Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 128

คนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์จะได้รับพระพร

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร

ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระยาห์เวห์
    คือคนที่เดินในหนทางทั้งหลายของพระองค์
เจ้าจะได้กินจากผลงานจากมือเจ้า
    เจ้าจะมีเกียรติจริงๆและจะเจริญรุ่งเรือง

ภรรยาของเจ้าจะเป็นเหมือนเถาองุ่นที่มีลูกดกในบ้านของเจ้า
    ส่วนลูกๆที่อยู่รอบโต๊ะอาหารนั้นก็เปรียบเหมือนต้นมะกอกที่ปลูกอยู่ริมธารน้ำ
ดังนั้น จำไว้เถิดว่า
    ผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ จะได้รับพระพรอย่างนั้นแหละ

ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรเจ้าจากวิหารบนภูเขาศิโยน
    ขอให้เจ้ามีความสุขกับความเจริญรุ่งเรืองของเยรูซาเล็มตลอดวันเวลาของเจ้า
ขอให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้เห็นหน้าหลานของเจ้า
    ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด

โยชูวา 4

หินที่ระลึกจากแม่น้ำจอร์แดน

เมื่อประชาชนทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดนเรียบร้อยแล้ว พระยาห์เวห์ได้พูดกับโยชูวาว่า “ให้เลือกผู้ชายมาสิบสองคน เผ่าละคน สั่งพวกเขาว่า ‘ให้พวกเจ้าไปแบกก้อนหินมาคนละก้อนจากกลางแม่น้ำจอร์แดน ที่พวกนักบวชยืนอยู่นั้น ให้เอาขึ้นมาวางไว้ในที่ที่พวกเจ้าจะตั้งค่ายพักคืนนี้’”

โยชูวาจึงเรียกชายสิบสองคน ที่เขาได้เลือกมาจากชาวอิสราเอลทั้งหลาย เผ่าละคน โยชูวาสั่งพวกเขาว่า “ให้พวกท่านไปที่ด้านหน้าของหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ที่อยู่กลางแม่น้ำจอร์แดนนั้น และให้แต่ละคนแบกหินมาคนละก้อน ตามจำนวนเผ่าของอิสราเอล เพื่อสิ่งนี้จะได้เป็นเครื่องเตือนใจในหมู่พวกท่าน ในอนาคตเมื่อลูกๆของพวกท่านถามว่า ‘ก้อนหินเหล่านี้ มีความหมายว่าอะไร’ พวกท่านจะได้ตอบว่า ‘น้ำในแม่น้ำจอร์แดนถูกตัดขาดไปต่อหน้าหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ เมื่อหีบใบนี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน น้ำในแม่น้ำจอร์แดนก็หยุดไหล ดังนั้นก้อนหินเหล่านี้จึงเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงเหตุการณ์นี้สำหรับชาวอิสราเอลตลอดไป’”

คนเหล่านั้นก็ทำตามที่โยชูวาสั่ง พวกเขาได้ไปแบกก้อนหินจากกลางแม่น้ำจอร์แดนมาจำนวนสิบสองก้อน เท่ากับจำนวนเผ่าของอิสราเอล ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโยชูวา พวกเขาแบกหินเหล่านั้นข้ามแม่น้ำมากับพวกเขาไปถึงที่ตั้งค่ายและได้วางพวกมันไว้ที่นั่น (โยชูวายังได้ตั้งก้อนหินสิบสองก้อนไว้ที่กลางแม่น้ำจอร์แดน ตรงที่พวกนักบวชผู้แบกหีบที่เก็บข้อตกลงยืนอยู่อีกด้วย ก้อนหินทั้งหมดนั้นยังอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้)

10 พวกนักบวชผู้แบกหีบนั้นยังคงยืนอยู่ที่กลางแม่น้ำจอร์แดน จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้นลงตามคำสั่งที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโยชูวาให้บอกกับประชาชน เหมือนกับที่โมเสสเคยสั่งโยชูวาไว้ ประชาชนข้ามแม่น้ำกันอย่างเร่งรีบ 11 เมื่อประชาชนข้ามแม่น้ำกันหมดแล้ว หีบของพระยาห์เวห์และพวกนักบวชก็ข้ามมา และมานำอยู่ด้านหน้าของประชาชน

12 ชนเผ่ารูเบน ชนเผ่ากาด และชนเผ่ามนัสเสห์ครึ่งหนึ่งถืออาวุธพร้อมมือ นำหน้าชาวอิสราเอลคนอื่นๆข้ามไปตามที่โมเสสได้สั่งไว้ 13 มีประมาณสี่หมื่นคนที่มีอาวุธพร้อมมือได้ข้ามไปต่อหน้าพระยาห์เวห์ ไปสู่ที่ราบทั้งหลายของเมืองเยริโค

14 ในวันนั้นพระยาห์เวห์ได้ยกย่องโยชูวาต่อหน้าชาวอิสราเอลทั้งหลาย พวกเขายำเกรงโยชูวาไปจนชั่วชีวิตของท่าน เหมือนกับที่พวกเขาเคยยำเกรงโมเสส

15 พระยาห์เวห์ได้พูดกับโยชูวาว่า 16 “ให้สั่งพวกนักบวชผู้แบกหีบที่เก็บข้อตกลงนั้น ขึ้นมาจากแม่น้ำจอร์แดนได้แล้ว”

17 โยชูวาจึงสั่งพวกนักบวชทั้งหลายว่า “พวกท่านทั้งหลาย ขึ้นจากแม่น้ำจอร์แดนได้แล้ว”

18 และเมื่อพวกนักบวชผู้แบกหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ ขึ้นมาจากกลางแม่น้ำจอร์แดน และก้าวขึ้นมาบนฝั่ง น้ำในแม่น้ำจอร์แดนก็ไหลกลับมาท่วมตลิ่งเหมือนเดิม

19 ประชาชนได้ขึ้นมาจากแม่น้ำจอร์แดนในวันที่สิบของเดือนที่หนึ่ง และได้ตั้งค่ายอยู่ที่เมืองกิลกาลทางชายแดนด้านตะวันออกของเมืองเยริโค 20 และโยชูวาได้ตั้งก้อนหินทั้งสิบสองก้อนที่พวกเขาได้นำมาจากแม่น้ำจอร์แดนไว้ที่กิลกาล 21 โยชูวาพูดกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า “ในอนาคตเมื่อลูกหลานของพวกท่านถามพวกพ่อของพวกเขาว่า ‘หินพวกนี้หมายถึงอะไร’ 22 ให้ท่านตอบกับลูกหลานของท่านว่า ‘ชาวอิสราเอลได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนบนพื้นแห้ง’ 23 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้ทำให้แม่น้ำจอร์แดนแห้งลงต่อหน้าพวกท่าน จนพวกท่านข้ามไปได้เหมือนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านเคยทำกับทะเลแดง พระองค์ทำให้ทะเลแดงนั้นแห้งลงต่อหน้าพวกเรา จนพวกเราข้ามไปได้ 24 เพื่อประชาชนทั้งหมดบนแผ่นดินจะได้รู้ว่ามือของพระยาห์เวห์นั้นทรงพลัง และเพื่อพวกท่านจะได้ยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านตลอดไป”

1 เธสะโลนิกา 2:13-20

13 พวกเราขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะตอนที่คุณยอมรับถ้อยคำของพระเจ้าที่ได้ยินจากเรานั้น คุณไม่ได้รับไว้เหมือนเป็นแค่คำพูดของมนุษย์ แต่ยอมรับว่าเป็นถ้อยคำของพระเจ้า และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้อยคำนี้เองกำลังทำงานอยู่ในตัวพวกคุณที่ไว้วางใจ 14 พี่น้องครับ พวกคุณได้เลียนแบบหมู่ประชุมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ที่แคว้นยูเดีย[a] คือพวกคุณได้รับความทุกข์ยากแบบเดียวกันจากคนของคุณเอง เหมือนกับที่พวกเขาได้รับจากพวกยิวที่เป็นคนของเขาเอง 15 พวกยิวพวกนี้ ก็เป็นพวกที่ฆ่าพระเยซูเจ้าและพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ยิวพวกนี้แหละได้ทำร้ายพวกเราอย่างสาหัส และขับไล่เราออกมา พวกนี้ได้ทำให้พระเจ้าไม่พอใจ และยังต่อต้านทุกคนด้วย 16 พวกเราประกาศกับคนที่ไม่ใช่ยิวเพื่อเขาจะได้รอดด้วย แต่คนยิวพวกนี้พยายามขัดขวางไม่ให้เราทำ เมื่อพวกเขาทำอย่างนี้ เขาก็เพิ่มความบาปขึ้นเรื่อยๆจนเต็ม แล้วในที่สุดพระเจ้าก็ได้ลงโทษพวกเขา

เปาโลอยากจะมาเยี่ยมพวกเขาอีก

17 พี่น้องครับ เราก็ถูกแยกจากคุณแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่เราจากกันแค่กาย ใจนั้นยังอยู่กับคุณ เราอยากจะเจอหน้าคุณจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว 18 อันที่จริงเราได้พยายามที่จะมาหาคุณ ที่แน่ๆอย่างน้อยตัวผมเอง เปาโล ก็ได้พยายามแล้วพยายามอีก แต่ซาตานก็ขัดขวางพวกเราไว้ 19 แล้วใครกันล่ะจะเป็นความหวัง เป็นความชื่นชมยินดี หรือเป็นรางวัลที่เราจะคุยโอ้อวดได้ต่อหน้าพระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์กลับมา ก็พวกคุณนั่นแหละ 20 พวกคุณเป็นความภาคภูมิใจและความชื่นชมยินดีของพวกเรา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International