Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ความมั่นใจของผู้มีความชอบธรรม
1 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งการลงโทษ
โอ พระเจ้าแห่งการลงโทษ โปรดแสดงให้ประจักษ์เถิด
2 โอ ผู้พิพากษาโลก ลุกขึ้นเถิด
สนองตอบคนหยิ่งยโสตามที่เขาควรได้รับ
3 โอ พระผู้เป็นเจ้า จะนานเพียงไร
จะนานเพียงไรที่คนชั่วร้ายยังคงเบิกบานใจกัน
4 พวกเขาพ่นถ้อยคำยโส
คนทำความชั่วทั้งปวงล้วนแต่โอ้อวดกัน
5 โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาขยี้ชนชาติของพระองค์
และกดขี่ข่มเหงผู้สืบมรดกของพระองค์
6 พวกเขาฆ่าหญิงม่ายและคนต่างด้าวที่ตั้งรกรากอยู่
และฆ่าเด็กกำพร้า
7 แล้วพวกเขาพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าจะไม่เห็นหรอก
พระเจ้าของยาโคบไม่หยั่งรู้”
8 จงเข้าใจเถิด พวกเจ้าช่างโง่เขลาเหลือเกิน
เมื่อไหร่เจ้าจึงจะมีสติปัญญาบ้าง
9 พระองค์เป็นผู้สร้างหูให้เรา พระองค์จะไม่ได้ยินหรือ
และพระองค์สร้างดวงตา พระองค์จะไม่เห็นหรือ
10 ผู้ที่สอนให้บรรดาประชาชาติมีวินัยจะไม่ลงโทษหรือ
และผู้สั่งสอนมนุษย์ขาดความรู้หรือ
11 พระผู้เป็นเจ้าทราบความนึกคิดของมนุษย์ว่า
เป็นเพียงประหนึ่งไอน้ำ[a]
12 โอ พระผู้เป็นเจ้า คนมีความสุขได้แก่คนที่พระองค์สอนให้มีวินัย
และคนที่พระองค์สั่งสอนจากกฎบัญญัติของพระองค์
13 เพื่อให้เขาปลอดภัยในยามมีคนปองร้าย
จนกระทั่งหลุมศพจะถูกขุดรอไว้ให้คนชั่ว
14 เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทอดทิ้งชนชาติของพระองค์
และพระองค์ไม่ละเลยผู้สืบมรดกของพระองค์
15 ความเป็นธรรมจะกลับมายังผู้มีความชอบธรรม
และผู้มีใจเที่ยงธรรมจะตามหลังไป
16 ใครลุกขึ้นช่วยข้าพเจ้าต่อต้านคนเลว
ใครอยู่ข้างข้าพเจ้าต่อสู้คนชั่ว
17 ถ้าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ช่วยข้าพเจ้า
อีกไม่นานชีวิตข้าพเจ้าก็คงจะลงไปอยู่ในความเงียบสงัดแห่งความตาย
18 เวลาข้าพเจ้าพูดว่า “เท้าของข้าพเจ้าพลาด”
โอ พระผู้เป็นเจ้า ความรักอันมั่นคงของพระองค์พยุงข้าพเจ้าไว้
19 เวลาจิตใจข้าพเจ้าว้าวุ่นสับสน
พระองค์ปลอบประโลมจิตวิญญาณทำให้ข้าพเจ้าเบิกบาน
20 พวกคนชั่วร้ายที่ปกครองบ้านเมืองจะเป็นพันธมิตรกับพระองค์ได้หรือ
เขาเป็นคนสร้างความทุกข์ด้วยการละเมิดกฎเกณฑ์
21 พวกเขารวมหัวกันฆ่าคนมีความชอบธรรม
และป้ายความผิดแก่คนไร้ความผิดจนถึงแก่ชีวิต
22 แต่พระผู้เป็นเจ้าเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
และพระเจ้าของข้าพเจ้าเป็นศิลาที่พักพิงของข้าพเจ้า
23 พระองค์จะลงโทษพวกที่กระทำสิ่งชั่วร้าย
และจะทำให้เขาพินาศเพราะบาปของเขา
พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราจะทำให้เขาพินาศ
18 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “แต่ถึงแม้ในเวลานั้น เราก็จะไม่กำจัดพวกเจ้าจนหมดสิ้น 19 และเมื่อประชาชนของเจ้าพูดว่า ‘ทำไมพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเราจึงได้กระทำสิ่งเหล่านี้ต่อพวกเรา’ เจ้าจงพูดกับพวกเขาว่า ‘เพราะพวกเจ้าได้ทอดทิ้งเรา และไปนมัสการบรรดาเทพเจ้าต่างชาติในแผ่นดินของเจ้า เจ้าก็จะไปรับใช้พวกชาวต่างชาติในแผ่นดินที่ไม่ได้เป็นของเจ้า’
20 จงประกาศแก่พงศ์พันธุ์ยาโคบ
ให้เป็นที่รู้ในยูดาห์ว่า
21 โอ จงฟังให้ดี ประชาชนผู้โง่เขลาและไร้สติเอ๋ย
เจ้ามีตาแต่มองไม่เห็น
มีหูแต่ไม่ได้ยิน”
22 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า
“พวกเจ้าไม่เกรงกลัวเราหรือ
เจ้าไม่สะทกสะท้าน ณ เบื้องหน้าเราหรือ
เราใช้ทรายเป็นเขตกั้นสำหรับทะเล
เป็นที่กั้นอันถาวรที่จะข้ามไปไม่ได้
แม้ว่าคลื่นซัดแต่ไม่สามารถข้ามไปได้
แม้ว่าคลื่นคำรามแต่ก็พังทลายผ่านไปไม่ได้
23 แต่ประชาชนเหล่านี้มีใจดื้อดึงและขัดขืน
พวกเขาออกนอกลู่นอกทางและจากเราไป
24 พวกเขาไม่แม้แต่จะคิดในใจว่า
‘พวกเราควรจะเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
พระองค์ให้ฝนตกตามฤดูกาล
คือฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู
และให้พวกเราได้เก็บเกี่ยวตามกำหนด’
25 ความชั่วของพวกเจ้าทำให้สิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้น
และบาปของพวกเจ้าทำให้ไม่ได้รับสิ่งดีๆ
26 เพราะพวกคนชั่วอยู่ในหมู่ชนชาติของเรา
พวกเขาซุ่มรออย่างคนคอยดักนก
พวกเขาวางกับดักเพื่อจับมนุษย์
27 บ้านของพวกเขามีแต่ความลวงหลอก
เหมือนกับกรงที่เต็มไปด้วยนก
ฉะนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นคนใหญ่โตและมั่งมี
28 พวกเขาอ้วนพี พวกเขาอ้วนท้วน
และกระทำความชั่วอย่างไม่มีขอบเขต
และตัดสินคนด้วยความไม่เป็นธรรม
เขาเอาเปรียบเด็กกำพร้าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
และไม่ปกป้องให้ผู้ยากไร้ใช้สิทธิของเขา
29 พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า
เราควรจะลงโทษพวกเขาเพราะเรื่องเหล่านี้มิใช่หรือ
และเราควรจะแก้แค้นประชาชาติ
ที่เป็นอย่างนี้มิใช่หรือ
30 สิ่งที่เลวร้ายและน่ากลัว
ได้เกิดขึ้นในแผ่นดิน
31 บรรดาผู้เผยคำกล่าวเผยความอย่างผิดๆ
ส่วนบรรดาปุโรหิตก็ปกครองไปตามคำบัญชาของพวกเขา
ชนชาติของเราก็ยินดีทำตาม
แต่ในที่สุดพวกเจ้าจะทำอย่างไร
8 แต่ท่านที่รักทั้งหลาย ท่านอย่าลืมสิ่งหนึ่งคือ 1 วันของพระผู้เป็นเจ้านานเหมือน 1,000 ปี และ 1,000 ปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว 9 พระผู้เป็นเจ้ามิได้ล่าช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์อย่างที่บางคนคิด แต่พระองค์อดทนต่อท่าน และไม่ประสงค์ให้ผู้ใดพินาศ แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจ 10 แต่วันที่พระผู้เป็นเจ้าจะมานั้นประดุจขโมยมา ฟ้าสวรรค์จะล่วงหายไปด้วยเสียงคำราม วัตถุธาตุต่างๆ จะถูกไฟทำลาย ทั้งแผ่นดินโลกและทุกสิ่งบนโลกจะถูกไฟไหม้หมด
11 ในเมื่อทุกสิ่งจะถูกทำลายด้วยวิธีนี้ แล้วท่านควรจะเป็นคนเช่นใด ท่านควรจะใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์และดำเนินตามวิถีทางของพระเจ้า 12 ท่านกำลังเฝ้ารอวันที่พระเจ้าจะมา และเร่งให้ถึงวันนั้น ซึ่งเป็นวันที่ไฟจะเผาผลาญฟ้าสวรรค์ และวัตถุธาตุต่างๆ จะถูกหลอมละลาย 13 แต่ตามพระสัญญาของพระองค์แล้ว เรารอคอยสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ซึ่งเป็นที่ๆ ความชอบธรรมปรากฏอยู่
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation