Revised Common Lectionary (Complementary)
(บทเพลงใช้แห่ขึ้นไปยังเยรูซาเล็มของดาวิด)
124 ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงอยู่ฝ่ายเรา
ก็ให้อิสราเอลกล่าวเถิดว่า
2 หากองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ได้ทรงอยู่ฝ่ายเรา
เมื่อคนมาโจมตีเรา
3 เมื่อโทสะเกรี้ยวกราดของศัตรูพลุ่งขึ้นต่อเรา
เราก็คงจะถูกเขากลืนทั้งเป็น
4 น้ำหลากคงท่วมมิดเรา
กระแสน้ำเชี่ยวคงซัดท่วมเรา
5 กระแสเชี่ยวกราก
คงซัดกวาดเราไปแล้ว
6 ขอถวายสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ไม่ทรงยอมให้พวกเขากัดฉีกพวกเรา
7 เราหนีรอดมาได้เหมือนนก
พ้นจากกับดักของนายพราน
กับดักนั้นถูกหักทิ้ง
และเราก็หนีรอดมาได้
8 ความช่วยเหลือของเราอยู่ในพระนามของพระยาห์เวห์
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
พระเกียรติสิริที่จะมาถึงของศิโยน
54 “จงร้องเพลงเถิด หญิงหมันเอ๋ย
เจ้าผู้ไม่เคยมีลูก
จงเปล่งเสียงร้องเพลงและจงโห่ร้องยินดีเถิด
เจ้าผู้ไม่เคยเจ็บครรภ์
เพราะลูกของหญิงที่โดดเดี่ยว
ก็ยังมีมากกว่าลูกของหญิงผู้มีสามี”
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น
2 “จงขยายที่ตั้งเต็นท์ของเจ้า
ขึงผ้าเต็นท์ออกกว้าง
อย่ารั้งไว้
ต่อเชือกเต็นท์
และตอกหลักหมุดให้มั่นคง
3 เพราะเจ้าจะขยายออกไปทั้งซ้ายและขวา
ลูกหลานของเจ้าจะยึดกรรมสิทธิ์ของประชาชาติต่างๆ
และตั้งถิ่นฐานในนครต่างๆ ที่เริศร้างของพวกเขา
4 “อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องทนอับอาย
อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ต้องขายหน้า
เจ้าจะลืมความอัปยศในวัยสาว
และไม่จดจำคำถากถางเรื่องความเป็นม่ายของเจ้าอีก
5 เพราะพระผู้สร้างของเจ้าเป็นสามีของเจ้า
พระองค์ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลคือพระผู้ไถ่ของเจ้า
เขาจะเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าเหนือสากลโลก
6 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเรียกเจ้ากลับมา
เสมือนหนึ่งเจ้าเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งและชอกช้ำระกำใจ
เป็นภรรยาที่แต่งงานไปตั้งแต่ยังสาว
เพียงเพื่อจะถูกทอดทิ้ง” พระเจ้าของเจ้าตรัสดังนั้น
7 “เราทอดทิ้งเจ้าชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง
แต่ด้วยความเมตตาอย่างลึกซึ้ง เราจะพาเจ้ากลับมา
8 ในชั่วขณะหนึ่งของความโกรธ
เราเบือนหน้าหนีไปจากเจ้า
แต่ด้วยความกรุณานิรันดร์
เราจะเมตตาเจ้า”
พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่ของเจ้าตรัสไว้ดังนั้น
9 “สำหรับเราแล้วเรื่องนี้เป็นเหมือนในสมัยโนอาห์
เราปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ให้น้ำของโนอาห์ท่วมโลกอีกฉันใด
บัดนี้เราก็ปฏิญาณว่าจะไม่โกรธ
และไม่ตำหนิเจ้าอีกฉันนั้น
10 แม้ภูเขาจะถูกเขย่า
และเนินเขาถูกเขยื้อนไป
แต่ความรักมั่นคงที่เรามีต่อเจ้าจะไม่คลอนแคลน
และพันธสัญญาแห่งสันติภาพของเราจะไม่สูญสิ้นไป”
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเมตตาเจ้าตรัสไว้ดังนั้น
23 ในเวลานั้นหากมีใครมาบอกท่านว่า ‘ดูเถิด พระคริสต์อยู่ที่นี่!’ หรือ ‘พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น!’ อย่าไปเชื่อเลย 24 เพราะพระคริสต์ปลอมและผู้เผยพระวจนะเท็จจะปรากฏขึ้นและแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เพื่อลวงแม้กระทั่งผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้ถ้าเป็นไปได้ 25 ดูเถิด เราบอกท่านไว้ล่วงหน้าแล้ว
26 “ฉะนั้นหากใครมาบอกท่านว่า ‘ผู้นั้นอยู่ที่นั่นในถิ่นกันดาร’ อย่าออกไปเลย หรือบอกว่า ‘ผู้นั้นอยู่ที่นี่ในห้องชั้นใน’ อย่าเชื่อเลย 27 เพราะฟ้าแลบซึ่งมาจากตะวันออกมองเห็นได้แม้กระทั่งที่ตะวันตกฉันใด การมาของบุตรมนุษย์ก็ฉันนั้น 28 ซากศพอยู่ที่ไหน แร้งกาจะออกันอยู่ที่นั่น
29 “ในทันทีทันใด หลังจากวันแห่งความทุกข์ลำเค็ญเหล่านี้
“ ‘ดวงอาทิตย์จะมืดมิด
ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง
ดวงดาวทั้งหลายจะร่วงจากท้องฟ้า
และฟ้าสวรรค์จะถูกเขย่า’[a]
30 “เมื่อนั้นหมายสำคัญของบุตรมนุษย์จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและมวลประชาชาติแห่งพื้นพิภพจะร้องไห้คร่ำครวญ พวกเขาจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาบนหมู่เมฆในท้องฟ้าด้วยเดชานุภาพและพระเกียรติสิริอันยิ่งใหญ่ 31 พระองค์จะทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาพร้อมกับเสียงแตรดังสนั่น ทูตสวรรค์นั้นจะรวบรวมผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้จากทั้งสี่ทิศ จากสุดขอบฟ้าข้างหนึ่งจดขอบฟ้าอีกข้างหนึ่ง
32 “จงเรียนรู้บทเรียนนี้จากต้นมะเดื่อ ทันทีที่มันแตกกิ่งผลิใบ ท่านก็รู้ว่าฤดูร้อนใกล้เข้ามาแล้ว 33 เช่นเดียวกันเมื่อท่านเห็นสิ่งสารพัดเหล่านี้ท่านก็รู้ว่าสิ่งนี้[b]ใกล้เข้ามาแล้ว อยู่ที่ประตูนี่เอง 34 เราบอกความจริงแก่ท่านว่าคนในยุค[c]นี้ยังไม่ทันล่วงลับไป สิ่งทั้งปวงเหล่านี้ก็เกิดขึ้นแล้วอย่างแน่นอน 35 ฟ้าและดินจะสูญสิ้นไปแต่ถ้อยคำของเราไม่มีวันสูญสิ้น
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.