Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ซายิน
49 ขอทรงระลึกถึงพระวจนะที่ทรงให้ไว้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงให้ความหวังแก่ข้าพระองค์
50 สิ่งที่ปลอบโยนข้าพระองค์ในยามทุกข์ยากก็คือ
พระสัญญาของพระองค์รักษาชีวิตข้าพระองค์ไว้
51 คนยโสเย้ยหยันข้าพระองค์อย่างไม่ปรานี
แต่ข้าพระองค์ไม่หันไปจากบทบัญญัติของพระองค์
52 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ระลึกถึงบทบัญญัติแต่เก่าก่อนของพระองค์
และข้าพระองค์ก็ได้รับการปลอบประโลมใจ
53 ข้าพระองค์โกรธยิ่งนักเพราะคนชั่ว
ผู้ละทิ้งบทบัญญัติของพระองค์
54 กฎหมายของพระองค์เป็นบทเพลงของข้าพระองค์
ไม่ว่าข้าพระองค์จะพำนักอยู่ที่ใด
55 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ในยามค่ำคืนข้าพระองค์ระลึกถึงพระนามของพระองค์
และข้าพระองค์จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์
56 ที่ข้าพระองค์ปฏิบัติเสมอมา
ก็คือเชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์
22 ทั้งหมดนี้คือบทบัญญัติซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังออกมาจากไฟ เมฆ และความมืดมิดแก่พวกท่านทั้งหมดบนภูเขา และพระองค์ไม่ได้ทรงเพิ่มเติมสิ่งใด จากนั้นพระองค์ทรงจารึกบทบัญญัติไว้บนศิลาสองแผ่นและประทานแก่ข้าพเจ้า
23 เมื่อพวกท่านได้ยินพระสุรเสียงจากความมืดทึบ ขณะที่ภูเขามีไฟลุกโชน บรรดาหัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสของพวกท่านมาหาข้าพเจ้า 24 และพวกเขากล่าวว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงสำแดงพระเกียรติสิริและพระบารมีของพระองค์ และเราได้ยินพระสุรเสียงจากเปลวไฟ วันนี้เราได้เห็นพระเจ้าตรัสกับมนุษย์และมนุษย์ยังมีชีวิตอยู่ 25 แต่บัดนี้ทำไมเราจะต้องมาตายเล่า? เปลวไฟอันน่ากลัวนี้คงเผาเราเป็นจุลทีเดียว เราจะต้องตายแน่หากเราได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราต่อไป 26 มนุษย์คนใดหนอสามารถได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ตรัสจากเปลวไฟเหมือนที่เราได้ยินแล้วยังมีชีวิตรอดอยู่? 27 ท่านจงเข้าไปใกล้และฟังทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสเถิด แล้วกลับมาบอกเราถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสแก่ท่าน เราจะฟังและปฏิบัติตาม”
28 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินสิ่งที่ท่านพูดกับข้าพเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เราได้ยินสิ่งที่คนเหล่านี้พูดกับเจ้าแล้ว ทุกอย่างที่พวกเขาพูดนั้นดีแล้ว 29 เราอยากให้เขามีจิตใจเช่นนี้เสมอไปคือยำเกรงเราและปฏิบัติตามคำบัญชาทั้งปวงของเรา เพื่อทุกอย่างจะเป็นผลดีสำหรับเขาและลูกหลานตลอดไป!
30 “จงไปบอกพวกเขาให้กลับไปยังเต็นท์ของตน 31 ส่วนเจ้าจงอยู่กับเราที่นี่ เพื่อเราจะมอบคำบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติทั้งปวงแก่เจ้า เจ้าจงสั่งสอนเขาให้ปฏิบัติตามในดินแดนที่เรากำลังยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขา”
32 ฉะนั้นจงใส่ใจทำตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้ อย่าออกนอกลู่นอกทาง 33 จงดำเนินชีวิตตามแนวทางทั้งปวงที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้ เพื่อท่านจะมีชีวิตยืนยาวและเจริญรุ่งเรืองในดินแดนซึ่งท่านจะเข้ายึดครอง
จงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
6 ต่อไปนี้คือพระบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสอนท่านให้ปฏิบัติตามในดินแดนซึ่งท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครอง 2 เพื่อท่านและลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปจะยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านชั่วชีวิต โดยปฏิบัติตามกฎหมายและพระบัญชาทั้งสิ้นของพระองค์ที่ข้าพเจ้ามอบให้ และเพื่อท่านจะชื่นชมกับชีวิตที่ยืนยาว 3 อิสราเอลเอ๋ย จงฟังและใส่ใจปฏิบัติตามเพื่อจะเป็นผลดีแก่ท่าน และท่านจะทวีจำนวนมากขึ้นในดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทรงสัญญาไว้กับท่าน
17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ การทรงสร้างใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งเก่าได้ล่วงไป สิ่งใหม่ได้เข้ามา![a] 18 ทั้งหมดนี้มาจากพระเจ้าผู้ทรงให้เราคืนดีกับพระองค์โดยทางพระคริสต์ และทรงมอบหมายพันธกิจแห่งการคืนดีนี้แก่เรา 19 คือพระเจ้าได้ทรงให้โลกคืนดีกับพระองค์ในพระคริสต์ ไม่ทรงถือโทษบาปของมนุษย์ และพระองค์ทรงมอบหมายเรื่องราวแห่งการคืนดีนี้ไว้กับเรา 20 ฉะนั้นเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์เสมือนหนึ่งพระเจ้าทรงร้องเรียกท่านทั้งหลายผ่านทางเรา เราจึงขอร้องท่านในนามของพระคริสต์ว่า จงคืนดีกับพระเจ้า 21 พระเจ้าทรงกระทำพระองค์ผู้ปราศจากบาปให้เป็นบาป[b]เพื่อเรา เพื่อในพระองค์เราจะกลายเป็นความชอบธรรมของพระเจ้า
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.