Revised Common Lectionary (Complementary)
(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนองกิททีธ[a] บทสดุดีของบุตรโคราห์)
84 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ที่ประทับของพระองค์งดงามยิ่งนัก!
2 จิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหา
ปรารถนาที่จะเข้ามายังพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า
กายใจของข้าพระองค์ร่ำร้องถวิลหาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
3 แม้แต่นกกระจอกยังหาบ้านได้
และนกนางแอ่นยังพบที่ที่จะทำรังพักพิง
และกกลูกอ่อนของมัน
คือที่ใกล้ๆ แท่นบูชาของพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จอมราชัน และพระเจ้าของข้าพระองค์
4 ความสุขมีแก่ผู้ที่พำนักในพระนิเวศของพระองค์
พวกเขาสรรเสริญพระองค์ตลอดเวลา
เสลาห์
9 โอ ถ้าศีรษะของข้าพเจ้าเป็นเหมือนแหล่งน้ำ
และตาของข้าพเจ้าเป็นเหมือนบ่อน้ำพุแห่งน้ำตา!
ข้าพเจ้าจะได้ร่ำไห้ทั้งวันทั้งคืน
เพื่อพี่น้องร่วมชาติซึ่งถูกสังหาร
2 โอ ข้าพเจ้าอยากมีที่พักแรม
สำหรับคนเดินทางในถิ่นกันดารนัก
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไปให้พ้น
จากพี่น้องร่วมชาติของข้าพเจ้า
เพราะพวกเขาล้วนเป็นคนล่วงประเวณี
เป็นฝูงชนที่ไม่ซื่อสัตย์
3 “พวกเขาโก่งลิ้นเหมือนคันศร
เพื่อยิงคำโกหกออกมา
ความเท็จจึงมีชัย
เหนือความจริง[a]ในแผ่นดิน
พวกเขาทำบาปอย่างหนึ่ง
แล้วก็แล่นไปสู่บาปอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาไม่ยอมรับเรา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
4 “จงระวังเพื่อนของเจ้า
และอย่าไว้ใจพี่น้องของเจ้า
เพราะว่าพี่น้องทุกคนเป็นคนหลอกลวง[b]
และเพื่อนทุกคนเป็นนักใส่ร้ายป้ายสี
5 เพื่อนหลอกลวงเพื่อน
และไม่มีใครพูดความจริง
พวกเขาฝึกลิ้นตัวเองให้โกหก
ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าด้วยการทำบาป
6 เจ้า[c]อาศัยอยู่ท่ามกลางการหลอกลวง
เพราะความหลอกลวงของพวกเขา พวกเขาจึงไม่ยอมรับเรา”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
7 ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า
“ดูเถิด เราจะถลุงและทดสอบพวกเขา
เพราะนอกจากนี้เราจะทำสิ่งอื่นใดได้อีก
เนื่องจากบาปที่ประชากรของเราได้ทำ?
8 ลิ้นของพวกเขาเป็นลูกศรคร่าชีวิต
พูดจาตลบตะแลง
ทุกคนพูดอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านของเขา
แต่ในใจคิดวางแผนเล่นงานเขา
9 ไม่ควรหรือที่เราจะลงโทษพวกเขาเพราะเหตุนี้?”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“ไม่ควรหรือที่เราจะแก้แค้น
ชนชาติที่เป็นเช่นนี้?”
10 ข้าพเจ้าจะร้องไห้คร่ำครวญเพื่อภูเขาทั้งหลาย
และเปล่งคำคร่ำครวญเรื่องทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ถูกทิ้งร้าง
มันถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสัญจรไปมา
ไม่ได้ยินเสียงสัตว์ร้อง
ทั้งนกในอากาศและสัตว์ทั้งปวง
ก็หนีไปหมด
11 “เราจะทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นซากปรักหักพัง
เป็นถิ่นที่อยู่ของหมาใน
และเราจะทำให้หัวเมืองต่างๆ ของยูดาห์เป็นที่รกร้าง
เพื่อจะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่น”
12 ใครหนอฉลาดพอที่จะเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้? ใครบ้างที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนและอธิบายได้? เหตุใดดินแดนจึงถูกทำให้ย่อยยับและถูกทิ้งร้างเหมือนถิ่นกันดารที่ไม่มีใครผ่านไปมา?
13 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ก็เพราะพวกเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา ซึ่งเราตั้งไว้ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาไม่ได้เชื่อฟังเรา หรือทำตามบทบัญญัติของเรา 14 พวกเขากลับทำตามใจดื้อดึงของตน เขานมัสการพระบาอัลตามที่บรรพบุรุษสอน” 15 ฉะนั้นพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า “ดูเถิดเราจะทำให้ชนชาตินี้กินอาหารขมและดื่มน้ำซึ่งมีพิษ 16 เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ ซึ่งพวกเขาเองหรือบรรพบุรุษไม่เคยรู้จักมาก่อน เราจะถือดาบไล่ล่าพวกเขาจนกว่าเราจะได้ทำลายล้างพวกเขาให้สิ้น”
ความอธรรมในวาระสุดท้าย
3 แต่จงรู้ไว้ด้วยว่าจะเกิดกลียุคในวาระสุดท้าย 2 ผู้คนจะรักตนเอง รักเงิน ชอบโอ้อวด หยิ่งยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อกตัญญู ไม่บริสุทธิ์ 3 ไม่มีความรัก ไม่ให้อภัย ชอบนินทาว่าร้าย ไม่มีการควบคุมตนเอง โหดร้าย ไม่รักความดี 4 ทรยศหักหลัง หุนหันพลันแล่น ถือดี รักสนุกมากกว่ารักพระเจ้า 5 ยึดถือทางพระเจ้าเพียงเปลือกนอกแต่กลับปฏิเสธฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า อย่าไปคบคนแบบนี้
6 พวกเขาคืบคลานไปตามบ้านต่างๆ จูงจมูกหญิงเบาปัญญาผู้บาปหนาซึ่งโอนเอนไปกับสารพัดตัณหาชั่ว 7 หญิงเหล่านี้ใฝ่เรียนแต่ไม่สามารถรู้ถึงความจริงได้เลย 8 เช่นเดียวกับที่ยันเนสกับยัมเบรส์ต่อต้านโมเสส คนเหล่านี้ก็ต่อต้านความจริง พวกเขาเป็นคนใจทราม ความเชื่อของเขาก็ไม่เป็นที่ยอมรับ 9 แต่เขาจะไปได้ไม่ไกลเพราะความโง่เขลาของคนเหล่านี้จะปรากฏชัดแก่ทุกๆ คนเหมือนในกรณีของสองคนนั้น
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.