Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
เยรูซาเล็มตอนเป็นเชลยในบาบิโลน
1 พวกเรานั่งอยู่ริมแม่น้ำทั้งหลายในบาบิโลน
และร้องไห้เมื่อระลึกถึงศิโยน[a]
2 พวกเราได้แขวนพิณไว้
บนต้นหลิวในเมืองนั้น
3 และที่นั่น พวกผู้จับกุมพวกเราเรียกให้พวกเราร้องเพลง
พวกที่เยาะเย้ยพวกเราสั่งให้พวกเราสร้างความบันเทิงให้กับพวกเขา
พวกเขาสั่งว่า
“ร้องเพลงเกี่ยวกับศิโยนให้พวกเราฟังสักเพลงซิ”
4 แต่พวกเราจะร้องเพลงของพระยาห์เวห์
ในแผ่นดินของคนต่างชาตินี้ได้ยังไง
5 เยรูซาเล็มเอ๋ย ถ้าหากข้าพเจ้าลืมเจ้า
ก็ขอให้มือขวาของข้าพเจ้านี้ลืมวิธีเล่นพิณเสีย
6 ขอให้ลิ้นของข้าพเจ้าติดอยู่ที่เพดานปาก
ถ้าหากข้าพเจ้าลืมเจ้า
หรือ ถ้าหากข้าพเจ้าไม่ได้ยกเจ้าให้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขที่สุด
7 ข้าแต่พระยาห์เวห์ให้ระลึกถึงสิ่งที่คนเอโดมทำในวันที่เยรูซาเล็มพินาศ
พวกเขาตะโกนว่า “พังมันลงมา พังมันลงมา ให้ถึงรากถึงโคน”
8 นางสาวบาบิโลนเอ๋ย ผู้ที่กำลังจะถูกทำลายไป
คนที่ตอบแทนเจ้าอย่างสาสมกับที่เจ้าทำกับเรานั้นถือว่ามีเกียรติจริงๆ
9 คนที่จับพวกทารกของพวกเจ้าไปฟาดกับก้อนหินนั้น
ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
13 นางสาวเยรูซาเล็ม จะให้ผมเปรียบเจ้าเหมือนกับอะไรดี
จะให้เปรียบเจ้ากับอะไรดี
นางสาวศิโยน จะให้ผมเอาเจ้าไปเปรียบกับอะไรดี
จะให้ผมปลอบโยนเจ้ายังไงดี
ความหายนะของเจ้านั้นยิ่งใหญ่เหมือนทะเล ใครจะเยียวยารักษาเจ้าได้
14 พวกผู้พูดแทนพระเจ้าของเจ้าได้บอกเจ้าเกี่ยวกับนิมิตที่พวกเขาเห็น
แต่นิมิตพวกนั้นมันไร้สาระและเชื่อไม่ได้
พวกเขาไม่ได้เปิดเผยความผิดบาปของเจ้า
เพื่อเจ้าจะได้คืนสู่สภาพดีเหมือนเดิม
แต่พวกเขากลับพูดนิมิตจอมปลอมเกี่ยวกับเจ้า
เพื่อนำให้เจ้าหลงไป
15 ทุกคนที่เดินผ่านมาทางนั้นต่างตบมือเยาะเจ้า
พวกเขาผิวปากและส่ายหัวต่อเจ้า นางสาวเยรูซาเล็ม
พวกเขาพูดเยาะว่า “นี่นะหรือเมืองที่ผู้คนต่างพูดกันว่า
เป็นเมืองที่สวยอย่างไม่มีที่ติ
ซึ่งเคยให้ความสุขกับคนทั้งโลก”
16 พวกศัตรูทั้งหมดของเจ้าจะเปิดปากกว้างหัวเราะเยาะเจ้า
พวกเขาจะผิวปากและกัดฟันและพูดว่า
“เราได้กลืนกินพวกเขาไปจนหมด
นี่แหละเป็นวันที่พวกเรารอคอย วันนั้นได้มาถึงแล้ว
และเราก็ได้เห็นมันกับตาของพวกเราเอง”
17 พระยาห์เวห์ได้ทำในสิ่งที่พระองค์วางแผนไว้
พระองค์ได้ทำตามคำขู่ของพระองค์
พระองค์ได้ทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้นานมาแล้ว
พระองค์ได้ทำลายมันลงโดยไม่สงสาร
พระองค์ทำให้ศัตรูของเจ้าเฉลิมฉลองกัน
พระองค์ได้ทำให้ศัตรูของเจ้าเข้มแข็งขึ้น
18 กำแพงเมืองของนางสาวศิโยน
ร้องเรียกองค์เจ้าชีวิตจากใจของเจ้า
ให้น้ำตาของเจ้าไหลพรั่งพรูออกมาเหมือนลำธาร ทั้งวันทั้งคืน
อย่าได้หยุดร้องเลย
อย่าให้ดวงตาของเจ้าได้หยุดพักจากการร้องไห้
19 ลุกขึ้นมาร้องตะโกนในยามค่ำคืน
ลุกขึ้นมาร้องตะโกนในทุกช่วงต้นยาม
เทใจของเจ้าออกมาเหมือนน้ำต่อหน้าองค์เจ้าชีวิต
ชูมือของเจ้าขึ้นต่อพระองค์เพื่อขอชีวิตของลูกๆเจ้าที่เป็นลมล้มพับไปเพราะความหิวตามหัวถนนต่างๆ
20 มองดูสิ พระยาห์เวห์ สังเกตดูสิว่า
พระองค์ได้ทำอย่างนี้กับใคร
สมควรแล้วหรือที่ผู้หญิงจะกินลูกของตัวเอง ลูกๆที่พวกเขาดูแล
สมควรแล้วหรือที่พวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าจะถูกฆ่าในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าชีวิต
21 ทั้งคนหนุ่มและคนแก่นอนคว่ำอยู่บนพื้นกลางถนน
คนสาวๆและหนุ่มๆของผมถูกดาบฆ่าฟันล้มลง
พระองค์ฆ่าพวกเขาในวันที่พระองค์โกรธ
พระองค์สังหารพวกเขาอย่างไร้ความเมตตา
22 พระองค์เรียกศัตรูจากรอบข้างให้มาข่มขวัญฉันราวกับว่าพระองค์เชิญพวกเขามางานเลี้ยง
ในวันที่พระยาห์เวห์โกรธนั้น ไม่มีใครหนีพ้นหรือรอดชีวิตอยู่
ศัตรูของฉันได้ทำลายลูกๆที่ฉันเฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูมาจนหมดสิ้น
ลูกๆของพระเจ้าชนะโลกนี้แล้ว
5 คนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ก็ได้เกิดเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว และคนที่รักพระเจ้าก็จะรักลูกๆของพระองค์ด้วย 2 แบบนี้สิเราถึงรู้ว่าเรารักลูกๆของพระเจ้าจริง คือเมื่อเรารักพระเจ้าและทำตามคำสั่งของพระองค์ 3 การที่จะรักพระเจ้าหมายความว่าเราจะทำตามคำสั่งต่างๆของพระองค์ และพวกคำสั่งของพระองค์ก็ไม่ยากหรอก 4 เพราะทุกคนที่เป็นลูกของพระเจ้ามีชัยชนะเหนือโลก และความเชื่อของเราเองคือฤทธิ์อำนาจที่เอาชนะโลกแล้ว 5 ใครกันล่ะที่เอาชนะโลกนี้ได้ ก็คนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า
13 ผมได้เขียนเรื่องนี้ถึงพวกคุณที่ไว้วางใจในพระบุตรของพระเจ้า เพื่อพวกคุณจะได้รู้ว่า คุณยังมีชีวิตตลอดไปกับพระเจ้าอยู่ 14 พวกเรามีความเชื่อมั่นในพระเจ้าว่า ถ้าเราขออะไรตามที่พระเจ้าต้องการ พระองค์ก็จะฟังเรา 15 ถ้าเรารู้ว่าพระองค์ฟังเรา ไม่ว่าเราจะขออะไรก็ตาม เราจะได้รับตามที่เราขอนั้น
16 คนที่เห็นพี่น้องของตัวเองทำบาป แต่เป็นบาปที่ไม่ได้นำไปถึงความตาย เขาควรจะขอต่อพระเจ้าสำหรับพี่น้องคนนั้น และพระเจ้าจะให้ชีวิตกับพี่น้องคนนั้น ผมกำลังพูดถึงคนที่ทำบาปซึ่งไม่ได้นำไปถึงความตาย แต่บาปที่นำไปถึงความตายก็มีด้วย ผมไม่ได้บอกให้คุณขอสำหรับคนที่ทำบาปแบบนั้น 17 การกระทำผิดทุกอย่างเป็นความบาป แต่มีบาปบางอย่างที่ไม่นำไปถึงความตายด้วย
18 เรารู้ว่าคนที่เป็นลูกของพระเจ้าจะไม่ทำบาปอีกต่อไป พระบุตรของพระเจ้าก็ได้ดูแลให้เขาปลอดภัย และมารนั้นก็ไม่สามารถมาทำร้ายเขาได้ 19 เรารู้ว่าเราเป็นของพระเจ้า ถึงแม้ว่าโลกนี้จะอยู่ในมือของมารก็ตาม 20 แต่เราก็รู้ว่าพระบุตรของพระเจ้าได้มาแล้ว พระองค์ได้มาให้ความเข้าใจกับเรา เพื่อเราจะได้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นความจริงแท้ เราได้อยู่ในพระองค์ผู้เป็นความจริงนั้นโดยผ่านทางพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ พระองค์ผู้นี้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้และเป็นผู้ที่ทำให้คนมีชีวิตกับพระองค์ตลอดไป 21 ลูกๆเอ๋ย อยู่ให้ห่างจากรูปเคารพทั้งหลาย
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International