Old/New Testament
เมืองไทระ ประตูสู่ทะเล
27 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้ร้องเพลงไว้อาลัยสำหรับเมืองไทระ
3 ให้พูดกับเมืองไทระที่ตั้งอยู่ที่ทางออกสู่ทะเลและเป็นเมืองค้าขายของชนชาติต่างๆตามชายฝั่งทะเลทั้งหลายว่า
‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
ไทระเอ๋ย เจ้าพูดว่า
“ฉันงามหมดจด”
4 พรมแดนของเจ้าอยู่ที่กลางทะเล
ช่างก่อสร้างได้สร้างเจ้าให้มีความงามหมดจด
5 พวกเขาเอาไม้สนที่มาจากเสนีร์[a]
มาสร้างเป็นแผ่นกระดานของเจ้า
พวกเขาเอาไม้สนซีดาร์มาจากเลบานอน
มาสร้างเสากระโดงเรือของเจ้า
6 พวกเขาเอาไม้โอ๊กมาจากบาชาน
มาสร้างกรรเชียงของเจ้า
พวกเขาใช้ไม้สนที่มาจากชายฝั่งไซปรัส
มาสร้างดาดฟ้าเรือของเจ้าและฝังด้วยงาช้าง
7 พวกเขาเอาผ้าลินินที่เย็บอย่างสวยงามจากประเทศอียิปต์มาทำใบเรือของเจ้า
และใบเรือนั้นได้ใช้เป็นธงสำหรับเจ้า
กันสาดของเจ้าที่มาจากชายฝั่งเอลีชาห์เป็นสีน้ำเงินและสีม่วง
8 ผู้คนจากไซดอนและอารวัดเป็นคนพายเรือให้เจ้า
ไทระเอ๋ย ต้นหนที่มีความชำนาญทั้งหลายต่างอยู่บนเรือของเจ้า
9 มีช่างผู้ใหญ่ที่ชำนาญงานของเกบาล[b] อยู่บนเรือของเจ้า
พวกเขาคอยชันยาอุดรอยรั่วของเรือ
เรือทุกลำในทะเลและกะลาสีเรือทุกคน
ต่างมาที่นี่เพื่อซื้อขายสินค้ากับเจ้า
10 ชาวเปอร์เซีย ชาวลูดและชาวพูตก็เป็นทหารรับใช้อยู่ในกองทัพของเจ้า
พวกเขาแขวนโล่กับหมวกเหล็กเอาไว้บนกำแพงของเจ้าทำให้เจ้าดูงดงาม
11 ชาวอารวัดและชาวเฮเลคเดินไปเดินมาอยู่บนกำแพงทุกด้านของเจ้า
ชาวกามัดอยู่ตามหอคอยของเจ้า พวกเขาแขวนโล่ไว้รอบๆกำแพงของเจ้า
พวกเขาทำให้เจ้างามหมดจด
12 ทารชิช ไปมาค้าขายกับเจ้า เพราะเจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล
พวกเขาเอาเงิน เหล็ก ดีบุกและตะกั่วมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 13 ประเทศกรีซ
ทูบัลและเมเชคได้มาค้าขายกับเจ้า
พวกเขาเอาทาสและข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากทองสัมฤทธิ์มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
14 ชาวเบธโทการมาห์[c] เอาม้าใช้งาน ม้าศึกและล่อมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
15 ชาวโรเดส[d] มาค้าขายกับเจ้า และเมืองตามชายฝั่งทะเลต่างก็เป็นลูกค้าของเจ้า
พวกเขาเอางาช้างกับไม้มะเกลือมาจ่ายเป็นค่าสินค้าให้กับเจ้า
16 ชาวอารัม[e] มาทำการค้ากับเจ้า เป็นเพราะเจ้ามีสินค้ามากมายมหาศาล
พวกเขาเอาพลอยสีน้ำเงินอมเขียว ผ้าสีม่วง ผ้าปักลาย ผ้าลินินอย่างดี ปะการัง และทับทิมมาแลกกับสินค้าของเจ้า
17 ยูดาห์กับอิสราเอลก็มาค้าขายกับเจ้า
พวกเขาเอาข้าวสาลีจากเมืองมินนิทและขนมหวาน[f] น้ำเชื่อมผลไม้ น้ำมันและยาสมุนไพร มาแลกกับสินค้าของเจ้า
18 ชาวดามัสกัสมาค้าขายกับเจ้าด้วย เขาเอาเหล้าองุ่นจากเมืองเฮลโบน และขนแกะจากเมืองซาฮาห์มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
เป็นเพราะเจ้ามีสินค้ามากมายมหาศาล
19 ชาวดานและชาวกรีกจากเมืองอุซาลได้ค้าขายกับเจ้า พวกเขาเอาเหล็กหล่อ เครื่องเทศ และอ้อยมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 20 เมืองเดดานค้าขายผ้ารองอานกับเจ้า
21 ชาวอาระเบียและบรรดาเจ้าชายทั้งหลายแห่งเมืองเคดาร์ก็เป็นลูกค้าของเจ้า
พวกเขาเอาลูกแกะ แกะตัวผู้และแพะมาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า
22 พวกพ่อค้าของเชบาและราอามาห์ก็ค้าขายกับเจ้า
พวกเขาเอาเครื่องเทศชั้นเยี่ยมนานาชนิด พลอยมีค่าต่างๆและทองคำ มาแลกเปลี่ยนกับสินค้าของเจ้า 23 เมืองฮาราน คานเนห์และเอเดน รวมทั้งพ่อค้าของเชบา และของเมืองอัสชูรและคิลมาด ก็ค้าขายกับเจ้า
24 ในตลาดของเจ้า พวกเขาค้าขายเครื่องนุ่งห่มที่สวยงาม ผ้าสีน้ำเงิน งานเย็บปักและพรมหลายหลากสี ที่มีเชือกมัดขมวดเป็นปมไว้อย่างแน่นหนา
25 กองเรือของทารชิชทำหน้าที่ขนสินค้าให้กับเจ้า
ไทระเอ๋ย เจ้าเป็นเหมือนเรือ
ที่เต็มไปด้วยสินค้าจนหนักอึ้งอยู่ใจกลางทะเล
26 ฝีพายของเจ้าพาเจ้าออกไปในทะเลลึก
แต่ลมตะวันออกทำให้เจ้าอับปางที่ใจกลางทะเลนั้น
27 ความร่ำรวยของเจ้า สินค้า และของนำเข้าของเจ้า
พวกลูกเรือ ต้นหน และช่างต่อเรือของเจ้า
พ่อค้าของเจ้ากับทหารทั้งหมดและคนอื่นๆทุกคนบนเรือ
จะจมดิ่งลงใจกลางทะเลในวันที่เจ้าถูกทำลายนั้น
28 เมืองตามชายฝั่งจะสั่นไหว
เมื่อต้นหนของเจ้าร้องตะโกนออกมา
29 ฝีพายที่พายเรือลำอื่นๆอยู่จะสละเรือ
ทั้งลูกเรือและต้นหนจะไปยืนอยู่บนชายฝั่ง
30 พวกเขาจะตะโกนออกมาและร้องไห้อย่างขมขื่นสำหรับเจ้า
พวกเขาจะโปรยดินลงบนหัวและเกลือกกลิ้งในกองขี้เถ้า
31 พวกเขาจะโกนผมออกให้กับเจ้า
และจะสวมเสื้อผ้ากระสอบ
พวกเขาจะร้องไห้ให้กับเจ้าด้วยวิญญาณที่เจ็บปวดรวดร้าว
และด้วยความเศร้าอันขมขื่น
32 ในขณะที่พวกเขาร้องคร่ำครวญให้กับเจ้า พวกเขาจะร้องเพลงไว้อาลัยสำหรับตัวเจ้าว่า
เคยมีใครเป็นเหมือนเมืองไทระบ้าง
ตอนที่เธอเงียบจมหายไปในทะเล
33 เจ้าเคยทำให้ชนชาติต่างๆพึงพอใจเมื่อสินค้าของเจ้าออกสู่ทะเล
เจ้าเคยทำให้กษัตริย์ทั้งหลายในโลกร่ำรวยด้วยทรัพย์สินอันมหาศาลและสินค้ามากมายของเจ้า
34 แต่ตอนนี้ ทะเลได้ทำให้เจ้าแตกอับปางในทะเลลึก
ทั้งสินค้าและลูกเรือทั้งหมดของเจ้าต่างจมลงไปกับเจ้าด้วย
35 ทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองตามชายฝั่งต่างรู้สึกหวาดกลัวเพราะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า
กษัตริย์ทั้งหลายในเมืองเหล่านี้ต่างก็สะดุ้งตกใจ
และใบหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยวด้วยความกลัว
36 พวกพ่อค้าที่อยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลายผิวปากด้วยความตะลึงงัน
เจ้าได้มาถึงจุดจบอันน่าสะพรึงกลัวและจะไม่มีเจ้าอีกต่อไป’”
ผู้ครอบครองเมืองไทระคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า
28 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับผู้ครอบครองเมืองไทระว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
เจ้าพูดด้วยความหยิ่งผยองว่า
“ข้าเป็นพระเจ้า
ข้านั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระเจ้า
ที่ใจกลางของทะเล”
แต่เจ้าเป็นแค่มนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า
ถึงแม้เจ้าจะคิดว่าเจ้าฉลาดเท่าพระเจ้าก็ตาม
3 เจ้าฉลาดกว่าดาเนียลหรือ
ไม่มีความลับอะไรที่ซ่อนไปจากเจ้าได้เลยหรือ
4 สติปัญญาและความเข้าใจของเจ้าทำให้เจ้าได้ความร่ำรวยมา
และทำให้เจ้ารวบรวมทองคำและเงินไว้ในคลังของเจ้าได้
5 ความชำนาญอย่างยิ่งยวดในด้านการค้าของเจ้าได้เพิ่มพูนทรัพย์สมบัติให้กับเจ้า
และทรัพย์สมบัติของเจ้านั่นเองทำให้จิตใจของเจ้าลำพอง
6 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เจ้าคิดว่าตัวเองฉลาดเท่าพระเจ้า”
7 ดังนั้น เรากำลังจะนำชาวต่างชาติมาต่อต้านเจ้า
เป็นชนชาติที่โหดร้ายที่สุด
พวกเขาจะชักดาบของพวกเขาเพื่อทำลายของสวยงามทั้งหลายที่เจ้าได้มาด้วยสติปัญญาของเจ้า
และทำให้สง่าราศีอันรุ่งโรจน์ของเจ้าเสื่อมไป
8 พวกเขาจะนำเจ้าให้ลงไปอยู่ในหลุม
และเจ้าจะตายอย่างโหดเหี้ยมกลางทะเล
9 ตอนที่เจ้าอยู่ต่อหน้าพวกที่จะฆ่าฟันเจ้า
เจ้ายังจะพูดว่า “ข้าเป็นพระเจ้า” หรือ
เมื่อเจ้าตกอยู่ในกำมือของคนที่จะแทงเจ้า
เจ้าจะเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่พระเจ้า
10 เจ้าจะตายอย่างคนที่ยังไม่ได้ขลิบด้วยน้ำมือของคนต่างชาติ
เราได้ลั่นคำพูดออกไปแล้ว’”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
บทเพลงไว้อาลัยให้กับกษัตริย์ไทระ
11 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 12 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้ร้องเพลงไว้อาลัยให้กับกษัตริย์เมืองไทระและพูดกับเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
เจ้าเป็นตัวอย่างของความสมบูรณ์แบบ
ทั้งเต็มไปด้วยสติปัญญาและงามหมดจด
13 เจ้าเคยอยู่ในเอเดนซึ่งเป็นสวนของพระเจ้า[g]
พลอยที่มีค่าทุกเม็ดเป็นเครื่องตกแต่งของเจ้า
ทั้งทับทิม บุษราคัม มรกต
พลอยสีเขียวมะกอก หินควอทซ์ และนิล
ไพลิน พลอยสีน้ำเงินอมเขียว และพลอยสีเขียว[h]
พลอยเหล่านี้ตั้งและฝังอยู่ในตัวเรือนที่เป็นทองคำ[i]
ของเหล่านี้เตรียมไว้พร้อมแล้วในวันที่เจ้าได้รับการสร้างขึ้นมา
14 เจ้าได้รับการเจิมให้เป็นเหมือนเครูบ ผู้คุ้มกัน
เพราะเราได้มอบหมายให้เจ้าเป็นอย่างนั้น
เจ้าอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
เจ้าเดินอยู่ท่ามกลางเพชรพลอยที่ส่องประกายเหมือนไฟ
15 การประพฤติทั้งหลายของเจ้าไม่มีที่ติเลยตั้งแต่วันที่เจ้าได้รับการสร้างขึ้นมา
จนถึงเวลาที่ความชั่วถูกพบในตัวเจ้า
16 เจ้าเต็มไปด้วยความรุนแรงถึงแก่น
และได้ทำบาปลงไปผ่านทางการค้าขายของเจ้าที่แผ่กระจายออกไป
ดังนั้นเราได้ไล่เจ้าออกไป อย่างน่าอับอายให้พ้นจากภูเขาของพระเจ้า เราได้ขับไล่เจ้าไป
เครูบผู้คุ้มกันก็ได้ขับเจ้าออกไปจากท่ามกลางเพชรพลอยที่ส่องประกายเหมือนไฟ
17 จิตใจของเจ้านั้นหยิ่งผยองในความงามของเจ้า
และความรุ่งโรจน์ของเจ้าทำให้สติปัญญาของเจ้าเสื่อมทรามลง
ดังนั้นเราจึงโยนเจ้าลงสู่พื้นดิน
เราได้ทำให้กษัตริย์ทั้งหลายจ้องมองเจ้า
18 เจ้าทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของเจ้าต้องเสื่อมไป
ด้วยความบาปมากมายและการค้าที่ไม่ซื่อสัตย์ของเจ้า
ดังนั้นเราจึงทำให้ไฟพุ่งออกมาจากตัวเจ้าและเผาผลาญเจ้า
เราทำให้เจ้ากลายเป็นขี้เถ้าบนพื้นดินต่อหน้าต่อตาของผู้ที่กำลังดูเจ้าอยู่
19 ชนชาติทั้งหลายที่รู้จักเจ้าต่างก็ตกใจกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า
เจ้าได้มาถึงจุดจบอันน่าสะพรึงกลัวแล้ว และจะไม่มีเจ้าอีกต่อไป’”
การลงโทษเมืองไซดอน
20 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 21 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันหน้าของเจ้าไปทางเมืองไซดอน และพูดแทนเราต่อต้านเมืองนั้น 22 ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
เมืองไซดอน เราต่อต้านเจ้า
เราจะได้รับเกียรติ เมื่อเราจัดการกับเจ้า
พวกเขาจะรู้ว่าเราคือยาห์เวห์
เมื่อเราลงโทษเจ้าและแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราในเจ้า
23 เราจะส่งโรคระบาดมาให้เจ้า
และทำให้เลือดไหลนองบนถนนทั้งหลายของเจ้า
คนจะโดนฆ่าฟันล้มลงภายในเมืองเจ้า
เมื่อดาบรุมเร้าเข้ามาต่อต้านเจ้าจากทุกด้าน
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์’
24 ชาวอิสราเอลจะได้ไม่มีเพื่อนบ้านที่ใจร้ายที่คอยทิ่มเหมือนพงหนามและแทงเหมือนหนามอีกต่อไป
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต”
เชลยจะได้กลับบ้าน
25 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เมื่อเรารวบรวมชาวอิสราเอลมาจากชนชาติต่างๆที่พวกเขาได้กระจัดกระจายไปอยู่นั้น เราจะแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราท่ามกลางชาวอิสราเอลต่อหน้าต่อตาชนชาติทั้งหลาย แล้วชาวอิสราเอลจะได้อาศัยอยู่บนแผ่นดินของตัวเอง ซึ่งเราได้มอบให้กับยาโคบผู้รับใช้ของเรา 26 พวกเขาจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัยที่นั่น พวกเขาจะสร้างบ้านเรือน และปลูกสวนองุ่น พวกเขาจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย เมื่อเราลงโทษเพื่อนบ้านทั้งหลายของเขาที่เกลียดชังพวกเขา แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเขา”
พระยาห์เวห์ต่อต้านประเทศอียิปต์
29 วันที่สิบสอง เดือนสิบ ปีที่สิบ[j]
คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ หันหน้าไปทางกษัตริย์ฟาโรห์แห่งประเทศอียิปต์และให้พูดแทนเราต่อต้านเขากับประเทศอียิปต์ทั้งหมด
3 ให้บอกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
เจ้ากษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ เราต่อต้านเจ้า
เจ้าจระเข้ยักษ์[k] เจ้านอนหมอบอยู่ในลำธารทั้งหลายของแม่น้ำไนล์
เจ้าพูดว่า “แม่น้ำไนล์เป็นของข้า
ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อตัวข้าเอง”
4 แต่เราจะเอาพวกตะขอเกี่ยวขากรรไกรเจ้าไว้
และทำให้ปลาในธารของเจ้าติดอยู่กับเกล็ดของเจ้า
เราจะดึงเจ้าขึ้นมาจากลำธารทั้งหลายของเจ้า
พร้อมกับปลาทั้งหลายที่ติดอยู่ที่เกล็ดของเจ้า
5 เราจะโยนเจ้าออกไปในทะเลทราย
พร้อมกับปลาทั้งหลายที่มาจากลำธารของเจ้า
เจ้าจะถูกทิ้งไว้ที่กลางแจ้งนั้น
และจะไม่ถูกรวบรวมหรือเก็บขึ้นมา
เราจะให้เจ้าเป็นอาหารของพวกสัตว์บนดินและนกในอากาศ
6 แล้วคนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในอียิปต์จะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
เจ้าได้เป็นไม้เท้าต้นกก[l] ให้กับครอบครัวอิสราเอล
7 เมื่อพวกอิสราเอลเอามือฉวยเจ้า เจ้าก็แตกหัก
และไปบาดถูกหัวไหล่ของพวกเขา
เมื่อพวกเขาพิงเจ้า เจ้าก็แตกออก
และทำให้หลังของพวกเขาเคล็ด’”
8 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เราจะนำดาบมาต่อต้านเจ้า
และฆ่าคนรวมทั้งสัตว์ทั้งหลายของเจ้า
9 ประเทศอียิปต์จะกลายเป็นซากปรักหักพังที่ถูกทิ้งร้าง
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
เจ้าได้พูดว่า ‘แม่น้ำไนล์เป็นของข้า ข้าสร้างมันขึ้นมา’ 10 ดังนั้นเราจะต่อต้านเจ้าและต่อต้านลำธารทั้งหลายของเจ้า และเราจะทำให้แผ่นดินอียิปต์กลายเป็นซากปรักหักพัง และเป็นที่รกร้างตั้งแต่มิกดลไปจนถึงอัสวันและเลยไปถึงเขตแดนของคูช 11 จะไม่มีรอยเท้าของคนหรือสัตว์เดินผ่านไป จะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสี่สิบปี 12 เราจะทำให้แผ่นดินอียิปต์รกร้างอยู่ท่ามกลางดินแดนทั้งหลายที่ถูกทำให้รกร้าง และเมืองต่างๆของอียิปต์จะรกร้างถึงสี่สิบปีท่ามกลางเมืองปรักหักพังทั้งหลาย เราจะทำให้ชาวอียิปต์แตกซ่านไปอยู่ตามชนชาติต่างๆและทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอยู่ตามประเทศอื่นๆ”
13 แต่นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เมื่อครบสี่สิบปีแล้ว เราจะรวบรวมชาวอียิปต์มาจากชนชาติต่างๆที่พวกเขากระจัดกระจายไปอยู่นั้น
14 เราจะทำให้พวกเขากลับมาสู่สภาพเดิม และมอบดินแดนอียิปต์บน[m] ซึ่งเป็นแผ่นดินของบรรพบุรุษของพวกเขา คืนให้กับพวกเขาที่นั่น พวกเขาจะเป็นอาณาจักรที่ต่ำต้อย
15 มันจะเป็นอาณาจักรที่ต่ำต้อยที่สุด และจะไม่มีวันได้ยกตัวเองขึ้นเหนือชนชาติอื่นๆ เราจะทำให้มันอ่อนแอเสียจนกระทั่งไม่สามารถปกครองชนชาติอื่นได้อีก
16 ประเทศอียิปต์จะไม่มีวันได้เป็นที่พึ่งของชาวอิสราเอลอีกต่อไป แต่จะเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงบาปของพวกเขาเอง ที่เคยหันไปขอความช่วยเหลือจากอียิปต์ แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต”
บาบิโลนจะบุกอียิปต์
17 ในวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง ปีที่ยี่สิบเจ็ด[n]
คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 18 “เจ้าลูกมนุษย์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ทำให้กองทัพของเขาต้องทำงานอย่างหนัก ในการต่อสู้กับเมืองไทระ ทหารทุกคนต้องแบกหินและดิน[o]บนหัวจนผมหลุดร่วงหมด และต้องแบกหินและดินบนบ่าจนถลอกไปหมด แต่กษัตริย์บาบิโลนกับกองทัพของเขาก็ไม่ได้รับค่าจ้างจากงานหนักทั้งหมดในการต่อสู้กับไทระ”
19 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“เราจะมอบแผ่นดินอียิปต์ให้กับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน เขาจะขนเอาทรัพย์สมบัติของมันไป เขาจะเอาข้าวของที่ยึดมาได้นี้แจกจ่ายให้กับกองทัพของเขา[p] นั่นแหละจะเป็นค่าจ้างของพวกเขา
20 เราได้มอบแผ่นดินอียิปต์ให้กับกษัตริย์ของบาบิโลน เป็นค่าตอบแทนสำหรับงานของเขา เพราะเขากับกองทัพได้ทำสิ่งนี้เพื่อเรา”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
21 “ในวันนั้น เราจะทำให้เขาสัตว์งอกขึ้น[q] เพื่อครอบครัวชาวอิสราเอล ดังนั้น เอเสเคียล เราจะเปิดปากของเจ้าท่ามกลางพวกเขา แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”
สามีและภรรยา
3 ในทำนองเดียวกัน พวกคุณที่เป็นภรรยาก็ให้ยินยอมสามี เพื่อว่าถ้ามีสามีบางคนที่ไม่เชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้า ชีวิตที่ดีของคุณอาจจะชนะใจเขา และทำให้เขามาไว้วางใจพระเจ้าได้ โดยที่คุณไม่ต้องพูดอะไรเลยสักคำ 2 เพราะเขาสังเกตว่าชีวิตของคุณบริสุทธิ์ และมีใจยำเกรงพระเจ้าขนาดไหน 3 ความงามของคุณ ไม่ควรจะมาจากการตกแต่งภายนอก เช่นการทำผมหรูหราฟู่ฟ่า ใส่เครื่องทอง หรือ ใส่เสื้อผ้าราคาแพง 4 แต่ให้งามจากภายในที่ไม่มีวันจืดจาง ซึ่งก็หมายถึงความสุภาพอ่อนโยน สงบเรียบร้อย ซึ่งมีค่ายิ่งนักในสายตาพระเจ้า 5 ผู้หญิงในสมัยก่อนที่บริสุทธิ์ และหวังใจในพระเจ้านั้น ได้ตกแต่งตัวเองให้มีเสน่ห์ด้วยการยินยอมสามี 6 เหมือนกับที่นางซาราห์เชื่อฟังอับราฮัมและเรียกเขาว่า “นายของฉัน” ถ้าคุณทำอย่างนี้ คุณก็จะเป็นลูกสาวที่แท้จริงของนาง แต่จะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องตามใจพระเจ้า โดยไม่กลัวว่าสามีจะทำอะไรคุณ
7 ในทำนองเดียวกัน พวกคุณที่เป็นสามีก็ให้อยู่กินกับภรรยาด้วยความเข้าอกเข้าใจ เพราะเธออ่อนแอกว่า พระเจ้าได้เมตตายกชีวิตใหม่ให้พวกคุณเป็นมรดก และเธอเป็นหุ้นส่วนกับคุณในมรดกนี้ด้วย คุณจึงควรจะให้เกียรติกับเธอ ถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้น พระเจ้าก็จะไม่ฟังคำอธิษฐานของคุณ
ทนทุกข์เพราะทำดี
8 สุดท้ายนี้ พวกคุณควรจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉันท์พี่น้อง มีใจเมตตาและรู้จักถ่อมตัว 9 อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว หรือด่าคนที่ด่าว่าคุณ แต่ให้อวยพรเขาแทน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พระเจ้าเรียกให้คุณทำ แล้วพระองค์จะอวยพรคุณ 10 เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
“ถ้าคุณอยากมีความสุขและเจอแต่วันที่ดีๆ
ก็อย่าใช้ลิ้นทำร้ายคนอื่น อย่าใช้ปากพูดโกหก
11 ให้เลิกทำชั่วและหันมาทำดี
ให้แสวงหาสันติสุขและติดตามทางแห่งสันติสุขนั้นไป
12 เพราะดวงตาองค์เจ้าชีวิต ดูแลทุกคนที่ทำตามใจพระองค์
และหูของพระองค์ฟังคำอธิษฐานของเขา
แต่หน้าของพระองค์หันเข้าต่อต้านพวกที่ทำชั่วนั้น”[a]
13 ถ้าคุณพยายามจริงๆที่จะทำความดีอยู่ตลอด แล้วใครล่ะจะทำร้ายคุณได้จริงๆ 14 แต่แม้ว่าคุณอาจจะต้องทนทุกข์เพราะทำตามใจพระเจ้า คุณมีเกียรติอย่างแท้จริง “คุณไม่ต้องกลัวพวกเขาหรือกังวลหรอก”[b] 15 แต่ให้ใจของคุณนับถือพระคริสต์เป็นองค์เจ้าชีวิต และให้พร้อมที่จะอธิบายกับทุกคนที่มาถามว่า ความหวังที่คุณมีนี้เป็นอย่างไร แต่ให้ตอบเขาอย่างสุภาพและเคารพนบนอบ 16 เมื่อคุณใช้ชีวิตในทางที่ดีเพราะเป็นคนของพระคริสต์ แล้วมีคนมาพูดใส่ร้ายคุณ ก็ให้คุณทำแต่สิ่งที่คุณรู้ว่าถูกต้อง เพื่อเขาจะได้อับอาย 17 ถ้าเป็นความต้องการของพระเจ้า ให้ทนทุกข์เพราะทำดีก็ยังดีกว่าทนทุกข์เพราะทำชั่ว 18 พระคริสต์ทนทุกข์เพื่อจัดการกับความบาปครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อนำคุณไปหาพระเจ้า พระองค์ถูกฆ่าทางกายแต่มีชีวิตขึ้นมาใหม่โดยทางพระวิญญาณ 19 ด้วยอำนาจของพระวิญญาณ พระองค์ได้ไปประกาศชัยชนะของพระองค์ให้กับพวกวิญญาณที่ถูกขังอยู่ 20 ในสมัยก่อนนานมาแล้ว วิญญาณพวกนี้ไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า ตอนที่โนอาห์สร้างเรือ พระเจ้าได้รอคอยอย่างอดทนให้คนในโลกนี้กลับตัวกลับใจ สุดท้ายมีแปดคนที่อยู่ในเรือลำนั้น แล้วพระเจ้าใช้น้ำช่วยเขาให้รอดจากคนที่ชั่วร้ายในสมัยนั้น 21 เหมือนกับที่พระเจ้าใช้พิธีจุ่มน้ำช่วยให้พวกคุณรอดในสมัยนี้ การจุ่มน้ำนี้ไม่ใช่เป็นการล้างร่างกายให้สะอาด แต่เป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อพระเจ้าว่าคุณจะทำแต่สิ่งที่คุณรู้ว่าถูกต้อง และทั้งหมดนี้ก็เป็นไปได้ เพราะพระเยซูคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย 22 พระองค์ได้ขึ้นไปสวรรค์และนั่งอยู่ทางขวาของพระเจ้า พระองค์ทำให้พวกทูตสวรรค์ พวกผู้มีสิทธิอำนาจ และพวกผู้มีฤทธิ์อำนาจ มาอยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International