่างเช่นพวกหน้าไหว้หลังหลอกกระทำกันในศาลาที่ประชุมและตามถนนเพื่อรับการเยินยอจากคน เราขอบอกความจริงกับท่านว่า พวกเขาได้รับรางวัลเต็มที่แล้ว เมื่อท่านให้ทานสงเคราะห์ ก็อย่าให้มือซ้ายรู้ว่ามือขวาทำอะไร เพื่อว่าทานสงเคราะห์จะได้เป็นทานลับ และพระบิดาผู้เห็นสิ่งที่ท่านทำเป็นการลับก็จะให้รางวัลแก่ท่าน

การอธิษฐาน

เวลาที่ท่านอธิษฐาน ก็อย่าเป็นเช่นพวกหน้าไหว้หลังหลอก เพราะเขาเหล่านั้นชอบยืนอธิษฐานในศาลาที่ประชุมและตามมุมถนนเพื่อให้ผู้คนเห็น เราขอบอกความจริงกับท่านว่า พวกเขาได้รับรางวัลเต็มที่แล้ว แต่ท่านเอง เวลาอธิษฐานก็จงอยู่ในห้องชั้นใน ปิดประตูแล้วอธิษฐานต่อพระบิดาของท่าน ซึ่งเรามองไม่เห็น แล้วพระบิดาผู้เห็นสิ่งที่ท่านทำเป็นการลับจะให้รางวัลแก่ท่าน

มัทธิว 6:16-21

การอดอาหาร

16 เวลาที่ท่านอดอาหาร ก็อย่าทำหน้าเศร้าหมองดังเช่นที่พวกหน้าไหว้หลังหลอกกระทำกัน เพราะว่าเขาเหล่านั้นแสร้งทำสีหน้าให้คนเห็นว่ากำลังอดอาหารอยู่ เราขอบอกความจริงกับท่านว่า พวกเขาได้รับรางวัลเต็มที่แล้ว 17 แต่ท่านเอง เวลาที่อดอาหารก็จงใส่น้ำมันบนศีรษะของท่าน และล้างหน้าเสีย 18 เพื่อว่าคนจะได้ไม่เห็นว่าท่านกำลังอดอาหารอยู่ แต่เป็นเพียงพระบิดาของท่าน ซึ่งเรามองไม่เห็น แล้วพระบิดาผู้เห็นสิ่งที่ท่านทำเป็นการลับจะให้รางวัลแก่ท่าน

การสะสมทรัพย์สมบัติ

19 อย่าสะสมทรัพย์สมบัติไว้เพื่อตนเองในโลก อันเป็นที่ที่มีแมลงกัด สนิมกิน และโจรบุกชิงเอาไปได้ 20 แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์ซึ่งแมลงและสนิมกัดกินไม่ได้ และโจรบุกชิงเอาไปไม่ได้ 21 เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation