Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 65:1-9

การตัดสินอันยุติธรรมของพระยาห์เวห์ต่ออิสราเอล

65 พระยาห์เวห์ตอบว่า “ตอนนั้น เราพร้อมที่จะให้คนพวกนั้นที่ไม่ได้เรียกหาเรา ได้เข้ามาใกล้เรา
    ตอนนั้นเราพร้อมที่จะให้คนพวกนั้นที่ไม่ได้ตามหาเรา ได้เจอกับเรา
    เราได้พูดกับชนชาติที่ไม่ได้ร้องเรียกเราว่า ‘เราอยู่นี่ เราอยู่นี่’
เราอ้าแขนของเราทั้งวันให้กับชนชาติที่ดื้อรั้น
    ที่ชอบเดินในเส้นทางที่ไม่ดีและชอบตามใจตัวเอง
พวกเขาเป็นชนชาติที่ท้าทายเราต่อหน้าอยู่เรื่อยโดยไปเซ่นไหว้พวกพระเทียมเท็จตามสวน
    และถวายเครื่องหอมบูชาให้กับพระเทียมเท็จเหล่านั้นบนพวกแท่นบูชาที่ทำจากอิฐ
คนพวกนั้นไปนั่งติดต่อกับวิญญาณคนตายท่ามกลางอุโมงค์ฝังศพและไปค้างคืนตามถ้ำเก็บศพต่างๆ
    พวกเขากินเนื้อหมูและมีน้ำแกงที่ทำจากสัตว์ต้องห้ามอยู่ในหม้อของพวกเขา
พวกเขาพูดว่า ‘อยู่ห่างๆ
    อย่าเข้ามาใกล้ข้าเพราะข้าศักดิ์สิทธิ์เกินไปสำหรับเจ้า’
คนอย่างนี้เป็นเหมือนควันในจมูกของเรา
    เป็นเหมือนไฟที่ไหม้อยู่ทั้งวัน
ดูสิ บาปของพวกเขาถูกบันทึกไว้ต่อหน้าเรา
    เราจะไม่อยู่นิ่งเฉยแต่เราจะตอบแทนอย่างเต็มที่
    เราจะเทค่าตอบแทนลงบนตักของพวกเขา
สำหรับทั้งความบาปของพวกเขาและความบาปของบรรพบุรุษของพวกเขา” พระยาห์เวห์ว่าอย่างนั้น
    เราจะตวงค่าตอบแทนของพวกเขาแล้วเทมันลงไปบนตักของพวกเขา
เพราะพวกเขาได้เผาเครื่องหอมบนพวกภูเขา
    และหมิ่นประมาทเราบนพวกเนินเขา
พระยาห์เวห์พูดว่า “เมื่อคนคั้นองุ่นยังเห็นว่ายังมีน้ำองุ่นเหลืออยู่ในพวงองุ่น
    พวกเขาก็จะพูดว่า ‘อย่าเพิ่งทำลายมัน เพราะยังมีน้ำองุ่นเหลืออยู่’
เช่นเดียวกัน เราก็จะไม่ทำลายประชาชนพวกนี้จนราบคาบ
    เพราะยังมีพวกผู้รับใช้ของเราเหลืออยู่ในนั้น
เราจะให้ลูกหลานกับยาโคบ ให้ทายาทกับยูดาห์
    ผู้ที่จะรับภูเขาทั้งหลายของเราเป็นมรดก
พวกที่เราเลือกมาจะได้รับแผ่นดินนี้เป็นมรดก
    พวกผู้รับใช้ของเราจะได้ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น

สดุดี 22:19-28

19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้อยู่ห่างไกลข้าพเจ้า
    พระองค์ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า รีบมาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด
20 ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคมดาบ
    ช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีอยู่จากฝูงหมาพวกนั้นด้วยเถิด
21 ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากปากสิงโต
    พ้นจากคมเขาของฝูงวัวกระทิงเปลี่ยวด้วยเถิด พระองค์ได้ตอบข้าพเจ้าแล้ว

22 ดังนั้นข้าพเจ้าจะบอกพี่น้องของข้าพเจ้าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
23 พวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ ถวายเกียรติให้กับพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล ยำเกรงพระองค์เถิด
24 เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้
    พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า

25 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
    ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
26 คนยากจนทั้งหลาย มาเถิด มากินเครื่องบูชาแก้บนเหล่านั้นให้อิ่มหนำสำราญ
    พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    และขอให้จิตใจของพวกเจ้ามีความสุขตลอดไป
27 ขอให้คนทั่วทุกมุมโลก ระลึกถึงพระยาห์เวห์และหันมาหาพระองค์
    ขอให้คนทุกชาติ ก้มกราบนมัสการต่อหน้าพระองค์
28 เพราะพระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
    และครอบครองอยู่เหนือชนชาติทั้งหลาย

กาลาเทีย 3:23-29

23 ก่อนที่ความซื่อสัตย์นั้นจะมาถึง เราได้ถูกขังไว้อย่างนักโทษภายใต้กฎ จนกว่าพระเจ้าจะแสดงความซื่อสัตย์นั้นให้เห็น 24 กฎก็เลยเป็นเหมือนพี่เลี้ยง[a] จนกว่าพระคริสต์จะมาถึง เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ยอมรับเราเพราะเราไว้วางใจ 25 ตอนนี้ความซื่อสัตย์นั้นได้มาถึงแล้ว เราก็เลยไม่ต้องมีพี่เลี้ยงอีกต่อไป

26 พวกคุณทุกคนเป็นลูกของพระเจ้า เพราะความไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ 27 เพราะพวกคุณทุกคนที่ได้เข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อมีส่วนในพระคริสต์ ก็ได้สวมใส่พระคริสต์ เหมือนกับใส่เสื้อผ้า 28 ไม่มีคนยิวหรือคนกรีก ไม่มีทาสหรือคนอิสระ ไม่มีชายหรือหญิง เพราะพวกคุณทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในพระเยซูคริสต์ 29 ถ้าคุณเป็นของพระคริสต์แล้ว คุณก็เป็นลูกหลานแท้ๆของอับราฮัม และเป็นผู้รับมรดกตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้กับอับราฮัม

ลูกา 8:26-39

ชายที่ถูกผีชั่วสิง

(มธ. 8:28-34; มก. 5:1-20)

26 พวกเขาแล่นเรือข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบกาลิลีถึงเขตแดนของชาวเกราซา[a] 27 เมื่อพระเยซูขึ้นมาบนฝั่ง ก็เจอชายคนหนึ่งที่มาจากเมืองนั้น เขาถูกผีชั่วสิงอยู่ เขาแก้ผ้าและไม่ได้อยู่บ้านมานานแล้ว แต่อยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ 28 เมื่อเขาเห็นพระเยซู ก็ล้มลงต่อหน้าพระองค์และร้องตะโกนสุดเสียงว่า “เยซู บุตรของพระเจ้าสูงสุด มายุ่งกับข้าทำไม ขอร้องละอย่าได้ทรมานข้าเลย” 29 ที่มันพูดอย่างนี้ ก็เพราะพระเยซูสั่งให้มันออกจากร่างของชายคนนั้น มันชอบเข้าสิงชายคนนี้อยู่เรื่อย ขนาดเอาโซ่ล่ามมือและเท้าทั้งสองข้างและคุมขังเอาไว้ เขาก็ยังทำลายโซ่ตรวนเหล่านั้นได้ และผีชั่วก็บังคับให้ชายคนนี้เข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง

30 พระเยซูถามมันว่า “เอ็งชื่ออะไร” มันตอบว่า “ชื่อกอง”[b] ที่มันตอบอย่างนี้ ก็เพราะมีพวกมันหลายตนสิงอยู่ในชายคนนี้

31 พวกมันต่างก็อ้อนวอนพระเยซูไม่ให้ส่งพวกมันไปลงนรกอเวจี[c] 32 มีหมูฝูงใหญ่ถูกปล่อยให้หากินอยู่ตามไหล่เขาแถวๆนั้น พวกผีชั่วจึงขอร้องพระเยซู ให้พวกมันเข้าไปสิงอยู่ในหมูฝูงนั้นแทน พระเยซูก็ยอม 33 พวกมันจึงพากันออกจากร่างชายคนนี้ และเข้าไปสิงหมูฝูงนั้นแทน หมูทั้งฝูงก็พากันวิ่งกรูกันจากไหล่เขาสูงชันลงสู่ทะเลสาบ จมน้ำตายหมด

34 เมื่อคนเลี้ยงหมูเห็นอย่างนั้น ก็พากันวิ่งไปและเล่าเรื่องนี้ไปทั่วทั้งในเมืองและในชนบท 35 ชาวบ้านก็แห่กันออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขามาหาพระเยซู และได้พบกับชายคนที่ผีชั่วออกไปจากเขาแล้ว นั่งอยู่ที่เท้าของพระเยซู สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยและสงบสติดี พวกเขาก็กลัวมาก 36 ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์ก็เล่าว่าชายที่ถูกผีสิงคนนี้หายได้ยังไง 37 ทุกคนที่อยู่แถวๆนั้นขอร้องให้พระเยซูไปจากเขตแดนของพวกเขา เพราะพวกเขากลัวกันมาก พระเยซูก็เลยลงเรือจากไป 38 ชายคนที่เคยถูกผีชั่วสิงขอตามพระองค์ไปด้วย แต่พระองค์ส่งเขากลับบอกว่า 39 “กลับบ้านไปเถอะ แล้วไปเล่าให้ทุกคนฟังว่าพระเจ้าได้ทำอะไรให้กับคุณบ้าง” ชายคนนั้นก็กลับไป และเล่าเรื่องทุกอย่างที่พระเยซูทำให้กับเขาไปทั่วทั้งเมือง

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International