Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อพยพ 39-40

ชุดศักดิ์สิทธิ์ของนักบวช

(อพย. 28:1-43)

39 พวกเขานำผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม มาทำเป็นเสื้อผ้าใส่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และทำเสื้อผ้าให้อาโรนใส่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

เบซาเลลทำเอโฟดด้วยผ้าที่ทอจากดิ้นทอง และด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินิน เขาใช้ค้อนทุบทองคำจนเป็นแผ่นบางๆ ตัดมันออกเป็นเส้น และนำไปใช้ทอลวดลายอย่างประณีตบนผ้าสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าลินินเนื้อดี พวกเขาทำผ้าสองชิ้นขึ้น แล้วนำไปเย็บเป็นบ่าของเอโฟดทั้งสองข้าง เขาตกแต่งลวดลายของผ้าคาดเอว ซึ่งอยู่บนเอโฟด และเป็นชิ้นเดียวกันกับเอโฟด ผ้าคาดเอวนี้ทำจากผ้าทองคำ ผ้าสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินินเนื้อดี เหมือนกับเอโฟด ตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

พวกเขาฝังพวกนิลลงบนตัวเรือนทองคำคู่หนึ่ง พวกเขาจารึกชื่อพวกลูกชายอิสราเอลไว้บนนิลพวกนั้น แล้วเบซาเลลก็เอานิลที่อยู่ในตัวเรือนคู่นั้นไปวางไว้บนบ่าทั้งสองข้างของเอโฟด ข้างละอัน นิลพวกนี้ทำขึ้นมาตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้ เพื่อให้พระยาห์เวห์ระลึกถึงพวกลูกชายของอิสราเอล

เบซาเลลทำถุงผ้าทับอก โดยออกแบบอย่างประณีต เหมือนงานเอโฟด เขาใช้ผ้าทองคำ ผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินินเนื้อดี ถุงผ้าทับอกนั้นเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า ขนาดกว้างหนึ่งคืบ[a] ยาวหนึ่งคืบ โดยเอาผ้ามาทับซ้อนกัน 10 พวกช่างฝีมือได้ฝังพลอยประดับไว้สี่แถวบนถุงผ้าทับอกนั้น แถวแรกฝังพลอยสีแดง บุษราคัมและมรกต 11 แถวที่สอง ฝังทับทิม ไพลิน และแก้วผลึก 12 แถวที่สาม ฝังเพทาย พลอยสีขุ่น และเขี้ยวแก้วหนุมาน 13 แถวที่สี่ ฝังพลอยสีเขียว นิลและแจสเพอร์[b] พวกเขาฝังพลอยประดับพวกนี้ลงในตัวเรือนที่ทำจากทองคำ 14 มีพลอยทั้งหมดสิบสองก้อน เพื่อใส่ชื่อของพวกลูกชายของอิสราเอล พลอยประดับแต่ละก้อนจะเหมือนตราประทับ จะมีชื่อของเผ่าทั้งสิบสองเผ่าแกะสลักไว้ก้อนละเผ่า

15 พวกช่างฝีมือได้ทำสายสร้อยทองคำบริสุทธิ์ ที่ถักเป็นเกลียวเหมือนเชือก ไว้ใช้กับถุงผ้าทับอก 16 พวกเขาทำตัวเรือนทองคำสองชิ้นและห่วงทองคำสองห่วง ติดห่วงทองทั้งสองห่วงไว้ที่มุมบนของถุงผ้าทับอกทั้งสองข้าง 17 จากนั้นก็เอาสร้อยทองคำสอดเข้าไปในห่วงทองทั้งสองห่วงนั้น 18 และนำปลายอีกด้านหนึ่งของสร้อยแต่ละเส้นไปติดเข้ากับตัวเรือนทองคำ ที่อยู่บนบ่าของเอโฟด ตรงด้านหน้า 19 พวกช่างฝีมือทำห่วงทองคำอีกสองห่วงไปติดไว้ที่มุมล่างของถุงผ้าทับอกด้านในที่แนบอยู่กับเอโฟด 20 พวกเขาทำห่วงทองคำอีกสองห่วงไปติดไว้ริมเอโฟดด้านหน้า ห่วงทั้งสองนี้อยู่ใกล้กับตะเข็บ เหนือผ้าคาดเอวที่ทำอย่างประณีตนั้น 21 ช่างฝีมือก็เอาผ้าสีน้ำเงินมาสอดเข้ากับห่วงทั้งสองที่อยู่บนถุงผ้าทับอกกับเอโฟดนั้น เพื่อดึงให้มันตึง ถุงผ้าทับอกจะได้อยู่เหนือผ้าคาดเอวของเอโฟดที่ทำอย่างประณีต และจะได้ไม่เคลื่อนไหวไปมา เขาได้ทำทั้งหมดนี้ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้

22 เบซาเลลทำเสื้อชุดยาวของเอโฟด ด้วยผ้าทอสีน้ำเงินล้วน 23 ส่วนช่องลอดหัวของเสื้อชุดยาวอยู่ตรงกลาง เหมือนกับคอเสื้อทหาร มีขอบเย็บโดยรอบเพื่อกันไม่ให้มันขาด

24 ส่วนปลายของเสื้อชุดยาวนี้ ช่างฝีมือได้นำผ้าทอลินินเนื้อดี ผ้าทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดงเข้มมาทำเป็นลูกทับทิมติดไว้ 25 พวกเขาทำพวกกระดิ่งทองคำบริสุทธิ์ และนำไปติดไว้ระหว่างลูกทับทิมแต่ละลูก ซึ่งเย็บติดไว้รอบๆปลายเสื้อชุดยาวนี้ 26 ทับทิมกับกระดิ่งจะอยู่สลับกันไปรอบๆปลายของเสื้อชุดยาว เสื้อชุดยาวนี้เอาไว้ใส่รับใช้พระยาห์เวห์ มันทำขึ้นตามแบบที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

27 พวกเขาทำผ้าคลุมจากผ้าทอลินินเนื้อดี ให้อาโรนกับพวกลูกชายของเขา 28 พวกช่างฝีมือทำผ้าโพกหัวกับแถบผ้าสวมหัวจากผ้าลินินเนื้อดี และทำเสื้อชั้นในจากผ้าทอลินินสีขาว 29 พวกช่างยังใช้ผ้าทอลินินเนื้อดี ผ้าทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วงและสีแดงเข้ม เย็บเป็นผ้าคาดเอวและปักลวดลายลงบนนั้น ตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

30 ช่างฝีมือได้ทำแผ่นป้ายทองคำของมงกุฎอันศักดิ์สิทธิ์ เขียนข้อความเหมือนที่เขาสลักลงในตราประทับว่า “ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระยาห์เวห์” 31 พวกเขาติดแผ่นป้ายนี้เข้ากับแถบผ้าสีน้ำเงิน และเอาไปผูกไว้กับผ้าโพกหัวตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้

โมเสสตรวจเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์

(อพย. 35:10-19)

32 ดังนั้น งานทุกอย่างของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือเต็นท์นัดพบ ก็ได้เสร็จสิ้นลง ประชาชนชาวอิสราเอลได้ทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้ทุกอย่าง 33 พวกเขาได้นำเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์มอบให้โมเสส ทั้งตัวเต็นท์กับอุปกรณ์ทุกอย่าง ตะขอเกี่ยว กรอบ กลอน เสา ฐาน 34 หลังคาที่ทำจากหนังแกะและหลังคาที่ทำจากหนังปลาโลมา รวมทั้ง ฉาก 35 หีบใส่แผ่นหินสองแผ่นแห่งข้อตกลง กับคานหามของมัน ฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ 36 โต๊ะกับอุปกรณ์ที่ใช้บนนั้นทุกอย่าง ขนมปังที่วางไว้ต่อหน้าพระเจ้า 37 ตะเกียงที่มีขาตั้งที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ และถ้วยตะเกียงของมันที่เรียงเป็นแถว พร้อมอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องใช้คู่กับมัน และน้ำมันจุดตะเกียง 38 แท่นบูชาทองคำ น้ำมันเจิม เครื่องหอม ฉากที่ทางเข้าเต็นท์ 39 แท่นบูชาที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ พร้อมตะแกรงทองสัมฤทธิ์ของมัน คานหามของมันและอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้กับมัน อ่างน้ำพร้อมฐานรองของมัน

40 พวกม่านกั้นที่ลาน พวกเสาม่าน ฐาน ม่านที่ประตูลาน เชือกและหมุดยึด และ ยังมีเครื่องใช้อื่นๆที่ต้องใช้ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือเต็นท์นัดพบนั่นเอง

41 เสื้อผ้าปักเกลียวทองสำหรับผู้รับใช้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ชุดศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักบวชอาโรน และชุดสำหรับพวกลูกชายของเขา เพื่อใส่รับใช้ในฐานะนักบวช

42 ประชาชนชาวอิสราเอลได้ทำทุกๆอย่างตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้ทุกประการ 43 เมื่อโมเสสเห็นงานทุกอย่างถูกสร้างตามแบบที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้จนเสร็จสิ้น เขาก็อวยพรชาวอิสราเอลเหล่านั้น

โมเสสตั้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์

40 พระยาห์เวห์บอกโมเสสว่า “ในวันที่หนึ่งของเดือนแรก ให้เจ้าติดตั้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ คือ เต็นท์นัดพบ ให้เอาหีบใส่คำสอนมาวางไว้ที่นั่น และให้เอาม่านมากั้นเป็นฉากปิดหีบนี้ไว้ ยกโต๊ะเข้ามาและจัดให้เข้าที่ นำตะเกียงที่มีขาตั้งเข้ามาไว้ และติดตั้งพวกตะเกียงของมันให้เรียบร้อย นำแท่นบูชาทองคำสำหรับเครื่องหอมมาไว้ตรงหน้าหีบใส่คำสอน แล้วกั้นฉากไว้ที่ทางเข้าเต็นท์

วางแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชาไว้ที่ด้านหน้าของทางเข้าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ คือเต็นท์นัดพบ ตั้งอ่างน้ำไว้ระหว่างเต็นท์นัดพบกับแท่นบูชาและใส่น้ำลงในอ่างด้วย ทำลานบริเวณรอบๆและตั้งฉากไว้ที่ประตูทางเข้าลาน

เอาน้ำมันเจิม ไปเจิมที่เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และของทุกอย่างในเต็นท์นั้น พร้อมกับทำพิธีเพื่อให้ของพวกนี้ศักดิ์สิทธิ์ 10 เจ้าต้องเจิมแท่นบูชาที่ใช้เผาเครื่องเผาบูชาและข้าวของบนนั้นพร้อมกับทำพิธี เพื่อทำให้แท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์มาก 11 เจ้าต้องเจิมอ่างน้ำและฐานรองของมัน เพื่อทำให้พวกมันศักดิ์สิทธิ์ด้วย

12 เจ้าต้องพาอาโรนกับพวกลูกชายของเขา ไปที่ประตูเต็นท์นัดพบ ให้ชำระล้างพวกเขาด้วยน้ำ 13 เอาเสื้อผ้าที่ศักดิ์สิทธิ์มาแต่งตัวให้กับอาโรน เจิมเขาและทำพิธีให้เขาเพื่อเขาจะได้รับใช้เราในฐานะนักบวช 14 ให้ลูกชายเขามาอยู่ใกล้ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เอาเสื้อคลุมมาแต่งตัวให้พวกเขา 15 เจ้าต้องเจิมพวกเขาเหมือนที่เจิมให้พ่อของพวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้รับใช้เราในฐานะนักบวช การเจิมนี้จะทำให้พวกเขามีสิทธิ์เป็นนักบวชตลอดไปทุกๆรุ่น” 16 โมเสสทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งเขาไว้

17 เมื่อถึงวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งในปีที่สอง เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกตั้งขึ้น 18 โมเสสตั้งเต็นท์ขึ้นบนพวกฐานของมัน ตั้งกรอบ ใส่คานและยกเสาขึ้น 19 โมเสสกางผ้าเต็นท์ออกเหนือเต็นท์นัดพบ และใส่ที่คลุมเหนือเต็นท์นั้น ตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้

20 แล้วโมเสสก็นำแผ่นข้อตกลงสองแผ่นนั้นไปวางไว้ในหีบ และนำคานมาสอดเข้ากับหีบ เขาวางฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระไว้เหนือหีบ 21 โมเสสนำหีบใส่คำสอนเข้าไปในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และกั้นฉากที่เป็นผ้าม่านบังหีบใส่คำสอนไว้ ตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขา 22 โมเสสตั้งโต๊ะไว้ด้านนอกของฉากที่เป็นผ้าม่าน ข้างในเต็นท์นัดพบ ไปทางทิศเหนือ 23 โมเสสวางขนมปังไว้บนโต๊ะต่อหน้าพระยาห์เวห์ตามที่พระองค์สั่งเขาไว้ 24 โมเสสวางตะเกียงที่มีขาตั้งไว้ในเต็นท์นัดพบ ไปทางทิศใต้ของเต็นท์ตรงข้ามกับโต๊ะ 25 เขาตั้งพวกตะเกียงไว้หน้าพระยาห์เวห์ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งเขาไว้

26 โมเสสวางแท่นบูชาที่ทำจากทองคำไว้ในเต็นท์นัดพบ ข้างหน้าผ้าม่าน 27 แล้วเขาจึงเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชานั้น ตามที่พระยาห์เวห์สั่งไว้ 28 โมเสสเอาม่านกั้นไว้ตรงทางเข้าเต็นท์

29 เขาตั้งแท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องเผาบูชาไว้ที่ทางเข้าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ คือด้านหน้าทางเข้าเต็นท์นัดพบนั้น แล้วเขาก็เผาเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชบนนั้น ตามที่พระยาห์เวห์สั่งไว้

30 โมเสสวางอ่างน้ำไว้ระหว่างเต็นท์นัดพบกับแท่นบูชา และเติมน้ำลงในอ่างชำระล้าง 31 โมเสส อาโรนและพวกลูกชายของอาโรน ล้างมือและเท้าของพวกเขาด้วยน้ำในอ่างนั้น 32 เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเข้ามาในเต็นท์นัดพบหรือเข้าใกล้แท่นบูชา พวกเขาต้องชำระล้างตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้

33 โมเสสทำลานบริเวณรอบๆเต็นท์และแท่นบูชา และแขวนม่านกั้นไว้ที่ประตูทางเข้าลาน แล้วโมเสสก็ได้ทำงานทุกอย่างเสร็จสิ้นลง

รัศมีของพระเจ้า

34 มีเมฆปกคลุมเหนือเต็นท์นัดพบ แล้วรัศมีของพระยาห์เวห์ ก็ส่องสว่างไปทั่วเต็นท์ 35 โมเสสไม่สามารถเข้าไปในเต็นท์นัดพบได้ เพราะว่าเมฆได้ลงไปที่นั่น และรัศมีของพระยาห์เวห์ก็ส่องสว่างไปทั่วเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นั้น

36 ตลอดเวลาการเดินทางของชาวอิสราเอล พวกเขาจะคอยดูเมฆก้อนนี้เป็นหลัก เมื่อใดที่เมฆลอยตัวสูงขึ้นจากเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ชาวอิสราเอลจะเริ่มออกเดินทาง 37 แต่ถ้าเมฆไม่ลอยตัวขึ้น ชาวอิสราเอลจะไม่ออกเดินทางไปไหน จนกว่าพวกเขาจะเห็นเมฆลอยตัวขึ้นอีก 38 เมฆของพระยาห์เวห์อยู่เหนือเต็นท์ในตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนจะมีไฟอยู่เหนือเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ชาวอิสราเอลทุกคนได้เห็นสิ่งนี้ ตลอดเวลาที่พวกเขาเดินทาง

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International