Read the Gospels in 40 Days
พระเยซูต่อหน้าปีลาต(A)
15 เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นพวกหัวหน้าปุโรหิต ธรรมาจารย์ เหล่าผู้อาวุโส และทั้งสภาแซนเฮดรินก็ได้ข้อสรุป พวกเขามัดพระเยซูแล้วนำตัวมามอบให้แก่ปีลาต
2 ปีลาตถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ?”
พระเยซูตรัสตอบว่า “ใช่อย่างที่ท่านว่า”
3 พวกหัวหน้าปุโรหิตฟ้องพระองค์หลายข้อหา 4 ดังนั้นปีลาตจึงทูลถามพระองค์อีกครั้งว่า “ท่านจะไม่ตอบเลยหรือ? ดูสิ เขาฟ้องร้องท่านหลายข้อหาแค่ไหน”
5 แต่พระเยซูก็ยังคงไม่ตรัสตอบ ปีลาตประหลาดใจอย่างมาก
6 มีธรรมเนียมว่าในเทศกาลนั้นผู้ว่าการจะปล่อยตัวนักโทษหนึ่งคนตามที่ประชาชนขอ 7 มีคนหนึ่งในคุกชื่อบารับบัส อยู่ในกลุ่มกบฏซึ่งฆ่าคนในการจลาจล 8 ฝูงชนได้ขึ้นมาขอปีลาตให้ทำตามที่เคยปฏิบัติเสมอมา
9 ปีลาตถามว่า “พวกท่านต้องการให้เราปล่อยกษัตริย์ของชาวยิวหรือ?” 10 เพราะรู้ว่าพวกหัวหน้าปุโรหิตจับพระเยซูมามอบแก่เขาเพราะอิจฉา 11 แต่พวกหัวหน้าปุโรหิตยุยงฝูงชนให้เรียกร้องปีลาตให้ปล่อยบารับบัสแทน
12 ปีลาตถามพวกเขาว่า “แล้วจะให้ทำอย่างไรกับคนที่พวกท่านเรียกกันว่ากษัตริย์ของชาวยิว?”
13 พวกเขาตะโกนว่า “ตรึงเขาที่ไม้กางเขน!”
14 ปีลาตถามว่า “ทำไม? เขาก่ออาชญากรรมอะไร?”
แต่พวกนั้นร้องตะโกนดังขึ้นอีกว่า “ตรึงเขาที่ไม้กางเขน!”
15 เพื่อเอาใจฝูงชนปีลาตจึงปล่อยบารับบัสให้พวกเขา แล้วให้คนโบยตีพระเยซูและมอบตัวให้ไปตรึงที่ไม้กางเขน
พวกทหารเยาะเย้ยพระเยซู(B)
16 พวกทหารจึงนำพระเยซูเข้าไปในวังของผู้ว่าการ (คือศาลปรีโทเรียม) และระดมทหารทั้งกองมา 17 พวกเขาเอาเสื้อคลุมสีม่วงมาสวมให้พระองค์และสานมงกุฎหนามสวมที่พระเศียร 18 แล้วร้องว่า “ข้าแต่กษัตริย์ของชาวยิว ขอจงทรงพระเจริญ!” 19 เขาเอาไม้ฟาดพระเศียรครั้งแล้วครั้งเล่า ถ่มน้ำลายรดพระองค์ และคุกเข่าถวายคำนับพระองค์ 20 เมื่อเยาะเย้ยพระองค์แล้ว พวกเขาก็ถอดเสื้อสีม่วงนั้นและเอาฉลองพระองค์มาสวมให้ แล้วนำพระองค์ออกไปเพื่อตรึงที่ไม้กางเขน
การตรึงบนไม้กางเขน(C)
21 ชายคนหนึ่งจากเมืองไซรีนชื่อซีโมน ซึ่งเป็นบิดาของอเล็กซานเดอร์กับรูฟัส เดินทางจากนอกเมืองผ่านมาพอดี พวกทหารจึงเกณฑ์ให้เขาแบกไม้กางเขน 22 พวกเขานำพระเยซูมาถึงที่ซึ่งเรียกว่ากลโกธา (แปลว่า สถานแห่งหัวกะโหลก) 23 แล้วพวกเขาก็เอาเหล้าองุ่นเจือมดยอบมาถวาย แต่พระเยซูไม่ทรงดื่ม 24 พวกเขาตรึงพระองค์ที่ไม้กางเขน แล้วนำฉลองพระองค์มาจับฉลากแบ่งกัน
25 เมื่อเขาตรึงพระองค์นั้นเป็นเวลาสามโมงเช้า 26 มีป้ายเขียนข้อหาที่ลงโทษพระองค์ว่า “กษัตริย์ของชาวยิว” 27 พวกเขาตรึงโจรสองคนที่ไม้กางเขนพร้อมกับพระองค์ คนหนึ่งอยู่ข้างซ้ายและอีกคนหนึ่งอยู่ข้างขวาของพระองค์[a] 29 ผู้คนที่ผ่านไปมาต่างส่ายหน้าและสบประมาทพระองค์ว่า “เป็นอย่างไร! เจ้าคนที่จะทำลายพระวิหารแล้วสร้างขึ้นใหม่ในสามวัน 30 จงลงมาจากไม้กางเขนและช่วยตัวเองให้รอดสิ!”
31 พวกหัวหน้าปุโรหิตและธรรมาจารย์ก็เยาะเย้ยพระองค์เช่นกันว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้แต่กลับช่วยตัวเองให้รอดไม่ได้! 32 ให้พระคริสต์[b]กษัตริย์ของอิสราเอลผู้นี้ลงมาจากไม้กางเขนเดี๋ยวนี้สิ เราจะได้เห็นแล้วเชื่อ” บรรดาผู้ที่ถูกตรึงไม้กางเขนพร้อมกับพระองค์ก็พากันพูดดูถูกดูหมิ่นพระองค์ต่างๆ นานาด้วย
พระเยซูสิ้นพระชนม์(D)
33 ตั้งแต่เที่ยงวันถึงบ่ายสามโมงเกิดมืดมัวไปทั่วแผ่นดิน 34 เวลาบ่ายสามโมงพระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “เอโลอี เอโลอี ลามา สะบักธานี?” แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมทรงทอดทิ้งข้าพระองค์?”[c]
35 บางคนซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ได้ยินก็พูดว่า “ฟังสิ เขาร้องเรียกเอลียาห์”
36 มีคนหนึ่งวิ่งไปเอาฟองน้ำจุ่มเหล้าองุ่นเปรี้ยวเสียบไม้ส่งให้พระองค์เสวยและพูดว่า “อย่าไปยุ่งกับเขา ให้เราดูซิว่าเอลียาห์จะมาช่วยปล่อยเขาลงหรือไม่”
37 พระเยซูทรงร้องเสียงดังแล้วสิ้นพระชนม์
38 ม่านในพระวิหารก็ขาดเป็นสองส่วนตั้งแต่บนจรดล่าง 39 เมื่อนายร้อยซึ่งยืนอยู่ต่อหน้าพระเยซูได้ยินเสียงร้องของพระองค์และ[d]เห็นว่าพระองค์สิ้นพระชนม์อย่างไรก็กล่าวว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นพระบุตร[e]ของพระเจ้า!”
40 มีผู้หญิงบางคนเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ในพวกนั้นมีมารีย์ชาวมักดาลา สะโลเม และมารีย์มารดาของยากอบน้อยและโยเสส 41 ผู้หญิงเหล่านี้ติดตามพระเยซูและปรนนิบัติพระองค์ในแคว้นกาลิลี ผู้หญิงอื่นๆ อีกหลายคนซึ่งตามเสด็จพระองค์มายังเยรูซาเล็มก็อยู่ที่นั่นด้วย
การฝังพระศพพระเยซู(E)
42 วันนั้นเป็นวันเตรียม (คือวันก่อนวันสะบาโต) ดังนั้นเมื่อเวลาเย็นใกล้เข้ามา 43 โยเซฟจากอาริมาเธีย หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของสภาผู้กำลังรอคอยอาณาจักรของพระเจ้า ได้เข้าพบปีลาตอย่างองอาจเพื่อขอรับพระศพพระเยซู 44 ปีลาตประหลาดใจที่ได้ยินว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์แล้วจึงเรียกนายร้อยผู้นั้นมาถามว่าทรงสิ้นพระชนม์แล้วหรือ 45 เมื่อทราบจากนายร้อยว่าเป็นเช่นนั้นก็มอบพระศพแก่โยเซฟ 46 ดังนั้นโยเซฟจึงเชิญพระศพลงมา เอาผ้าลินินที่ซื้อไว้พันพระศพ และวางไว้ในอุโมงค์ซึ่งสกัดไว้ในศิลา แล้วเขากลิ้งหินก้อนหนึ่งปิดปากอุโมงค์ 47 มารีย์ชาวมักดาลากับมารีย์มารดาของโยเซฟ[f]ได้เห็นที่วางพระศพ
การคืนพระชนม์(F)
16 เมื่อวันสะบาโตผ่านไปมารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบ และสะโลเมซื้อเครื่องหอมมาเพื่อชโลมพระศพพระเยซู 2 เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์พอดวงอาทิตย์ขึ้นพวกเขามายังอุโมงค์ 3 และถามกันว่า “ใครจะช่วยกลิ้งหินจากปากอุโมงค์?”
4 แต่เมื่อมองไปก็เห็นหินก้อนนั้นซึ่งใหญ่มากถูกกลิ้งออกไปแล้ว 5 เมื่อเข้าไปในอุโมงค์ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดสีขาวนั่งอยู่ทางขวาพวกนางก็ตกใจกลัว
6 ผู้นั้นกล่าวว่า “อย่าตื่นตกใจไปเลย พวกเจ้ามาหาพระเยซูแห่งนาซาเร็ธผู้ถูกตรึงตายบนไม้กางเขน พระองค์ทรงเป็นขึ้นแล้ว! พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ จงดูที่ที่เขาวางพระศพเถิด 7 จงไปบอกพวกสาวกรวมทั้งเปโตรว่า ‘พระองค์กำลังเสด็จไปแคว้นกาลิลีก่อนหน้าพวกท่าน ท่านจะพบพระองค์ที่นั่นดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้’ ”
8 ผู้หญิงเหล่านั้นตกตะลึงกลัวจนตัวสั่น จึงพากันออกจากอุโมงค์อย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกับใครเพราะกลัว
(สำเนาต้นฉบับเก่าแก่ที่น่าเชื่อถือมากที่สุดและหลักฐานโบราณบางฉบับไม่มีพระธรรมมาระโก 16:9-20)
9 เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์เมื่อพระเยซูทรงเป็นขึ้น พระองค์ทรงปรากฏแก่มารีย์ชาวมักดาลาเป็นคนแรก คือมารีย์คนที่พระเยซูทรงขับผีออกเจ็ดตน 10 มารีย์จึงไปบอกบรรดาผู้ที่อยู่กับพระองค์ พวกเขากำลังร้องไห้ทุกข์โศกอยู่ 11 เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่และมารีย์ได้เห็นพระองค์ พวกเขาก็ไม่เชื่อ
12 ภายหลังพระเยซูทรงปรากฏในพระกายอีกรูปหนึ่งแก่สาวกสองคนขณะที่พวกเขาเดินอยู่นอกเมือง 13 ทั้งสองกลับมาเล่าให้คนอื่นๆ ฟัง แต่พวกนั้นก็ไม่เชื่ออีกเหมือนกัน
14 ต่อมาพระเยซูทรงปรากฏแก่สาวกสิบเอ็ดคนนั้นขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหาร พระองค์ทรงตำหนิพวกเขาที่ขาดความเชื่อและดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อผู้ที่เห็นพระองค์หลังจากพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว
15 พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “จงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนทั้งปวง 16 ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาจะรอด ส่วนผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินโทษ 17 ผู้ที่เชื่อจะมีหมายสำคัญดังนี้คือ เขาทั้งหลายจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาใหม่ๆ 18 เขาจะจับงูด้วยมือเปล่า และเมื่อดื่มพิษร้ายเขาจะไม่เป็นอันตรายเลย เขาจะวางมือให้คนเจ็บคนป่วยและคนเหล่านั้นจะหายโรค”
19 เมื่อองค์พระเยซูเจ้าตรัสจบแล้วพระองค์ก็ทรงถูกรับขึ้นสู่สวรรค์และประทับนั่งที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า 20 ฝ่ายเหล่าสาวกออกไปเทศนาทุกหนทุกแห่ง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงร่วมงานกับเขาและรับรองพระดำรัสของพระองค์โดยหมายสำคัญที่เกิดขึ้น
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.