Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระยาห์เวห์แสดงความเมตตาต่อคนของพระองค์
7 ผมจะเล่าถึงเรื่องต่างๆที่พระยาห์เวห์ได้แสดงความเมตตากับเรา
เป็นเรื่องที่น่ายกย่องสรรเสริญ
เราควรจะสรรเสริญพระองค์สำหรับเรื่องทุกอย่างที่พระองค์ทำเพื่อพวกเรา
สำหรับความดีงามที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์มีต่อครอบครัวของอิสราเอล
พระองค์ได้แสดงความเมตตาปรานีต่อพวกเรา
พระองค์ได้ช่วยพวกเราด้วยความรักมั่นคงครั้งแล้วครั้งเล่า
8 พระองค์พูดว่า “ใช่แล้ว พวกนี้เป็นคนของเราแน่ เป็นลูกๆที่จะไม่มีวันทรยศเรา”
พระองค์ถึงได้มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา
9 ไม่ใช่ผู้ส่งข่าว ไม่ใช่ทูตสวรรค์
แต่เป็นพระองค์เองที่ช่วยพวกเขาจากความทุกข์ร้อนทั้งหมดของพวกเขา
พระองค์ได้ไถ่พวกเขาไว้เพราะพระองค์รักและสงสารพวกเขา
ในอดีตนั้นพระองค์ยกพวกเขาขึ้นมาอุ้มอยู่เสมอ
ทุกสิ่งในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกสรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
1 สรรเสริญพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระยาห์เวห์จากฟ้าสวรรค์เถิด
สรรเสริญพระองค์ในที่สูงเบื้องบนเถิด
2 พวกทูตสวรรค์ทั้งปวงของพระองค์เอ๋ย สรรเสริญพระองค์เถิด
ทุกท่านในกองทัพแห่งฟ้าสวรรค์เอ๋ย สรรเสริญพระองค์เถิด
3 ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เอ๋ย สรรเสริญพระองค์เถิด
ดวงดาวระยิบระยับทั้งปวงเอ๋ย สรรเสริญพระองค์เถิด
4 ฟ้าสวรรค์ชั้นสูงสุดและน้ำที่อยู่เหนือฟ้าสวรรค์เอ๋ย
สรรเสริญพระองค์เถิด
5 ขอให้ทั้งหมดนี้ สรรเสริญชื่อของพระยาห์เวห์เถิด
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาตามคำสั่งของพระองค์
6 พระองค์ตั้งให้สิ่งเหล่านั้นอยู่ในที่ของมันตลอดกาล
พระองค์ตั้งกฎต่างๆให้กับสิ่งเหล่านั้นที่มันไม่อาจฝ่าฝืนได้
7 เจ้าที่เป็นสัตว์ยักษ์ในทะเลและทะเลลึกทั้งปวงเอ๋ย
สรรเสริญพระยาห์เวห์จากแผ่นดินโลกเถิด
8 ฟ้าแลบ ลูกเห็บเอ๋ย หิมะและควัน[a] เอ๋ย
ลมพายุที่ทำตามคำสั่งของพระองค์เอ๋ย
9 พวกภูเขาและเนินเขาทุกลูกเอ๋ย
พวกต้นผลไม้ และสนซีดาร์ทุกต้นเอ๋ย
10 พวกสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเอ๋ย
พวกสัตว์เลื้อยคลานและพวกนกทั้งหลายเอ๋ย
11 กษัตริย์ทั้งหลายของแผ่นดินโลกและชนชาติทั้งปวงเอ๋ย
พวกเจ้าฟ้าและพวกผู้พิพากษาทั้งหมดของโลกเอ๋ย
12 หนุ่มสาวทั้งหลายเอ๋ย
พวกคนแก่และเด็กๆเอ๋ย
13 ขอให้ทั้งหมดนี้ สรรเสริญชื่อของพระยาห์เวห์เถิด
เพราะมีแต่ชื่อของพระองค์เท่านั้นที่สมควรจะได้รับการยกย่องเชิดชู
พระบารมีของพระองค์สูงเหนือแผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์
14 พระองค์ทำให้คนของพระองค์เข้มแข็ง
ขอให้คนเหล่านั้นที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ สรรเสริญพระองค์เถิด
ขอให้พระองค์ได้รับการสรรเสริญจากชาวอิสราเอลซึ่งเป็นชนชาติที่ใกล้ชิดพระองค์ที่สุด
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
10 พระเจ้าสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาเพื่อพระองค์ พระเจ้าอยากให้พระเยซูที่เป็นลูกของพระองค์นำพวกลูกชายลูกสาวอีกมากมายเข้ามามีส่วนร่วมในสง่าราศีของพระองค์ อย่างนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว ที่พระเจ้าให้พระเยซูมาทนทุกข์ทรมาน เพื่อพระเยซูจะได้สมบูรณ์แบบครบถ้วน แล้วนำคนมาถึงความรอด 11 ทั้งพระเยซูผู้ที่ทำให้คนอื่นบริสุทธิ์ และคนที่พระองค์ทำให้บริสุทธิ์ด้วย ต่างมาจากครอบครัวเดียวกัน พระเยซูเลยไม่อายที่จะเรียกพวกเขาว่าเป็นพี่น้องของพระองค์ 12 พระองค์พูดว่า
“เราจะประกาศชื่อของพระองค์ให้กับพี่น้องของเรา
เราจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าหมู่ประชุม”[a]
13 พระองค์พูดอีกว่า
“เราจะไว้วางใจในพระองค์”[b]
และยังพูดอีกว่า
“เราอยู่ที่นี่พร้อมๆกับลูกๆที่พระเจ้าให้กับเรา”[c]
14 เพราะพวกลูกๆนั้นเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ พระเยซูก็เลยมาเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อเหมือนกัน พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อจะได้ตายและทำลายมารที่มีอำนาจทำให้คนตายได้ 15 คนพวกนี้กลัวตาย เลยตกเป็นทาสของความกลัว พระเยซูมาตายเพื่อปลดปล่อยคนพวกนี้ให้เป็นอิสระ 16 แน่นอนพระเยซูไม่ได้มาช่วยพวกทูตสวรรค์ แต่มาช่วยลูกหลานของอับราฮัม 17 เพราะอย่างนี้ พระองค์จึงต้องเป็นเหมือนกับพี่น้องของพระองค์ทุกอย่าง เพื่อพระองค์จะได้เป็นหัวหน้านักบวชสูงสุด ที่มีความเมตตาและซื่อสัตย์ในการรับใช้พระเจ้า และเพื่อจะจัดการกับความบาปของประชาชนได้ด้วย 18 เดี๋ยวนี้ พระองค์สามารถช่วยคนที่ถูกทดลองได้แล้ว เพราะพระองค์เองได้รับความทรมานและถูกทดลองมาก่อน
โยเซฟกับมารีย์พาพระเยซูหนีไปอียิปต์
13 เมื่อพวกโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตขององค์เจ้าชีวิตมาเข้าฝันโยเซฟและบอกว่า “ลุกขึ้น พาเด็กกับแม่ของเด็กหนีไปอยู่ที่อียิปต์ แล้วให้อยู่ที่นั่นจนกว่าจะบอกให้กลับมา เพราะกษัตริย์เฮโรด กำลังจะส่งคนมาตามฆ่าเด็กคนนี้”
14 โยเซฟจึงลุกขึ้น และพาเด็กพร้อมกับแม่ของเด็กออกเดินทางไปอียิปต์ในคืนนั้นเลย 15 พวกเขาอยู่ที่นั่นจนกษัตริย์เฮโรดตาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่องค์เจ้าชีวิตเคยพูดผ่านมาทางผู้พูดแทนพระเจ้า ว่า “เราได้เรียกลูกของเราออกมาจากอียิปต์”[a]
เฮโรดฆ่าพวกเด็กชายในหมู่บ้านเบธเลเฮม
16 เมื่อกษัตริย์เฮโรด รู้ว่าโดนพวกโหราจารย์หลอก ก็โกรธมาก จึงสั่งให้คนไปฆ่าเด็กผู้ชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาที่อยู่ในหมู่บ้านเบธเลเฮม และบริเวณใกล้เคียงแถวนั้น เพราะพวกโหราจารย์บอกกับกษัตริย์ว่า พวกเขาเห็นดวงดาวปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อสองปีมาแล้ว 17 ซึ่งเป็นไปตามที่องค์เจ้าชีวิตเคยพูดผ่านเยเรมียาห์ ผู้พูดแทนพระเจ้าว่า
18 “ฟังเสียงในหมู่บ้านรามาห์
เป็นเสียงร้องไห้ด้วยความเสียใจยิ่ง
คือเสียงร้องไห้ของราเชลเรื่องลูกๆของเธอ
เธอก็ไม่ยอมให้ใครปลอบโยน เพราะลูกๆของเธอตายแล้ว”[b]
โยเซฟและมารีย์กลับจากอียิปต์
19 หลังจากกษัตริย์เฮโรดตายแล้ว ทูตขององค์เจ้าชีวิตเข้าฝันโยเซฟซึ่งอยู่ที่อียิปต์ว่า 20 “ลุกขึ้น ให้พาทั้งเด็กและแม่ของเด็กกลับไปที่แผ่นดินอิสราเอล เพราะคนที่ต้องการจะฆ่าเด็กคนนี้ ตายไปหมดแล้ว”
21 โยเซฟจึงลุกขึ้นแล้วพาเด็กและแม่ของเด็กกลับไปที่อิสราเอล 22 แต่เมื่อโยเซฟรู้ว่าอารเคลาอัส[c] ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของแคว้นยูเดียแทนกษัตริย์เฮโรดผู้เป็นพ่อ เขาก็กลัวไม่กล้ากลับไปแคว้นยูเดีย โยเซฟได้รับคำเตือนในความฝันให้เดินทางไปที่แคว้นกาลิลี 23 เขาไปอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธ เพื่อให้เป็นจริงตามที่องค์เจ้าชีวิตเคยพูดไว้เกี่ยวกับพระคริสต์ ผ่านมาทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ว่า “คนจะเรียกเขาว่า ชาวนาซาเร็ธ”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International