The Daily Audio Bible
Today's audio is from the NLT. Switch to the NLT to read along with the audio.
21 เราไม่ได้ส่งผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนี้มา
แต่พวกมันกลับวิ่งไปพูดกับพวกเจ้าเอง
เราไม่ได้พูดกับพวกมัน
แต่พวกมันกลับไปพูดแทนเรา
22 ถ้าพวกมันได้มายืนอยู่ในห้องประชุมสภาของเรา
และได้ยินถ้อยคำต่างๆของเราที่มีไว้สำหรับคนของเรา
พวกมันก็คงจะทำให้คนเหล่านั้นหันจากวิถีทางชั่วของพวกเขา
และหันจากการทำชั่วของพวกเขาแล้ว”
23 พระยาห์เวห์ถามว่า
“เราเป็นพระเจ้าที่อยู่ใกล้ๆเท่านั้นหรือ
เราไม่ได้เป็นพระเจ้าในที่ห่างไกลด้วยหรือ
24 ถ้าใครซ่อนตัวอยู่ เราจะมองไม่เห็นหรือ”
“เราไม่ได้อยู่ทั่วฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกหรือ”
พระยาห์เวห์ถามอย่างนั้น
พระยาห์เวห์พูดว่า 25 “เราได้ยินสิ่งที่ไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนั้นพูด ไอ้พวกนั้นที่ทำนายโกหก โดยเอาชื่อเราไปอ้าง พวกมันพูดว่า ‘ฉันฝันเห็นแล้ว ฉันฝันเห็นแล้ว’
26 ใจของพวกมันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานไหม พวกมันทำนายโกหกและหลอกลวงในสิ่งที่พวกมันกุขึ้นมาเองในใจ
27 พวกมันวางแผนที่จะทำให้คนของเราลืมชื่อของเรา ด้วยความฝันต่างๆที่พวกมันยกขึ้นมาเล่าให้กับเพื่อนบ้านฟัง พวกมันหวังว่าคนจะลืมเรา เหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกมันลืมชื่อของเรา และหันไปบูชาพระบาอัล
28 ให้ผู้พูดแทนพระเจ้าที่มีความฝันจะเล่า เล่ามันออกมา แต่ขอให้คนที่มีถ้อยคำของเรา พูดถ้อยคำของเราอย่างซื่อสัตย์ ฟางกับเมล็ดข้าวสาลีมันจะไปด้วยกันได้อย่างไร” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น
29 พระยาห์เวห์ถามว่า “ถ้อยคำของเราเป็นเหมือนไฟไม่ใช่หรือ
มันเป็นเหมือนค้อนที่ทุบหินที่แข็งให้แตกกระจุยไม่ใช่หรือ
30 ดังนั้น เราต่อต้านไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ขโมยถ้อยคำต่างๆของเราจากเพื่อนบ้านของเขา
31 เราต่อต้านไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ใช้ลิ้นตัวเองประกาศเรื่องบางเรื่องว่าเป็นคำทำนายของพระยาห์เวห์” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
32 “เราจะต่อต้านไอ้พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ทำนายฝันหลอกๆ” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น “พวกมันเล่าความฝันเหล่านั้น และทำให้คนของเราหลงไป ด้วยคำหลอกลวงและเรื่องต่างๆที่พวกมันกุขึ้นมาเอง เราไม่ได้ส่งพวกมันมา และเราก็ไม่ได้สั่งให้พวกมันพูดด้วย และที่แน่นอนก็คือพวกมันไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรให้กับคนพวกนี้เลย” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น
33 “และถ้าคนพวกนี้ หรือผู้พูดแทนพระเจ้า หรือนักบวชถามเจ้าว่า ‘พระยาห์เวห์ฝากภาระอะไรให้เจ้าแบกมา’ เจ้าก็บอกพวกมันไปว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า “ก็พวกแกนี่แหละคือภาระ และเราจะโยนพวกแกทิ้ง”’”
34 “ผู้พูดแทนพระเจ้า หรือนักบวช หรือคนที่พูดว่า ‘นี่แหละคือภาระที่พระยาห์เวห์ฝากมา’ พวกที่พูดว่าอย่างนั้น เราจะลงโทษพวกที่พูดอย่างนั้นรวมทั้งคนในบ้านเรือนของพวกเขาด้วย”
35 “แต่นี่ต่างหากที่พวกเจ้าควรจะถามกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องของเจ้า คือ ‘พระยาห์เวห์ตอบว่าอะไร หรือพระยาห์เวห์พูดว่าอะไร’ 36 และเจ้าจะต้องไม่พูดอย่างนี้อีกต่อไปว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ เพราะภาระนั้นเป็นแค่คำพูดของแต่ละคน และโดยวิธีนี้ เจ้าก็ได้บิดเบือนคำพูดของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าของพวกเรา
37 ดังนั้นเจ้าควรจะถามผู้พูดแทนพระเจ้าอย่างนี้ว่า
‘พระยาห์เวห์ตอบว่าอะไร พระยาห์เวห์พูดว่าอะไร’
38 แต่ถ้าพวกเจ้าพูดประโยคนี้ว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ ซึ่งพระยาห์เวห์ได้บอกไว้แล้วว่า อย่าพูดประโยคนี้ที่ว่า ‘นี่คือภาระที่พระยาห์เวห์ให้แบกมา’ และพวกเจ้าก็ยังพูดอย่างนั้น
39 ดังนั้น ดูไว้ให้ดี เราจะยกเจ้าเหวี่ยงออกไปจากหน้าเราแน่ๆ ทั้งเจ้าและเมืองที่เราเคยมอบให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้า 40 เราจะทำให้เจ้าได้รับความอัปยศตลอดไป และทำให้เจ้าอับอายอย่างที่ไม่มีวันลืมเลือนได้”
ลูกมะเดื่อดีกับลูกมะเดื่อเสีย
24 พระยาห์เวห์ให้ผมดูตะกร้ามะเดื่อสองใบที่วางอยู่ตรงหน้าวิหารของพระองค์ หลังจากที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้เนรเทศเยโคนิยาห์ลูกของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ออกไปจากเยรูซาเล็มไปอยู่ที่บาบิโลนแล้ว พร้อมกับพวกเจ้านายของยูดาห์และช่างฝีมือและช่างเหล็กจากเยรูซาเล็ม
2 ตะกร้าหนึ่งใส่มะเดื่อที่ดีที่สุดเอาไว้ เหมือนมะเดื่อที่เก็บครั้งแรก อีกตะกร้าหนึ่งใส่มะเดื่อที่เสีย จนคนไม่กล้ากิน เพราะมันเสียมาก
3 แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “เยเรมียาห์ เจ้าเห็นอะไรบ้าง”
ผมก็ตอบว่า “มะเดื่อครับ มะเดื่อดีก็ดีเยี่ยมเลยครับ แต่มะเดื่อเสียก็เสียเอามากๆกินไม่ได้เลยเพราะพวกมันเสียมาก”
4 แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า 5 “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูด ‘เราถือว่ามะเดื่อที่ดีพวกนี้เป็นเหมือนคนยูดาห์ในส่วนที่ถูกขับไล่ไป คนพวกนี้คือพวกที่เราส่งออกจากแผ่นดินนี้ไปที่ดินแดนของพวกเคลเดีย 6 เราจะเฝ้าดูพวกเขาเป็นอย่างดี และเราจะนำพวกเขากลับมาที่แผ่นดินนี้ เราจะสร้างพวกเขาขึ้นมาใหม่ และจะไม่ทำลายพวกเขา เราจะปลูกพวกเขาและไม่ถอนพวกเขาขึ้นมา 7 เราจะให้พวกเขามีใจที่รู้จักเรา เพื่อจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ พวกเขาจะเป็นคนของเรา และเราก็จะเป็นพระเจ้าของพวกเขา เพราะพวกเขาจะกลับมาหาเราด้วยสิ้นสุดใจของพวกเขา’”
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “ส่วนกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ พร้อมกับเจ้านายทั้งหลายของเขา และคนที่เหลือในเยรูซาเล็ม รวมทั้งคนที่เหลืออยู่ในดินแดนนี้ และคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ด้วย เราจะทำกับเขาเหมือนลูกมะเดื่อที่เสียจนกินไม่ได้เหล่านั้น เพราะมันเสียมากเหลือเกิน
9 เราจะทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่นและเจอกับสิ่งที่เลวร้ายไปทั่วอาณาจักรของโลกนี้ เราจะทำให้พวกเขาถูกต่อว่า ถูกกระทบกระเทียบ ถูกเยาะเย้ย และถูกแช่งด่าในดินแดนที่เราจะเนรเทศพวกเขาไป
10 เราจะนำสงคราม ความอดอยาก และโรคร้าย มาทำลายพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นจากแผ่นดินนี้ ที่เราได้ยกให้กับพวกเขาและบรรพบุรุษของพวกเขาไว้”
บทสรุปคำเทศนาของเยเรมียาห์
25 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่ส่งมาถึงเยเรมียาห์เกี่ยวกับชาวยูดาห์ทั้งหมด ในปีที่สี่ของการปกครองของกษัตริย์เยโฮยาคิมลูกชายกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ ซึ่งตรงกับปีแรกที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ครอบครองบาบิโลน 2 นี่คือพระคำที่เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า พูดกับคนยูดาห์และคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มว่า
3 “ตั้งแต่ปีที่สิบสามที่โยสิยาห์ลูกของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์ปกครองประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเวลายี่สิบสามปีแล้ว ผมได้รับพระคำของพระยาห์เวห์มา แล้วผมก็ได้พูดพระคำของพระองค์ให้กับพวกคุณฟัง ผมพูดแล้วพูดอีก แต่พวกคุณก็ไม่เคยฟัง 4 พระยาห์เวห์ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกคุณ พระองค์ส่งพวกเขามาแล้วมาอีก แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง คุณไม่ได้เงี่ยหูฟังเลย
5 พระองค์พูดอยู่เสมอว่า ‘กลับมา พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับมาจากวิถีชีวิตที่ชั่วร้าย และหันกลับมาจากการกระทำต่างๆที่ชั่วช้าของเจ้า และให้มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ยกให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไป 6 อย่าได้ไปติดตามและรับใช้พระอื่นๆ อย่าได้ไปกราบไหว้พระอื่นเลย และอย่าได้ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือของเจ้าเองเลย แล้วเราจะไม่ทำอันตรายเจ้า 7 แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เจ้าก็เลยยั่วเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือเจ้าเอง ทำให้เราต้องทำร้ายเจ้า”
8 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูด “เนื่องจากเจ้าไม่ยอมฟังคำของเรา 9 เรากำลังจะส่งสารไป และเรียกเผ่าทางเหนือทั้งหมดมา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “และเราจะส่งสารไปบอกกับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ที่เป็นผู้รับใช้ของเรา และเราจะพาพวกเขาทั้งหมดมาบุกแผ่นดินนี้ และต่อสู้กับพลเมืองของที่นี่ และต่อสู้กับชนชาติต่างๆทั้งหมดนี้ที่อยู่ล้อมรอบมัน เราจะทำลายพวกมันอย่างราบคาบ เราจะทำให้พวกมันเป็นเป้าของความสยดสยอง และให้เป็นที่หัวเราะเยาะและดุด่าว่ากล่าวตลอดไป
10 เราจะทำลายเสียงรื่นเริงสนุกสนานและเสียงเลี้ยงฉลอง เสียงของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันแต่งงาน เสียงของหินโม่แป้งทำอาหาร และแสงตะเกียงให้หมดไป
11 ทั่วแผ่นดินนี้จะกลายเป็นที่แห้งแล้งรกร้าง และชนชาตินี้จะต้องเป็นขี้ข้ากษัตริย์บาบิโลนไปอีกเจ็ดสิบปี
12 พอครบเจ็ดสิบปีแล้ว เราจะจัดการกับกษัตริย์บาบิโลนและชนชาตินั้นทั้งหมด สำหรับความผิดบาปที่พวกมันทำ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
“และเราจะจัดการกับดินแดนของพวกเคลเดีย เราจะทำให้มันรกร้างตลอดไป 13 ทุกๆคำพูดที่เราได้พูดต่อต้านแผ่นดินนั้น เราจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงตามนั้น ทุกอย่างที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เยเรมียาห์ได้พูดต่อต้านชนชาติต่างๆไว้ จะเกิดขึ้นจริงตามนั้น
14 ที่เราพูดอย่างนี้ ก็เพราะชนชาติต่างๆมากมายและกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่หลายองค์ จะต้องไปเป็นขี้ข้ารับใช้บาบิโลน แล้วเราจะตอบแทนพวกมันตามสิ่งที่พวกมันทำและสิ่งที่มือของพวกมันสร้างขึ้นมา”
การพิพากษาต่อชนชาติต่างๆในโลกนี้
15 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดกับผมว่า
“ให้เอาถ้วยนี้ไปจากมือเรา เป็นถ้วยที่ใส่เหล้าองุ่นแห่งความโกรธของเรา แล้วเราจะส่งเจ้าไปตามชนชาติต่างๆและเราจะทำให้ชนชาติเหล่านั้นดื่มมัน
16 พวกมันจะดื่มจนเมาโซเซ และทำตัวเหมือนคนบ้า ก็เพราะดาบที่เราส่งไปท่ามกลางพวกมัน”
17 ดังนั้นผมจึงหยิบถ้วยจากมือของพระยาห์เวห์ และไปตามชนชาติต่างๆที่พระองค์ส่งผมไป และทำให้ชนชาติเหล่านั้นดื่มมัน
18 ชนชาติเหล่านั้นได้แก่เยรูซาเล็ม และเมืองต่างๆของยูดาห์ และบรรดากษัตริย์และเจ้านายข้าราชการทั้งหลาย ผมทำให้พวกเขาดื่มจากถ้วยนี้ เพื่อทำให้แผ่นดินของพวกเขารกร้างว่างเปล่า ไร้ประโยชน์ เป็นเป้าให้คนหัวเราะเยาะและได้รับการดูถูกเหยียดหยาม อย่างที่มันเป็นอยู่ตอนนี้
19 คนเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องดื่มจากถ้วยนี้ คือฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์ พร้อมกับข้ารับใช้ ข้าราชการ รวมทั้งประชาชนของพระองค์ทุกคน
20 พวกชาวบ้านตามชายแดน และกษัตริย์ทุกองค์ของอูส พวกกษัตริย์ทุกองค์ของฟีลิสเตีย ซึ่งก็มี กษัตริย์ต่างๆของเมืองอัชเคโลน กาซา เอโครน และที่เหลือของเมืองอัชโดด
21 คนในเมืองเอโดม โมอับ และอัมโมน
22 กษัตริย์ทุกองค์ของไทระ ไซดอน และกษัตริย์ที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลอีกฟากหนึ่ง 23 คนที่เดดาน เทมา และบูส รวมทั้งคนพวกนั้นที่เข้าพิธีโกนผมจอน[a] 24 กษัตริย์ทุกองค์ของอาระเบีย และกษัตริย์ทุกองค์ตามแนวชายแดนซึ่งอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง 25 กษัตริย์ทุกองค์ในศิมรี เอลาม และมีเดีย 26 กษัตริย์ทุกองค์จากทางเหนือ ที่อยู่ใกล้และไกล คนแล้วคนเล่า ผมทำให้อาณาจักรทุกแห่งที่อยู่บนโลกดื่มจากถ้วยนี้ แล้วกษัตริย์แห่งเชชัก[b] ก็จะดื่มหลังจากพวกเขาเหล่านั้น
27 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “แล้วให้เจ้าบอกกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า ‘ดื่มซะให้เมาไปเลย ให้อ้วกแตก แล้วก็ล้มลง และอย่าลุกขึ้นมาต่อหน้าดาบที่เรากำลังส่งไปท่ามกลางเจ้า’
28 แต่ถ้าพวกมันไม่ยอมรับถ้วยในมือเจ้าไปดื่ม ก็ให้เจ้าบอกกับพวกมันว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า ‘พวกเจ้าจะต้องดื่ม 29 เพราะดูสิ เรากำลังจะนำความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานมายังเมืองที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา แล้วเจ้าจะได้รับการยกเว้นหรือไง เราจะไม่ละเว้นเจ้าหรอก เพราะเรากำลังจะทำให้ดาบมาตกอยู่บนพลเมืองทุกคนของแผ่นดินนี้’” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้
30 “เยเรมียาห์ ให้เจ้าบอกทุกๆถ้อยคำนี้ที่เราพูดให้พวกมันฟัง เจ้าจะต้องบอกกับพวกมันว่า
พระยาห์เวห์คำรามมาจากที่สูง
และพระองค์ส่งเสียงเรียกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระองค์คำรามลั่นใส่ฝูงแกะของพระองค์
มีเสียงตะโกนดังลั่นไปทั่วทุกคนในโลกนี้เหมือนเสียงโห่ร้องของคนย่ำองุ่น
31 เสียงนั้นดังกึกก้องไปถึงสุดขอบโลก
เพราะพระยาห์เวห์มีคดีกับชนชาติต่างๆ
พระองค์กำลังจะพิพากษาโลกทั้งโลก
และทำให้คนชั่วตายด้วยดาบ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
