Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 40-43

การลงโทษของอิสราเอลจะสิ้นสุดลง

40 พระเจ้าของพวกเจ้าพูดว่า
    “ให้ปลอบโยน ให้ปลอบโยนชนชาติของเรา
ให้พูดกับคนเยรูซาเล็มอย่างอ่อนโยน
    และให้บอกกับเธอว่าการเป็นทาสรับใช้ของเธอนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
เธอได้ใช้หนี้บาปของเธอแล้ว
    พระยาห์เวห์ได้ลงโทษเธอเป็นสองเท่าแล้วสำหรับบาปทั้งหมดของเธอ”
มีเสียงหนึ่งร้องว่า
    “ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ให้เตรียมทางสำหรับพระยาห์เวห์
    ให้สร้างทางหลวงให้ตรงไปให้กับพระเจ้าของเราในทะเลทราย
ทุกๆหุบเขาจะถูกถมให้สูงขึ้น
    ทุกๆภูเขาและเนินเขาจะถูกปราบให้แบนราบลง
พื้นที่ลุ่มๆดอนๆจะเสมอกันไปหมด
    พื้นที่ที่ขรุขระจะราบเรียบ
แล้วสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะถูกเปิดเผยออกมา
    และมนุษย์ทุกคนก็จะได้เห็นมันพร้อมๆกัน
    เพราะปากของพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาออกมาอย่างนี้”

มีเสียงหนึ่งบอกว่า “ตะโกนสิ”
    แต่ข้าบอกว่า “จะให้ข้าตะโกนอะไรหรือ
มนุษย์ทุกคนก็เป็นเหมือนหญ้า
    และความจงรักภักดีของเขาเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่ง
หญ้าเหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
    เมื่อลมจากพระยาห์เวห์เป่าไปถูกมัน”
    เสียงนั้นตอบว่า “ใช่แล้ว มนุษย์เป็นเหมือนหญ้า
หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
    แต่พระคำของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนตลอดกาล”

ศิโยนเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
    ขึ้นไปบนภูเขาสูงสิ แล้วตะโกนให้สุดเสียงของเจ้า
เยรูซาเล็มเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
    ร้องตะโกนให้ดังๆไม่ต้องกลัว บอกเมืองต่างๆของยูดาห์ว่า
    “นี่ไง พระเจ้าของพวกเจ้า”
10 ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตกำลังมาด้วยพลังอันเกรียงไกร
    พระองค์จะปกครองด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
พระองค์เอารางวัลมาให้
    และพระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้แต่ละคน
11 พระองค์จะนำหน้าฝูงแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ
    พระองค์จะรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมแขนของพระองค์
    และอุ้มพวกมันไว้ในอ้อมอกและนำแม่แกะไปหาน้ำ

ใครเล่าเป็นเหมือนพระยาห์เวห์

12 ใครหนอ ที่ตวงน้ำทั้งทะเลได้ด้วยอุ้งมือเดียวหรือวัดท้องฟ้าได้ในหนึ่งคืบ
    และใครกันที่สามารถถือฝุ่นทั้งโลกในถ้วยตวงเดียว
    หรือชั่งพวกภูเขาบนตาชั่งและพวกเนินเขาบนตราชู
13 มีใครหรือที่ชี้ทางให้กับพระวิญญาณของพระยาห์เวห์
    และสั่งสอนพระองค์เหมือนเป็นที่ปรึกษาของพระองค์
14 พระองค์ต้องปรึกษาใครหรือ เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
    พระองค์ต้องให้ใครมาสอนพระองค์เรื่องความยุติธรรมหรือ
ใครสอนให้พระองค์มีความรู้
    ใครเล่าเรื่องทางแห่งสติปัญญาให้พระองค์เข้าใจหรือ
15 ดูสิ ชนชาติทั้งหลายเปรียบเหมือนน้ำหยดเดียวในถัง
    หรือถือเป็นแค่ขี้ฝุ่นบนตราชั่ง
    ดูสิ พระองค์ยกเกาะทั้งหลายเหมือนผงฝุ่น
16 จะเอาไม้ทั้งป่าเลบานอนมาเป็นฟืนเผาเครื่องบูชาให้กับพระองค์
    และสัตว์ทั้งหมดของเลบานอนมาเผาเป็นเครื่องบูชาก็ยังไม่สมกับเกียรติของพระองค์
17 ต่อหน้าพระองค์ ชนชาติทั้งหมดอย่างกับเป็นศูนย์เลย
    พระองค์ถือว่าชนชาติทั้งหมดนั้นน้อยกว่าศูนย์และไร้ค่า
18 เจ้าจะเปรียบพระเจ้าเหมือนใครหรือ
    จะเอารูปอะไรมาเปรียบกับพระองค์หรือ
19 จะเปรียบพระองค์เหมือนรูปเคารพหรือ
    ที่ช่างหล่อขึ้นมาแล้วช่างทองก็เอาทองมาหุ้มไว้
    และทำสร้อยเงินให้กับมัน
20 ส่วนคนที่ยากจนก็จะเลือกไม้ที่จะไม่ผุมา
    แล้วหาช่างไม้ที่เก่งๆมาแกะสลักรูปเคารพที่จะไม่ล้มคว่ำลงมา
21 พวกเจ้าไม่เคยรู้หรือ
    พวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ
ไม่เคยมีใครบอกพวกเจ้าตั้งแต่แรกหรือ
    พวกเจ้าไม่เคยเข้าใจเรื่องที่เป็นจริงตั้งแต่วางรากสร้างโลกมาหรือ
22 คือพระองค์เป็นผู้นั้นที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์
    เหนือวงกลมของโลกนี้
และเมื่อพระองค์มองลงมา
    พวกที่อาศัยอยู่บนมันก็เป็นเหมือนกับตั๊กแตน
พระองค์เป็นผู้ที่ขึงฟ้าสวรรค์ออกเหมือนขึงผ้าเต็นท์
    และกางมันออกเหมือนกางเต็นท์ให้อยู่
23 พระองค์เป็นผู้ที่ทำให้พวกผู้ครอบครองหมดสภาพไป
    และทำให้พวกผู้พิพากษาของโลกนี้กลายเป็นศูนย์
24 พวกนั้นเป็นเหมือนกับพวกพืชที่เพิ่งจะหว่านยังไม่ทันลงรากเลย
    พระองค์ก็เป่าพวกมันซะแล้ว
แล้วพวกเขาก็เหี่ยวแห้งไป
    แล้วพายุก็มาพัดพวกเขาไปเหมือนฟาง
25 องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์พูดว่า “พวกเจ้าจะเปรียบเรากับใครหรือ
    ใครจะมาเทียบกับเราได้หรือ”
26 เงยหน้าขึ้นและมองซะ
    ใครเป็นผู้ที่สร้างสิ่งเหล่านี้
พระองค์ได้นำกองทัพหมู่ดาวเหล่านั้นออกมาทีละดวง
    และเรียกชื่อมันแต่ละดวง ไม่มีสักดวงที่ขัดขืนไม่ออกมา
เพราะพระองค์มีพลังอันมหาศาล
    และฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่

27 ยาโคบเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงบ่นอย่างนี้
    อิสราเอลเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงพูดว่า
“พระยาห์เวห์มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า
    และพระเจ้าของข้าก็ไม่เห็นสนใจที่จะให้ความยุติธรรมกับข้าเลย”
28 เจ้าไม่รู้หรือ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ ที่ว่า
    พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าตลอดมาและตลอดไป เป็นผู้สร้างทั้งโลก
พระองค์ไม่เคยเหนื่อยหรือหมดเรี่ยวแรง
    ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงสติปัญญาของพระองค์ได้
29 พระองค์ให้เรี่ยวแรงกับคนที่เหน็ดเหนื่อย
    และเพิ่มกำลังให้กับคนที่หมดเรี่ยวแรง
30 แม้คนหนุ่มๆจะเหนื่อยและหมดเรี่ยวแรง
    และชายหนุ่มจะสะดุดล้มลง
31 แต่คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์จะมีกำลังขึ้นมาใหม่
    และจะบินสูงขึ้นไปเหมือนติดปีกนกอินทรี[a]
พวกเขาจะวิ่งและจะไม่หมดเรี่ยวแรง
    พวกเขาจะเดินและจะไม่เหนื่อย

พระยาห์เวห์อยู่เบื้องหลังประวัติศาสตร์

41 พระยาห์เวห์พูดว่า
    “พวกเจ้าที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลและเกาะทั้งหลาย ให้ฟังเราอย่างเงียบๆ
ชนชาติทั้งหลาย ให้เข้มแข็งไว้
    ให้พวกเขาเข้ามาใกล้ๆและให้พวกเขาพูด
    ให้พวกเรามาเจอกันเพื่อขึ้นศาลตัดสินคดีกัน
ใครยุแหย่ชายคนนั้นที่มาจากทางทิศตะวันออก[b]
    เขามีแต่ชัยชนะในทุกย่างก้าวของเขา
พระยาห์เวห์ได้ส่งมอบชนชาติต่างๆให้กับเขา
    เขาจึงเหยียบย่ำพวกกษัตริย์ไว้ใต้เท้าเขา
เขาใช้ดาบทำให้พวกนั้นกลายเป็นเหมือนฝุ่น
    เขาใช้คันธนู ทำให้พวกนั้นกระจายไปเหมือนฟางถูกลมพัด
เขาไล่ตามพวกนั้นไปและไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย
    เขาเร็วจนเท้าแทบไม่ติดพื้น
ใครกันที่ทำสิ่งนี้ และใครกันที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นมา
    ใครกันที่ควบคุมประวัติศาสตร์ตั้งแต่แรก
เป็นเราเอง ยาห์เวห์
    เราอยู่ตอนเริ่มแรก
    และเราก็จะอยู่ตอนจบ
พวกคนที่อยู่ตามแถบชายฝั่งและหมู่เกาะต่างๆได้เห็นผู้พิชิตที่เรายกขึ้นมาและเกิดความเกรงกลัว
    สุดปลายโลกก็กลัวจนสั่นเทิ้ม
    พวกเขาได้เข้ามาใกล้และได้มาถึงแล้ว
พวกเขาช่วยเหลือกันและกัน
    และคนหนึ่งพูดกับอีกคนหนึ่งว่า ‘ให้เข้มแข็งไว้’
ช่างแกะสลักไม้ให้กำลังใจช่างทอง
    ช่างที่ใช้ค้อนเคาะเหล็กให้เรียบก็ให้กำลังใจช่างตีเหล็กขึ้นรูป
ช่างตีเหล็กขึ้นรูปก็พูดเกี่ยวกับงานเชื่อมว่า ‘มันดีแล้ว’
    และเขาก็ตอกตะปูยึดรูปเคารพนั้นไว้เพื่อไม่ให้มันล้มลงมา”

พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่เจ้า อิสราเอล ผู้รับใช้ของเราเอ๋ย
    ยาโคบ คนที่เราได้เลือกมาเอ๋ย
    และลูกหลานของอับราฮัมเพื่อนเราเอ๋ย
เจ้าผู้ที่เราได้นำมาจากสุดปลายแผ่นดินโลก
    เจ้าผู้ที่เราได้เรียกมาจากไกลสุดขอบโลก
เจ้าที่เราได้พูดว่า ‘เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
    เราได้เลือกเจ้าและไม่ได้ทอดทิ้งเจ้า’
10 ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า
    อย่ากลัวเลย เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า
เราจะทำให้เจ้ามีกำลัง ใช่แล้ว เราจะช่วยเจ้า
    เราจะพยุงเจ้าด้วยมือขวาแห่งชัยชนะของเรา

พระยาห์เวห์จะดูแลคนอิสราเอล

11 ดูสิ คนทั้งหลายที่โกรธเคืองเจ้าจะได้รับความอับอายขายหน้า
    พวกนั้นที่ต่อต้านเจ้าจะเป็นอย่างกับศูนย์และพินาศไป
12 เจ้าจะมองหาคนพวกนั้นที่ต่อสู้กับเจ้าแต่จะหาไม่เจอ
    คนพวกนั้นที่ทำสงครามกับเจ้าจะเป็นอย่างกับศูนย์ไปเลย
13 เพราะเรา ยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้ากำลังจับมือขวาของเจ้าไว้
    เป็นเราเอง ที่กำลังพูดกับเจ้าว่า ‘ไม่ต้องกลัว เราจะช่วยเจ้า’”
14 พระยาห์เวห์พูดว่า “อย่ากลัวเลย ยาโคบ เจ้าหนอนตัวน้อย
    อย่ากลัวเลย อิสราเอล เจ้าหนอนผีเสื้อตัวน้อย
ตัวเราเองจะช่วยเจ้า
    ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลคือผู้ที่ปกป้องเจ้า
15 ดูสิ เราจะทำให้เจ้าเป็นเลื่อนนวดข้าว
    ที่แหลมคม ใหม่ และมีซี่ฟันมากมาย
เจ้าจะนวดและบดภูเขาต่างๆ
    เจ้าจะทำให้เนินเขาต่างๆเป็นเหมือนแกลบ
16 เจ้าจะฟัดร่อนพวกมัน แล้วลมก็จะพัดพวกมันไป
    พายุก็จะพัดให้พวกมันกระจายไป
แล้วเจ้าก็จะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์
    เจ้าก็จะภาคภูมิใจในผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
17 เมื่อคนจนและคนขัดสนแสวงหาน้ำแต่ไม่มีน้ำ
    แล้วลิ้นของพวกเขาก็แห้งผากด้วยความกระหาย
เรา ยาห์เวห์ ก็จะตอบพวกเขา
    เรา พระเจ้าของอิสราเอล จะไม่ทอดทิ้งพวกเขา
18 เราจะทำให้เกิดแม่น้ำหลายสายไหลอยู่บนที่สูงที่ว่างเปล่านั้น
    แล้วทำให้เกิดพวกตาน้ำท่ามกลางหุบเขาเหล่านั้น
และจะทำให้ทะเลทรายกลายเป็นทะเลสาบ
    และทำให้ที่ดินแห้งกลายเป็นตาน้ำ
19 เราจะปลูกต้นซีดาร์ในทะเลทรายนั้น รวมทั้งต้นกระถิน ไม้พุ่มหอม และต้นมะกอก
    เราจะปลูกต้นสนไซเพรส ต้นสนเฟอร์ และต้นสนไพน์ไว้ด้วยกัน
20 เราจะทำอย่างนี้ เพื่อทุกคนจะได้เห็นและรู้
    และพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้และเข้าใจว่า
เป็นมือของพระยาห์เวห์ที่ได้ทำสิ่งนี้
    ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

พระยาห์เวห์ได้ท้าทายพวกพระปลอม

21 พระยาห์เวห์พูดว่า ‘พวกพระจอมปลอมทั้งหลาย นำคดีของเจ้ามาดูสิ’
    กษัตริย์ของยาโคบพูดว่า ‘เอาหลักฐานต่างๆของเจ้ามาดูสิ’
22 ให้พวกพระปลอมพวกนั้นเข้ามาและบอกเราหน่อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
    ให้บอกเราถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีต บอกความหมายของเหตุการณ์เหล่านั้น
เพื่อเราจะพิจารณาสิ่งเหล่านั้น
    และจะได้รู้ว่าผลออกมาเป็นยังไง
    หรือไม่ก็บอกเราว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
23 บอกเราหน่อยสิว่าต่อไปนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น
    เพื่อเราจะได้รู้แน่ๆว่าพวกเจ้าเป็นพระแท้จริง
หรืออย่างน้อยก็ทำอะไรสักอย่าง
    เรื่องดีหรือร้ายก็ได้ เราจะได้พากันขยาดกลัว
24 ดูสิ เจ้านี่มันน้อยกว่าศูนย์เสียอีก ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
    และใครก็ตามที่เลือกที่จะนมัสการเจ้า มันช่างน่าขยะแขยงเสียจริงๆ”

25 “เราได้ยั่วยุชายคนหนึ่งจากทิศเหนือ
    และเขาก็ได้มาแล้ว
เราได้เรียกเขาตามชื่อของเขาให้มาจากทางทิศตะวันออก[c]
    เขาได้เหยียบย่ำพวกผู้นำเหมือนโคลน
    เหมือนกับช่างปั้นหม้อเหยียบย่ำดินเหนียว
26 ใครได้ทำนายเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เพื่อเราจะได้รู้
    ใครได้ประกาศล่วงหน้า เพื่อเราจะได้พูดว่า ‘เขาแม่นจริงๆ’”
จริงๆแล้ว ไม่มีใครได้ทำนายเรื่องนี้ จริงๆแล้ว ไม่มีใครประกาศเรื่องนี้
    ไม่มีใครได้ยินพวกเจ้าพูดสักคำ
27 เราได้ประกาศเรื่องนี้ให้ศิโยนรู้ล่วงหน้าว่า “ดูสิ กองทัพของเขากำลังมา”
    เราได้ส่งผู้ส่งข่าวไปบอกเรื่องนี้ในเยรูซาเล็ม
28 แต่เมื่อเรามองดูพระปลอมพวกนั้น
    ไม่เห็นมีใครให้คำปรึกษาได้เลย
    เมื่อเราถามพวกมันก็ไม่มีใครตอบอะไรได้
29 ดูสิ พระปลอมพวกนั้นเป็นแค่ภาพลวงตา
    พวกมันทำอะไรไม่ได้เลย
    รูปปั้นของพวกมันว่างเปล่าเหมือนลม

ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์

42 “นี่คือผู้รับใช้ของเรา คนที่เราเสริมกำลังให้
    นี่คือผู้ที่เราเลือกมา ผู้ที่เราชื่นชม
เราได้ใส่พระวิญญาณของเราในเขา
    เขาจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติทั้งหลาย
เขาจะไม่ตะโกนหรือขึ้นเสียง
    คนจะไม่ได้ยินเสียงร้องของเขาตามท้องถนน
เขาจะไม่หักต้นอ้อที่ช้ำแล้ว
    เขาจะไม่ดับไส้ตะเกียงที่ริบหรี่แล้ว
    เขาจะนำความยุติธรรมมาจริงๆ
เขาเองจะไม่ริบหรี่หรือชอกช้ำจนกว่าเขาจะนำความยุติธรรมมาสู่โลกนี้
    ผู้คนแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายต่างรอคอยคำสอนของเขา”

นี่คือคำพูดของพระเจ้า พระยาห์เวห์ ผู้ที่สร้างท้องฟ้าและขึงพวกมันออก ผู้ที่ทุบโลกนี้ให้แผ่ออกมาและสร้างทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ผู้ที่ให้ลมหายใจกับมนุษย์ที่อยู่บนโลก และให้ชีวิตกับทุกคนที่เดินอยู่บนมัน พระองค์พูดว่า

“เรา ยาห์เวห์ ได้เรียกเจ้ามาเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    เราได้จูงมือเจ้าอยู่ เราได้ปกป้องเจ้า
และได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นคนกลางแห่งคำมั่นสัญญาต่อมนุษย์
    และเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆ
จะให้เจ้าเปิดตาของคนตาบอด
    และนำพวกนักโทษออกมาจากคุกใต้ดิน คือปลดปล่อยคนเหล่านั้นที่นั่งอยู่ในคุกมืดให้เป็นอิสระ
เราคือยาห์เวห์ นั่นคือชื่อของเรา
    เราจะไม่แบ่งเกียรติที่เราควรจะได้รับกับผู้อื่น
    จะไม่แบ่งคำสรรเสริญของเรากับพวกรูปเคารพ
เหตุการณ์ที่ผ่านไป ที่เราได้ทำนายไว้ล่วงหน้าก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
    และตอนนี้เรากำลังทำนายเรื่องใหม่ๆ
    เราจะบอกพวกเจ้าถึงเหตุการณ์เหล่านั้นก่อนที่มันจะงอกออกมา”

เพลงสรรเสริญพระเจ้า

10 ร้องเพลงใหม่ให้กับพระยาห์เวห์
    ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากสุดปลายโลก
ให้พวกท่านที่เป็นกะลาสีแห่งท้องทะเลและพวกสัตว์น้ำในท้องทะเลทั้งหมด
    สรรเสริญพระองค์เถิด
ให้ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายรวมทั้งผู้คนที่อยู่บนมัน
    สรรเสริญพระองค์เถิด
11 ให้ทะเลทราย และเมืองต่างๆในทะเลทรายนั้นส่งเสียงร้องและสรรเสริญพระองค์เถิด
    รวมทั้งหมู่บ้านต่างๆที่เผ่าเคดาร์อาศัยอยู่
ให้ชาวเมืองเสลาร้องเพลงด้วยความยินดี
    ให้พวกเขาร้องตะโกนลงมาจากยอดเขา
12 ให้พวกเขาถวายเกียรติแด่พระยาห์เวห์
    ให้พวกเขาสรรเสริญพระองค์ตามชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะทั้งหลาย
13 พระยาห์เวห์ออกไปสู้รบอย่างคนที่แข็งแรง
    พระองค์ปลุกเร้าความโกรธให้พุ่งพล่านขึ้นเหมือนกับนักรบ
พระยาห์เวห์ร้องออกมา พระองค์ร้องประจัญบาน
    พระองค์เอาชนะต่อศัตรูของพระองค์

14 พระองค์จะพูดว่า “เราเงียบมาเป็นเวลานานแล้ว
    เราได้อยู่เฉยๆและได้ยับยั้งตัวเองไว้
แต่เดี๋ยวนี้ เราจะร้องเหมือนกับผู้หญิงกำลังคลอดลูก
    เราจะหายใจหอบและใจเต้นถี่รัว
15 เราจะทำลายภูเขาและเนินเขาต่างๆ
    เราจะทำให้พืชผักทั้งหมดของพวกมันเหี่ยวแห้งไป
เราจะทำให้พวกแม่น้ำกลายเป็นดินแห้ง
    เราจะทำให้พวกสระแห้งไป
16 เราจะจูงคนตาบอดไปตามถนนที่พวกเขาไม่รู้จัก
    เราจะนำพวกเขาไปตามพวกทางที่พวกเขาไม่เคยเดินมาก่อน
เราจะทำให้ความมืดมิดที่อยู่ต่อหน้าพวกเขากลายเป็นความสว่าง
    และทำที่ขรุขระให้เป็นที่ราบ
    เราจะทำสิ่งเหล่านี้และเราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา
17 แต่คนพวกนั้นที่พึ่งในพวกรูปแกะสลัก
    คนที่พูดกับรูปหล่อพวกนั้นว่า ‘พวกท่านเป็นพระของเรา’
    คนพวกนี้จะหันกลับ พวกเขาจะต้องอับอายขายหน้าที่สุด

อิสราเอลไม่ฟังพระเจ้า

18 พระยาห์เวห์พูดว่า เจ้าหูหนวก ฟังให้ดี
    เจ้าตาบอด ดูซิ จะได้เห็น
19 ใครตาบอดหรือ ก็ไม่ใช่ผู้รับใช้ของเราหรอกหรือ
    ใครหูหนวกเท่ากับผู้ส่งข่าวของเราหรือ
ใครจะตาบอดเท่ากับผู้ที่อุทิศตัวให้กับเราหรือ
    หรือตาบอดเท่ากับผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์หรือ
20 เจ้าเห็นหลายสิ่ง แต่ไม่ได้สังเกต
    หูของเขาเปิดอยู่ แต่เขาไม่ได้ฟัง”
21 ตอนนั้นพระยาห์เวห์ต้องการที่จะทำให้คำสั่งสอนของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และได้รับเกียรติ
    เพื่อคนจะได้เห็นว่าพระองค์นั้นยุติธรรม
22 คนพวกนี้ถูกขโมยและถูกปล้น
    พวกเขาทุกคนแอบอยู่ในหลุมติดอยู่ที่นั่นและซ่อนอยู่ในคุก
พวกเขาตกเป็นของที่ปล้นมาได้โดยไม่มีใครมาช่วยกู้เขา
    พวกเขาถูกริบไป โดยไม่มีใครพูดว่า “เอาคืนมาซะ”

23 จะมีใครในพวกเจ้าได้รับบทเรียนจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
    ใครจะสนใจและตั้งใจฟังในอนาคต
24 ใครมอบยาโคบไปให้กับผู้ริบ
    หรือมอบอิสราเอลไปให้กับผู้ปล้น
ก็พระยาห์เวห์นี่แหละ
    เพราะพวกเราทำบาปต่อพระองค์
คนของเราไม่ยอมเดินในทางของพระองค์
    พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์
25 พระองค์ก็เลยเทความโกรธแค้นอันร้อนแรงของพระองค์ พร้อมกับสงครามอันดุเดือดเลือดพล่านลงบนเขา
    มันทำให้เกิดไฟล้อมรอบเขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
    มันเผาไหม้เขา แต่เขาก็ไม่ได้บทเรียนอะไรเลย

พระเจ้าอยู่กับคนของพระองค์เสมอ

43 ยาโคบ พระยาห์เวห์ที่สร้างเจ้าขึ้นมา
    อิสราเอล พระยาห์เวห์ที่ปั้นเจ้าขึ้นมานั้น
ตอนนี้พระองค์พูดอย่างนี้ว่า
    “ไม่ต้องกลัว เพราะเราได้ไถ่เจ้าให้เป็นอิสระแล้ว
เราได้เรียกชื่อของเจ้าโดยเฉพาะ
    และเจ้าเป็นของเรา
เมื่อเจ้าต้องลุยน้ำลึกไป เราจะอยู่กับเจ้า
    เมื่อเจ้าต้องข้ามแม่น้ำ เจ้าก็จะไม่จมลงไป
เมื่อเจ้าต้องเดินลุยไฟ เจ้าก็จะไม่ไหม้
    และเปลวเพลิงก็จะไม่เผาผลาญเจ้า
เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
    เราคือผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
เราได้ให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ตัวเจ้า
    เราได้แลกเอธิโอเปียและเสบากับตัวเจ้า
เพราะเจ้ามีค่ามาก
    และมีเกียรติในสายตาเราและเรารักเจ้า
เราได้ให้คนอื่นเพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้า
    และให้ชนชาติต่างๆเพื่อแลกกับชีวิตเจ้ามา”
“ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า
    เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากทางทิศตะวันออก
    และเราจะรวบรวมเจ้าจากทางทิศตะวันตก
เราจะพูดกับทิศเหนือว่า ‘ปล่อยพวกเขาไป’
    และพูดกับทิศใต้ว่า ‘อย่าได้ยึดพวกเขาไว้’
ให้นำพวกลูกชายของเรากลับมาจากแดนไกล
    และนำพวกลูกสาวของเรากลับมาจากสุดปลายโลก
ให้นำทุกคนที่เป็นของเรามา
    คือคนที่เราสร้างขึ้นเพื่อประดับบารมีของเรา
    คนที่เราได้ปั้นและทำขึ้นมา”

อิสราเอลเป็นพยานให้กับพระเจ้า

ให้นำคนเหล่านั้นออกมา คือคนที่มีตา แต่กลับบอด
    และคนที่มีหู แต่กลับหนวก
ให้ชนชาติทั้งหมดรวบรวมกันเข้ามา
    ให้ประชาชาติทั้งหมดมาชุมนุมกัน
ใครในพวกพระของเขาได้ทำนายว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น
    หรือได้ประกาศล่วงหน้าถึงเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
ก็ให้พวกเขานำพวกพยานของเขามาพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาถูก
    เพื่อว่าคนอื่นจะได้ฟัง และพูดว่า “เป็นจริง”
10 พระยาห์เวห์พูดว่า “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา
    และเป็นผู้รับใช้ของเราที่เราได้เลือกมา
เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รู้จักและเชื่อเราและจะได้เข้าใจเสียทีว่าเราคือพระองค์ พระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
    ก่อนหน้าเราไม่มีพระเจ้าอื่นที่ถูกปั้นขึ้นและหลังจากเราก็จะไม่มีเหมือนกัน
11 เรา เรานี่แหละคือยาห์เวห์
    และนอกจากเรา ไม่มีใครเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
12 เราได้ทำนายเรื่องเหล่านี้ให้กับเจ้าล่วงหน้าและได้มาช่วยกู้เจ้าและเราได้ประกาศสิ่งเหล่านี้ออกไปล่วงหน้า
    ไม่ใช่พระต่างชาติในหมู่พวกเจ้าทำหรอกและเจ้าเป็นพยานให้กับเรา”
    พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
13 เราคือพระเจ้า และเราก็จะเป็นพระเจ้าต่อไป
    ไม่มีพระไหนสามารถช่วยกู้ใครก็ตามให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้
    เมื่อเราทำอะไรไป ใครจะมาเปลี่ยนมันกลับไปได้

พระเจ้าจะช่วยคนของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง

14 พระยาห์เวห์ องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
    ผู้ที่ไถ่พวกเจ้าให้เป็นอิสระ พูดว่า
“เราจะส่งกองทัพไปบาบิโลนเพื่อช่วยเจ้า
    และจะพังทลายสลักประตูทั้งหลายลง
    และจะทำให้เสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนบาบิโลนกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
15 เราคือยาห์เวห์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า
    พระผู้สร้างแห่งอิสราเอลผู้เป็นกษัตริย์ของเจ้า”
16 พระยาห์เวห์
    ผู้สร้างทางข้ามในทะเล
    เป็นทางในน้ำที่ซัดส่ายไปมา
17 ผู้ที่นำรถรบและม้ารวมทั้งกองทัพและนักรบ
    ออกไปให้ถูกทำลายพร้อมๆกัน
พวกเขานอนลงที่นั่น และไม่ได้ลุกขึ้น
    พวกเขาถูกดับไปเหมือนไส้ตะเกียง
18 พระองค์พูดว่า “ไม่ต้องจดจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว
    หรือไปคิดถึงอดีต
19 ดูสิ เรากำลังจะทำสิ่งใหม่
    และตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว
    เจ้าไม่เห็นหรือ
เราจะทำทางในทะเลทราย
    และให้พวกแม่น้ำในที่แห้งแล้ง
20 พวกสัตว์ป่ารวมถึงหมาป่าและนกฮูกจะให้เกียรติเรา
    เพราะเราได้ทำให้น้ำเกิดขึ้นในทะเลทราย
พวกแม่น้ำเกิดขึ้นในที่แห้งแล้ง
    เพื่อจะได้ให้น้ำดื่มกับชนชาติที่เราได้เลือกไว้
21 เป็นชนชาติที่เราได้ปั้นขึ้นเพื่อตัวเราเอง
เพื่อพวกเขาจะได้ประกาศถึง
สิ่งอันน่าสรรเสริญนี้ที่เราได้ทำ
22 แต่ยาโคบเอ๋ย เจ้าก็ไม่ได้ร้องเรียกหาเรา
    อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเบื่อหน่ายเราแล้ว
23 เจ้าไม่ได้เอาแพะแกะของเจ้ามาเผาทั้งตัวบูชาให้กับเรา
    และเจ้าก็ไม่ได้ให้เกียรติเราด้วยพวกเครื่องบูชาของเจ้า
เราไม่ได้บังคับให้เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช
    หรือทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยเพราะต้องถวายเครื่องหอม
24 เจ้าไม่ได้เอาเงินไปซื้อไม้หอมให้เรา
    เจ้าไม่ได้ทำให้เราอิ่มหนำสำราญด้วยไขมันสัตว์จากพวกเครื่องบูชาของเจ้า
แต่พวกเจ้ากลับทำให้เราแบกภาระหนักคือบาปทั้งหลายของพวกเจ้านั่นแหละ
    และความผิดทั้งหลายของเจ้าทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย
25 เรา เราคือพระองค์นั้นที่ลบล้างการกบฏทั้งหลายของเจ้าเพราะเห็นแก่หน้าเรา
    และเราจะไม่จดจำความบาปทั้งหลายของเจ้า
26 กล่าวหาเราได้เลย ไปขึ้นศาลสู้คดีกัน
    ให้การของเจ้ามา เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าถูก
27 บรรพบุรุษคนแรกของเจ้าทำบาป
    และพวกตัวแทนของเจ้าก็ได้กบฏต่อเรา
28 เราจึงทำให้พวกผู้นำในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไป
    มอบยาโคบให้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
    มอบอิสราเอลให้ถูกหัวเราะเยาะ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International