Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 23:21-25:38

21 เราไม่ได้ส่งผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนี้มา
    แต่พวกมันกลับวิ่งไปพูดกับพวกเจ้าเอง
เราไม่ได้พูดกับพวกมัน
    แต่พวกมันกลับไปพูดแทนเรา
22 ถ้าพวกมันได้มายืนอยู่ในห้องประชุมสภาของเรา
    และได้ยินถ้อยคำต่างๆของเราที่มีไว้สำหรับคนของเรา
พวกมันก็คงจะทำให้คนเหล่านั้นหันจากวิถีทางชั่วของพวกเขา
    และหันจากการทำชั่วของพวกเขาแล้ว”

23 พระยาห์เวห์ถามว่า
“เราเป็นพระเจ้าที่อยู่ใกล้ๆเท่านั้นหรือ
    เราไม่ได้เป็นพระเจ้าในที่ห่างไกลด้วยหรือ
24 ถ้าใครซ่อนตัวอยู่ เราจะมองไม่เห็นหรือ”
“เราไม่ได้อยู่ทั่วฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกหรือ”
พระยาห์เวห์ถามอย่างนั้น

พระยาห์เวห์พูดว่า 25 “เราได้ยินสิ่งที่ไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนั้นพูด ไอ้พวกนั้นที่ทำนายโกหก โดยเอาชื่อเราไปอ้าง พวกมันพูดว่า ‘ฉันฝันเห็นแล้ว ฉันฝันเห็นแล้ว’

26 ใจของพวกมันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานไหม พวกมันทำนายโกหกและหลอกลวงในสิ่งที่พวกมันกุขึ้นมาเองในใจ

27 พวกมันวางแผนที่จะทำให้คนของเราลืมชื่อของเรา ด้วยความฝันต่างๆที่พวกมันยกขึ้นมาเล่าให้กับเพื่อนบ้านฟัง พวกมันหวังว่าคนจะลืมเรา เหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกมันลืมชื่อของเรา และหันไปบูชาพระบาอัล

28 ให้ผู้พูดแทนพระเจ้าที่มีความฝันจะเล่า เล่ามันออกมา แต่ขอให้คนที่มีถ้อยคำของเรา พูดถ้อยคำของเราอย่างซื่อสัตย์ ฟางกับเมล็ดข้าวสาลีมันจะไปด้วยกันได้อย่างไร” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น

29 พระยาห์เวห์ถามว่า “ถ้อยคำของเราเป็นเหมือนไฟไม่ใช่หรือ

มันเป็นเหมือนค้อนที่ทุบหินที่แข็งให้แตกกระจุยไม่ใช่หรือ

30 ดังนั้น เราต่อต้านไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ขโมยถ้อยคำต่างๆของเราจากเพื่อนบ้านของเขา

31 เราต่อต้านไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ใช้ลิ้นตัวเองประกาศเรื่องบางเรื่องว่าเป็นคำทำนายของพระยาห์เวห์” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

32 “เราจะต่อต้านไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ทำนายฝันหลอกๆ” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น “พวกมันเล่าความฝันเหล่านั้น และทำให้คนของเราหลงไป ด้วยคำหลอกลวงและเรื่องต่างๆที่พวกมันกุขึ้นมาเอง เราไม่ได้ส่งพวกมันมา และเราก็ไม่ได้สั่งให้พวกมันพูดด้วย และที่แน่นอนก็คือพวกมันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรให้กับคนพวกนี้เลย” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น

33 “และถ้าคนพวกนี้ หรือผู้พูดแทนพระเจ้า หรือนักบวชถามเจ้าว่า ‘พระยาห์เวห์ฝากภาระอะไรให้เจ้าแบกมา’ เจ้าก็บอกพวกมันไปว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า “ก็พวกแกนี่แหละคือภาระ และเราจะโยนพวกแกทิ้ง”’”

34 “ผู้พูดแทนพระเจ้า หรือนักบวช หรือคนที่พูดว่า ‘นี่แหละคือภาระที่พระยาห์เวห์ฝากมา’ พวกที่พูดว่าอย่างนั้น เราจะลงโทษพวกที่พูดอย่างนั้นรวมทั้งคนในบ้านเรือนของพวกเขาด้วย”

35 “แต่นี่ต่างหากที่พวกเจ้าควรจะถามกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องของเจ้า คือ ‘พระยาห์เวห์ตอบว่าอะไร หรือพระยาห์เวห์พูดว่าอะไร’ 36 และเจ้าจะต้องไม่พูดอย่างนี้อีกต่อไปว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ เพราะภาระนั้นเป็นแค่คำพูดของแต่ละคน และโดยวิธีนี้ เจ้าก็ได้บิดเบือนคำพูดของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าของพวกเรา

37 ดังนั้นเจ้าควรจะถามผู้พูดแทนพระเจ้าอย่างนี้ว่า

‘พระยาห์เวห์ตอบว่าอะไร พระยาห์เวห์พูดว่าอะไร’

38 แต่ถ้าพวกเจ้าพูดประโยคนี้ว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ ซึ่งพระยาห์เวห์ได้บอกไว้แล้วว่า อย่าพูดประโยคนี้ที่ว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ และพวกเจ้าก็ยังพูดอย่างนั้น

39 ดังนั้น ดูไว้ให้ดี เราจะยกเจ้าเหวี่ยงออกไปจากหน้าเราแน่ๆ ทั้งเจ้าและเมืองที่เราเคยมอบให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า 40 เราจะทำให้เจ้าได้รับความอัปยศตลอดไป และทำให้เจ้าอับอายอย่างที่ไม่มีวันลืมเลือนได้”

ลูกมะเดื่อดีกับลูกมะเดื่อเสีย

24 พระยาห์เวห์ให้ผมดูตะกร้ามะเดื่อสองใบที่วางอยู่ตรงหน้าวิหารของพระองค์ หลังจากที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้เนรเทศเยโคนิยาห์ลูกของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ออกไปจากเยรูซาเล็มไปอยู่ที่บาบิโลนแล้ว พร้อมกับพวกเจ้านายของยูดาห์และช่างฝีมือและช่างเหล็กจากเยรูซาเล็ม

ตะกร้าหนึ่งใส่มะเดื่อที่ดีที่สุดเอาไว้ เหมือนมะเดื่อที่เก็บครั้งแรก อีกตะกร้าหนึ่งใส่มะเดื่อที่เสีย จนคนไม่กล้ากิน เพราะมันเสียมาก

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “เยเรมียาห์ เจ้าเห็นอะไรบ้าง”

ผมก็ตอบว่า “มะเดื่อครับ มะเดื่อดีก็ดีเยี่ยมเลยครับ แต่มะเดื่อเสียก็เสียเอามากๆกินไม่ได้เลยเพราะพวกมันเสียมาก”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูด ‘เราถือว่ามะเดื่อที่ดีพวกนี้เป็นเหมือนคนยูดาห์ในส่วนที่ถูกขับไล่ไป คนพวกนี้คือพวกที่เราส่งออกจากแผ่นดินนี้ไปที่ดินแดนของพวกเคลเดีย เราจะเฝ้าดูพวกเขาเป็นอย่างดี และเราจะนำพวกเขากลับมาที่แผ่นดินนี้ เราจะสร้างพวกเขาขึ้นมาใหม่ และจะไม่ทำลายพวกเขา เราจะปลูกพวกเขาและไม่ถอนพวกเขาขึ้นมา เราจะให้พวกเขามีใจที่รู้จักเรา เพื่อจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ พวกเขาจะเป็นคนของเรา และเราก็จะเป็นพระเจ้าของพวกเขา เพราะพวกเขาจะกลับมาหาเราด้วยสิ้นสุดใจของพวกเขา’”

พระยาห์เวห์พูดว่า “ส่วนกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ พร้อมกับเจ้านายทั้งหลายของเขา และคนที่เหลือในเยรูซาเล็ม รวมทั้งคนที่เหลืออยู่ในดินแดนนี้ และคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ด้วย เราจะทำกับเขาเหมือนลูกมะเดื่อที่เสียจนกินไม่ได้เหล่านั้น เพราะมันเสียมากเหลือเกิน

เราจะทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่นและเจอกับสิ่งที่เลวร้ายไปทั่วอาณาจักรของโลกนี้ เราจะทำให้พวกเขาถูกต่อว่า ถูกกระทบกระเทียบ ถูกเยาะเย้ย และถูกแช่งด่าในดินแดนที่เราจะเนรเทศพวกเขาไป

10 เราจะนำสงคราม ความอดอยาก และโรคร้าย มาทำลายพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นจากแผ่นดินนี้ ที่เราได้ยกให้กับพวกเขาและบรรพบุรุษของพวกเขาไว้”

บทสรุปคำเทศนาของเยเรมียาห์

25 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่ส่งมาถึงเยเรมียาห์เกี่ยวกับชาวยูดาห์ทั้งหมด ในปีที่สี่ของการปกครองของกษัตริย์เยโฮยาคิมลูกชายกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ ซึ่งตรงกับปีแรกที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ครอบครองบาบิโลน นี่คือพระคำที่เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า พูดกับคนยูดาห์และคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มว่า

“ตั้งแต่ปีที่สิบสามที่โยสิยาห์ลูกของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์ปกครองประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเวลายี่สิบสามปีแล้ว ผมได้รับพระคำของพระยาห์เวห์มา แล้วผมก็ได้พูดพระคำของพระองค์ให้กับพวกคุณฟัง ผมพูดแล้วพูดอีก แต่พวกคุณก็ไม่เคยฟัง พระยาห์เวห์ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกคุณ พระองค์ส่งพวกเขามาแล้วมาอีก แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง คุณไม่ได้เงี่ยหูฟังเลย

พระองค์พูดอยู่เสมอว่า ‘กลับมา พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับมาจากวิถีชีวิตที่ชั่วร้าย และหันกลับมาจากการกระทำต่างๆที่ชั่วช้าของเจ้า และให้มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ยกให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไป อย่าได้ไปติดตามและรับใช้พระอื่นๆ อย่าได้ไปกราบไหว้พระอื่นเลย และอย่าได้ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือของเจ้าเองเลย แล้วเราจะไม่ทำอันตรายเจ้า แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เจ้าก็เลยยั่วเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือเจ้าเอง ทำให้เราต้องทำร้ายเจ้า”

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูด “เนื่องจากเจ้าไม่ยอมฟังคำของเรา เรากำลังจะส่งสารไป และเรียกเผ่าทางเหนือทั้งหมดมา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “และเราจะส่งสารไปบอกกับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ที่เป็นผู้รับใช้ของเรา และเราจะพาพวกเขาทั้งหมดมาบุกแผ่นดินนี้ และต่อสู้กับพลเมืองของที่นี่ และต่อสู้กับชนชาติต่างๆทั้งหมดนี้ที่อยู่ล้อมรอบมัน เราจะทำลายพวกมันอย่างราบคาบ เราจะทำให้พวกมันเป็นเป้าของความสยดสยอง และให้เป็นที่หัวเราะเยาะและดุด่าว่ากล่าวตลอดไป

10 เราจะทำลายเสียงรื่นเริงสนุกสนานและเสียงเลี้ยงฉลอง เสียงของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันแต่งงาน เสียงของหินโม่แป้งทำอาหาร และแสงตะเกียงให้หมดไป

11 ทั่วแผ่นดินนี้จะกลายเป็นที่แห้งแล้งรกร้าง และชนชาตินี้จะต้องเป็นขี้ข้ากษัตริย์บาบิโลนไปอีกเจ็ดสิบปี

12 พอครบเจ็ดสิบปีแล้ว เราจะจัดการกับกษัตริย์บาบิโลนและชนชาตินั้นทั้งหมด สำหรับความผิดบาปที่พวกมันทำ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

“และเราจะจัดการกับดินแดนของพวกเคลเดีย เราจะทำให้มันรกร้างตลอดไป 13 ทุกๆคำพูดที่เราได้พูดต่อต้านแผ่นดินนั้น เราจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงตามนั้น ทุกอย่างที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เยเรมียาห์ได้พูดต่อต้านชนชาติต่างๆไว้ จะเกิดขึ้นจริงตามนั้น

14 ที่เราพูดอย่างนี้ ก็เพราะชนชาติต่างๆมากมายและกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่หลายองค์ จะต้องไปเป็นขี้ข้ารับใช้บาบิโลน แล้วเราจะตอบแทนพวกมันตามสิ่งที่พวกมันทำและสิ่งที่มือของพวกมันสร้างขึ้นมา”

การพิพากษาต่อชนชาติต่างๆในโลกนี้

15 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดกับผมว่า

“ให้เอาถ้วยนี้ไปจากมือเรา เป็นถ้วยที่ใส่เหล้าองุ่นแห่งความโกรธของเรา แล้วเราจะส่งเจ้าไปตามชนชาติต่างๆและเราจะทำให้ชนชาติเหล่านั้นดื่มมัน

16 พวกมันจะดื่มจนเมาโซเซ และทำตัวเหมือนคนบ้า ก็เพราะดาบที่เราส่งไปท่ามกลางพวกมัน”

17 ดังนั้นผมจึงหยิบถ้วยจากมือของพระยาห์เวห์ และไปตามชนชาติต่างๆที่พระองค์ส่งผมไป และทำให้ชนชาติเหล่านั้นดื่มมัน

18 ชนชาติเหล่านั้นได้แก่เยรูซาเล็ม และเมืองต่างๆของยูดาห์ และบรรดากษัตริย์และเจ้านายข้าราชการทั้งหลาย ผมทำให้พวกเขาดื่มจากถ้วยนี้ เพื่อทำให้แผ่นดินของพวกเขารกร้างว่างเปล่า ไร้ประโยชน์ เป็นเป้าให้คนหัวเราะเยาะและได้รับการดูถูกเหยียดหยาม อย่างที่มันเป็นอยู่ตอนนี้

19 คนเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องดื่มจากถ้วยนี้ คือฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์ พร้อมกับข้ารับใช้ ข้าราชการ รวมทั้งประชาชนของพระองค์ทุกคน

20 พวกชาวบ้านตามชายแดน และกษัตริย์ทุกองค์ของอูส พวกกษัตริย์ทุกองค์ของฟีลิสเตีย ซึ่งก็มี กษัตริย์ต่างๆของเมืองอัชเคโลน กาซา เอโครน และที่เหลือของเมืองอัชโดด

21 คนในเมืองเอโดม โมอับ และอัมโมน

22 กษัตริย์ทุกองค์ของไทระ ไซดอน และกษัตริย์ที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลอีกฟากหนึ่ง 23 คนที่เดดาน เทมา และบูส รวมทั้งคนพวกนั้นที่เข้าพิธีโกนผมจอน[a] 24 กษัตริย์ทุกองค์ของอาระเบีย และกษัตริย์ทุกองค์ตามแนวชายแดนซึ่งอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง 25 กษัตริย์ทุกองค์ในศิมรี เอลาม และมีเดีย 26 กษัตริย์ทุกองค์จากทางเหนือ ที่อยู่ใกล้และไกล คนแล้วคนเล่า ผมทำให้อาณาจักรทุกแห่งที่อยู่บนโลกดื่มจากถ้วยนี้ แล้วกษัตริย์แห่งเชชัก[b] ก็จะดื่มหลังจากพวกเขาเหล่านั้น

27 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “แล้วให้เจ้าบอกกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า ‘ดื่มซะให้เมาไปเลย ให้อ้วกแตก แล้วก็ล้มลง และอย่าลุกขึ้นมาต่อหน้าดาบที่เรากำลังส่งไปท่ามกลางเจ้า’

28 แต่ถ้าพวกมันไม่ยอมรับถ้วยในมือเจ้าไปดื่ม ก็ให้เจ้าบอกกับพวกมันว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า ‘พวกเจ้าจะต้องดื่ม 29 เพราะดูสิ เรากำลังจะนำความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานมายังเมืองที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา แล้วเจ้าจะได้รับการยกเว้นหรือไง เราจะไม่ละเว้นเจ้าหรอก เพราะเรากำลังจะทำให้ดาบมาตกอยู่บนพลเมืองทุกคนของแผ่นดินนี้’” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้

30 “เยเรมียาห์ ให้เจ้าบอกทุกๆถ้อยคำนี้ที่เราพูดให้พวกมันฟัง เจ้าจะต้องบอกกับพวกมันว่า

พระยาห์เวห์คำรามมาจากที่สูง
    และพระองค์ส่งเสียงเรียกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระองค์คำรามลั่นใส่ฝูงแกะของพระองค์
    มีเสียงตะโกนดังลั่นไปทั่วทุกคนในโลกนี้เหมือนเสียงโห่ร้องของคนย่ำองุ่น
31 เสียงนั้นดังกึกก้องไปถึงสุดขอบโลก
    เพราะพระยาห์เวห์มีคดีกับชนชาติต่างๆ
พระองค์กำลังจะพิพากษาโลกทั้งโลก
    และทำให้คนชั่วตายด้วยดาบ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

32 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ความชั่วช้ากำลังแพร่กระจายจากชนชาติหนึ่งไปยังอีกชนชาติหนึ่ง
    พายุร้ายกำลังพัดมาจากขอบโลก”

33 ในเวลานั้นจะมีคนตั้งแต่ขอบโลกด้านหนึ่งไปถึงขอบโลกอีกด้านหนึ่งถูกพระยาห์เวห์ฆ่า จะไม่มีใครร้องไห้ให้พวกมัน และจะไม่มีใครเก็บศพพวกมันมาฝัง พวกมันจะเป็นเหมือนมูลสัตว์บนดิน

34 พวกผู้เลี้ยงแกะของอิสราเอล ร้องไห้โหยหวนเถอะ
    พวกผู้นำฝูงแกะ กลิ้งตัวคลุกฝุ่นด้วยความโศกเศร้าเถอะ
เพราะถึงเวลาแล้วที่พวกแกจะต้องโดนฆ่า
    พวกแกจะล้มลงแตกเหมือนหม้อไหราคาแพง
35 ผู้เลี้ยงแกะพวกนี้ไม่พบที่ลี้ภัย
    ส่วนผู้นำฝูงแกะก็จะหนีไม่รอด
36 ผมได้ยินเสียงร้องของพวกคนเลี้ยงแกะ
    และเสียงสะอึกสะอื้นของผู้นำฝูงแกะ
    ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพระยาห์เวห์กำลังทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา
37 ทุ่งหญ้าที่เงียบสงบจะย่อยยับไป
    เพราะความเดือดดาลของพระยาห์เวห์
38 พระองค์ทิ้งถ้ำของพระองค์เองไปเหมือนสิงโต
    แผ่นดินของพวกเขาถูกทำลายแน่
เรื่องนี้เกิดจากดาบ[c]ของผู้ข่มเหง
    และความเดือดดาลของพระเจ้า

2 เธสะโลนิกา 2

เรื่องชั่วร้ายที่จะเกิดขึ้น

ตอนนี้พี่น้องครับ เราจะพูดถึงเรื่องที่พระเยซูคริสต์เจ้าจะกลับมาและที่พวกเราจะชุมนุมกันกับพระองค์นั้น ขออย่าได้ตกใจหรือวุ่นวายใจไป เมื่อมีคำพยากรณ์ คำพูด หรือจดหมายที่อ้างว่ามาจากเรา ที่บอกว่าวันขององค์เจ้าชีวิตมาถึงแล้ว อย่าให้ใครหลอกเอา ไม่ว่าเขาจะมาไม้ไหนก็ตาม วันนั้นขององค์เจ้าชีวิตจะยังไม่มา จนกว่าจะมีการทรยศต่อพระเจ้าครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นก่อน และคนชั่วร้ายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้น จุดหมายปลายทางของมันคือนรก[a] มันจะต่อต้าน และจะยกย่องตัวมันเองขึ้นเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเรียกว่า “พระเจ้า” หรืออะไรก็ตามที่คนบูชากัน มันจะทำถึงขนาดที่ว่า เข้าไปในวิหารของพระเจ้าและขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ และป่าวประกาศว่าตัวมันเองคือพระเจ้า

จำได้ไหม ผมพูดถึงเรื่องนี้บ่อยๆตอนที่ผมยังอยู่กับคุณ ตอนนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งมันไว้ เพื่อให้มันปรากฏตัวออกมาในเวลาที่เหมาะสม และพวกคุณก็รู้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะพลังความชั่วอันลึกลับนี้ ก็ได้ทำงานอยู่ในโลกแล้ว แต่มีผู้หนึ่งที่กำลังรั้งตัวมันอยู่ และจะรั้งต่อไปจนกว่าผู้รั้งนี้จะไม่อยู่ แล้วคนชั่วร้ายนั้นก็จะปรากฏตัวออกมา พระเยซูเจ้าจะฆ่ามันด้วยลมหายใจจากปากของพระองค์ เมื่อพระองค์กลับมาครั้งยิ่งใหญ่ และพระองค์จะทำลายล้างมันจนสิ้นซาก คนชั่วร้ายนี้ เมื่อมาก็จะใช้อำนาจของซาตาน พร้อมกับทำอิทธิฤทธิ์ สัญญาณสำคัญและปาฏิหาริย์ที่ดูเหมือนมาจากพระเจ้า แต่จริงๆแล้วมาจากซาตาน 10 มันจะใช้รูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ในการหลอกลวงคนที่กำลังหลงหาย พวกนี้หลงหายก็เพราะไม่ยอมรักความจริง ซึ่งเป็นความจริงที่จะช่วยให้เขารอดได้ 11 เพราะเขาไม่รักความจริง พระเจ้าจึงทำให้คนพวกนี้เห็นผิดเป็นชอบ เพื่อจะได้หลงเชื่อในสิ่งที่ผิด 12 พระองค์จะลงโทษพวกเขาที่ไม่ยอมเชื่อความจริง แต่กลับไปสนุกสนานกับความชั่ว

พระเจ้าเลือกคุณให้ได้รับความรอด

13 พี่น้องครับ องค์เจ้าชีวิตรักคุณ พระเจ้าได้เลือกพวกคุณไว้แล้วตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้ได้รับความรอด ที่คุณรอดก็เพราะคุณเชื่อในความจริง และพระวิญญาณได้ทำให้คุณเป็นคนของพระเจ้า 14 คุณรอดโดยผ่านทางข่าวดีที่เราได้ประกาศนั้น พระเจ้าได้เรียกให้คุณมารับความรอดนั้น ก็เพื่อคุณจะได้มีส่วนร่วมในเกียรติของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา 15 ดังนั้นพี่น้องครับ ให้ตั้งมั่นคงไว้ และยึดมั่นในคำสอนที่ได้ตกทอดมาถึงคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือจดหมายจากเราก็ตาม

16 เรามีกำลังใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความหวังที่มั่นคง ก็เพราะพระเจ้าเมตตาต่อเรา ขอให้พระเยซูคริสต์เจ้า และพระเจ้าพระบิดาของเราผู้ที่รักเรา 17 ให้กำลังใจและให้พลังกับพวกคุณ เพื่อคุณจะได้ทำและพูดในสิ่งดีๆต่อไป

สดุดี 84

อยากอยู่ในวิหารของพระเจ้า

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องโดยใช้ทำนองกิททีธ[a] เพลงสดุดีของตระกูลโคราห์

84 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    เต็นท์ที่สถิตของพระองค์ช่างงดงามยิ่งนัก
ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างแรงกล้าและรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เข้าไปในลานวิหารของพระองค์
    ทั้งจิตใจและร่างกายของข้าพเจ้าจะโห่ร้องด้วยความยินดีแด่พระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่

ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าและกษัตริย์ของข้าพเจ้า
    แม้แต่นกกระจอกก็ยังเจอที่พักในวิหารของพระองค์
    แม้แต่นกนางแอ่นก็ยังมาทำรังเลี้ยงลูกอ่อนของมันใกล้แท่นบูชาทั้งหลายของพระองค์
ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่ได้อาศัยในวิหารของพระองค์
    และได้สรรเสริญพระองค์อยู่เสมอ เซลาห์

ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่แสวงหาพละกำลังจากพระองค์
    คนที่ได้ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางไปสู่วิหารของพระองค์
ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านหุบเขาแห้งแล้งแห่งบาคานั้น
    มันก็กลับกลายเป็นบริเวณที่มีตาน้ำมากมาย
    ฝนต้นฤดูก็ตกลงมาทำให้หุบเขานั้นเกิดแอ่งน้ำเต็มไปหมด
พวกเขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง[b]
    เพื่อไปเข้าเฝ้าพระเจ้าบนภูเขาศิโยน

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าเถิด
    ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบ โปรดฟังข้าพเจ้าด้วยเถิด เซลาห์

ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ความสนใจโล่ของพวกเราด้วย
    และเอาใจใส่กษัตริย์ที่พระองค์ได้เจิมไว้ด้วยเถิด
10 วันเดียวในลานวิหารของพระองค์ยังดีกว่าพันวันในที่อื่น
    ยืนอยู่ที่ประตูบ้านของพระเจ้าของข้าพเจ้ายังดีกว่าอาศัยอยู่ในบ้านของคนชั่ว
11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นดวงอาทิตย์ และเป็นโล่กำบัง
    พระองค์ให้ความดีความชอบและเกียรติยศ
    พระองค์ไม่เคยหวงของดีๆไว้จากคนที่ใช้ชีวิตอย่างไร้ที่ติ
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    คนที่ไว้วางใจในพระองค์ ถือว่ามีเกียรติจริงๆ

สุภาษิต 25:15

15 ความใจเย็นสามารถโน้มน้าวผู้นำได้
    คำพูดที่สุภาพอ่อนหวานนั้น มีพลังหักกระดูกที่แข็งแกร่งได้

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International