Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
สดุดี 79:1-9

(บทสดุดีของอาสาฟ)

79 ข้าแต่พระเจ้า ชนชาติทั้งหลายได้รุกรานกรรมสิทธิ์ของพระองค์
พวกเขาทำให้พระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เป็นมลทิน
พวกเขาทำให้เยรูซาเล็มกลายเป็นซากปรักหักพัง
พวกเขาปล่อยให้ศพผู้รับใช้ของพระองค์
เป็นอาหารของฝูงนกในอากาศ
ให้เนื้อประชากรของพระองค์ตกเป็นอาหารของสัตว์ร้ายในแผ่นดิน
พวกเขาทำให้เลือดหลั่งรินทั่วเยรูซาเล็ม
ดั่งน้ำนอง
ไม่มีใครสักคนที่จะจัดการฝังศพ
ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นคำเปรียบเปรยของเพื่อนบ้าน
เป็นที่ดูหมิ่นและเยาะเย้ยของชนชาติโดยรอบ

อีกนานเพียงใด ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า? พระองค์จะทรงพระพิโรธไปตลอดกาลหรือ?
อีกนานเพียงใดที่ความหึงหวงของพระองค์จะเผาผลาญดั่งไฟ?
ขอทรงเทพระพิโรธลงเหนือชนชาติทั้งหลาย
ที่ไม่ยอมรับพระองค์
ลงเหนืออาณาจักรต่างๆ
ที่ไม่ยอมร้องทูลโดยออกพระนามของพระองค์
เพราะพวกเขาได้กลืนกินยาโคบ
และทำลายล้างภูมิลำเนาของเขา

ขออย่าทรงให้โทษบาปของบรรพบุรุษมาตกกับข้าพระองค์ทั้งหลาย
ขอพระเมตตามาถึงข้าพระองค์ทั้งหลายโดยเร็ว
เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายตกต่ำที่สุด
ข้าแต่พระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายเถิด
เพื่อเห็นแก่เกียรติสิริแห่งพระนามของพระองค์
โปรดช่วยกู้และอภัยบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย
เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์

เยเรมีย์ 8:1-13

“‘องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่าเมื่อถึงเวลานั้นกระดูกของบรรดากษัตริย์และขุนนางของยูดาห์ กระดูกของเหล่าปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะ และกระดูกของชาวเยรูซาเล็มจะถูกขุดออกมาจากหลุมฝังศพ และถูกทิ้งกระจัดกระจายไว้กลางแจ้งภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และมวลหมู่ดาวแห่งฟ้าสวรรค์ซึ่งพวกเขารักและปรนนิบัติ ติดตามขอคำปรึกษาและนมัสการ กระดูกของพวกเขาจะไม่ถูกเก็บรวบรวมขึ้นมาอีกหรือถูกฝังไว้ แต่จะเป็นเหมือนขยะที่ทิ้งไว้บนพื้น และบรรดาผู้ที่ยังเหลือรอดอยู่ในหมู่ประชาชาติชั่วร้ายนี้ จะเรียกหาความตายมากกว่ามีชีวิตอยู่ในที่ซึ่งเราจะเนรเทศพวกเขาไปนั้น พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนี้’

บาปและโทษทัณฑ์

“จงไปบอกพวกเขาว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้

“ ‘เมื่อคนล้มลง เขาจะไม่ลุกขึ้นหรือ?
เมื่อเขาไปผิดทาง เขาจะไม่ย้อนกลับมาหรือ?
แล้วทำไมประชากรเหล่านี้หันไปทางอื่น?
เหตุใดเยรูซาเล็มจึงหันไปทางอื่นเสมอ?
พวกเขายึดติดกับความหลอกลวง
พวกเขาไม่ยอมหันกลับมา
เราตั้งใจฟัง
แต่พวกเขาไม่ได้พูดสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่มีใครกลับตัวกลับใจจากความชั่วร้ายของตน
และกล่าวว่า “ข้าได้ทำอะไรลงไป?”
แต่ละคนไปตามทางของตนเอง
เหมือนม้าทะยานออกศึก
แม้แต่นกกระสาในท้องฟ้า
ยังรู้กำหนดฤดูกาล
เช่นเดียวกับนกพิราบ นกกระเรียน และนกนางแอ่น
ยังรู้จักสังเกตว่าได้เวลาอพยพ
แต่ประชากรของเรา
ไม่รู้ข้อกำหนดต่างๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

“ ‘เจ้าพูดออกมาได้อย่างไรว่า “เราเฉลียวฉลาด
เพราะเรามีบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
ในเมื่อปากกามุสาของเหล่าอาลักษณ์
ได้บิดเบือนบทบัญญัตินั้น?
คนฉลาดเหล่านั้นจะต้องอับอายขายหน้า
พวกเขาจะหวาดกลัวท้อแท้และติดกับ
เนื่องจากได้ละทิ้งพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า
เขามีสติปัญญาประเภทไหนกัน?
10 ฉะนั้นเราจะยกภรรยาของพวกเขาให้ชายอื่น
และยกที่นาของพวกเขาให้เจ้าของคนใหม่
ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด
ล้วนโลภมุ่งกำไร
พวกผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตก็ไม่ต่างกัน
ล้วนโกหกหลอกลวง
11 พวกเขาทำแผลให้ประชากรของเรา
ราวกับว่าไม่สาหัสรุนแรงเท่าไร
พวกเขากล่าวว่า “สันติสุข สันติสุข”
ทั้งๆ ที่ไม่มีสันติสุข
12 พวกเขาละอายใจในความประพฤติอันน่าขยะแขยงของตนบ้างหรือเปล่า?
เปล่าเลย พวกเขาไม่ละอายสักนิด
ไม่รู้เลยว่าการมียางอายนั้นเป็นอย่างไร
ฉะนั้นพวกเขาจะล้มลงในหมู่ผู้ที่ล้มลง
เขาจะตกต่ำลงเมื่อเราลงโทษเขา
            องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนั้น

13 “ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
เราจะริบผลิตผลของเขาไป
จะไม่มีผลองุ่นติดอยู่บนเถา
ไม่มีมะเดื่อบนต้น
ใบของมันจะเหี่ยวเฉาไป
อะไรที่เราให้พวกเขาไว้
จะถูกยึดไป[a]’ ”

โรม 8:31-39

31 เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราใครเล่าจะต่อสู้เราได้? 32 พระองค์ผู้ไม่ได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ประทานพระบุตรนั้นแก่เราทุกคน พระองค์จะไม่ยิ่งทรงเมตตาประทานสิ่งสารพัดแก่เราพร้อมกับพระบุตรหรือ? 33 ใครจะฟ้องร้องบรรดาผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกไว้? ก็พระเจ้าเองทรงนับว่าเราเป็นผู้ชอบธรรม 34 ใครจะกล่าวโทษได้อีก? พระเยซูคริสต์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์และยิ่งกว่านั้นพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายแล้ว บัดนี้พระองค์ประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าและทรงกำลังอธิษฐานวิงวอนแทนเราด้วย 35 ใครเล่าจะพรากเราจากความรักของพระคริสต์ได้? ความทุกข์ร้อน ความยากลำบาก การข่มเหง การกันดารอาหาร การเปลือยกาย ภยันตราย หรือคมดาบอย่างนั้นหรือ? 36 ตามที่มีเขียนไว้ว่า

“เพราะเห็นแก่พระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายเผชิญความตายวันยังค่ำ
ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกนับว่าเป็นแกะที่จะเอาไปฆ่า”[a]

37 เปล่าเลย ในสถานการณ์ทั้งปวงนี้เราเป็นยิ่งกว่าผู้พิชิตโดยทางพระองค์ผู้ทรงรักเราทั้งหลาย 38 เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าความตายหรือชีวิต ไม่ว่าทูตสวรรค์หรือวิญญาณชั่ว[b] ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต หรือฤทธิ์อำนาจใดๆ 39 ไม่ว่าเบื้องสูงหรือเบื้องลึก หรือสิ่งอื่นใดในสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างล้วนไม่สามารถพรากเราไปจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.