Book of Common Prayer
โคฟ
145 ข้าพเจ้าร้องออกมาอย่างสุดใจว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้าจะเชื่อฟังกฎระเบียบต่างๆของพระองค์”
146 ข้าพเจ้าร้องออกมาต่อพระองค์ว่า “โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วย
เพื่อข้าพเจ้าจะได้เชื่อฟังกฎต่างๆของพระองค์”
147 ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับคำสัญญาของพระองค์
148 ถึงแม้จะดึกดื่น ข้าพเจ้าก็ยังตื่นอยู่
เพื่อจะใคร่ครวญถึงคำสัญญาของพระองค์
149 โปรดฟังเสียงข้าพเจ้า เพราะพระองค์มีความรักมั่นคง
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะพระองค์ยุติธรรม
150 คนเหล่านั้นที่ไล่ตามความชั่วได้เข้ามาใกล้แล้ว
พวกเขาอยู่ห่างไกลจากคำสั่งสอนของพระองค์
151 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์นั้นอยู่ใกล้
และบัญญัติทุกข้อของพระองค์นั้นเป็นความจริงและเชื่อถือได้
152 นานมาแล้ว ข้าพเจ้าได้เรียนรู้กฎต่างๆของพระองค์
เป็นกฎที่พระองค์ตั้งไว้ให้อยู่ตลอดไป
เรช
153 โปรดมองดูความทุกข์ของข้าพเจ้าและช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด
เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ลืมคำสั่งสอนของพระองค์
154 โปรดสู้คดีให้กับข้าพเจ้าและไถ่ชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด
โปรดช่วยให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้
155 ความรอดอยู่ห่างไกลจากคนชั่วช้า
เพราะพวกเขาไม่อยากเชื่อฟังกฎระเบียบของพระองค์
156 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความเมตตากรุณาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
ขอโปรดช่วยชีวิตของข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์นั้นยุติธรรม
157 ข้าพเจ้ามีศัตรูมากมายที่ไล่ล่าข้าพเจ้าอยู่
แต่ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากกฎทั้งหลายของพระองค์
158 เมื่อข้าพเจ้ามองดูคนทรยศเหล่านั้นข้าพเจ้ารู้สึกสะอิดสะเอียน
เพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังคำพูดของพระองค์
159 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ดูเอาเถิดว่าข้าพเจ้ารักคำสั่งทั้งหลายของพระองค์ขนาดไหน
ดังนั้น ช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์มีความรักมั่นคง
160 คำบัญชาทั้งหมดของพระองค์นั้นเชื่อถือได้
กฎเกณฑ์อันยุติธรรมทุกข้อของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
ฉิน
161 เหล่าผู้นำที่มีอำนาจโจมตีข้าพเจ้าทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพวกเขา
แต่ข้าพเจ้ากลัวอย่างเดียวคือกลัวทำผิดต่อคำบัญชาของพระองค์
162 ข้าพเจ้ามีความสุขกับคำสัญญาของพระองค์
เหมือนทหารที่พบกับสิ่งที่จะยึดได้จำนวนมากมาย
163 ข้าพเจ้าเกลียดชังและขยะแขยงการหลอกลวง
แต่ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์
164 ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์วันละเจ็ดครั้ง
สำหรับพวกกฎเกณฑ์อันยุติธรรมของพระองค์
165 คนเหล่านั้นที่รักคำสั่งสอนของพระองค์จะมีชีวิตที่เป็นสุขปลอดภัย
และไม่มีสิ่งใดจะทำให้เขาสะดุดล้มได้
166 ข้าแต่พระยาห์เวห์ข้าพเจ้าเฝ้ารอคอยความรอดจากพระองค์
ข้าพเจ้าทำตามบัญญัติทั้งหลายของพระองค์
167 ข้าพเจ้ารักษากฎต่างๆของพระองค์
เพราะข้าพเจ้ารักมันมาก
168 ข้าพเจ้ารักษาคำสั่งทั้งหลายและกฎทั้งหลายของพระองค์
เพราะพระองค์เห็นการกระทำทั้งสิ้นของข้าพเจ้า
ทาฟ
169 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์โปรดฟังเสียงร้องให้ช่วยของข้าพเจ้า
โปรดให้ความเข้าใจกับข้าพเจ้าตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้
170 ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้ามาอยู่ต่อหน้าพระองค์
ช่วยกู้ข้าพเจ้าตามที่พระองค์สัญญาด้วยเถิด
171 ขอให้ริมฝีปากของข้าพเจ้าเทคำสรรเสริญออกมา
เพราะพระองค์สอนกฎระเบียบทั้งหลายของพระองค์ให้กับข้าพเจ้า
172 ขอให้ลิ้นข้าพเจ้าร้องเพลงถึงคำพูดของพระองค์
เพราะบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์นั้นเที่ยงตรง
173 ขอให้มือของพระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าเลือกที่จะเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
174 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าอยากให้พระองค์ช่วยกู้ข้าพเจ้าเหลือเกิน
เพราะข้าพเจ้ามีความสุขในคำสั่งสอนของพระองค์
175 ขอให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อจะได้สรรเสริญพระองค์
ขอให้กฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์ช่วยข้าพเจ้า
176 ข้าพเจ้าเสี่ยงอันตรายมากเหมือนแกะที่หลงทาง โปรดตามหาข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด
เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ลืมบัญญัติต่างๆของพระองค์
คนที่ยำเกรงพระยาห์เวห์จะได้รับพระพร
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
128 ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระยาห์เวห์
คือคนที่เดินในหนทางทั้งหลายของพระองค์
2 เจ้าจะได้กินจากผลงานจากมือเจ้า
เจ้าจะมีเกียรติจริงๆและจะเจริญรุ่งเรือง
3 ภรรยาของเจ้าจะเป็นเหมือนเถาองุ่นที่มีลูกดกในบ้านของเจ้า
ส่วนลูกๆที่อยู่รอบโต๊ะอาหารนั้นก็เปรียบเหมือนต้นมะกอกที่ปลูกอยู่ริมธารน้ำ
4 ดังนั้น จำไว้เถิดว่า
ผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ จะได้รับพระพรอย่างนั้นแหละ
5 ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรเจ้าจากวิหารบนภูเขาศิโยน
ขอให้เจ้ามีความสุขกับความเจริญรุ่งเรืองของเยรูซาเล็มตลอดวันเวลาของเจ้า
6 ขอให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้เห็นหน้าหลานของเจ้า
ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด
อธิษฐานให้ศัตรูพ่ายแพ้
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
129 พวกศัตรูข่มเหงข้าพเจ้ามาเรื่อยตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว
ให้อิสราเอลพูดว่า
2 “พวกศัตรูได้ข่มเหงข้าพเจ้ามาเรื่อยตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว
แต่ไม่เคยชนะข้าพเจ้าได้เลย
3 พวกเขาตีข้าพเจ้าอย่างรุนแรง
ทำให้เกิดบาดแผลมากมาย
หลังข้าพเจ้าดูเหมือนรอยไถอันยาว
4 แต่พระยาห์เวห์ผู้ยุติธรรม
ได้ตัดเชือกเหล่านั้นที่พวกคนชั่วใช้ผูกมัดข้าพเจ้า”
5 ขอให้ทุกคนที่เกลียดชังศิโยน
ได้รับความอับอาย และพ่ายแพ้ล่าถอยไป
6 ขอให้พวกเขาเป็นเหมือนหญ้าบนดาดฟ้า
ที่เหี่ยวแห้งไปก่อนที่มันจะทันยาวขึ้น
7 เป็นหญ้าที่คนเก็บเกี่ยวได้ไม่ถึงกำมือ
ไม่พอที่จะรวบได้เต็มอก
8 ขออย่าให้ผู้คนที่เดินผ่านมาตะโกนอวยพรให้กับพวกเขาว่า
“ขอให้พระยาห์เวห์อวยพรเจ้า”
หรือ “พวกเราอวยพรเจ้าในนามของพระยาห์เวห์”
ให้รอคอยพระยาห์เวห์มาไถ่
เพลงที่ร้องในระหว่างทางขึ้นไปยังวิหาร
130 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตอนที่ข้าพเจ้าจมอยู่ในความทุกข์
ข้าพเจ้าร้องขอให้พระองค์ช่วย
2 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต โปรดฟังเสียงของข้าพเจ้า
โปรดฟังเสียงของข้าพเจ้า โปรดเงี่ยหูของพระองค์ ฟังเสียงร้องอ้อนวอนให้ช่วยของข้าพเจ้า
3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ถ้าพระองค์จะจดบันทึกความผิดบาปของพวกเราไว้
ใครจะรอดจากการถูกลงโทษได้
4 แต่พระองค์ให้อภัย
เพื่อว่าคนจะได้ยำเกรงพระองค์
5 ข้าพเจ้ารอคอยพระยาห์เวห์ จิตใจของข้าพเจ้ารอคอยพระองค์
ข้าพเจ้าฝากความหวังไว้ในคำสัญญาของพระองค์
6 จิตใจของข้าพเจ้ารอคอยองค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า
ยิ่งกว่าพวกยามรอคอยรุ่งเช้า
ยิ่งกว่าพวกยามรอคอยรุ่งเช้า
7 อิสราเอลเอ๋ย ฝากความหวังไว้ในพระยาห์เวห์เถิด
เพราะพระยาห์เวห์มีความรักที่มั่นคง
และฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ที่จะไถ่เจ้าได้
8 พระองค์จะไถ่อิสราเอล
ให้รอดพ้นจากความบาปทั้งหมดของเขา
ชาวอิสราเอลวางแผนทำเรื่องเลวร้าย
2 พวกเจ้าที่คิดทำแต่เรื่องเลวร้าย
บนเตียงนอนของเจ้า เจ้าวางแผนเรื่องเลวร้าย
พอถึงเช้าก็ออกไปทำ
เพราะพวกเจ้ามีอำนาจที่จะทำแบบนั้นได้
2 พวกนี้โลภอยากได้ไร่นาของคนอื่นก็ไปยึดเอามา
พวกนี้โลภอยากได้บ้านเรือนของคนอื่นก็ไปริบเอามา
พวกนี้โกงคนอื่นและยึดบ้านเขาไว้
พวกนี้ยึดทั้งคนและทรัพย์สมบัติ
พระยาห์เวห์วางแผนเรื่องเลวร้ายสำหรับคนพวกนี้
3 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงพูดว่าอย่างนี้
“ตอนนี้ เรากำลังวางแผนเรื่องเลวร้ายสำหรับคนพวกนี้
เป็นแอกที่พวกเจ้าไม่สามารถเอาออกไปจากคอของพวกเจ้าได้
พวกเจ้าจะไม่สามารถเดินอย่างทะนงได้
เพราะมันจะเป็นเวลาที่เลวร้ายจริงๆ
4 ในเวลานั้น พวกเจ้าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ
และคนที่เยาะเย้ยเจ้า จะทำทีร้องเพลงคร่ำครวญอันขมขื่นให้กับเจ้าว่า
‘พวกเราถูกทำลายย่อยยับ
พระองค์ยึดเอาที่ดินที่เป็นส่วนแบ่งของชาวเมืองเราไปแล้ว
พระองค์ยึดที่ดินไปจากเราได้ยังไง
พระองค์แบ่งไร่นาของเราไปให้กับคนที่หลงไปจากพระองค์แล้ว’
5 ดังนั้น พวกเจ้าจะไม่มีใครเหลืออยู่เลยในครอบครัวที่จะมาจับสลากแบ่งที่ดินกันในหมู่ประชุมของพระยาห์เวห์”
มีคาห์ถูกห้ามไม่ให้เทศนา
6 ผู้คนพูดว่า “มีคาห์ เจ้าและพวกพ้องหยุดเทศนาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว
เพราะเรื่องเลวร้ายเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับเรา”
7 ชุมชนยาโคบพูดว่า “อะไรกัน พระยาห์เวห์หมดความอดทนแล้วหรือ
พระองค์ทำเรื่องอย่างนี้หรือ
คำพูดทั้งหลายของพระองค์ไม่ได้เกิดผลดีกับคนที่ใช้ชีวิตอย่างถูกต้องหรอกหรือ”
8 แต่พระยาห์เวห์พูดว่า “แต่พวกเจ้ากำลังตั้งตัวเป็นเหมือนศัตรูกับคนของเรา
เจ้ากระชากเสื้อคลุมของคนที่เดินผ่านมาโดยที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่
พวกเขาไม่เคยคิดที่จะทำสงครามกับใครเลย[a]
9 ส่วนพวกผู้หญิงที่เป็นคนของเรา พวกเจ้าก็ขับไล่พวกเขาออกไปจากบ้านที่สุขสบายของเขา
ส่วนลูกๆของพวกเขา พวกเจ้าได้ยึดเอาที่ดิน[b]ที่พวกเขาได้รับจากเรา เพื่อเป็นของเขาไปตลอดกาล
10 ลุกขึ้นแล้วไปให้พ้น
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่พักผ่อน
เพราะพวกเจ้าไม่บริสุทธิ์
พวกเจ้าจะถูกทำลาย และจะถูกทำลายอย่างทรมานด้วย
11 ถ้ามีใครมาพูดโกหกและเทศนาว่า
‘จะมีเหล้าองุ่นและเบียร์อย่างเหลือเฟือ’
คนนั้นแหละคือนักเทศน์ที่พวกเขาชื่นชอบ”
พระยาห์เวห์จะรวบรวบคนของพระองค์
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “ใช่แล้ว เราจะรวบรวมพวกเจ้าทุกคนเข้ามาคือพวกเจ้าที่เป็นคนของยาโคบ
เราจะรวบรวมพวกที่รอดชีวิตของอิสราเอลเข้ามา
เราจะนำพวกเขามาอยู่ด้วยกันเหมือนแกะในคอก
เหมือนฝูงแกะในท่ามกลางทุ่งหญ้าของมัน แล้วทุ่งหญ้านั้นจะส่งเสียงดังลั่น
13 แล้วตัวที่สามารถพังรั้วออกมาได้จะเดินนำหน้าพวกมันออกไป
พวกมันจะเดินผ่านประตูและเดินออกไป
กษัตริย์ของเขาจะเดินนำหน้าพวกเขาออกไปก่อน
พระยาห์เวห์จะเป็นหัวขบวนของพวกเขา”
เปาโลถูกส่งตัวไปที่เมืองซีซารียา
23 จากนั้นผู้พันเรียกนายร้อยของเขาสองคนมาสั่งว่า “ให้ไปเตรียมทหารสองร้อยนายกับทหารม้าเจ็ดสิบนาย และพลหอกเดินเท้าอีกสองร้อยนายให้พร้อมสำหรับเดินทางไปเมืองซีซารียา ในตอนสามทุ่มคืนนี้ 24 เตรียมม้าให้เปาโลขี่ด้วย และคุ้มกันเขาให้ไปถึงเจ้าเมืองเฟลิกส์อย่างปลอดภัย” 25 แล้วผู้พันเขียนจดหมายมีข้อความว่า
26 ถึง ท่านผู้ว่าเฟลิกส์[a]
จาก คลาวดิอัส ลีเซียส
27 ชายคนนี้ถูกชาวยิวจับกุมมา เกือบจะถูกพวกนั้นฆ่าด้วย แต่พอผมรู้ว่าเขาเป็นพลเมืองโรมัน ก็รีบนำทหารออกไปช่วยเขา 28 เนื่องจากผมอยากจะรู้ว่าพวกยิวกล่าวหาเขาด้วยเรื่องอะไร จึงได้นำตัวเขาไปที่สภาของพวกยิว 29 และผมพบว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อโต้แย้งทางด้านกฎปฏิบัติของพวกเขา ไม่เห็นว่าจะมีอะไรร้ายแรงถึงกับต้องตายหรือติดคุกเลย 30 พอผมรู้ว่ามีพวกยิวบางคนวางแผนจะฆ่าเขา ผมจึงรีบส่งเขามาให้ท่านทันที แล้วผมก็สั่งให้พวกนั้นที่กล่าวหาเขามาฟ้องร้องเขากับท่าน
31 พวกทหารทำตามที่นายพันสั่ง ในคืนนั้นเองพวกทหารพาเปาโลออกเดินทางไปที่เมืองอันทิปาตรีส์ 32 ในวันต่อมา พวกทหารเดินเท้าให้ทหารม้าพาเปาโลเดินทางต่อ ส่วนพวกเขากลับค่ายไป 33 เมื่อพวกทหารม้ามาถึงเมืองซีซารียา ก็ได้นำจดหมายไปให้เจ้าเมือง พร้อมกับมอบตัวเปาโลให้กับเขา 34 เจ้าเมืองอ่านจดหมาย และถามเปาโลว่ามาจากแคว้นไหน เมื่อรู้ว่ามาจากแคว้นซีลีเซีย 35 เจ้าเมืองจึงพูดว่า “เมื่อผู้กล่าวหาเจ้ามาถึง เราจะฟังคำให้การของเจ้า” และเขาสั่งให้ควบคุมตัวเปาโลไว้ในวังที่เฮโรด[b] สร้างขึ้น
ยอห์นเกิดสงสัย
(มธ. 11:2-19)
18 มีศิษย์คนหนึ่งของยอห์นคนทำพิธีจุ่มน้ำเล่าเรื่องนี้ให้ยอห์นฟัง ยอห์นจึงสั่งศิษย์สองคนของเขา 19 ให้ไปถามองค์เจ้าชีวิตว่า “ท่านคือคนๆนั้นที่จะมา หรือพวกเราจะต้องรออีกคนหนึ่ง”
20 ศิษย์สองคนนั้นไปพบพระเยซู และพูดว่า “ยอห์นผู้ทำพิธีจุ่มน้ำส่งพวกเรามาถามท่านว่า ‘ท่านคือคนๆนั้นที่จะมา หรือพวกเรายังต้องรออีกคนหนึ่ง’”
21 ในเวลานั้นพระเยซูได้รักษาคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆให้หาย ขับไล่ผีชั่ว และช่วยให้คนตาบอดหลายคนมองเห็น 22 พระเยซูบอกกับสองคนนั้นว่า “ไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่คุณได้เห็นและได้ยิน ว่าคนตาบอดมองเห็น คนง่อยเดินได้ คนเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงก็หาย คนหูหนวกก็ได้ยิน คนตายกลับฟื้นคืนชีพ และคนจนก็ได้ยินเรื่องข่าวดี 23 คนที่ไม่ทิ้งเรา เพราะสิ่งที่เราทำ ก็เป็นคนที่มีเกียรติจริงๆ”
24 พอศิษย์ทั้งสองของยอห์นกลับไปแล้ว พระเยซูก็พูดถึงยอห์นให้ชาวบ้านฟังว่า “พวกคุณออกไปดูอะไรในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ไปดูต้นอ้อ[a] ลู่ตามลมหรือ 25 ไม่ใช่แน่ แล้วคุณออกไปดูอะไรล่ะ ไปดูคนใส่เสื้อผ้าสวยหรูราคาแพงหรือ ไม่ใช่หรอก เพราะคนที่ใส่เสื้อผ้าสวยหรูราคาแพงนั้นอยู่ในวัง 26 ถ้าอย่างนั้นแล้วคุณออกไปดูอะไรล่ะ ออกไปดูผู้พูดแทนพระเจ้าหรือ ใช่แล้ว เราขอบอกให้รู้ว่าเขาเป็นยิ่งกว่าผู้พูดแทนพระเจ้าเสียอีก 27 เพราะเขาเป็นคนที่พระคัมภีร์เขียนถึงว่า
‘ดูสิ เราจะส่งผู้ส่งข่าวของเรานำหน้าท่านไปก่อน
เขาจะไปเตรียมหนทางให้กับท่าน’(A)
28 เราจะบอกให้รู้ว่า ยอห์นนั้นยิ่งใหญ่กว่าทุกๆคนที่เกิดมาจากผู้หญิง แต่คนที่สำคัญน้อยที่สุดในอาณาจักรของพระเจ้า ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์นอีก”
29 ทุกคนที่ได้ยินพระเยซูพูด รวมทั้งคนเก็บภาษีก็เชื่อว่าทางของพระเจ้านั้นถูกต้อง เพราะพวกเขาเคยให้ยอห์นทำพิธีจุ่มน้ำให้ 30 แต่พวกฟาริสีและพวกครูสอนกฎปฏิบัติไม่ยอมรับทางที่พระเจ้ามีสำหรับพวกเขา เพราะพวกนี้ไม่ได้ให้ยอห์นทำพิธีจุ่มน้ำให้
31 พระเยซูพูดต่อ ว่า “เราจะเปรียบเทียบคนในสมัยนี้กับอะไรดี 32 พวกเขาเป็นเหมือนเด็กๆที่นั่งอยู่ที่ตลาดร้องตะโกนใส่กันว่า
‘พวกเราเป่าปี่ให้ฟัง
แต่พวกเธอก็ไม่ยอมเต้นตาม
พวกเราร้องเพลงเศร้า
แต่พวกเธอก็ไม่ยอมร้องไห้’
33 เมื่อยอห์นคนทำพิธีจุ่มน้ำมา เขาไม่ได้กินขนมปังหรือดื่มเหล้าองุ่น พวกคุณก็ว่า ‘เขามีผีชั่วสิงอยู่’ 34 แต่พอบุตรมนุษย์มา ทั้งกินและดื่ม พวกคุณก็หาว่า ‘ดูไอ้หมอนั่นสิ ทั้งตะกละและขี้เมา แถมยังเป็นเพื่อนกับคนเก็บภาษีและคนบาปอีกด้วย’ 35 แต่อย่างไรก็ตามสติปัญญานั้นถูกหรือผิด ก็ดูได้จากผลทั้งหลายของมัน”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International