Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
เพลงแห่งคำอธิษฐานและขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพร
ถึงหัวหน้าวงดนตรี บทเพลง เพลงสดุดี
1 ทั่วทั้งโลกเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่พระเจ้าเถิด
2 ร้องเพลงถึงพระบารมีแห่งพระนามของพระองค์
กล่าวคำสรรเสริญ ยกย่องพระองค์
3 พูดกับพระเจ้าว่า “สิ่งที่พระองค์กระทำช่างน่าเกรงขามอะไรเช่นนี้
อานุภาพของพระองค์ใหญ่ยิ่ง
จนพวกศัตรูสยบลงต่อหน้าพระองค์ด้วยความกลัว
4 ทั้งโลกนมัสการพระองค์
พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
ร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์” เซล่าห์
5 มาเถิด มาดูว่าพระเจ้าได้กระทำอะไรบ้าง
สิ่งอันน่าเกรงกลัวที่พระองค์สำแดงท่ามกลางมนุษย์
6 พระองค์แปรทะเลให้เป็นพื้นดินแห้ง
เหล่าบรรพบุรุษของเราเดินข้ามแม่น้ำ
พวกเรายินดีในสิ่งที่พระองค์กระทำที่นั่น
7 พระองค์ปกครองด้วยอานุภาพของพระองค์ตลอดกาล
พระองค์สอดส่องสายตายังบรรดาประชาชาติ
อย่าปล่อยให้พวกที่ต่อต้านยกยอตนเองเลย เซล่าห์
8 โอ บรรดาชนชาติเอ๋ย จงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
ให้เสียงสรรเสริญพระองค์เป็นที่ได้ยินเถิด
9 พระองค์ได้ให้พวกเรามีชีวิตอยู่ท่ามกลางคนเป็น
และไม่ปล่อยให้เท้าของเราพลาดพลั้ง
10 โอ พระเจ้า พระองค์ได้ทดสอบพวกเรา
หลอมพวกเราดั่งเงินที่ถูกหลอม
11 พระองค์นำพวกเราไปสู่ร่างแห
และให้พวกเราแบกความทุกข์ยากไว้บนบ่า
12 พระองค์ปล่อยให้คนขี่ม้าเหยียบย่ำหัวพวกเรา
เราบุกน้ำ ลุยไฟ
ถึงกระนั้นพระองค์ยังได้นำพวกเราไปยังถิ่นที่อุดมสมบูรณ์
70 ปีแห่งการเป็นเชลย
25 ในปีที่สี่ของเยโฮยาคิมบุตรของโยสิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ (คือปีแรกของเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน) พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ถึงเรื่องประชาชนทั้งปวงของยูดาห์ 2 ซึ่งเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า กล่าวแก่ประชาชนทั้งปวงของยูดาห์และผู้อยู่อาศัยทั้งปวงของเยรูซาเล็มว่า 3 เป็นเวลา 23 ปี นับจากปีที่สิบสามของโยสิยาห์บุตรอาโมนกษัตริย์แห่งยูดาห์ จนถึงวันนี้พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้บอกพวกท่านเสมอมา แต่ท่านก็ไม่ฟัง 4 ท่านไม่ได้ฟังและไม่แม้แต่จะเงี่ยหูฟัง และแม้ว่าพระผู้เป็นเจ้าส่งบรรดาผู้รับใช้ผู้เป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ามายังพวกท่าน 5 ด้วยการบอกท่านว่า “บัดนี้ พวกเจ้าทุกคนจงกลับใจจากวิถีทางอันชั่วร้าย จากการกระทำความชั่ว และอาศัยอยู่บนแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้าได้มอบให้แก่พวกเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตั้งแต่โบราณกาล ไปจนชั่วนิรันดร์ 6 อย่าไปติดตามปวงเทพเจ้าเพื่อบูชาหรือนมัสการ หรือยั่วโทสะเราด้วยสิ่งที่พวกเจ้าทำขึ้น แล้วเราจะไม่ทำอันตรายแก่พวกเจ้า” 7 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “แต่พวกเจ้าก็ยังไม่ฟังเรา เจ้าก็ยังจะยั่วโทสะเราด้วยสิ่งที่พวกเจ้าทำขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อพวกเจ้าเอง”
8 ดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “เป็นเพราะพวกเจ้าไม่ฟังคำของเรา 9 ดูเถิด เราจะเรียกทุกเผ่าจากทิศเหนือและเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรามา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “แล้วเราจะนำพวกเขามาโจมตีแผ่นดินนี้และบรรดาผู้อยู่อาศัย และโจมตีประชาชาติรอบข้างเหล่านี้ เราจะปล่อยให้พวกเขาถูกทำลาย และเราจะทำให้พวกเขาพินาศ และทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพที่หวาดหวั่น เป็นที่ถูกเหน็บแนม และเป็นที่รกร้างไปตลอดกาล 10 ยิ่งกว่านั้น เราจะทำให้เสียงยินดีและเบิกบานใจ เสียงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว การโม่แป้ง และแสงจากตะเกียงยุติลง 11 ทั่วทั้งแผ่นดินนี้จะพังลงและกลายเป็นที่รกร้าง และประชาชาติเหล่านี้จะรับใช้กษัตริย์แห่งบาบิโลนเป็นเวลา 70 ปี 12 หลังจากครบ 70 ปีแล้ว เราจะลงโทษกษัตริย์แห่งบาบิโลนและประชาชาตินั้น เพราะความชั่วของพวกเขา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “และเราจะทำให้แผ่นดินของชาวเคลเดียเป็นที่รกร้างไปตลอดกาล 13 เราจะให้แผ่นดินนั้นเป็นไปตามทุกคำที่เราได้กล่าวคัดค้านไว้ และตามทุกสิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือฉบับนี้ ซึ่งเยเรมีย์เผยความกล่าวโทษประชาชาติทั้งปวง 14 ด้วยว่า ประชาชาติจำนวนมากและบรรดากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จะได้พวกเขาไปเป็นทาสรับใช้ และเราจะสนองตอบพวกเขาให้สาสมกับทุกสิ่งที่พวกเขากระทำไป”
13 จงรักษาสิ่งที่ท่านได้ยินจากข้าพเจ้าไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างของการสั่งสอนอันถูกหลัก ทั้งในความเชื่อและความรักที่มีในพระเยซูคริสต์ 14 จงรักษาสมบัติอันมีค่าที่ได้มอบไว้กับท่าน โดยมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งอยู่ในตัวเราเป็นผู้ช่วย
15 ท่านทราบว่าทุกคนในแคว้นเอเชียได้ละทิ้งข้าพเจ้าไป รวมทั้งฟีเจลัสและเฮอร์โมเกเนสด้วย 16 ขอพระผู้เป็นเจ้าแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของโอเนสิโฟรัส เพราะเขาทำให้ข้าพเจ้าเบิกบานใจบ่อยๆ และไม่ละอายที่ข้าพเจ้าถูกล่ามโซ่ 17 แต่ตรงกันข้ามคือเวลาที่เขามาถึงเมืองโรม เขาอุตส่าห์สืบหาข้าพเจ้าจนพบ 18 ขอพระผู้เป็นเจ้าให้ความเมตตาแก่เขาในวันนั้นด้วยเถิด ท่านก็ทราบดีแล้วว่า เขาได้ช่วยเหลือข้าพเจ้ามากเพียงไรที่เมืองเอเฟซัส
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation