Revised Common Lectionary (Complementary)
כ คอฟ
81 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าอ่อนล้า เพราะการรอคอยความรอดพ้นจากพระองค์
ข้าพเจ้ามีความหวังในคำกล่าวของพระองค์
82 ข้าพเจ้ารอคอยคำสัญญาของพระองค์จนตาพร่าพราย
ข้าพเจ้าถามว่า “เมื่อไหร่พระองค์จะปลอบประโลมข้าพเจ้า”
83 เพราะข้าพเจ้ากลายเป็นเหมือนถุงหนังเหล้าองุ่นที่ถูกห้อยทิ้งไว้ท่ามกลางกลุ่มควัน
แม้กระนั้น ข้าพเจ้าก็ยังไม่ลืมกฎเกณฑ์ของพระองค์
84 ผู้รับใช้ของพระองค์จะต้องอดทนนานเพียงไร
เมื่อไหร่พระองค์จะตัดสินพวกที่กดขี่ข่มเหงข้าพเจ้า
85 คนยโสที่ขุดหลุมพรางดักข้าพเจ้า
เป็นพวกที่ไม่เชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์
86 พระบัญญัติทั้งหมดของพระองค์ล้วนน่าเชื่อถือ
คนพวกนั้นข่มเหงข้าพเจ้าด้วยการลวงหลอก โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย
87 พวกเขาเกือบจะทำให้ชีวิตในแผ่นดินโลกของข้าพเจ้าต้องยุติลง
แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ลืมข้อบังคับของพระองค์เลย
88 โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามความรักอันมั่นคงของพระองค์
และข้าพเจ้าจะรักษาคำสั่งที่มาจากปากของพระองค์
ความอดอยาก การสู้รบ และความตาย
16 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ 2 “เจ้าจงอย่ามีภรรยา หรือมีลูกชายและลูกสาวในที่แห่งนี้ 3 เพราะพระผู้เป็นเจ้ากล่าวถึงเรื่องลูกชายและลูกสาวที่เกิดในที่แห่งนี้ และเรื่องบรรดาผู้เป็นแม่ที่อุ้มครรภ์ และบรรดาผู้เป็นพ่อที่เลี้ยงดูพวกเขาในแผ่นดินนี้ 4 พวกเขาจะสิ้นชีวิตจากโรคร้ายแรง พวกเขาจะไม่มีใครร้องรำพันถึง หรือฝังศพพวกเขา พวกเขาจะเป็นดั่งอุจจาระบนพื้นดิน พวกเขาจะตายจากการสู้รบและความอดอยาก และร่างของพวกเขาจะเป็นอาหารสำหรับนกในอากาศและสัตว์ป่าบนแผ่นดินโลก”
5 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “อย่าเข้าไปในบ้านที่ร้องคร่ำครวญ หรือเข้าไปร้องรำพันหรือแสดงความเศร้าใจแก่พวกเขา เพราะเราได้พรากความสันติสุข ความรักอันมั่นคงของเราและความเมตตาไปจากชนชาตินี้” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 6 “ทั้งผู้สูงส่งและผู้ต่ำต้อยในแผ่นดินนี้จะตาย และจะไม่มีใครฝัง และไม่มีใครร้องรำพันถึงพวกเขา หรือเชือดเนื้อหนังตนเองหรือโกนศีรษะเพื่อพวกเขา 7 จะไม่มีใครนำอาหารมาให้แก่ผู้ร้องคร่ำครวญเป็นการปลอบใจที่มีคนเสียชีวิต และไม่มีใครนำเครื่องดื่มมาให้เพื่อปลอบประโลมที่พ่อหรือแม่ของเขาเสียชีวิต 8 เจ้าอย่าเข้าไปนั่งในบ้านที่มีการเลี้ยงฉลองเพื่อดื่มกินกับพวกเขา 9 เพราะพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า ดูเถิดเราจะทำให้เสียงยินดีและเบิกบานใจ เสียงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในที่นี้ยุติลง และเจ้าจะได้เห็นในช่วงชีวิตของเจ้า
10 เมื่อเจ้าบอกชนชาตินี้ถึงสิ่งเหล่านี้ และพวกเขาพูดกับเจ้าว่า ‘ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงออกคำสั่งให้พวกเราได้รับความทุกข์ร้อน พวกเรามีความชั่วอะไร พวกเรากระทำบาปอะไรต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา’ 11 เจ้าจงบอกพวกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เพราะบรรพบุรุษของเจ้าได้ทอดทิ้งเรา และได้ไปติดตามปวงเทพเจ้า ไปบูชาและนมัสการสิ่งเหล่านั้น และได้ทอดทิ้งเราและไม่ได้รักษากฎบัญญัติของเรา 12 และเพราะเจ้าได้กระทำเลวร้ายกว่าบรรพบุรุษของเจ้า ดูเถิด พวกเจ้าทุกคนกระทำตามความดื้อรั้น ตามความตั้งใจที่ชั่วร้ายของตน และไม่ยอมฟังเรา 13 ฉะนั้น เราจะเหวี่ยงพวกเจ้าออกไปจากแผ่นดินนี้ ให้เข้าไปยังแผ่นดินที่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของพวกเจ้าไม่รู้จัก และเจ้าจะบูชาปวงเทพเจ้าทั้งวันทั้งคืนที่นั่น เราจะไม่แสดงความเมตตาต่อพวกเจ้า’
การทนทุกข์และความอดทน
7 ฉะนั้น พี่น้องเอ๋ย จงอดทนจนถึงวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมา ดูสิว่า ชาวนาชาวสวนรอคอยผลอันล้ำค่าจากที่นา และมีความอดทนรอคอยฝนตอนต้นและปลายฤดู 8 ท่านก็ควรอดทนเช่นกัน จงทำใจให้ดีไว้ เพราะใกล้วันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมาแล้ว 9 พี่น้องเอ๋ย อย่าบ่นต่อว่ากันเลย ท่านเองจะได้ไม่ถูกกล่าวโทษ ดูเถิด ผู้พิพากษากำลังยืนอยู่ที่ประตู 10 พี่น้องเอ๋ย จงเอาแบบอย่างในการทนทุกข์และความอดทนของผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าที่พูดในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า 11 ดูเถิด เรานับว่าบรรดาผู้ที่มีความบากบั่นเป็นผู้มีความสุข ท่านได้ยินเรื่องความบากบั่นของโยบ และได้เห็นความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในที่สุดแล้วว่า พระผู้เป็นเจ้ามีความเมตตาและความเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง
12 พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดแล้วท่านอย่าสบถสาบาน ไม่ว่าต่อสวรรค์ หรือต่อโลก หรือต่อคำมั่นสัญญาอื่นใดเลย แต่จงเป็นเพียง ใช่ก็ว่าใช่ และไม่ก็ว่าไม่ เพื่อท่านจะได้ไม่ถูกกล่าวโทษ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation