Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 12

สถานที่นมัสการแห่งเดียว

12 พวกท่านจงระมัดระวังปฏิบัติให้เป็นตามกฎเกณฑ์และคำสั่งเหล่านี้ในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านได้มอบให้ท่านยึดครองไปตลอดชีวิตของท่านในโลกนี้ จงทำลายสถานที่ทุกแห่งของบรรดาประชาชาติที่นมัสการบรรดาเทพเจ้าของพวกเขา จนไม่ให้เหลือซาก ซึ่งเป็นที่ที่ท่านจะไปยึดครองซึ่งอยู่แถบภูเขาสูง ที่เนินเขาและใต้ต้นไม้เขียวชอุ่มทุกต้น จงทำลายแท่นบูชาของพวกเขา ทุบเสาหินให้แตก เผาพวกเทวรูปอาเชราห์ และโค่นเทวรูปสลักของพวกเขาลงเสีย และทำให้ชื่อของพวกเขาหายสาบสูญไปจากสถานที่เหล่านั้น อย่านมัสการพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในวิธีเดียวกันกับที่พวกเขากระทำ แต่จงหาสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือกจากเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลให้พบ เพื่อยกย่องพระนามของพระองค์และให้เป็นที่พำนักของพระองค์ ท่านจงไปยังที่นั้น และ ณ ที่นั้น ท่านจงนำสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวาย เครื่องสักการะ ถวายหนึ่งในสิบ และของถวายที่ท่านบริจาค ของที่สัญญาว่าจะมอบให้ ของที่ให้ด้วยความสมัครใจ ลูกหัวปีจากฝูงโคและฝูงแพะแกะของท่าน และ ณ ที่นั้น ท่านจงรับประทาน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พวกท่านและครอบครัวจงยินดีในทุกสิ่งที่ลงแรงกันทำ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้พรท่าน

อย่าประพฤติอย่างที่พวกเรากำลังกระทำอยู่ที่นี่ทุกวันนี้ คือทุกคนทำอย่างที่เห็นว่าถูกต้องในสายตาของตนเอง ด้วยเหตุว่าท่านยังไปไม่ถึงที่พำนักและแผ่นดินอันเป็นมรดกซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่าน 10 แต่เมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป และอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่านเป็นมรดก และเมื่อพระองค์ให้ท่านได้ว่างเว้นจากศัตรูรอบข้างทั้งปวง เพื่อท่านจะได้อาศัยด้วยความปลอดภัย 11 และมีสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือก เพื่อให้เป็นที่สำหรับยกย่องพระนามของพระองค์ที่นั่น จงนำทุกสิ่งที่เราบัญชาพวกท่านคือ สัตว์ที่จะเผาเป็นของถวาย เครื่องสักการะ ถวายหนึ่งในสิบ และของถวายที่ท่านบริจาค ทุกสิ่งที่ท่านสัญญาว่าจะมอบให้แด่พระผู้เป็นเจ้า 12 จงยินดี ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ทั้งตัวท่านและบุตรชายบุตรหญิง ผู้รับใช้ชายและหญิง และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของพวกท่าน ผู้ไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับท่าน 13 ท่านจงระวังอย่ามอบสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวายของท่าน ณ ที่ใดๆ ตามใจชอบ 14 แต่จะเป็นสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะเลือกในเผ่าใดเผ่าหนึ่งของท่าน ที่นั่นแหละจะเป็นสถานที่ซึ่งท่านจะมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย และท่านจะปฏิบัติทุกสิ่งตามที่เราบัญชาท่านไว้

15 อย่างไรก็ดี ท่านฆ่าสัตว์เพื่อรับประทานเนื้อได้มากตามความต้องการภายในเมืองของท่าน ตามแต่พระพรที่ท่านจะได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ไม่ว่าผู้ใดจะสะอาดหรือไม่สะอาดตามพิธีกรรมก็รับประทานได้ทั้งนั้น เหมือนกับที่ท่านรับประทานเนื้อละองละมั่งหรือเนื้อกวาง 16 เพียงแต่ว่าอย่ารับประทานเลือด ท่านจงให้เลือดไหลดั่งน้ำลงสู่พื้นดิน 17 อย่ารับประทานของที่ท่านมอบให้แด่พระผู้เป็นเจ้าในเมืองที่ท่านอาศัยอยู่ อันได้แก่หนึ่งในสิบของธัญพืช เหล้าองุ่น หรือน้ำมันมะกอก ลูกหัวปีจากฝูงโคและฝูงแพะแกะ หรือของที่ท่านสัญญาว่าจะมอบให้ หรือของที่ให้ด้วยความสมัครใจ หรือของถวายที่ท่านบริจาค 18 แต่ท่านจงรับประทานของเหล่านี้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือก ทั้งตัวท่าน บุตรชายบุตรหญิง ผู้รับใช้ชายและหญิง และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของพวกท่าน และท่านจงยินดี ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในทุกสิ่งที่ท่านลงแรงทำ 19 จงระวังอย่าทอดทิ้งชาวเลวีตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินของท่าน

20 เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านขยายอาณาเขตของท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านพูดว่า ‘เราจะกินเนื้อสัตว์’ เพราะท่านอยากรับประทานเนื้อสัตว์เป็นอย่างยิ่ง แล้วท่านก็รับประทานได้มากเท่าที่ต้องการ 21 ถ้าหากว่าสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือก เพื่อให้เป็นที่สำหรับยกย่องพระนามของพระองค์อยู่ห่างเกินไปสำหรับท่าน ท่านจะฆ่าโคหรือแพะแกะตัวใดในฝูงที่เป็นของท่านซึ่งพระผู้เป็นเจ้าให้ เพื่อรับประทานในเมืองของท่าน ตามที่เราบัญชาท่านแล้ว 22 ท่านรับประทานได้ไม่ว่าผู้ใดจะสะอาดหรือไม่สะอาดตามพิธีกรรมก็รับประทานได้ทั้งนั้น เหมือนกับที่ท่านรับประทานเนื้อละองละมั่งหรือกวาง 23 แต่ว่าอย่ารับประทานเลือด เพราะชีวิตพึงอยู่ได้ด้วยเลือด และท่านอย่ารับประทานชีวิตพร้อมกับเนื้อ 24 อย่ารับประทานเลือด จงให้เลือดไหลดั่งน้ำลงสู่พื้นดิน 25 อย่ารับประทานเลือด แล้วทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่าน เมื่อท่านประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า 26 แต่ท่านจงนำเครื่องสักการะบูชาที่ท่านพึงถวาย และของที่ท่านสัญญาว่าจะมอบให้ ไปยังที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะเลือก 27 แล้วจงมอบสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวายทั้งเนื้อและเลือดบนแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จงเทเลือดสัตว์ที่นำมาสักการะบนแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ส่วนเนื้อนั้นท่านรับประทานได้ 28 ท่านจงระมัดระวังปฏิบัติให้เป็นตามคำซึ่งเราบัญชาท่านไว้ เพื่อว่าทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่านเป็นนิตย์ เมื่อท่านประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน

29 เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกำจัดบรรดาประชาชาติที่ท่านบุกเข้าไปยึดครองดินแดนและอาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขา 30 หลังจากเขาถึงความพินาศต่อหน้าท่านแล้ว จงระวังอย่าให้ถูกกับดัก ด้วยการถามไถ่เรื่องเทพเจ้าของพวกเขาว่า ‘ประชาชาติเหล่านั้นบูชาบรรดาเทพเจ้าของพวกเขาอย่างไร เราจะทำตามอย่างด้วย’ 31 อย่าประพฤติอย่างนั้นต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เพราะทุกสิ่งที่พวกเขากระทำต่อบรรดาเทพเจ้าของเขาเป็นที่น่ารังเกียจ และพระผู้เป็นเจ้าก็รังเกียจ แม้แต่บรรดาบุตรทั้งชายและหญิง พวกเขายังเผาไฟให้แก่บรรดาเทพเจ้าของเขาเลย

32 ท่านจงระมัดระวังปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เราบัญชาพวกท่านแล้ว อย่าแต่งเติมเสริมคำ หรือตัดให้หดหายไปจากนี้

สดุดี 97-98

พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ครองบัลลังก์สูงสุด

พระผู้เป็นเจ้าครองบัลลังก์ ให้แผ่นดินโลกเปรมปรีดิ์
    ให้แผ่นดินชายฝั่งทะเลอันแสนไกลยินดี
หมู่เมฆและความมืดทึบล้อมโดยรอบพระองค์
    ความชอบธรรมและความเป็นธรรมคือรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
เปลวไฟไปล่วงหน้าพระองค์
    เผาไหม้พวกศัตรูของพระองค์โดยรอบ
สายฟ้าแลบของพระองค์ทำให้โลกสุกสว่าง
    แผ่นดินโลกเห็นและสั่นสะเทือน
เทือกเขาหลอมละลายดั่งขี้ผึ้ง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
    ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าของสิ่งทั้งปวงบนแผ่นดินโลก
ฟ้าสวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์
    และบรรดาชนชาติทั้งปวงเห็นพระบารมีของพระองค์

บรรดาผู้นมัสการรูปเคารพทุกคนได้รับความอับอาย
    คือพวกที่โอ้อวดในรูปเคารพอันไร้ค่า
    เทพเจ้าทั้งปวงจงก้มนมัสการพระองค์

ชาวศิโยนได้ยินและยินดี
    บรรดาธิดาของยูดาห์เปรมปรีดิ์
    เพราะความเป็นธรรมของพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์เป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงสุดเหนือสิ่งทั้งปวงบนแผ่นดินโลก
    พระองค์ได้รับการเชิดชูเหนือเทพเจ้าทั้งปวง
10 ผู้รักพระผู้เป็นเจ้าเกลียดชังความชั่ว
    พระองค์รักษาชีวิตของผู้ภักดีต่อพระองค์
    พระองค์จะช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของคนชั่ว
11 แสงสาดส่องให้กับผู้มีความชอบธรรม
    และความยินดีให้กับผู้มีใจเที่ยงธรรม
12 ท่านผู้มีความชอบธรรมเอ๋ย จงยินดีในพระผู้เป็นเจ้าเถิด
    และขอบคุณพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์

จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี

เพลงสดุดี

จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า
    เพราะพระองค์ได้กระทำสิ่งมหัศจรรย์
มือขวาและแขนอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    นำชัยชนะมาสู่พระองค์
พระผู้เป็นเจ้าให้ชัยชนะเป็นที่ปรากฏในสายตาของบรรดาประชาชาติ
    พระองค์เผยความชอบธรรมของพระองค์
พระองค์ไม่ลืมความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์
    ที่มีต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอล
ทั่วแหล่งหล้าได้เห็นชัยชนะ
    ของพระเจ้าของเราแล้ว

ทั่วทั้งโลกเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าเถิด
    จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี และร้องเพลงสรรเสริญ
ร้องเพลงคลอคู่กับพิณเล็กถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า
    ด้วยทำนองเสียงร้องเพลงกับพิณเล็ก
กับแตรยาว[a]และเสียงแตรงอน[b]
    เปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่กษัตริย์ผู้เป็นพระผู้เป็นเจ้า

ให้ทะเลและสรรพสิ่งที่อยู่ในนั้นส่งเสียงครืนครั่น
    ทั้งโลกและผู้อาศัยอยู่ในนั้นพากันแซ่ซ้องด้วย
ให้กระแสน้ำส่งเสียงครืนครั่น
    ให้ทิวเขาเปล่งเสียงร้องเพลงด้วยความยินดีคู่กันไป
ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
    เพราะพระองค์จะมาพิพากษาแผ่นดินโลก
พระองค์จะพิพากษาโลกด้วยความชอบธรรม
    และพิพากษาบรรดาชนชาติด้วยความเที่ยงธรรม

อิสยาห์ 40

ให้กำลังใจชนชาติของพระเจ้า

40 พระเจ้าของพวกท่านกล่าวว่า
    “จงให้กำลังใจ ให้กำลังใจชนชาติของเรา
จงพูดกับเยรูซาเล็มด้วยวาจาอันอ่อนหวาน
    และร้องบอกเมืองนั้นว่า
การต่อสู้อย่างหนักของเมืองนั้นจบลงแล้ว
    และได้รับอภัยโทษบาป
พระผู้เป็นเจ้าได้ทำโทษเมืองนั้น
    เป็นสองเท่าของบาปทั้งปวงที่พวกเขาทำ”

มีเสียงร้องว่า “ในถิ่นทุรกันดาร
    จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม
    จงทำทางในทะเลทรายให้ตรงเพื่อพระเจ้าของเรา[a]
หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกให้สูงขึ้น
    ภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะถูกลดให้ต่ำลง
พื้นดินที่ไม่สม่ำเสมอจะเป็นทางเรียบ
    และที่ขรุขระจะเป็นที่ราบ
และพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าจะปรากฏ
    และมนุษย์ทุกคนจะมองเห็นพร้อมกัน[b]
    เพราะคำพูดออกจากปากของพระผู้เป็นเจ้า

คำกล่าวของพระเจ้ายั่งยืนอยู่ตลอดกาล

มีเสียงกล่าวว่า “จงร้องบอกเถิด”
    และข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะร้องอะไร”
มนุษย์ทุกคนเป็นเสมือนต้นหญ้า
    และความงามเป็นเสมือนดอกไม้ในทุ่ง
ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย
    เมื่อพระผู้เป็นเจ้าพ่นลมหายใจของพระองค์บนใบหญ้า
    แน่ทีเดียว คนเป็นเสมือนต้นหญ้า
ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย
    แต่คำกล่าวของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนอยู่ตลอดกาล[c]

ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

จงขึ้นไปบนภูเขาสูง
    โอ ผู้นำข่าวประเสริฐมายังศิโยน
จงโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง
    โอ ผู้นำข่าวประเสริฐมายังเยรูซาเล็ม
    จงโห่ร้อง อย่ากลัวเลย
จงบอกเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า
    “ดูเถิด พระเจ้าของพวกเจ้า”
10 ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่มาด้วยอานุภาพ
    และพระองค์ปกครองด้วยพลานุภาพ
ดูเถิด รางวัลของพระองค์อยู่กับพระองค์
    และพระองค์จะตอบสนอง
11 พระองค์จะเฝ้าฝูงแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ
    พระองค์จะรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมแขน
และอุ้มพวกเขาแนบทรวงอกของพระองค์
    และค่อยๆ นำ พวกแม่แกะที่มีลูกอ่อนกินนม

12 ใครวัดห้วงน้ำด้วยอุ้งมือของเขา
    และวัดฟ้าสวรรค์ด้วยฝ่ามือได้
ใครรวบรวมผงคลีดินไว้ในถ้วยตวง
    ใช้ตราชูชั่งเทือกเขา
    และใช้เครื่องวัดน้ำหนักวัดเนินเขาได้
13 ใครหยั่งพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าได้
    หรือใครจะให้คำปรึกษาแก่พระองค์ได้[d]
14 ใครเป็นผู้ที่พระองค์ปรึกษาด้วย
    และใครทำให้พระองค์เข้าใจ
ใครสอนวิถีทางแห่งความยุติธรรมแก่พระองค์
    และสอนความรู้แก่พระองค์
    และชี้แนะให้พระองค์เข้าใจได้
15 ดูเถิด บรรดาประชาชาติเป็นเหมือนหยดน้ำหยดหนึ่งในถัง
    และนับว่าเป็นเช่นเดียวกับธุลีบนตราชู
    ดูเถิด พระองค์ชั่งหมู่เกาะต่างๆ เหมือนชั่งผงคลี
16 เลบานอนไม่ดีพอที่จะเป็นเชื้อเพลิง
    และสัตว์ป่าที่นั่นก็มีไม่พอเพื่อใช้เผาเป็นของถวาย
17 ประชาชาติทั้งปวงไม่สามารถกระทำสิ่งใดต่อพระองค์ได้
    พวกเขาเปล่าประโยชน์ยิ่งกว่าศูนย์
    และมีสภาพว่างเปล่า

18 ฉะนั้นแล้ว พวกท่านจะเปรียบพระเจ้ากับผู้ใด
    หรือจะเปรียบรูปลักษณ์ของพระองค์กับอะไร
19 รูปเคารพเป็นสิ่งที่ช่างฝีมือหล่อขึ้น
    ช่างทองชุบมันด้วยทองคำ
    และทำสร้อยเงินสวมให้รูปเคารพ
20 คนที่ยากไร้เกินไปที่จะมอบของถวายเช่นนั้น
    ก็จะเลือกไม้ที่ไม่ผุ
เขาหาช่างฝีมือผู้ชำนาญ
    ติดตั้งรูปเคารพที่ขยับเขยื้อนไม่ได้

21 ท่านไม่ทราบหรือ
    ท่านไม่ได้ยินหรือ
ท่านไม่ได้รับฟังมาตั้งแต่แรกหรือ
    ท่านไม่เข้าใจนับตั้งแต่การวางฐานรากของแผ่นดินโลกหรือ
22 พระองค์พำนักอยู่เหนือโค้งของแผ่นดินโลก
    และบรรดาผู้อยู่อาศัยเป็นเหมือนตั๊กแตน
พระองค์แผ่ฟ้าสวรรค์ออกเหมือนปะรำ
    และกางฟ้าสวรรค์ออกเหมือนกระโจมเพื่อเป็นที่พำนัก
23 พระองค์ทำให้บรรดาผู้นำกระทำสิ่งใดไม่ได้เลย
    และทำให้บรรดาผู้ปกครองของแผ่นดินโลกเป็นดั่งความว่างเปล่า
24 พวกเขายังไม่ทันจะถูกปลูก ยังไม่ทันจะถูกหว่านเมล็ด
    กิ่งก้านยังไม่ทันงอกรากลงดิน
เมื่อพระองค์พ่นลมหายใจใส่พวกเขา พวกเขาก็เหี่ยวเฉาไป
    และพายุหมุนหอบพวกเขาไปเหมือนแกลบ

25 องค์ผู้บริสุทธิ์กล่าวว่า “ฉะนั้นพวกเจ้าจะเปรียบเราได้กับใคร
    ว่าเราควรจะเป็นเหมือนกับเขา”
26 ท่านจงเงยหน้าขึ้นดูสิ
    ใครสร้างสิ่งเหล่านี้
พระองค์ผู้สร้างทุกสิ่งที่อยู่บนฟ้าจำนวนมหาศาล
    เรียกชื่อทุกสิ่งบนนั้น
ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
    และเพราะว่าพระองค์มีอานุภาพยิ่งนัก
    จึงไม่มีสิ่งใดขาดหายไปเลย

27 โอ ยาโคบเอ๋ย ทำไมท่านจึงพูด
    โอ อิสราเอลเอ๋ย ทำไมท่านจึงกล่าวดังนี้
พระผู้เป็นเจ้าไม่เห็นวิถีทางของเรา
    และพระเจ้าไม่สนใจให้ความยุติธรรมแก่เรา”
28 พวกท่านไม่รู้หรอกหรือ
    พวกท่านไม่ได้ยินหรอกหรือ
พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้าตลอดกาล
    องค์ผู้สร้างแดนไกลสุดขอบโลก
พระองค์ไม่อ่อนล้าหรือสิ้นกำลัง
    ความหยั่งรู้ของพระองค์หามีขอบเขตจำกัดไม่
29 พระองค์มอบอานุภาพให้แก่ผู้อ่อนล้า
    และเสริมกำลังแก่ผู้ที่ขาดพลัง
30 แม้บรรดาวัยรุ่นก็ยังจะอ่อนล้าและสิ้นกำลัง
    และชายหนุ่มจะอ่อนแรง
31 แต่บรรดาผู้ที่รอคอยพระผู้เป็นเจ้า
    จะได้รับการเสริมสร้างพลังขึ้นใหม่
พวกเขาจะโผขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี
    พวกเขาจะวิ่ง แต่ไม่หมดกำลัง
    พวกเขาจะเดิน แต่ไม่อ่อนล้า

วิวรณ์ 10

ทูตสวรรค์และหนังสือม้วนเล็ก

10 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีอานุภาพอีกองค์หนึ่งกำลังลงมาจากสวรรค์ พร้อมกับมีหมู่เมฆคลุมเหมือนเสื้อผ้าคลุมกาย และมีรุ้งอยู่เหนือศีรษะ ใบหน้าเหมือนดวงอาทิตย์ และขาของท่านเหมือนเสาหลักสีเพลิงจัดจ้า ท่านมีหนังสือม้วนเล็กม้วนหนึ่งซึ่งคลี่ออกอยู่ในมือ เท้าขวาของท่านเหยียบลงบนทะเล และเท้าซ้ายอยู่บนบก ท่านร้องเสียงดังดุจสิงโตคำราม เมื่อสิ้นเสียงร้อง เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดก็ดังขึ้น เมื่อเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดดังขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ลงมือจะเขียน ข้าพเจ้าได้ยินเสียงพูดจากสวรรค์ว่า “จงผนึกข้อความที่ฟ้าร้องทั้งเจ็ดกล่าวไว้ แต่อย่าเขียนลงไป” ทูตสวรรค์ที่ข้าพเจ้าเห็น ซึ่งกำลังยืนอยู่ทั้งบนผิวน้ำทะเลและบนบกก็ยกมือขวาขึ้นสู่สวรรค์ กล่าวสาบานโดยอ้างพระนามของพระองค์ผู้มีชีวิตชั่วนิรันดร์กาล ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และทุกสิ่งที่มีในฟ้าสวรรค์ ผู้สร้างแผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่มีในแผ่นดินโลก ผู้สร้างทะเลและทุกสิ่งที่มีในทะเลว่า “จะไม่มีการล่าช้าต่อไปอีกแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดจะเป่าแตรของท่าน แผนการอันลึกลับซับซ้อนของพระเจ้า ตามที่พระองค์ประกาศแก่บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ก็จะสัมฤทธิผล”

ครั้นแล้วเสียงจากสวรรค์ที่ข้าพเจ้าได้ยินก็กล่าวกับข้าพเจ้าอีกครั้งว่า “จงไปเอาหนังสือม้วนที่คลี่ออกและอยู่ในมือของทูตสวรรค์องค์ที่กำลังยืนอยู่ทั้งบนผิวน้ำทะเลและบนบก” ข้าพเจ้าจึงไปหาทูตสวรรค์และขอหนังสือม้วนเล็กนั้น ท่านก็พูดกับข้าพเจ้าว่า “จงรับเอาไปกิน มันจะทำให้ท้องของเจ้าขม แต่เมื่ออยู่ในปากของเจ้ามันจะหวานปานน้ำผึ้ง” 10 ข้าพเจ้าก็รับหนังสือม้วนเล็กไปจากมือของทูตสวรรค์แล้วก็กินเข้าไป เมื่ออยู่ในปากของข้าพเจ้า มันหวานปานน้ำผึ้ง พอตกถึงท้องของข้าพเจ้าแล้วก็ขม 11 มีข้อความถึงข้าพเจ้าดังนี้ “เจ้าต้องประกาศสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบอีกเกี่ยวกับบรรดาชนชาติ ประเทศ ภาษา และกษัตริย์ทั้งหลาย”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation