Revised Common Lectionary (Complementary)
คำสรรเสริญเมื่อพ้นจากภัยอันตราย
ของดาวิด ในครั้งที่ท่านแสร้งเสียสติต่อหน้าอาบีเมเลคเพื่อจะได้ถูกขับไล่ และดาวิดก็จากไป[a]
1 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าอยู่เป็นนิตย์
คำสรรเสริญจะติดอยู่ที่ปากข้าพเจ้าเรื่อยไป
2 ชีวิตข้าพเจ้าโอ้อวดเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า
ให้ผู้มีความทุกข์ทรมานรับฟังและดีใจเถิด
3 มาสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้ากับข้าพเจ้าเถิด
และเรามายกย่องพระนามของพระองค์ด้วยกันเถิด
4 ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ตอบข้าพเจ้า
และช่วยให้พ้นจากความกลัวทั้งปวง
5 จงวางใจในพระองค์และชื่นชมยินดี
เพื่อว่าใบหน้าของท่านจะไม่มีวันต้องอับอาย
6 คนทุกข์ยากคนนี้ส่งเสียงร้อง และพระผู้เป็นเจ้าได้ยิน
และช่วยเขาให้พ้นจากความยากลำบากทั้งปวง
7 ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าคอยปกป้องบรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
และช่วยให้พ้นภัย
8 จงลิ้มรสและจะได้รู้เองว่าพระผู้เป็นเจ้าประเสริฐยิ่ง
คนที่พึ่งพิงในพระองค์จะเป็นสุข
15 ครั้นแล้วหุชัยพูดกับศาโดกและอาบียาธาร์ปุโรหิตทั้งสองว่า “อาหิโธเฟลให้คำปรึกษาอย่างนี้อย่างนั้นแก่อับซาโลมและบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอล ส่วนข้าพเจ้าให้คำปรึกษาเช่นนี้เช่นนั้น 16 ฉะนั้นบัดนี้ท่านจงส่งข่าวไปเรียนดาวิดโดยเร็วว่า ‘คืนนี้อย่าพักอยู่ที่เขตลำน้ำที่ลุยข้ามได้ในถิ่นทุรกันดาร แต่ข้ามไปให้ได้ เพราะเกรงว่ากษัตริย์และทหารทั้งปวงที่อยู่กับท่านจะถูกกลืนไม่เหลือ’” 17 ฝ่ายโยนาธานและอาหิมาอัสกำลังรออยู่ที่เอนโรเกลแล้ว หญิงรับใช้คนหนึ่งจะต้องไปบอกเขาทั้งสอง และเขาต้องไปเรียนกษัตริย์ดาวิด เพราะว่าพวกเขาต้องไม่เข้าเมืองเยรูซาเล็มเพราะเกรงว่าจะมีคนเห็น 18 แต่ว่าชายหนุ่มคนหนึ่งเห็นเขาทั้งสอง และไปบอกอับซาโลม ดังนั้นทั้งสองจึงจากไปทันที และมาถึงบ้านของชายคนหนึ่งที่บาฮูริม เขามีบ่อน้ำที่บริเวณลานบ้าน เขาทั้งสองจึงปีนลงในบ่อ 19 นายหญิงที่บ้านปิดคลุมปากบ่อและโรยเมล็ดข้าวบังไว้ให้ทั่ว โดยไม่มีใครทราบเรื่องนี้ 20 เมื่อพวกทหารรับใช้ของอับซาโลมมาหาหญิงคนนั้นที่บ้าน ก็ถามว่า “อาหิมาอัสและโยนาธานอยู่ที่ไหน” หญิงคนนั้นตอบว่า “เขาข้ามธารน้ำไปแล้ว” เมื่อพวกเขาตามหาและไม่พบทั้งสองคน จึงกลับไปยังเยรูซาเล็ม
21 หลังจากที่พวกเขาไปแล้ว ทั้งสองคนก็ขึ้นมาจากบ่อ และไปเรียนกษัตริย์ดาวิดว่า “ท่านลุกขึ้นเถิด และข้ามน้ำไปทันที เพราะอาหิโธเฟลได้ให้คำปรึกษาอย่างนี้อย่างนั้นเพื่อกำจัดท่าน” 22 ดังนั้นดาวิดและทุกคนที่อยู่กับท่านก็ลุกขึ้น และข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป พอรุ่งสางก็ไม่มีเหลือสักคนที่ไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน
23 เมื่ออาหิโธเฟลเห็นว่าคำปรึกษาของเขาไม่มีการตอบรับ เขาจึงผูกอานลาขี่กลับบ้านมุ่งไปยังเมืองของตน เขาจัดการสั่งเสียให้เรียบร้อยก่อนผูกคอตาย และเขาสิ้นชีวิตและถูกบรรจุในถ้ำเก็บศพของบิดาของเขา
24 ดาวิดมาถึงเมืองมาหะนาอิม อับซาโลมก็ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปกับชาวอิสราเอลทั้งปวง 25 อับซาโลมแต่งตั้งอามาสาเป็นผู้บัญชาการกองทัพแทนโยอาบ อามาสาเป็นบุตรของชายคนหนึ่งชื่อเยเธอร์ชาวอิสราเอล มารดาของเขาชื่ออาบีกัลบุตรีของนาหาชน้องสาวของนางเศรุยาห์มารดาของโยอาบ 26 ชาวอิสราเอลและอับซาโลมตั้งค่ายอยู่ในแผ่นดินของกิเลอาด
27 เมื่อดาวิดมายังมาหะนาอิม โชบีบุตรนาหาชจากเมืองรับบาห์ของชาวอัมโมน และมาคีร์บุตรอัมมีเอลจากโลเดบาร์ และบาร์ซิลลัยชาวกิเลอาดจากเมืองโรเกลิม 28 ได้นำที่นอน อ่างน้ำ ภาชนะดินเผา ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ แป้ง ข้าวคั่ว เมล็ดถั่ว ถั่วเลนเทิ้ล 29 น้ำผึ้ง โยเกิร์ต แกะ และเนยจากฝูงสัตว์ มาให้ดาวิดและทหารที่อยู่กับท่านรับประทาน เพราะเขาทั้งหลายพูดว่า “พวกทหารหิว อ่อนกำลัง และกระหายน้ำอยู่ในถิ่นทุรกันดาร”
แบกภาระให้กันและกัน
6 พี่น้องเอ๋ย ถ้าผู้ใดถูกจับได้ว่ากระทำบาป ท่านซึ่งเป็นผู้ดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ ก็ควรช่วยผู้นั้นให้ตั้งตัวใหม่อย่างละมุนละม่อม จงระวังตัว เกรงว่าท่านอาจจะถูกยั่วยุด้วย 2 จงแบกภาระของกันและกัน การกระทำเช่นนั้นเท่ากับท่านได้ปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระคริสต์ 3 ถ้าผู้ใดคิดว่าตนสำคัญ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ คนนั้นก็หลอกลวงตนเอง 4 แต่ละคนควรสำรวจการกระทำของตนเอง จะได้ภูมิใจในตัวเองได้โดยไม่ต้องเปรียบเทียบตนกับผู้อื่น 5 ด้วยว่าแต่ละคนจะต้องแบกภาระของตนเอง
6 ผู้ใดที่รับคำสั่งสอนของพระคริสต์ ก็จงแบ่งสิ่งดีทุกอย่างให้แก่ผู้ที่สอนเถิด 7 อย่าสำคัญผิดไปเลย ท่านตบตาพระเจ้าไม่ได้หรอก ผู้ใดหว่านอะไร ก็จะได้เก็บเกี่ยวสิ่งนั้นด้วย 8 ผู้ที่หว่านเพื่อฝ่ายเนื้อหนังของตน จะเก็บเกี่ยวความพินาศจากเนื้อหนังนั้น แต่สำหรับผู้ที่หว่านเพื่อฝ่ายพระวิญญาณ จะเก็บเกี่ยวชีวิตอันเป็นนิรันดร์จากพระวิญญาณ 9 เราอย่าได้ท้อถอยต่อการกระทำความดีเลย ด้วยว่าเมื่อถึงเวลาอันสมควรเราจะเก็บเกี่ยวผล หากว่าเราไม่ล้มเลิกเสียก่อน 10 ฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาสก็จงกระทำความดีต่อคนทั้งปวงเถิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบรรดาผู้อยู่ในครอบครัวของผู้มีความเชื่อ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation