Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Complementary)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with thematically matched Old and New Testament readings.
Duration: 1245 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
อาโมส 7:7-15

พระองค์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าดังนี้คือ องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับยืนอยู่ข้างกำแพงที่สร้างขึ้นโดยใช้สายดิ่งวัด และมีสายดิ่งอยู่ในพระหัตถ์ และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามข้าพเจ้าว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร?”

ข้าพเจ้าทูลว่า “สายดิ่งพระเจ้าข้า”

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เรากำลังจะวางสายดิ่งในหมู่ประชากรอิสราเอลของเรา เราจะไม่ละเว้นพวกเขาอีกต่อไป

“บรรดาสถานบูชาบนที่สูงของอิสอัคจะถูกทำลายล้าง
และสถานนมัสการต่างๆ ของอิสราเอลจะถูกทำลาย
เราจะลุกขึ้นต่อสู้พงศ์พันธุ์ของเยโรโบอัมด้วยดาบของเรา”

อาโมสกับอามาซิยาห์

10 แล้วอามาซิยาห์ปุโรหิตแห่งเบธเอลได้แจ้งข่าวต่อกษัตริย์เยโรโบอัมแห่งอิสราเอลว่า “อาโมสกำลังคบคิดวางแผนร้ายต่อพระองค์ที่ใจกลางอิสราเอลนี้เอง ถ้อยคำของเขาบ่อนทำลายชาติ 11 เพราะอาโมสพูดว่า

“ ‘เยโรโบอัมจะตายด้วยดาบ
และอิสราเอลจะตกเป็นเชลยอย่างแน่นอน
ต้องไปจากบ้านเกิดเมืองนอน’ ”

12 แล้วอามาซิยาห์กล่าวกับอาโมสว่า “ออกไปนะเจ้านักทำนาย! กลับไปแผ่นดินยูดาห์เสีย ไปทำมาหากินและเผยพระวจนะที่นั่น 13 ไม่ต้องเผยพระวจนะที่เบธเอลนี้อีก เพราะที่นี่เป็นสถานนมัสการของกษัตริย์และเป็นวิหารของอาณาจักร”

14 อาโมสตอบอามาซิยาห์ว่า “เมื่อก่อนข้าพเจ้าไม่ได้เป็นผู้เผยพระวจนะหรือเป็นลูกของผู้เผยพระวจนะ ข้าพเจ้าเป็นคนเลี้ยงแกะและดูแลสวนมะเดื่อ 15 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพาข้าพเจ้ามาจากงานเลี้ยงแกะ และตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า ‘จงไปเผยพระวจนะแก่อิสราเอลประชากรของเรา’

สดุดี 85:8-13

ข้าพเจ้าจะฟังสิ่งที่พระเจ้าพระยาห์เวห์จะตรัส
พระองค์ทรงสัญญาว่าจะประทานสันติสุขแก่ประชากรผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์
แต่อย่าให้พวกเขาหวนกลับไปหาความโง่เขลาอีก
แน่ทีเดียว ความรอดของพระองค์อยู่ใกล้บรรดาผู้ที่ยำเกรงพระองค์
เพื่อพระเกียรติสิริของพระองค์จะดำรงอยู่ในแผ่นดินของเรา

10 ความรักและความซื่อสัตย์มาพบกัน
ความชอบธรรมและสันติสุขมาจุมพิตกัน
11 ความซื่อสัตย์พุ่งขึ้นจากแผ่นดินโลก
และความชอบธรรมมองลงมาจากฟ้าสวรรค์
12 แท้จริงแล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานสิ่งที่ดี
แผ่นดินของเราจะให้พืชผลอุดม
13 ความชอบธรรมนำหน้าพระองค์
เพื่อเตรียมทางสำหรับย่างพระบาทของพระองค์

เอเฟซัส 1:3-14

พระพรฝ่ายจิตวิญญาณในพระคริสต์

สรรเสริญพระเจ้าพระบิดาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ผู้ประทานพระพรฝ่ายจิตวิญญาณนานัปการในพระคริสต์แก่เราทั้งหลายในสวรรคสถาน เพราะพระองค์ได้ทรงเลือกเราไว้ในพระคริสต์[a]ตั้งแต่ก่อนทรงสร้างโลกให้บริสุทธิ์ปราศจากที่ติในสายพระเนตรพระองค์ ด้วยความรัก พระองค์[b]ทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าที่จะรับเราเป็นบุตรของพระองค์ผ่านทางพระเยซูคริสต์ตามพระประสงค์อันดีของพระองค์ เพื่อเป็นการสรรเสริญพระคุณสูงส่งซึ่งพระองค์ประทานให้เราเปล่าๆ อย่างเหลือล้นในพระองค์ผู้ทรงเป็นที่รักของพระเจ้า ในพระเยซู เราได้รับการไถ่บาปโดยพระโลหิตของพระองค์ คือได้รับการอภัยโทษบาปตามพระคุณอันอุดมของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่เราอย่างเหลือล้นด้วยสติปัญญาและความเข้าใจทั้งปวง และพระองค์[c]ทรงให้เรารู้ความล้ำลึกแห่งพระดำริของพระองค์ตามที่พอพระทัยซึ่งทรงมุ่งหมายไว้ในพระคริสต์ 10 พระดำริของพระองค์ก็คือ เมื่อถึงกำหนดเวลา พระองค์จะทรงรวมสิ่งสารพัดทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลกไว้ภายใต้พระคริสต์ผู้ทรงเป็นศีรษะ

11 ในพระองค์ เรายังได้รับการทรงเลือก[d] ตามที่ทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าตามแผนการของพระองค์ผู้ทรงกระทำให้ทุกสิ่งเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของพระประสงค์ของพระองค์ 12 เพื่อเราทั้งหลายซึ่งเป็นพวกแรกที่มีความหวังในพระคริสต์จะได้สรรเสริญพระเกียรติสิริของพระองค์ 13 และท่านทั้งหลายก็ได้ร่วมอยู่ในพระคริสต์เช่นกัน เมื่อท่านได้ฟังพระวจนะแห่งความจริงคือข่าวประเสริฐแห่งความรอดของท่าน เมื่อท่านเชื่อก็ทรงประทับตราท่านไว้ในพระองค์ด้วยดวงตราคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงสัญญาไว้ 14 ผู้เป็นมัดจำค้ำประกันว่าเราจะได้รับกรรมสิทธิ์ของเราจนกว่าคนของพระเจ้าจะได้รับการไถ่ อันเป็นการสรรเสริญพระเกียรติสิริของพระองค์

มาระโก 6:14-29

ยอห์นผู้ให้บัพติศมาถูกประหาร(A)

14 กษัตริย์เฮโรดได้ยินเรื่องของพระเยซูเพราะชื่อเสียงของพระองค์เลื่องลือไปทั่ว บางคนพูดว่า[a]พระเยซูคือยอห์นผู้ให้บัพติศมาซึ่งเป็นขึ้นจากตาย ดังนั้นเขาจึงมีฤทธิ์อำนาจทำการอัศจรรย์ต่างๆ ได้

15 บางคนก็ว่า “เขาคือเอลียาห์” และยังมีคนอื่นๆ ที่อ้างว่า “เขาคือผู้เผยพระวจนะเหมือนเหล่าผู้เผยพระวจนะในอดีต”

16 แต่เมื่อเฮโรดได้ยินก็กล่าวว่า “นี่คือยอห์นที่เราสั่งให้ตัดศีรษะไป เขาเป็นขึ้นจากตายแล้ว!”

17 เพราะเฮโรดเองสั่งให้จับยอห์นมาล่ามโซ่ขังไว้ในคุกด้วยสาเหตุจากนางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตนซึ่งเฮโรดได้นางมาเป็นภรรยา 18 เนื่องจากยอห์นเคยพูดกับเฮโรดว่า “ท่านทำผิดบัญญัติที่เอาน้องสะใภ้มาเป็นภรรยา” 19 ดังนั้นนางเฮโรเดียสจึงอาฆาตยอห์นและอยากจะฆ่าเขาแต่ก็ทำไม่ได้ 20 เพราะเฮโรดยำเกรงยอห์นและคอยปกป้องเขาเพราะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชอบธรรมและบริสุทธิ์ เมื่อเฮโรดได้ฟังยอห์นพูดก็งุนงงสงสัยยิ่งนัก[b]แต่ก็ยังอยากฟัง

21 ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ในงานฉลองวันเกิดเฮโรดจัดงานเลี้ยงขุนนาง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และบรรดาคนสำคัญๆ ในแคว้นกาลิลี 22 เมื่อบุตรีของนางเฮโรเดียสออกมาเต้นรำก็เป็นที่ถูกใจเฮโรดกับแขกเหรื่อยิ่งนัก

กษัตริย์จึงกล่าวกับหญิงสาวนั้นว่า “จงขอสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วเราจะให้ตามที่เจ้าขอ” 23 และสัญญาโดยปฏิญาณว่า “ไม่ว่าเจ้าจะขออะไร เราก็จะให้ทั้งนั้นจนถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักร”

24 นางจึงออกไปถามมารดาว่า “ลูกจะขออะไรดี?”

มารดาบอกว่า “ขอศีรษะยอห์นผู้ให้บัพติศมาสิ”

25 นางรีบมาทูลกษัตริย์ทันทีว่า “ขอศีรษะของยอห์นผู้ให้บัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เดี๋ยวนี้เถิด”

26 กษัตริย์เฮโรดเป็นทุกข์ยิ่งนักแต่ก็ขัดไม่ได้เพราะได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่หน้าแขกเหรื่อ 27 จึงบัญชาในทันทีทันใดให้เพชฌฆาตนำศีรษะของยอห์นมา เขาก็ไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก 28 แล้วนำศีรษะใส่ถาดมาให้หญิงนั้นและนางเอาไปให้มารดา 29 เมื่อศิษย์ของยอห์นทราบข่าวจึงมารับศพเขาไปฝังในอุโมงค์

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.