32 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ความชั่วช้ากำลังแพร่กระจายจากชนชาติหนึ่งไปยังอีกชนชาติหนึ่ง
พายุร้ายกำลังพัดมาจากขอบโลก”
33 ในเวลานั้นจะมีคนตั้งแต่ขอบโลกด้านหนึ่งไปถึงขอบโลกอีกด้านหนึ่งถูกพระยาห์เวห์ฆ่า จะไม่มีใครร้องไห้ให้พวกมัน และจะไม่มีใครเก็บศพพวกมันมาฝัง พวกมันจะเป็นเหมือนมูลสัตว์บนดิน
34 พวกผู้เลี้ยงแกะของอิสราเอล ร้องไห้โหยหวนเถอะ
พวกผู้นำฝูงแกะ กลิ้งตัวคลุกฝุ่นด้วยความโศกเศร้าเถอะ
เพราะถึงเวลาแล้วที่พวกแกจะต้องโดนฆ่า
พวกแกจะล้มลงแตกเหมือนหม้อไหราคาแพง
35 ผู้เลี้ยงแกะพวกนี้ไม่พบที่ลี้ภัย
ส่วนผู้นำฝูงแกะก็จะหนีไม่รอด
36 ผมได้ยินเสียงร้องของพวกคนเลี้ยงแกะ
และเสียงสะอึกสะอื้นของผู้นำฝูงแกะ
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพระยาห์เวห์กำลังทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา
37 ทุ่งหญ้าที่เงียบสงบจะย่อยยับไป
เพราะความเดือดดาลของพระยาห์เวห์
38 พระองค์ทิ้งถ้ำของพระองค์เองไปเหมือนสิงโต
แผ่นดินของพวกเขาถูกทำลายแน่
เรื่องนี้เกิดจากดาบ[c]ของผู้ข่มเหง
และความเดือดดาลของพระเจ้า
เรื่องชั่วร้ายที่จะเกิดขึ้น
2 ตอนนี้พี่น้องครับ เราจะพูดถึงเรื่องที่พระเยซูคริสต์เจ้าจะกลับมาและที่พวกเราจะชุมนุมกันกับพระองค์นั้น 2 ขออย่าได้ตกใจหรือวุ่นวายใจไป เมื่อมีคำพยากรณ์ คำพูด หรือจดหมายที่อ้างว่ามาจากเรา ที่บอกว่าวันขององค์เจ้าชีวิตมาถึงแล้ว 3 อย่าให้ใครหลอกเอา ไม่ว่าเขาจะมาไม้ไหนก็ตาม วันนั้นขององค์เจ้าชีวิตจะยังไม่มา จนกว่าจะมีการทรยศต่อพระเจ้าครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นก่อน และคนชั่วร้ายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้น จุดหมายปลายทางของมันคือนรก[a] 4 มันจะต่อต้าน และจะยกย่องตัวมันเองขึ้นเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเรียกว่า “พระเจ้า” หรืออะไรก็ตามที่คนบูชากัน มันจะทำถึงขนาดที่ว่า เข้าไปในวิหารของพระเจ้าและขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ และป่าวประกาศว่าตัวมันเองคือพระเจ้า
5 จำได้ไหม ผมพูดถึงเรื่องนี้บ่อยๆตอนที่ผมยังอยู่กับคุณ 6 ตอนนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งมันไว้ เพื่อให้มันปรากฏตัวออกมาในเวลาที่เหมาะสม และพวกคุณก็รู้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร 7 ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะพลังความชั่วอันลึกลับนี้ ก็ได้ทำงานอยู่ในโลกแล้ว แต่มีผู้หนึ่งที่กำลังรั้งตัวมันอยู่ และจะรั้งต่อไปจนกว่าผู้รั้งนี้จะไม่อยู่ 8 แล้วคนชั่วร้ายนั้นก็จะปรากฏตัวออกมา พระเยซูเจ้าจะฆ่ามันด้วยลมหายใจจากปากของพระองค์ เมื่อพระองค์กลับมาครั้งยิ่งใหญ่ และพระองค์จะทำลายล้างมันจนสิ้นซาก 9 คนชั่วร้ายนี้ เมื่อมาก็จะใช้อำนาจของซาตาน พร้อมกับทำอิทธิฤทธิ์ สัญญาณสำคัญและปาฏิหาริย์ที่ดูเหมือนมาจากพระเจ้า แต่จริงๆแล้วมาจากซาตาน 10 มันจะใช้รูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ในการหลอกลวงคนที่กำลังหลงหาย พวกนี้หลงหายก็เพราะไม่ยอมรักความจริง ซึ่งเป็นความจริงที่จะช่วยให้เขารอดได้ 11 เพราะเขาไม่รักความจริง พระเจ้าจึงทำให้คนพวกนี้เห็นผิดเป็นชอบ เพื่อจะได้หลงเชื่อในสิ่งที่ผิด 12 พระองค์จะลงโทษพวกเขาที่ไม่ยอมเชื่อความจริง แต่กลับไปสนุกสนานกับความชั่ว
พระเจ้าเลือกคุณให้ได้รับความรอด
13 พี่น้องครับ องค์เจ้าชีวิตรักคุณ พระเจ้าได้เลือกพวกคุณไว้แล้วตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้ได้รับความรอด ที่คุณรอดก็เพราะคุณเชื่อในความจริง และพระวิญญาณได้ทำให้คุณเป็นคนของพระเจ้า 14 คุณรอดโดยผ่านทางข่าวดีที่เราได้ประกาศนั้น พระเจ้าได้เรียกให้คุณมารับความรอดนั้น ก็เพื่อคุณจะได้มีส่วนร่วมในเกียรติของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา 15 ดังนั้นพี่น้องครับ ให้ตั้งมั่นคงไว้ และยึดมั่นในคำสอนที่ได้ตกทอดมาถึงคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือจดหมายจากเราก็ตาม
16 เรามีกำลังใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความหวังที่มั่นคง ก็เพราะพระเจ้าเมตตาต่อเรา ขอให้พระเยซูคริสต์เจ้า และพระเจ้าพระบิดาของเราผู้ที่รักเรา 17 ให้กำลังใจและให้พลังกับพวกคุณ เพื่อคุณจะได้ทำและพูดในสิ่งดีๆต่อไป
อยากอยู่ในวิหารของพระเจ้า
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องโดยใช้ทำนองกิททีธ[a] เพลงสดุดีของตระกูลโคราห์
84 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
เต็นท์ที่สถิตของพระองค์ช่างงดงามยิ่งนัก
2 ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างแรงกล้าและรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เข้าไปในลานวิหารของพระองค์
ทั้งจิตใจและร่างกายของข้าพเจ้าจะโห่ร้องด้วยความยินดีแด่พระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่
3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าและกษัตริย์ของข้าพเจ้า
แม้แต่นกกระจอกก็ยังเจอที่พักในวิหารของพระองค์
แม้แต่นกนางแอ่นก็ยังมาทำรังเลี้ยงลูกอ่อนของมันใกล้แท่นบูชาทั้งหลายของพระองค์
4 ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่ได้อาศัยในวิหารของพระองค์
และได้สรรเสริญพระองค์อยู่เสมอ เซลาห์
5 ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่แสวงหาพละกำลังจากพระองค์
คนที่ได้ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางไปสู่วิหารของพระองค์
6 ในขณะที่พวกเขาเดินผ่านหุบเขาแห้งแล้งแห่งบาคานั้น
มันก็กลับกลายเป็นบริเวณที่มีตาน้ำมากมาย
ฝนต้นฤดูก็ตกลงมาทำให้หุบเขานั้นเกิดแอ่งน้ำเต็มไปหมด
7 พวกเขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง[b]
เพื่อไปเข้าเฝ้าพระเจ้าบนภูเขาศิโยน
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าเถิด
ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบ โปรดฟังข้าพเจ้าด้วยเถิด เซลาห์
9 ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ความสนใจโล่ของพวกเราด้วย
และเอาใจใส่กษัตริย์ที่พระองค์ได้เจิมไว้ด้วยเถิด
10 วันเดียวในลานวิหารของพระองค์ยังดีกว่าพันวันในที่อื่น
ยืนอยู่ที่ประตูบ้านของพระเจ้าของข้าพเจ้ายังดีกว่าอาศัยอยู่ในบ้านของคนชั่ว
11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นดวงอาทิตย์ และเป็นโล่กำบัง
พระองค์ให้ความดีความชอบและเกียรติยศ
พระองค์ไม่เคยหวงของดีๆไว้จากคนที่ใช้ชีวิตอย่างไร้ที่ติ
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
คนที่ไว้วางใจในพระองค์ ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
15 ความใจเย็นสามารถโน้มน้าวผู้นำได้
คำพูดที่สุภาพอ่อนหวานนั้น มีพลังหักกระดูกที่แข็งแกร่งได้
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International