Revised Common Lectionary (Complementary)
(สดด.31:1-4)
71 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ลี้ภัยในพระองค์
ขออย่าให้ข้าพระองค์อับอายเลย
2 ขอทรงช่วยและปลดปล่อยข้าพระองค์ในความชอบธรรมของพระองค์
ขอทรงเอียงพระกรรณสดับฟังและช่วยกู้ข้าพระองค์
3 ขอทรงเป็นศิลาให้ข้าพระองค์เข้าลี้ภัย
ซึ่งข้าพระองค์สามารถเข้าพักพิงได้เสมอ
ขอทรงบัญชาให้ช่วยกู้ข้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์
4 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือของคนชั่ว
พ้นจากเงื้อมมือของเหล่าคนโหดร้ายทารุณ
5 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต เพราะพระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพระองค์
เป็นความมั่นใจของข้าพระองค์มาตั้งแต่เยาว์วัย
6 ข้าพระองค์พึ่งพาพระองค์มาตั้งแต่เกิด
พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดา
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป
การสิ้นพระชนม์ของโยสิยาห์(A)
20 หลังจากที่โยสิยาห์ทรงจัดระเบียบพระวิหารเรียบร้อยแล้ว กษัตริย์เนโคแห่งอียิปต์ยกทัพมาที่คารเคมิชริมแม่น้ำยูเฟรติส และโยสิยาห์กรีธาทัพออกไปรบกับพระองค์ 21 แต่เนโคส่งผู้นำสาส์นมายังโยสิยาห์ความว่า “กษัตริย์ยูดาห์ ท่านและข้าพเจ้ามีเรื่องราวบาดหมางอะไรกันหรือ? ข้าพเจ้าไม่ได้ยกทัพมาโจมตีท่านในครั้งนี้ แต่ข้าพเจ้ามารบกับศัตรูที่ขับเคี่ยวกันอยู่ พระเจ้าได้ตรัสสั่งให้ข้าพเจ้ารีบเร่ง ดังนั้นจงอย่าขัดขวางพระเจ้าผู้สถิตกับข้าพเจ้า มิฉะนั้นพระองค์จะทรงทำลายท่าน”
22 แต่โยสิยาห์ไม่ยอมถอยทัพ กลับปลอมตัวเข้าสู่สงครามในที่ราบเมกิดโด โยสิยาห์ไม่ยอมฟังพระบัญชาของพระเจ้าที่ตรัสผ่านเนโค
23 พลธนูยิงถูกกษัตริย์โยสิยาห์ พระองค์ทรงร้องบอกทหารว่า “พาเราออกไปที เราบาดเจ็บมาก” 24 พวกเขาจึงประคองพระองค์ลงจากรถม้าศึกของพระองค์ แล้วขึ้นรถม้าศึกอีกคันกลับสู่เยรูซาเล็ม โยสิยาห์ก็สิ้นพระชนม์ พระศพถูกฝังไว้ในสุสานบรรพบุรุษของพระองค์ ทั่วทั้งยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็มพากันไว้อาลัย
25 เยเรมีย์แต่งบทเพลงคร่ำครวญไว้อาลัยแด่โยสิยาห์ และคณะนักร้องชายหญิงทุกคนยังคงขับร้องเพลงไว้อาลัยโยสิยาห์ตราบจนทุกวันนี้ซึ่งกลายเป็นประเพณีในอิสราเอล และมีบันทึกไว้ในประมวลบทเพลงคร่ำครวญ
26 เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลโยสิยาห์และพระราชกิจที่ทรงทุ่มเทตามบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า 27 เหตุการณ์ทั้งสิ้นตั้งแต่ต้นจนจบบันทึกอยู่ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์
เปาโลในเมืองเอเฟซัส
19 ขณะอปอลโลอยู่ที่เมืองโครินธ์เปาโลเดินทางไปตามถนนที่ผ่านดินแดนด้านในและมาที่เมืองเอเฟซัส เขาพบสาวกบางคนที่นั่น 2 และถามว่า “เมื่อ[a] ท่านเชื่อท่านได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่?”
พวกเขาตอบว่า “ไม่ เราไม่เคยแม้แต่ได้ยินว่ามีพระวิญญาณบริสุทธิ์”
3 ดังนั้นเปาโลจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านได้รับบัพติศมาอะไร?”
พวกเขาตอบว่า “บัพติศมาของยอห์น”
4 เปาโลจึงกล่าวว่า “บัพติศมาของยอห์นคือบัพติศมาที่แสดงการกลับใจใหม่ ยอห์นได้บอกประชาชนให้เชื่อในพระองค์ผู้ซึ่งมาภายหลังท่านคือให้เชื่อในพระเยซู” 5 เมื่อได้ฟังเช่นนี้พวกเขาก็รับบัพติศมาเข้าใน[b]พระนามขององค์พระเยซูเจ้า 6 เมื่อเปาโลวางมือบนพวกเขาพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมายังคนเหล่านี้ พวกเขาก็พูดภาษาแปลกๆ[c]และพยากรณ์ 7 คนทั้งหมดนี้เป็นผู้ชายมีประมาณสิบสองคน
8 เปาโลเข้าไปในธรรมศาลาและกล่าวด้วยใจกล้าเป็นเวลาสามเดือน ชี้แจงเรื่องอาณาจักรของพระเจ้าด้วยเหตุผลอย่างน่าเชื่อถือ 9 แต่บางคนใจดื้อด้านไม่ยอมเชื่อและพูดให้ร้าย “ทางนั้น” ต่อหน้าสาธารณชน ดังนั้นเปาโลจึงพาพวกสาวกแยกไปและพวกเขาไปอภิปรายกันที่ห้องประชุมของทีรันนัสทุกวัน 10 เขาทำเช่นนี้อยู่สองปีจนชาวยิวและชาวกรีกทั้งปวงในแคว้นเอเชียได้ยินพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.