Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 6

จงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

ต่อไปนี้คือพระบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสอนท่านให้ปฏิบัติตามในดินแดนซึ่งท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครอง เพื่อท่านและลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปจะยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านชั่วชีวิต โดยปฏิบัติตามกฎหมายและพระบัญชาทั้งสิ้นของพระองค์ที่ข้าพเจ้ามอบให้ และเพื่อท่านจะชื่นชมกับชีวิตที่ยืนยาว อิสราเอลเอ๋ย จงฟังและใส่ใจปฏิบัติตามเพื่อจะเป็นผลดีแก่ท่าน และท่านจะทวีจำนวนมากขึ้นในดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านทรงสัญญาไว้กับท่าน

อิสราเอลเอ๋ยจงฟังเถิด พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา พระยาห์เวห์ทรงเป็นหนึ่ง[a] จงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างสุดใจ สุดจิต และสุดกำลังของท่าน จงให้บทบัญญัติทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าแจ้งท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน จงพร่ำสอนบทบัญญัติเหล่านี้แก่บุตรหลานของท่าน จงพูดถึงบทบัญญัติเหล่านี้ขณะอยู่ที่บ้าน ขณะเดินไปตามทาง ขณะที่นอนลงหรือลุกขึ้น จงผูกไว้ที่มือเป็นสัญลักษณ์และคาดไว้ที่หน้าผาก จงเขียนไว้ที่วงกบประตูและที่ประตูรั้วของท่าน

10 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงพาท่านเข้าสู่ดินแดนซึ่งทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษคืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ว่าจะประทานแก่ท่าน เป็นดินแดนที่มีเมืองใหญ่รุ่งเรืองซึ่งท่านไม่ได้สร้าง 11 มีบ้านเรือนที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งดีๆ สารพัดซึ่งท่านไม่ได้จัดหา มีบ่อน้ำซึ่งท่านไม่ได้ลงแรงขุด มีสวนองุ่นและดงมะกอกซึ่งท่านไม่ได้ปลูก และเมื่อท่านได้รับประทานจนอิ่มหนำ 12 จงระวังให้ดี อย่าลืมองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำท่านออกมาจากอียิปต์ออกจากแดนทาส

13 จงยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว และจงสาบานในพระนามของพระองค์ 14 อย่าติดตามพระอื่นใดของชนชาติต่างๆ ที่อยู่รอบตัวท่าน 15 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านผู้ทรงสถิตท่ามกลางท่านทั้งหลายทรงเป็นพระเจ้าที่หึงหวง พระพิโรธของพระองค์จะเผาผลาญท่านและพระองค์จะทรงกวาดล้างท่านออกไปจากแผ่นดินนี้ 16 อย่าลองดีกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเหมือนที่ท่านได้ทำที่มัสสาห์ 17 จงปฏิบัติตามพระบัญชา ข้อกำหนด และกฎหมายที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านอย่างเคร่งครัด 18 จงทำสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อทุกสิ่งจะเป็นผลดีแก่ท่านและท่านจะได้เข้าไปครอบครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้ด้วยคำปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่าน 19 โดยกำจัดศัตรูทั้งปวงที่อยู่ต่อหน้าท่านตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้

20 ในอนาคตเมื่อลูกหลานของท่านถามว่า “ข้อกำหนด กฎหมาย และบทบัญญัติที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบัญชาไว้นี้มีความหมายอย่างไร?” 21 จงบอกเขาว่า “พวกเราเคยเป็นทาสของฟาโรห์อยู่ในอียิปต์ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำเราออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ 22 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำหมายสำคัญและปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่น่าสะพรึงกลัวแก่อียิปต์ และแก่ฟาโรห์รวมทั้งราชวงศ์ทั้งปวงของพระองค์ต่อหน้าต่อตาเรา 23 แต่พระองค์ทรงนำเราออกมาจากที่นั่นเข้าสู่ดินแดนนี้และประทานดินแดนนี้แก่เราตามที่ทรงสัญญาไว้ด้วยคำปฏิญาณกับบรรพบุรุษของเรา 24 พระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้เราปฏิบัติตามกฎหมายทั้งปวงนี้และยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา เพื่อเราจะรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่เหมือนในวันนี้ 25 และเราก็จะได้รับความชอบธรรม หากเราใส่ใจปฏิบัติตามบทบัญญัติทั้งปวงต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตามที่ทรงบัญชา”

สดุดี 89

(มัสคิล[a]ของเอธาน วงศ์เอสราห์)

89 ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักอันยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดนิรันดร์
ปากของข้าพระองค์จะประกาศให้คนทุกชั่วอายุทราบถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์
ข้าพระองค์จะประกาศว่าความรักของพระองค์นั้นยืนยงมั่นคงนิรันดร์
ประกาศว่าพระองค์ทรงสถาปนาความซื่อสัตย์ของพระองค์ไว้ในฟ้าสวรรค์นั่นเอง
พระองค์ตรัสว่า “เราได้กระทำพันธสัญญากับผู้ซึ่งเราเลือกสรร
เราได้ปฏิญาณต่อดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า
‘เราจะสถาปนาวงศ์วานของเจ้าตลอดไป
และให้บัลลังก์ของเจ้ายืนยงอยู่ทุกชั่วอายุ’ ”
เสลาห์

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ฟ้าสวรรค์สรรเสริญการอัศจรรย์ของพระองค์
และสรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์ในที่ชุมนุมของผู้บริสุทธิ์ด้วย
เพราะตลอดทั่วฟ้าเบื้องบน ผู้ใดเล่าเสมอเหมือนองค์พระผู้เป็นเจ้า?
ในหมู่ชาวสวรรค์ทั้งปวง ใครจะเปรียบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าได้?
พระเจ้าทรงเป็นที่ยำเกรงอย่างยิ่งในที่ประชุมของผู้บริสุทธิ์
พระองค์ทรงน่าครั่นคร้ามเกรงขามยิ่งกว่าบรรดาผู้ที่อยู่ล้อมรอบพระองค์ทั้งหมด
ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์?
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเดชานุภาพ และความซื่อสัตย์ของพระองค์รายล้อมพระองค์

พระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนือท้องทะเลที่ปั่นป่วน
เมื่อคลื่นซัดโหมกระหน่ำ พระองค์ทรงทำให้สงบ
10 พระองค์ทรงบดขยี้ราหับดั่งผู้ที่ถูกฆ่า
และทรงทำให้ศัตรูของพระองค์กระเจิด
กระเจิงไปด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็ง
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกก็เป็นของพระองค์ด้วย
พระองค์ทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งในโลก
12 พระองค์ทรงสร้างทิศเหนือและทิศใต้
ภูเขาทาโบร์ และภูเขาเฮอร์โมนแซ่ซ้องพระนามของพระองค์อย่างชื่นบาน
13 พระกรของพระองค์ทรงฤทธานุภาพ
พระหัตถ์ของพระองค์แข็งแกร่ง พระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็เป็นที่เชิดชู

14 ความชอบธรรมและความยุติธรรมคือฐานแห่งราชบัลลังก์ของพระองค์
ความรักและความซื่อสัตย์นำเสด็จพระองค์
15 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่รู้จักโห่ร้องสรรเสริญพระองค์
คือผู้ที่เดินในความสว่างต่อหน้าพระองค์
16 พวกเขายินดีในพระนามของพระองค์ตลอดทั้งวัน
ชื่นชมในความชอบธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์ทรงเป็นเกียรติสิริและเป็นกำลังของพวกเขา
โดยความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงเชิดชูพลังอำนาจ[b]ของข้าพระองค์ทั้งหลาย
18 แน่ทีเดียว โล่[c]ของเราทั้งหลายเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
กษัตริย์ของเราเป็นขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

19 ครั้งหนึ่งพระองค์ตรัสผ่านทางนิมิต
กับเหล่าประชากรผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ว่า
“เราได้ประทานกำลังแก่นักรบผู้หนึ่ง
เราได้เชิดชูชายหนุ่มคนหนึ่งจากหมู่ชน
20 เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเรา
เราเจิมเขาด้วยน้ำมันบริสุทธิ์ของเรา
21 มือของเราจะค้ำชูเขา
แน่ทีเดียว แขนของเราจะช่วยให้เขาเข้มแข็ง
22 ข้าศึกจะไม่มีชัยเหนือเขา
คนชั่วร้ายจะไม่กดขี่ข่มเหงเขา
23 เราจะขยี้คู่อริของเขาต่อหน้าเขา
และโค่นล้มบรรดาปฏิปักษ์ของเขา
24 ความรักมั่นคงของเราจะคงอยู่กับเขา
พลังอำนาจของเขาจะได้รับการเชิดชูโดยนามของเรา
25 เราจะวางมือของเขาเหนือทะเล
วางมือขวาของเขาเหนือแม่น้ำทั้งหลาย
26 เขาจะร้องต่อเราว่า ‘พระองค์ทรงเป็นบิดา
เป็นพระเจ้า พระศิลา และพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์’
27 เราจะตั้งเขาเป็นบุตรหัวปีของเรา
ให้เขาได้รับการยกย่องเทิดทูนสูงสุดในหมู่กษัตริย์ของแผ่นดินโลก
28 เราจะถนอมความรักของเราที่มีต่อเขาไปตลอดกาล
และพันธสัญญาของเราต่อเขาจะไม่มีวันสิ้นสุด
29 เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาไว้เป็นนิตย์
บัลลังก์ของเขาจะยืนยงอยู่คู่ฟ้าสวรรค์

30 “หากลูกหลานของเขาละทิ้งบทบัญญัติของเรา
ไม่ได้ประพฤติตามกฎเกณฑ์ของเรา
31 หากพวกเขาฝ่าฝืนกฎหมายของเรา
ไม่ทำตามคำบัญชาของเรา
32 เราจะลงโทษบาปของเขาด้วยไม้เรียว
และเฆี่ยนตีเขาเพราะความชั่วช้า
33 แต่เราจะไม่ริบความรักของเราคืนจากเขา
และจะไม่มีวันผิดคำมั่นสัญญาของเรา
34 เราจะไม่ละเมิดพันธสัญญาของเรา
เราจะไม่กลับกลอกคืนคำ
35 เราได้ลั่นวาจาปฏิญาณเป็นคำขาดโดยความบริสุทธิ์ของเรา
และเราจะไม่มุสาต่อดาวิด
36 คือเชื้อสายของเขาจะดำรงอยู่นิรันดร์
และบัลลังก์ของเขาจะยั่งยืนต่อหน้าเราดุจดวงอาทิตย์
37 จะตั้งมั่นคงอยู่ตลอดกาลดั่งดวงจันทร์
ซึ่งเป็นพยานที่ซื่อสัตย์ในท้องฟ้า”
เสลาห์

38 แต่บัดนี้พระองค์ได้ทรงปฏิเสธและได้เหวี่ยงข้าพระองค์ทิ้งแล้ว
พระองค์ได้ทรงพระพิโรธอย่างยิ่งต่อผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้
39 พระองค์ได้ทรงยกเลิกพันธสัญญาที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
และได้ทรงโยนมงกุฎของเขาลงคลุกฝุ่นให้เป็นมลทิน
40 พระองค์ได้ทรงทลายกำแพงทั้งหมดของเขา
และปล่อยให้ที่มั่นของเขากลายเป็นซากปรักหักพัง
41 ทุกคนที่ผ่านไปมาได้ปล้นเขา
เขากลายเป็นขี้ปากของเพื่อนบ้าน
42 พระองค์ทรงยกชูมือขวาของปฏิปักษ์ของเขา
พระองค์ทรงทำให้เหล่าศัตรูของเขาเปรมปรีดิ์
43 พระองค์ทรงพลิกผันคมดาบของเขา
และไม่ได้สนับสนุนเขาในศึกสงคราม
44 พระองค์ทรงยุติความโอ่อ่าตระการของเขา
และพลิกคว่ำบัลลังก์ของเขาลงกับพื้น
45 พระองค์ทรงบั่นทอนวัยฉกรรจ์ของเขา
และให้เขาต้องอัปยศอดสู
เสลาห์

46 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า อีกนานเท่าใด? พระองค์จะทรงซ่อนพระองค์ตลอดกาลหรือ?
อีกนานเท่าใดที่พระพิโรธของพระองค์จะเผาผลาญดุจไฟ?
47 ขอทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพระองค์ผ่านไปเร็วเพียงใด
พระองค์ทรงสร้างมวลมนุษย์ไว้อย่างเปล่าประโยชน์ยิ่งนัก!
48 ใครเล่าที่อยู่ค้ำฟ้าและไม่ต้องตาย
หรือใครเล่าที่หนีพ้นอำนาจของหลุมฝังศพได้?
เสลาห์
49 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักยิ่งใหญ่ในกาลก่อนของพระองค์
ซึ่งทรงสัญญาไว้แก่ดาวิดด้วยความซื่อสัตย์ของพระองค์นั้นอยู่ที่ไหน?
50 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงระลึกว่าผู้รับใช้[d]ของพระองค์ถูกเย้ยหยันเพียงใด
และข้าพระองค์ต้องทนกล้ำกลืนคำสบประมาทของประชาชาติทั้งปวงไว้ในใจมากเพียงใด
51 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทนคำเยาะเย้ยที่ศัตรูของพระองค์ถากถาง
เขาได้เหยียดหยามทุกย่างก้าวของผู้ที่พระองค์ทรงเจิมตั้งไว้

52 ขอถวายสรรเสริญแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดนิรันดร!
อาเมนและอาเมน

อิสยาห์ 34

การตัดสินลงโทษชนชาติทั้งหลาย

34 บรรดาประชาชาติเอ๋ย จงขยับเข้ามาใกล้ๆ และรับฟัง
ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงตั้งใจฟัง!
แผ่นดินโลกและสรรพสิ่งในนั้นจงฟังเถิด
ทั้งพิภพและบรรดาสิ่งที่ออกมาจากพิภพ!
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกริ้วมวลประชาชาติ
ทรงพระพิโรธต่อกองทัพทั้งหมดของเขา
พระองค์จะทรงทำลายล้าง[a]พวกเขาทั้งหมด
และทิ้งให้เขาถูกสังหารหมู่
ร่างของพวกเขาจะถูกโยนออกไป
ซากศพของพวกเขาจะส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง
ภูเขาทั้งหลายจะชุ่มโชกไปด้วยเลือดของพวกเขา
ดวงดาวทั้งสิ้นในฟ้าสวรรค์จะสูญสลาย
ท้องฟ้าจะถูกม้วนเหมือนหนังสือม้วน
ดวงดาวทั้งหลายจะตกจากฟ้า
เหมือนใบองุ่นแห้งร่วงจากเถาองุ่น
เหมือนผลมะเดื่อเหี่ยวร่วงจากต้น

เมื่อดาบของเราดื่มจนเต็มอิ่มในฟ้าสวรรค์แล้ว
ดูเถิด มันจะลงมาพิพากษาลงโทษเอโดม
ชนชาติซึ่งเราได้ทำลายล้างเสียสิ้น
พระแสงดาบขององค์พระผู้เป็นเจ้าอาบเลือด
และมีไขมันเกาะ
เป็นเลือดลูกแกะและแพะ
เป็นไขมันจากไตแกะตัวผู้
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะให้มีเครื่องบูชาในโบสราห์
และการสังหารครั้งใหญ่ในเอโดม
วัวป่า ลูกวัว และวัวกระทิง
จะล้มลงพร้อมพวกเขา
แผ่นดินโลกจะนองเลือด
ผงธุลีจะชุ่มด้วยไขมัน

เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีวันที่จะล้างแค้น
และมีปีที่จะชดใช้ให้ศิโยน
ลำธารทั้งหลายของเอโดมจะกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ
ธุลีดินจะกลายเป็นกำมะถันลุกไหม้
แผ่นดินเอโดมจะกลายเป็นหลุมที่ลุกโชน!
10 ทั้งวันทั้งคืนไม่มีดับ
ควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาชั่วนิจนิรันดร์
มันจะเริศร้างตลอดไปทุกชั่วอายุ
จะไม่มีใครสัญจรไปมาอีกเลย
11 นกฮูก นกเค้าแมว จะครอบครองที่นั่น
นกทึดทือ[b]และกาจะทำรังอยู่ที่นั่น
พระเจ้าจะทรงคลี่สายวัดแห่งความโกลาหล
และสายดิ่งแห่งความเริศร้างเหนือเอโดม
12 ผู้สูงศักดิ์ของเอโดมจะไม่เหลืออะไรให้เรียกว่าเป็นอาณาจักรอีก
เจ้านายทั้งปวงจะสูญสิ้นไป
13 ต้นหนามจะงอกปกคลุมที่มั่น
ตำแยและพุ่มหนามจะงอกขึ้นในปราการของเอโดม
มันจะกลายเป็นที่สิงสถิตของหมาใน
เป็นบ้านของนกฮูก
14 สัตว์ป่าในทะเลทรายจะพบกับหมาป่าไฮยีน่า
แพะป่าจะร้องหากัน
บรรดาสัตว์แห่งรัตติกาลจะพำนักอยู่ที่นั่น
และหาที่พักพิงให้ตัวมันเอง
15 นกฮูกจะสร้างรังและวางไข่ที่นั่น
มันจะกกลูก ปกไว้ใต้ปีก
บรรดาเหยี่ยวจะมาชุมนุมกันเป็นคู่ๆ

16 จงค้นดูและอ่านจากหนังสือม้วนขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจะพบว่า

สัตว์เหล่านี้จะไม่ขาดหายไปสักอย่าง
ไม่มีตัวใดไร้คู่
เพราะพระเจ้าตรัสบัญชาไว้ด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์เอง
และพระวิญญาณของพระองค์จะทรงรวมพวกมันเข้าด้วยกัน
17 พระองค์ทรงจัดสรรปันส่วนให้พวกมัน
พระหัตถ์หยิบยื่นประทานตามสัดส่วน
พวกมันจะได้ครอบครองเป็นนิตย์
และอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดทุกชั่วอายุ

วิวรณ์ 4

พระที่นั่งในสวรรค์

หลังจากนั้นข้าพเจ้ามองไปเห็นประตูหนึ่งเปิดไว้ในสวรรค์ต่อหน้าข้าพเจ้า และพระสุรเสียงคล้ายเสียงแตรซึ่งข้าพเจ้าได้ยินเมื่อตอนต้นนั้นตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “ขึ้นมาที่นี่เถิด เราจะสำแดงสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้แก่เจ้า” ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็อยู่ในพระวิญญาณและตรงหน้าข้าพเจ้ามีพระที่นั่งตั้งอยู่ในสวรรค์ มีผู้หนึ่งประทับบนพระที่นั่งนั้น ผู้ประทับอยู่นั้นทรงโอ่อ่าตระการตาดั่งเพชรนิลจินดา สายรุ้งดุจมรกตล้อมรอบพระที่นั่ง รายรอบพระที่นั่งนั้นมีอีกยี่สิบสี่ที่นั่งซึ่งมีผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั่งอยู่ ทุกคนนุ่งห่มขาว สวมมงกุฎทองคำบนศีรษะ มีฟ้าแลบแวบวาบ เสียงฟ้าคำรนครืนๆ จากพระที่นั่งนั้น ตรงหน้าพระที่นั่งมีคบเพลิงเจ็ดอันลุกโชติช่วงอยู่คือวิญญาณทั้งเจ็ด[a]ของพระเจ้า และหน้าพระที่นั่งมีสิ่งซึ่งคล้ายทะเลแก้วใสเหมือนแก้วผลึก

บริเวณตรงกลางรอบพระที่นั่งมีสิ่งมีชีวิตสี่ตนซึ่งมีดวงตาเต็มไปหมดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตนแรกคล้ายสิงโต ตนที่สองคล้ายวัว ตนที่สามมีใบหน้าคล้ายคน ตนที่สี่คล้ายนกอินทรีที่กำลังบิน สิ่งมีชีวิตทั้งสี่นี้ แต่ละตนมีหกปีกและมีดวงตาทั่วไปหมดแม้แต่ใต้ปีก ต่างร้องขานทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดว่า

“บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์
คือองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
ผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีตและดำรงอยู่ในปัจจุบัน
และจะเสด็จมา”

ทุกครั้งที่สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ถวายพระสิริ พระเกียรติ และคำขอบพระคุณแด่พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดกาล 10 ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนก็หมอบกราบพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น นมัสการพระองค์ผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดกาล พวกเขาวางมงกุฎของตนลงหน้าพระที่นั่งนั้นและทูลว่า

11 “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเจ้าของเรา
พระองค์ทรงสมควรที่จะรับพระสิริ
พระเกียรติและเดชานุภาพ
เพราะพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่ง
และโดยพระดำริของพระองค์ สิ่งเหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้น
และเป็นอยู่”

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.