Revised Common Lectionary (Complementary)
(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนอง “ลิลลี่แห่งพันธสัญญา” บทสดุดีของอาสาฟ)
80 ข้าแต่พระผู้เลี้ยงของอิสราเอล ขอทรงสดับฟัง
พระองค์ผู้ทรงนำโยเซฟอย่างนำฝูงแกะ
พระองค์ผู้ทรงประทับเหนือเครูบ ขอทรงสำแดงพระเกียรติสิริของพระองค์
2 ต่อหน้าเอฟราอิม เบนยามิน และมนัสเสห์
ขอทรงสำแดงพระเดชานุภาพ
มาช่วยข้าพระองค์ทั้งหลาย
3 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายคืนสู่สภาพดี
ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้รับการช่วยให้รอด
4 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
พระพิโรธของพระองค์จะคุกรุ่น
ต่อคำอธิษฐานของเหล่าประชากรของพระองค์ไปอีกนานเท่าใด?
5 พระองค์ทรงให้พวกเขากินน้ำตาต่างอาหาร
ทรงให้พวกเขาดื่มน้ำตาเต็มอิ่ม
6 พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นที่ดูหมิ่นของบรรดาเพื่อนบ้าน
และเหล่าศัตรูเย้ยหยันเรา
7 ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายคืนสู่สภาพดี
ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้รับการช่วยให้รอด
17 ขอให้พระหัตถ์ของพระองค์อยู่เหนือผู้นั้นที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์
ผู้เป็นบุตรมนุษย์ที่พระองค์ทรงเชิดชูขึ้นเพื่อพระองค์เอง
18 แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่หันหนีจากพระองค์อีก
ขอทรงฟื้นฟูข้าพระองค์ทั้งหลายและข้าพระองค์ทั้งหลายจะร้องทูลออกพระนามของพระองค์
19 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ขอทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายคืนสู่สภาพดี
ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้รับการช่วยให้รอด
แผนการของมนุษย์และแผนงานของพระเจ้า
2 วิบัติแก่บรรดาผู้ที่วางแผนชั่วร้าย
บรรดาผู้ที่คิดอุบายชั่วร้ายขณะนอนอยู่บนเตียง!
ครั้นรุ่งเช้าก็ดำเนินการตามแผนนั้น
เพราะอยู่ในอำนาจที่เขาจะทำได้
2 เขาโลภอยากได้ที่ดินก็ยึดเอา
อยากได้บ้านก็ริบไป
เขาโกงบ้าน
โกงมรดกของเพื่อนมนุษย์
3 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า
“เรากำลังวางแผนนำภัยพิบัติมาให้แก่คนพวกนี้
ซึ่งพวกเจ้าไม่มีทางเอาตัวรอดไปได้เลย
พวกเจ้าจะไม่เดินอย่างหยิ่งทะนงอีกต่อไป
เพราะมันจะเป็นวาระแห่งความพินาศ
4 ในวันนั้นผู้คนจะเยาะเย้ยพวกเจ้า
เขาจะถากถางพวกเจ้าด้วยเพลงโศกบทนี้ว่า
‘เราย่อยยับป่นปี้
ข้าวของในกรรมสิทธิ์ของพี่น้องร่วมชาติถูกยึดไปแบ่งกัน
พระองค์ทรงริบไปจากเราแล้ว!
พระองค์ทรงมอบที่ดินของเราให้แก่บรรดาคนทรยศ’ ”
5 ฉะนั้นพวกเจ้าจะไม่มีใครสักคนในชุมชนขององค์พระผู้เป็นเจ้า
มาจับสลากแบ่งดินแดน
ผู้เผยพระวจนะเท็จ
6 บรรดาผู้เผยพระวจนะของเขากล่าวว่า
“อย่าเผยพระวจนะ
อย่าพยากรณ์เรื่องเหล่านี้
ความอัปยศอดสูจะมาไม่ถึงเรา”
7 พงศ์พันธุ์ยาโคบเอ๋ย ควรหรือที่จะพูดกันว่า
“พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้ากริ้วหรือ?
พระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้หรือ?”
“ถ้อยคำของเราไม่ได้เป็นผลดี
แก่บรรดาผู้ประพฤติอย่างชอบธรรมหรือ?
8 เมื่อไม่นานมานี้ประชากรของเราได้ลุกขึ้น
เหมือนเป็นศัตรู
พวกเจ้าริบเอาเสื้อคลุมอย่างดี
จากผู้ที่ผ่านไปโดยไม่ระมัดระวัง
เหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากการรบ
9 พวกเจ้าขับไล่ผู้หญิงในหมู่ประชากรให้ออกไป
จากบ้านอันผาสุกของเขา
พวกเจ้าริบพรของเราไป
จากลูกหลานของเขาตลอดกาล
10 ลุกขึ้น ไปให้พ้น!
เพราะนี่ไม่ใช่ที่พักของพวกเจ้า
เนื่องจากมันเป็นมลทิน
มันพังทลายเกินกว่าจะแก้ไข
11 หากคนโกหกและคนหลอกลวงมาพูดว่า
‘ข้าพเจ้าจะพยากรณ์ว่าท่านจะมีเหล้าองุ่นและเบียร์เหลือเฟือ’
เขาก็จะเป็นผู้พยากรณ์ที่ชนชาตินี้ต้องการ!
ทรงสัญญาจะช่วยกอบกู้
12 “ยาโคบเอ๋ย เราจะรวบรวมเจ้าทั้งหมดอย่างแน่นอน
เราจะรวบรวมชนหยิบมือที่เหลือของอิสราเอลกลับคืนมาอย่างแน่นอน
เราจะพาพวกเขามาเหมือนแกะในคอก
เหมือนฝูงสัตว์ในทุ่งหญ้า
ที่นั่นจะคลาคล่ำด้วยผู้คน
13 ผู้เบิกทางจะขึ้นหน้านำเขาไป
พวกเขาจะผ่านออกไปทางประตู
กษัตริย์ของเขาจะเสด็จขึ้นหน้าพวกเขา
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำหน้าพวกเขาไป”
15 “ฉะนั้นเมื่อท่านเห็น ‘สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอันเป็นต้นเหตุของวิบัติ’[a]ในสถานบริสุทธิ์ดังที่ได้ตรัสไว้ผ่านทางผู้เผยพระวจนะดาเนียล (ให้ผู้อ่านทำความเข้าใจเอาเถิด) 16 แล้วให้ผู้ที่อยู่ในยูเดียหนีไปที่ภูเขา 17 ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าหลังคาบ้านของตน อย่าลงมาหยิบสิ่งใดออกจากบ้าน 18 ผู้ที่อยู่ตามทุ่งนา อย่ากลับมาเอาเสื้อคลุม 19 วันเหล่านั้นน่าหวาดกลัวยิ่งนักสำหรับหญิงมีครรภ์และแม่ลูกอ่อน 20 จงอธิษฐานเพื่อการหนีของท่านจะไม่เกิดในฤดูหนาวหรือในวันสะบาโต 21 เพราะครั้งนั้นจะเกิดความทุกข์เข็ญครั้งใหญ่ ไม่มีครั้งไหนๆ เทียบเท่านับตั้งแต่เริ่มมีโลกจนถึงบัดนี้ และจะไม่มีครั้งใดเทียบเท่าอีกแล้ว 22 ถ้าไม่ได้ทรงร่นวันเหล่านั้นให้สั้นเข้าจะไม่มีใครเหลือรอดเลย แต่เพราะเห็นแก่ผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้จะทรงทำให้วันเหล่านั้นสั้นลง 23 ในเวลานั้นหากมีใครมาบอกท่านว่า ‘ดูเถิด พระคริสต์อยู่ที่นี่!’ หรือ ‘พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น!’ อย่าไปเชื่อเลย 24 เพราะพระคริสต์ปลอมและผู้เผยพระวจนะเท็จจะปรากฏขึ้นและแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เพื่อลวงแม้กระทั่งผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้ถ้าเป็นไปได้ 25 ดูเถิด เราบอกท่านไว้ล่วงหน้าแล้ว
26 “ฉะนั้นหากใครมาบอกท่านว่า ‘ผู้นั้นอยู่ที่นั่นในถิ่นกันดาร’ อย่าออกไปเลย หรือบอกว่า ‘ผู้นั้นอยู่ที่นี่ในห้องชั้นใน’ อย่าเชื่อเลย 27 เพราะฟ้าแลบซึ่งมาจากตะวันออกมองเห็นได้แม้กระทั่งที่ตะวันตกฉันใด การมาของบุตรมนุษย์ก็ฉันนั้น 28 ซากศพอยู่ที่ไหน แร้งกาจะออกันอยู่ที่นั่น
29 “ในทันทีทันใด หลังจากวันแห่งความทุกข์ลำเค็ญเหล่านี้
“ ‘ดวงอาทิตย์จะมืดมิด
ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง
ดวงดาวทั้งหลายจะร่วงจากท้องฟ้า
และฟ้าสวรรค์จะถูกเขย่า’[b]
30 “เมื่อนั้นหมายสำคัญของบุตรมนุษย์จะปรากฏขึ้นในท้องฟ้าและมวลประชาชาติแห่งพื้นพิภพจะร้องไห้คร่ำครวญ พวกเขาจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาบนหมู่เมฆในท้องฟ้าด้วยเดชานุภาพและพระเกียรติสิริอันยิ่งใหญ่ 31 พระองค์จะทรงส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มาพร้อมกับเสียงแตรดังสนั่น ทูตสวรรค์นั้นจะรวบรวมผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้จากทั้งสี่ทิศ จากสุดขอบฟ้าข้างหนึ่งจดขอบฟ้าอีกข้างหนึ่ง
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.