Revised Common Lectionary (Complementary)
พระยาห์เวห์ปกป้องคนของพระองค์
บทเพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
121 ข้าพเจ้าแหงนหน้ามองขึ้นไปยังภูเขาทั้งหลาย
ความช่วยเหลือของข้าพเจ้าจะมาจากที่ไหนกัน
2 ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระยาห์เวห์
ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก
3 พระองค์จะไม่ยอมปล่อยให้เท้าของเจ้าลื่นไถล
พระองค์ผู้ปกป้องเจ้าจะไม่เคลิ้มหลับไป
4 พระองค์ผู้ปกป้องอิสราเอล
จะไม่มีวันเคลิ้มหรือหลับไป
5 พระยาห์เวห์ เป็นผู้นั้นที่ปกป้องเจ้า
พระองค์เป็นร่มเงาที่อยู่ทางขวามือของเจ้า
6 ดวงอาทิตย์จึงไม่อาจทำอันตรายเจ้าได้ในตอนกลางวัน
หรือดวงจันทร์ในตอนกลางคืน
7 พระยาห์เวห์จะปกป้องเจ้าจากอันตรายทั้งปวง
พระองค์จะปกป้องชีวิตของเจ้า
8 พระยาห์เวห์จะปกป้องเจ้าตอนที่เจ้าออกไปหรือกลับมา
ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป
ยาโคบกับลาบันทำข้อตกลงกัน
43 แล้วลาบันตอบยาโคบว่า “พวกลูกสาวนี้ก็เป็นลูกสาวของลุง พวกเด็กนี้ก็เป็นเด็กของลุง ฝูงสัตว์พวกนั้นก็เป็นฝูงสัตว์ของลุง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าเห็นก็เป็นของลุงทั้งนั้น แต่วันนี้ลุงจะทำอะไรได้กับลูกสาวพวกนี้ของลุง หรือเด็กๆที่พวกเขาเกิดมา 44 มาเถิด ให้เรามาทำข้อตกลงกันระหว่างเจ้ากับลุง[a] และขอให้มีพยานระหว่างเจ้ากับลุง” 45 ยาโคบได้เอาหินมาก้อนหนึ่งตั้งขึ้นเป็นแท่งหิน 46 แล้วยาโคบก็พูดกับญาติๆของเขาว่า “ไปเก็บก้อนหินมารวมกันที่นี่” แล้วพวกเขาได้ไปเก็บก้อนหินมารวมกันจนเป็นกอง แล้วพวกเขาได้กินอาหารกันข้างกองหินนั้น 47 ลาบันจึงเรียกสถานที่นั้นว่า “เยการ์สหดูธา”[b] ส่วนยาโคบเรียกมันว่า “กาเลเอด”[c] 48 แล้วลาบันพูดว่า “ในวันนี้ กองหินนี้ได้เป็นพยานระหว่างเจ้ากับลุง” ดังนั้นมันจึงมีชื่อเรียกว่า “กาเลเอด” 49 และ “มิสปาห์”[d] เพราะลาบันพูดว่า “ขอให้พระยาห์เวห์เฝ้าดูระหว่างเจ้ากับลุง ตอนที่เราแยกจากกัน 50 ถ้าเจ้าทำร้ายลูกสาวทั้งสองคนของลุง หรือถ้าเจ้าเอาเมียอื่นอีกนอกเหนือจากลูกสาวของลุง ถึงแม้จะไม่มีใครอยู่กับพวกเราก็ตาม ให้จำไว้ว่าพระเจ้าได้เป็นพยานระหว่างเจ้ากับลุง” 51 ลาบันพูดกับยาโคบว่า “ดูกองหินและเสาหินที่เราได้ตั้งขึ้นมาไว้ระหว่างเราสิ 52 กองหินนี้ก็เป็นพยาน เสาหินนี้ก็เป็นพยาน ว่าลุงจะไม่ข้ามกองหินนี้ไปฝั่งเจ้า และเจ้าก็จะไม่ข้ามกองหินและเสาหินนี้มาฝั่งลุง เพื่อทำร้ายกัน 53 ขอให้พระเจ้าของอับราฮัมและพระเจ้าของนาโฮร์ (พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา) ตัดสินระหว่างเรา”
ยาโคบได้สาบานในนามของผู้ที่อิสอัคพ่อของเขาเกรงกลัว 54 แล้วยาโคบได้ถวายเครื่องบูชาบนภูเขานั้น และเชิญญาติๆของเขามาร่วมกินอาหารกัน พวกเขาก็ได้มากินอาหารกัน และค้างคืนอยู่บนภูเขานั้น 55 ลาบันตื่นแต่เช้าตรู่ และจูบลาหลานๆและลูกสาวทั้งสองคน และเขาก็อวยพรให้กับพวกเขา แล้วลาบันได้เดินทางกลับไปยังบ้านของตน
ยาโคบเตรียมตัวเจอเอซาว
32 ยาโคบไปตามทางของเขา พวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้มาพบเขา 2 เมื่อยาโคบเห็นพวกทูตสวรรค์นั้น เขาพูดว่า “นี่คือค่ายของพระเจ้า”[e] เขาจึงเรียกสถานที่นั้นว่า “มาหะนาอิม”[f]
คนงานแบบที่พระเจ้ายอมรับ
14 ให้เตือนพวกเขาบ่อยๆในเรื่องพวกนี้ และตักเตือนพวกเขาต่อหน้าพระเจ้าว่า อย่าถกเถียงกันในเรื่องคำพูด มันไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะทำลายคนฟังเท่านั้น 15 พยายามเต็มที่ให้เป็นคนที่พระเจ้ารับรอง เป็นคนงานที่ไม่มีอะไรต้องอาย และเป็นคนงานที่สอนถ้อยคำแห่งความจริงของพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง 16 แต่ให้หลีกเลี่ยงจากการพูดคุยที่หยาบช้าและไม่ยำเกรงพระเจ้า เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งไม่ยำเกรงพระเจ้า 17 คำสอนของพวกเขาก็จะลามไปทั่วเหมือนกับมะเร็ง ฮีเมเนอัสและฟีเลทัสก็รวมอยู่ในคนพวกนั้นด้วย 18 สองคนนี้ได้หลงไปจากความจริง เขาพูดว่าการฟื้นขึ้นมาจากความตายสำหรับเรานั้นได้เกิดขึ้นไปแล้ว สองคนนี้ได้ทำลายความเชื่อของบางคนไป 19 อย่างไรก็ตาม รากฐานที่แข็งแกร่งของพระเจ้ายังยืนหยัดอย่างมั่นคง และยังมีข้อความจารึกไว้ว่า “องค์เจ้าชีวิตรู้จักคนเหล่านั้นที่เป็นของพระองค์”(A) และ “ให้คนที่อ้างว่าเป็นคนขององค์เจ้าชีวิต เลิกทำชั่วทุกชนิด”
20 ในบ้านหลังใหญ่ ไม่ได้มีแต่ของใช้ที่ทำจากทองและเงินเท่านั้น แต่ยังมีของใช้ที่ทำจากไม้และดินเหนียวด้วย ของใช้บางอย่างก็ใช้สำหรับงานพิเศษต่างๆและบางอย่างก็ใช้สำหรับงานประจำวัน 21 ดังนั้น ถ้าคนไหนได้ชำระล้างตนเองจากสิ่งที่ชั่วร้ายเหล่านี้แล้ว คนนั้นก็จะเป็นของใช้ที่ใช้สำหรับงานที่พิเศษ เขาจะเป็นคนของพระเจ้า เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของ และพร้อมสำหรับการงานที่ดีทุกอย่าง
22 ให้วิ่งหนีจากราคะตัณหาของคนหนุ่มสาว แต่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้อง เช่นความเชื่อ ความรัก และสันติสุข ร่วมกับคนเหล่านั้นที่ร้องเรียกองค์เจ้าชีวิตด้วยใจที่สะอาดบริสุทธิ์ 23 อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการโต้เถียงที่เหลวไหลและโง่เขลา เพราะคุณก็รู้ว่ามันจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน 24 ส่วนผู้รับใช้ขององค์เจ้าชีวิตต้องไม่ทะเลาะวิวาท แต่ต้องสุภาพกับทุกคน ต้องสอนคนอื่นได้ และต้องอดทน 25 เขาจะต้องสอนคนที่ต่อต้านเขาอย่างใจเย็น ด้วยหวังว่าพระเจ้าจะทำให้คนพวกนี้กลับตัวกลับใจ และได้รู้ถึงความจริง 26 ซึ่งจะช่วยให้พวกนี้ได้สติคืนมา และหลุดพ้นจากกับดักของมารที่จับพวกเขาไว้ให้ทำตามใจของมัน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International