Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ปฐมกาล 45:1-15

โยเซฟเปิดเผยว่าเขาคือใคร

45 โยเซฟไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเอง ต่อหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงร้องตะโกนว่า “ให้ทุกคนออกไป” เมื่อไม่มีใครอยู่แล้ว โยเซฟบอกกับพวกพี่น้องว่าเขาเป็นใคร โยเซฟร้องไห้เสียงดังมากจนชาวอียิปต์ได้ยิน คนในบ้านเรือนของฟาโรห์ก็ได้ยินเรื่องนี้ด้วย โยเซฟพูดกับพวกพี่น้องของเขาว่า “ผมคือโยเซฟ พ่อของผมยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า” พี่ชายของเขาไม่สามารถตอบเขาได้ เพราะโยเซฟทำให้พวกเขาตกใจกลัว

โยเซฟได้พูดกับพวกพี่น้องของเขาว่า “ช่วยเข้ามาใกล้ๆผมหน่อย” แล้วพวกเขาก็เข้ามาใกล้ๆโยเซฟ โยเซฟจึงพูดว่า “ผมคือโยเซฟน้องชายของพวกพี่ ที่พี่ได้ขายให้เป็นทาสในอียิปต์ ตอนนี้อย่าได้กังวลและอย่าโกรธตัวเองเลยที่ได้ขายผมมาที่นี่ เพราะพระเจ้าได้ส่งผมมาล่วงหน้าพวกพี่ เพื่อจะได้ช่วยชีวิต เพราะเกิดกันดารอาหารบนแผ่นดินนี้มาสองปีแล้ว ยังเหลืออีกห้าปีที่จะไม่สามารถไถนาหรือเก็บเกี่ยวได้ แต่พระเจ้าได้ส่งผมมาล่วงหน้าพี่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีพวกพี่บางคนเหลืออยู่ในโลกนี้ และเพื่อที่จะช่วยชีวิตของพวกพี่ด้วยวิธีที่มหัศจรรย์ ดังนั้นพวกพี่ไม่ได้ส่งผมมาที่นี่หรอก แต่เป็นพระเจ้าเองที่ส่งผมมา พระองค์ทำให้ผมเป็นเหมือนพ่อของฟาโรห์ เป็นเจ้านายเหนือบ้านเรือนของฟาโรห์ และปกครองเหนือแผ่นดินอียิปต์ทั้งหมด”

ยาโคบได้รับเชิญไปประเทศอียิปต์

รีบกลับไปหาพ่อของผมเร็ว และบอกพ่อว่า “โยเซฟลูกชายของพ่อพูดว่าอย่างนี้ ‘พระเจ้าได้ทำให้ผมเป็นผู้ปกครองเหนืออียิปต์ทั้งหมด ลงมาหาผมเร็วๆอย่าได้ชักช้า 10 แล้วพ่อจะได้อาศัยอยู่ที่แผ่นดินโกเชน พ่อจะได้อยู่ใกล้ๆผม ทั้งตัวพ่อ ลูกๆของพ่อ หลานๆของพ่อ ฝูงสัตว์ของพ่อ และทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อมี 11 ผมจะเลี้ยงดูพ่อที่นั่น เพื่อว่าพ่อและครอบครัวของพ่อ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพ่อจะได้ไม่ต้องเจอกับความยากลำบากอีกต่อไป เพราะความอดอยากยังจะมีต่อไปอีกห้าปี’

12 ตอนนี้พวกพี่และเบนยามินน้องชายของพี่ ก็ได้เห็นกับตาตนเองแล้วว่า เป็นผมเองที่กำลังพูดกับพี่ 13 ให้พวกพี่ไปเล่าให้พ่อฟังถึงเกียรติที่ผมได้รับในอียิปต์ และเล่าให้พ่อฟังถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่ได้เห็น แล้วรีบๆไปพาพ่อลงมาที่นี่” 14 แล้วโยเซฟก็กอดเบนยามินน้องชายของเขาและร้องไห้ เบนยามินก็ร้องไห้ขณะที่เขากอดโยเซฟเหมือนกัน 15 โยเซฟได้จูบพี่ชายของเขาทุกคน และร้องไห้ขณะที่เขากอดพี่ชายของเขา หลังจากนั้น พี่ชายของเขาเริ่มพูดกับโยเซฟ

สดุดี 133

พี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร เพลงของดาวิด

มันช่างวิเศษและน่ายินดีจริงๆ
    เมื่อพี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว
มันเป็นเหมือนน้ำมันหอมชั้นดีที่เทลงมาเจิมหัวของอาโรน
    แล้วไหลลงมาอาบเคราของเขา
    แล้วไหลเรื่อยลงมาบนเสื้อคลุมของเขา
มันเป็นเหมือนน้ำค้างมากมายบนภูเขาเฮอร์โมน
    ที่ตกลงมาบนเทือกเขาศิโยนด้วย
    ที่ศิโยนนั้น พระยาห์เวห์ได้สัญญาที่จะให้พระพรแม้แต่ชีวิตที่แสนจะยืนยาว

โรม 11:1-2

พระเจ้าไม่ได้ลืมคนของพระองค์

11 ผมขอถามหน่อยว่า “พระเจ้าทอดทิ้งคนของพระองค์แล้วหรืออย่างไร” ไม่มีทาง ตัวผมเองก็เป็นคนอิสราเอล สืบเชื้อสายมาจากอับราฮัม มาจากเผ่าเบนยามิน พระเจ้าไม่ได้ทิ้งคนของพระองค์ที่พระองค์ได้เลือกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พวกคุณไม่เคยรู้เรื่องของเอลียาห์ที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์เลยหรือ ตอนที่เขามาต่อว่าคนอิสราเอลกับพระเจ้าว่า

โรม 11:29-32

29 เพราะพระเจ้าไม่เคยเอาพรสวรรค์ที่พระองค์ให้ไปแล้วกลับคืน และไม่เคยเรียกใคร แล้วเปลี่ยนใจ 30 ครั้งหนึ่งพวกคุณเคยไม่เชื่อฟังพระเจ้าเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้พวกคุณก็ได้รับความเมตตากรุณาจากพระเจ้าแล้ว เพราะพวกยิวไม่ยอมเชื่อฟัง 31 เหมือนกับตอนนี้ที่พวกยิวไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า ก็เพื่อพวกเขาจะได้รับความเมตตาจากพระเจ้าเหมือนกับที่พวกคุณได้รับ 32 ที่ผมพูดอย่างนี้ก็เพราะพระเจ้าได้ขังทุกคนทั้งคนยิวและคนที่ไม่ใช่ยิวไว้ในชีวิตที่ไม่เชื่อฟังพระองค์ เพื่อพระองค์จะได้แสดงความเมตตากับพวกเขาทุกคนเหมือนกันหมด

มัทธิว 15:10-20

10 พระเยซูเรียกฝูงชนเข้ามาและพูดว่า “ฟังให้เข้าใจนะ 11 สิ่งที่เข้าไปในปากไม่ทำให้คนสกปรกในสายตาพระเจ้าหรอก แต่สิ่งที่ออกมาจากปากนั่นแหละ ที่ทำให้คนสกปรกในสายตาพระเจ้า”

12 พวกศิษย์เข้ามาบอกพระเยซูว่า “อาจารย์รู้หรือเปล่า ที่อาจารย์พูดไปนั้น ทำให้พวกฟาริสีโกรธแค้นมาก”

13 พระเยซูตอบว่า “ต้นไม้ทุกต้นที่พระบิดาของเราบนสวรรค์ไม่ได้ปลูก ก็จะถูกถอนรากถอนโคนจนหมด 14 ไม่ต้องไปสนใจหรอก พวกเขาเป็นคนนำทางตาบอด ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองคนก็จะตกลงไปในคู”

15 เปโตรบอกพระเยซูว่า “ช่วยอธิบายเรื่องเปรียบเทียบที่เพิ่งพูดไปนั้นให้ฟังหน่อยครับ”

16 พระเยซูพูดว่า “อะไรกัน ยังไม่เข้าใจอีกหรือ 17 ไม่เห็นหรือว่า ทุกอย่างที่คนกินเข้าไปในปากจะตกลงไปในท้อง แล้วถ่ายออกมา 18 แต่สิ่งที่พูดออกมาจากปากนั้น มันมาจากใจ และสิ่งนี้เองที่ทำให้คนสกปรกในสายตาพระเจ้า 19 เพราะสิ่งที่ออกมาจากใจ คือความคิดชั่วร้าย การเข่นฆ่ากัน การมีชู้ ความผิดบาปทางเพศอื่นๆ การลักขโมย การโกหก การใส่ร้ายป้ายสีกัน 20 สิ่งเหล่านี้แหละเป็นสิ่งที่ทำให้คนสกปรกในสายตาพระเจ้า แต่การที่ไม่ได้ล้างมือก่อนกินอาหาร ไม่ทำให้คนสกปรกในสายตาพระเจ้าหรอก”

มัทธิว 15:21-28

พระเยซูช่วยผู้หญิงที่ไม่ใช่ชาวยิว

(มก. 7:24-30)

21 พระเยซูออกจากที่นั่น และเข้าไปยังเขตแดนเมืองไทระ และเมืองไซดอน 22 หญิงชาวคานาอันคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้น ได้เข้ามาร้องบอกพระองค์ว่า “องค์เจ้าชีวิต บุตรของดาวิด[a] สงสารฉันด้วยเถอะ ลูกสาวของฉันถูกผีสิง เธอทนทุกข์ทรมานมาก”

23 พระเยซูไม่ได้ตอบเธอเลยสักคำ พวกศิษย์เข้ามายุพระองค์ว่า “ไล่เธอไปเถอะครับ น่ารำคาญ ร้องตะโกนตามตื๊ออยู่ได้”

24 พระเยซูตอบผู้หญิงคนนั้นว่า “พระเจ้าส่งเรามาช่วยเฉพาะคนอิสราเอลที่เป็นเหมือนแกะที่หลงทางของพระองค์”

25 เธอจึงเข้ามาคุกเข่าลงต่อหน้าพระเยซู และพูดว่า “องค์เจ้าชีวิต ช่วยฉันด้วยเถิด”

26 พระเยซูจึงตอบว่า “มันไม่ถูกต้องหรอกนะ ที่จะเอาอาหารของลูกๆไปโยนให้หมากิน”

27 หญิงคนนั้นตอบว่า “ใช่ค่ะ แต่หมาก็ยังได้กินเศษอาหารที่หล่นจากโต๊ะของนายมันนะคะ”

28 พระเยซูตอบว่า “เธอนี่มีความเชื่อมากจริงๆ เธอขออะไรก็ให้เป็นไปตามนั้น” แล้วลูกสาวของนางก็หายเป็นปกติทันที

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International