Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
ปฐมกาล 24:34-38

34 ชายคนนั้นจึงพูดว่า “ผมเป็นผู้รับใช้ของอับราฮัม 35 พระยาห์เวห์ได้อวยพรเจ้านายของผมมาก จนท่านกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์ให้พวกฝูงแกะ ฝูงวัว เงิน ทอง ทาสชายหญิง ฝูงอูฐ และฝูงลา กับท่าน 36 แล้วซาราห์เมียของนายผมได้คลอดลูกชายให้กับเจ้านายผม ตอนที่นางแก่มากแล้ว และอับราฮัมได้ยกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีให้กับลูกชายของเขา 37 เจ้านายผมให้ผมสาบานกับท่าน และท่านบอกว่า ‘อย่าได้หาเมียให้กับลูกชายของเราจากลูกสาวของชาวคานาอัน ที่เรากำลังอาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขานี้ 38 แต่เจ้าต้องไปที่บ้านของพ่อเรา และไปหาญาติๆของเรา และหาเมียให้ลูกของเราจากที่นั่น’

ปฐมกาล 24:42-49

42 ในวันนี้ เมื่อผมมาถึงบ่อน้ำ ผมพูดว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าพระองค์จะทำให้การเดินทางของข้าพเจ้าประสบความสำเร็จล่ะก็ 43 ข้าพเจ้ากำลังยืนอยู่ที่ข้างๆบ่อน้ำ ข้าพเจ้าจะพูดกับหญิงสาวที่ออกมาตักน้ำว่า “ขอดื่มน้ำจากเหยือกของเจ้าหน่อย” 44 และคนที่ตอบกับข้าพเจ้าว่า “เชิญสิคะ และฉันจะตักน้ำให้อูฐของท่านดื่มด้วย” ก็ขอให้นางเป็นผู้หญิงคนนั้นที่พระยาห์เวห์ได้เลือกไว้สำหรับลูกชายของเจ้านายของข้าพเจ้าด้วยเถิด’

45 ในขณะที่ผมอธิษฐานอยู่ในใจยังไม่ทันเสร็จ เรเบคาห์ก็ออกมา มีเหยือกน้ำอยู่บนบ่า นางได้เดินลงไปที่บ่อน้ำและตักน้ำ แล้วผมได้พูดกับนางว่า ‘ขอน้ำให้ผมดื่มหน่อย’ 46 นางก็รีบเอาเหยือกน้ำลงจากบ่าและพูดว่า ‘เชิญดื่มเถิด และฉันจะเอาน้ำให้กับพวกอูฐของท่านด้วย’ แล้วผมก็ดื่ม และนางก็เอาน้ำให้พวกอูฐดื่มด้วย 47 แล้วผมได้ถามนางว่า ‘เจ้าเป็นลูกสาวของใคร’ นางตอบว่า ‘ฉันเป็นลูกสาวของเบธูเอล เบธูเอลเป็นลูกชายของนาโฮร์ และมิลคาห์’ ผมจึงเอาห่วงใส่ที่จมูกของนางและเอากำไลใส่ที่แขนทั้งสองของนาง 48 แล้วผมได้ก้มกราบนมัสการพระยาห์เวห์และสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าของอับราฮัมเจ้านายของผม พระองค์นำผมมาถูกทาง เพื่อจะได้ลูกสาวของญาติพี่น้องของเจ้านายของผม ไปให้กับลูกชายของท่าน 49 ตอนนี้ช่วยบอกผมด้วยเถอะว่า ท่านจะเอายังไง จะตกลงกับเจ้านายผมอย่างตรงไปตรงมาและสัตย์ซื่อ หรือว่าไม่ตกลง ช่วยบอกผมด้วย ผมจะได้รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป”

ปฐมกาล 24:58-67

58 แล้วพวกเขาก็เรียกเรเบคาห์และพูดกับนางว่า “เธอจะไปกับชายคนนี้หรือเปล่า”

นางตอบว่า “ฉันจะไป”

59 พวกเขาจึงส่งเรเบคาห์น้องสาวของพวกเขา และพี่เลี้ยงของนางไปกับผู้รับใช้ของอับราฮัมและคนของเขา 60 และครอบครัวของเรเบคาห์อวยพรนางว่า

“น้องสาวของพวกเรา ขอให้เธอเป็นแม่ของประชาชนล้านๆคน
    ขอให้ลูกหลานของเธอได้ยึดครองเมืองต่างๆของพวกศัตรูเขา”

61 แล้วเรเบคาห์และพวกหญิงรับใช้ของนางก็ลุกขึ้น และขึ้นขี่อูฐตามชายคนนั้นไป คนรับใช้อับราฮัมได้พาเรเบคาห์จากไป

62 ขณะนั้นอิสอัคได้เดินทางมาจากเบเออลาไฮรอย และมาอยู่อาศัยที่เนเกบ 63 อิสอัคออกไปเดินเล่น[a] ในท้องทุ่งตอนเย็น เขาเงยหน้าขึ้นมา เห็นอูฐกำลังเดินมา

64 เรเบคาห์เงยหน้าขึ้นเห็นอิสอัค นางจึงลงจากอูฐ 65 นางพูดกับคนใช้ว่า “ชายที่กำลังเดินมาจากท้องทุ่งตรงมาหาพวกเราเป็นใครกัน”

คนใช้ตอบว่า “เขาคือเจ้านายของผมเอง” นางจึงเอาผ้าคลุมหน้าไว้

66 คนใช้ได้เล่าให้อิสอัคฟังถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น 67 อิสอัคจึงพานางเข้าไปในเต็นท์ที่ซาราห์แม่ของเขาเคยอยู่ก่อนตาย แล้วเขาได้รับเอาเรเบคาห์มาเป็นเมีย เรเบคาห์ก็กลายเป็นเมียของเขา อิสอัครักนางมาก อิสอัคก็ได้รับการปลอบโยนหลังจากที่แม่ของเขาตาย

สดุดี 45:10-17

10 ลูกสาวสุดที่รักเอ๋ย ฟังเราไว้ สังเกตดีๆ เอียงหูมาฟัง
    ตอนนี้ เธอจะต้องลืมชนชาติของเธอ และครอบครัวของพ่อเธอ
11 แล้วกษัตริย์ถึงจะได้หลงใหลในความงดงามของเธอ
    เพราะตอนนี้ พระองค์เป็นนายของเธอแล้ว และเธอต้องก้มกราบพระองค์
12 ผู้คนจากเมืองไทระ จะนำของกำนัลมาให้
    เศรษฐีจากชนชาตินั้นพยายามจะเอาใจเธอ

13 เจ้าหญิงอยู่ในห้องของนาง
    แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ถักทอด้วยทองคำ
14 เจ้าหญิงในชุดสวยงามนี้ จะถูกนำตัวไปเข้าเฝ้ากษัตริย์
    และนางก็จะมีเพื่อนเจ้าสาวที่ยังเป็นสาวพรหมจารีตามหลังเธอไปด้วย พวกเขาถูกนำตัวมาเข้าเฝ้าพระองค์
15 พวกเธอถูกนำเข้าไปในวังของกษัตริย์
    ด้วยความชื่นชมยินดี

16 พระองค์จะมีบุตรชายหลายคน
    เพื่อเป็นกษัตริย์สืบทอดบัลลังก์ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพระองค์
    พระองค์จะตั้งพวกเขาแต่ละคนให้ไปครอบครองแผ่นดิน
17 ข้าพเจ้าจะทำให้ผู้คนรุ่นต่อๆไปจดจำชื่อของพระองค์
    เพื่อว่าชนชาติต่างๆจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป

บทเพลง​ไพเราะ 2:8-13

หญิงสาวพูด

ฟังสิ นั่นเสียงชายคนรักของฉัน
    ดูสิ เขากำลังมาแล้ว
เขากำลังเต้นรำอยู่บนภูเขาเหล่านั้น
    และกระโดดโลดเต้นอยู่บนเนินเขา
ที่รักของฉันเหมือนกับเลียงผาหรือกวางหนุ่ม
    นั่นไง เขากำลังยืนอยู่นอกกำแพงของเรา
กำลังจ้องลอดหน้าต่างเข้ามา
    กำลังแอบมองลอดไม้ระแนงเข้ามา
10 ที่รักของฉันพูดกับฉันว่า
    “ที่รักจ๋า ลุกขึ้นเถิด คนสวยของฉัน ไปกันเถอะ
11 เพราะฤดูหนาวได้ผ่านพ้นไปแล้ว
    และฝนก็หยุดตกแล้ว
12 ดอกไม้ทั้งหลายบานสะพรั่งไปทั่วผืนดิน
    ถึงเวลาร้องเพลงกันแล้ว
    นกเขากำลังขันคูไปทั่วแผ่นดิน
13 ผลมะเดื่อกำลังสุก
    ต้นองุ่นกำลังออกดอกบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว
ที่รักจ๋า ลุกขึ้นเถิด
    คนสวยของฉัน ไปกันเถอะ”

โรม 7:15-25

15 ผมไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมผมถึงทำในสิ่งที่ผมทำ เพราะสิ่งที่ผมอยากทำผมก็ไม่ได้ทำ แต่ผมกลับไปทำในสิ่งที่ผมเกลียด 16 ถ้าผมทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ นั่นแสดงว่าผมเห็นด้วยกับกฎและยอมรับว่ากฎนั้นดี 17 ความจริงแล้ว ไม่ใช่ตัวผมหรอกที่ทำสิ่งนี้ แต่บาปที่อยู่ในตัวผมต่างหากที่ทำ 18 ใช่ ผมรู้ว่าสิ่งที่ดีนั้นไม่ได้อยู่ในตัวผมหรอก (คือในสันดานของผมที่เป็นมนุษย์ฝ่ายเนื้อหนังนี้) ผมอยากจะทำดีแต่ก็ทำไม่ได้ 19 สิ่งดีๆที่ผมอยากทำนั้น ผมไม่ได้ทำ แต่กลับไปทำในสิ่งที่ชั่วร้ายที่ผมไม่อยากทำ 20 เพราะฉะนั้นถ้าผมทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ ก็แสดงว่าไม่ใช่ผมที่เป็นคนทำ แต่เป็นบาปที่อยู่ในผมต่างหากที่ทำ

21 ผมเลยค้นพบกฎข้อหนึ่งว่า เมื่อไรก็ตามที่ผมอยากจะทำดี ความชั่วจะอยู่ที่นั่นกับผมเสมอ 22 ในใจผมเห็นด้วยกับกฎของพระเจ้า 23 แต่ผมก็เห็นอีกกฎหนึ่งที่ทำงานอยู่ในตัวผม มันต่อสู้กับกฎของพระเจ้าที่จิตใจของผมยอมรับอยู่ แล้วมันก็ทำให้ผมเป็นนักโทษของกฎแห่งบาปที่ทำงานอยู่ในตัวผมนี้ 24 ผมนี่น่าสมเพชจริงๆใครจะช่วยชีวิตผมให้พ้นจากร่างกายนี้ที่นำความตายมาให้กับผมได้บ้าง 25 ขอบคุณพระเจ้า ผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ใจของผมนั้นเป็นทาสของกฎของพระเจ้า แต่สันดานของผมนั้นเป็นทาสของกฎแห่งบาป

มัทธิว 11:16-19

16 เราจะเปรียบคนสมัยนี้เหมือนกับอะไรดี พวกเขาเป็นเหมือนเด็กๆที่นั่งอยู่ที่ตลาด และร้องตะโกนใส่กันว่า

17 ‘เราเป่าปี่ให้ฟัง แต่เธอก็ไม่เต้นตาม
    เราร้องเพลงงานศพให้ แต่เธอก็ไม่ทำตัวเศร้าโศก’

18 เมื่อยอห์นมา เขาไม่ได้กินและดื่มเหล้าองุ่นเหมือนคนอื่นๆ คนก็ว่าเขา ‘มีผีสิง’ 19 เมื่อบุตรมนุษย์มา ทั้งกินและดื่ม คนก็พูดว่า ‘ดูไอ้หมอนั่นสิ ทั้งตะกละและขี้เมา แถมยังเป็นเพื่อนกับคนเก็บภาษี และคนบาปอีกด้วย’ แต่สติปัญญานั้นถูกหรือผิด ก็ดูได้จากผลทั้งหลายของมัน”

มัทธิว 11:25-30

พระเยซูให้คนของพระองค์หายเหนื่อยใจ

(ลก. 10:21-22)

25 แล้วพระเยซูก็พูดว่า “พระบิดา ลูกขอขอบคุณพระองค์ ผู้เป็นเจ้าของฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก เพราะพระองค์ได้ปิดบังเรื่องเหล่านี้จากพวกที่มีการศึกษาและพวกเฉลียวฉลาด แต่ได้เปิดเผยให้กับพวกที่ไร้เดียงสาเหมือนเด็กเล็กๆ 26 ใช่แล้ว พระบิดา เพราะนั่นแหละเป็นไปตามความพอใจของพระองค์

27 พระบิดาได้ให้เรามีสิทธิอำนาจเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีใครรู้จักพระบุตรนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดานอกจากพระบุตร และคนที่พระบุตรเลือกที่จะบอกให้รู้เกี่ยวกับพระบิดา

28 เชิญมาสิ ทุกคนที่รู้สึกเหนื่อยใจและแบกภาระหนัก แล้วเราจะให้พวกคุณหายเหนื่อยใจ 29 รับเราเป็นผู้นำชีวิต[a] และเรียนรู้จากเรา เพราะเราอ่อนน้อม และถ่อมสุภาพ แล้วพวกคุณจะได้หายเหนื่อยใจ 30 ชีวิตที่มีเราเป็นผู้นำนั้นสบายๆและภาระที่เราให้นี้ก็เบา”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International