Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระเจ้าตอบรับทุกคนที่รักและเกรงกลัวพระองค์
เพลงสรรเสริญ ของดาวิด
1 ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ กษัตริย์และพระเจ้าของข้าพเจ้า
และนมัสการพระนามของพระองค์ไปชั่วนิรันดร์กาล
2 ข้าพเจ้าจะนมัสการพระองค์ทุกวัน
และสรรเสริญพระนามของพระองค์ไปชั่วนิรันดร์กาล
3 พระผู้เป็นเจ้าใหญ่ยิ่ง สมแล้วกับการสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง
และความยิ่งใหญ่ของพระองค์ก็ไร้ขอบเขต
4 คนของแต่ละยุคจะสรรเสริญการงานของพระองค์ให้ยุคต่อๆ ไปฟัง
และเขาจะประกาศถึงการกระทำอันกอปรด้วยอานุภาพของพระองค์
5 ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงพระสง่าราศีอันเรืองรองและงามตระการ
และสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์
17 พระผู้เป็นเจ้ายุติธรรมในทุกสิ่ง
และแสดงความรักอันมั่นคงของพระองค์ในทุกเรื่อง
18 พระผู้เป็นเจ้าจะอยู่ใกล้ๆ ทุกคนที่ร้องเรียกถึงพระองค์
เฉพาะคนที่ร้องเรียกถึงพระองค์อย่างจริงใจ
19 พระองค์ให้แก่ทุกคนที่เกรงกลัวพระองค์ ตามความต้องการของเขา
พระองค์ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และช่วยพวกเขาให้ปลอดภัย
20 พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองทุกคนที่รักพระองค์
แต่ใครก็ตามที่ชั่วร้าย พระองค์จะทำให้เขาพินาศ
21 ปากของข้าพเจ้ากล่าวสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
และให้ทุกๆ ชีวิตนมัสการพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ตราบชั่วนิรันดร์กาล
มงกุฎและพระวิหาร
9 คำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าดังนี้ 10 “จงนำเฮลดัย โทบียาห์ และเยดายาห์ออกจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน พวกเขาได้มาถึงแล้ว และในวันเดียวกันก็จงไปบ้านของโยสิยาห์บุตรของเศฟันยาห์ 11 จงเอาเงินและทองคำจากพวกเขา แล้วเอาไปทำเป็นมงกุฎ และสวมบนศีรษะโยชูวาหัวหน้ามหาปุโรหิต ซึ่งเป็นบุตรของเยโฮซาดัก 12 และบอกเขาดังนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า นี่คือบุรุษที่ชื่ออังกูร เขาจะแตกหน่อออกไปจากที่ของเขา และเขาจะสร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า 13 เขานั่นแหละที่จะเป็นผู้สร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า และจะได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ จะนั่งปกครองบนบัลลังก์ของเขา และจะเป็นปุโรหิตบนบัลลังก์ของเขา การปฏิบัติงานทั้งสองจะประสานกันด้วยความสันติสุข’ 14 มงกุฎจะอยู่ในพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นการเตือนให้ระลึกถึงเฮลดัย โทบียาห์ เยดายาห์ และเฮนบุตรของเศฟันยาห์
15 และบรรดาผู้ที่อยู่แดนไกลจะมาช่วยสร้างพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า และท่านจะทราบว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ส่งข้าพเจ้ามาหาพวกท่าน และสิ่งดังกล่าวจะเกิดขึ้น ถ้าท่านจะเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างจริงจัง”
10 เมื่อผู้ว่าราชการโบกมือส่งสัญญาณให้เปาโลพูด เปาโลจึงตอบว่า
“ข้าพเจ้าทราบว่าท่านเป็นผู้พิพากษาของชาตินี้เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ฉะนั้นข้าพเจ้ายินดีจะแก้คดี 11 ท่านสามารถสืบทราบได้ง่ายๆ ว่าข้าพเจ้าได้ขึ้นไปยังเมืองเยรูซาเล็มเพื่อนมัสการไม่เกิน 12 วันมาแล้ว 12 พวกที่กล่าวหาข้าพเจ้าไม่ได้เห็นข้าพเจ้าถกเถียงกับผู้ใดที่พระวิหาร ก่อกวนฝูงชนในศาลาที่ประชุมหรือที่อื่นใดในเมืองเลย 13 พวกเขาไม่สามารถพิสูจน์ตามข้อที่กล่าวหาข้าพเจ้าได้ 14 แต่ข้าพเจ้ายอมรับว่า ข้าพเจ้านมัสการพระเจ้าของบรรพบุรุษของเราเหมือนกับผู้ติดตามใน ‘วิถีทางนั้น’ ซึ่งพวกเขาเรียกว่า ‘พรรค’ ข้าพเจ้าเชื่อทุกสิ่งที่เห็นด้วยกับกฎบัญญัติและที่บันทึกอยู่ในหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า 15 ข้าพเจ้ามีความหวังในพระเจ้าเช่นเดียวกับชายเหล่านี้ คือทั้งคนที่มีความชอบธรรมและคนที่ไม่มีความชอบธรรมจะฟื้นคืนชีวิต 16 ทั้งนี้ข้าพเจ้าดิ้นรนอยู่เสมอที่จะให้มีมโนธรรมที่ดีต่อพระเจ้าและมนุษย์ 17 หลังจากที่ไม่ได้อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสองสามปีแล้ว ข้าพเจ้าได้ไปที่นั่นเพื่อนำเงินบริจาคมายังชนชาติของข้าพเจ้า และให้ของถวายต่างๆ 18 เมื่อพวกเขาเห็นข้าพเจ้าในบริเวณพระวิหาร คือตอนที่ข้าพเจ้าได้ชำระตัวแล้ว เขามิได้พบว่าข้าพเจ้าอยู่กับฝูงชนหรือทำการก่อกวน 19 แต่มีชาวยิวบางคนที่มาจากแคว้นเอเชียซึ่งควรจะมาฟ้องร้องท่านก่อนแล้ว ถ้าหากเขามีอะไรจะฟ้อง 20 หรือพวกที่อยู่ที่นี่ควรให้การว่าเขาพบข้าพเจ้าผิดอย่างไรเวลาที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ต่อหน้าศาสนสภา 21 มีสิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าร้องตะโกนต่อหน้าเขาเหล่านี้คือ ‘เป็นเรื่องเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีวิตจากความตาย ข้าพเจ้าจึงต้องยืนรับการพิจารณาคดีต่อหน้าท่านในวันนี้’”
22 แล้วเฟลิกส์ผู้ที่คุ้นเคยกับ “วิถีทางนั้น” ก็เลื่อนการพิจารณาโดยกล่าวว่า “เมื่อผู้บังคับกองพันลีเซียสมา ข้าพเจ้าจึงจะตัดสินคดีของท่าน” 23 ท่านสั่งนายร้อยให้คุมตัวเปาโลไว้ แต่ก็ให้มีอิสระบ้างและอนุญาตให้เพื่อนๆ ของเปาโลมาปรนนิบัติตามความจำเป็นได้
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation