Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
คำอธิษฐานให้พระเจ้าลงโทษคนชั่ว
ถึงหัวหน้าวงดนตรีตามทำนอง “อย่าทำลาย” มิคทามของดาวิด
1 พวกท่านผู้มีอำนาจพูดด้วยความเป็นธรรมจริงหรือ
ท่านตัดสินคนตามความถูกต้องหรือไม่
2 เปล่าเลย จิตใจของท่านใฝ่ในการทำความชั่ว
ท่านกระทำการรุนแรงด้วยมือของตนเองในแผ่นดิน
3 พวกคนชั่วเลือกทางผิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์
เขาพูดปดนับแต่เกิดมา
4 มีพิษเหมือนพิษงู
เหมือนงูเห่าที่อุดหูไม่ฟัง
5 คือไม่ได้ยินเสียงของพวกหมองู
หรือคนเสกคาถาด้วยเล่ห์เหลี่ยม
6 โอ พระเจ้า โปรดหักฟันในปากของพวกเขาเสีย
โอ พระผู้เป็นเจ้า เลาะเขี้ยวของสิงโตหนุ่มออกเถิด
7 ให้พวกเขาหายสาบสูญเหมือนกับน้ำที่ไหลออกไป
ให้เขาถูกเหยียบย่ำและเหี่ยวเฉาดั่งต้นหญ้า
8 ให้พวกเขาเป็นเหมือนหอยทากที่สลายตัวขณะคลานไป
เป็นเหมือนทารกตายเสียแต่ครั้งครรภ์ยังอ่อน เขาไม่มีวันเห็นดวงตะวัน
9 ก่อนที่หม้อจะได้รับความรู้สึกร้อนจากฟืนไฟ
ให้พระองค์กวาดล้างพวกเขาทั้งเป็นด้วยความกริ้วอันร้อนแรง
10 ผู้มีความชอบธรรมจะชื่นชมยินดีเมื่อเห็นการลงโทษ
เขาจะล้างเท้าในกองเลือดของคนชั่ว
11 ผู้คนจะพูดว่า
“จริงด้วย มีรางวัลสำหรับผู้มีความชอบธรรม
จริงทีเดียว มีพระเจ้าเป็นผู้พิพากษาแผ่นดินโลก”
3 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้
“ถ้าชายผู้หนึ่งหย่าจากภรรยาของเขา
เมื่อนางไปจากเขา และเป็นภรรยาของชายผู้อื่น
แล้วเขาจะกลับไปหานางอีกไหม
แผ่นดินนั้นจะไม่หมองหรือ
เจ้าได้แสดงความเป็นหญิงแพศยาที่มีคนรักหลายคน
แล้วเจ้าจะกลับมาหาเราอย่างนั้นหรือ
2 จงแหงนหน้าดูที่เนินเขาสูงสิ
ที่ไหนบ้างที่เจ้าไม่ได้ไปหลับนอนกับใครมา
เจ้าได้นั่งคอยบรรดาคนรักที่ริมถนน
อย่างกับชาวอาหรับในถิ่นทุรกันดาร
เจ้าได้ทำให้แผ่นดินหมอง
ด้วยความแพศยาอันร้ายกาจของเจ้า
3 ฉะนั้น ฝนจึงถูกระงับไว้
และฝนต้นฤดูจึงไม่ตก
แม้แต่หน้าผากของเจ้าก็บ่งบอกถึงการเป็นหญิงแพศยา
เจ้ายังไม่รับว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอาย
4 เจ้าเพิ่งร้องเรียกถึงเราในเวลานี้ว่า
‘พระบิดาของข้าพเจ้า พระองค์เป็นเพื่อนของข้าพเจ้าตั้งแต่เยาว์วัย
5 พระองค์จะโกรธตลอดไปหรือ
พระองค์จะกริ้วไปตลอดกาลหรือ’
ดูเถิด เจ้าพูดอย่างนั้น
แต่เจ้าได้กระทำสิ่งชั่วร้ายทั้งสิ้นเท่าที่เจ้าจะทำได้”
ความไม่ภักดีของอิสราเอลและยูดาห์
6 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าในสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ดังนี้ว่า “เจ้าเห็นแล้วหรือยังว่า อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อได้ทำอะไรบ้าง นางขึ้นไปบนภูเขาสูงทุกลูกและใต้ต้นไม้อันเขียวชอุ่มทุกต้น และทำตัวเป็นหญิงแพศยาอยู่ที่นั่น 7 และเราคิดว่า ‘หลังจากนางได้กระทำสิ่งเหล่านี้แล้ว นางจะกลับมาหาเรา’ แต่นางไม่กลับมา และยูดาห์พี่สาวผู้ไม่ภักดีของนางเห็นการกระทำ 8 ยูดาห์เห็นว่า เราได้ไล่อิสราเอลไปพร้อมกับใบหย่า เพราะนางสิ้นความเชื่อและประพฤติผิดประเวณี ยูดาห์พี่สาวผู้ไม่ภักดีก็ยังไม่เกรงกลัว แต่กลับทำตัวเป็นหญิงแพศยาไปด้วย 9 เพราะอิสราเอลคิดว่าความแพศยาของตนเป็นเรื่องเล็ก นางได้ทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน ล่วงประเวณีด้วยการนมัสการหินและต้นไม้ 10 หลังจากนั้นแล้ว ยูดาห์พี่สาวผู้ไม่ภักดีของนางแสร้งกลับมาหาเรา แต่ก็ไม่ได้ทำด้วยใจจริง” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
11 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อแสดงตนว่ามีความชอบธรรมมากกว่ายูดาห์ผู้ไม่ภักดี 12 จงไปประกาศแก่ทางทิศเหนือว่า
‘อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อจงกลับมา’” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
“เราจะไม่ดูเจ้าด้วยความกริ้ว
เพราะเราเปี่ยมด้วยความเมตตา” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
“เราจะไม่กริ้วเจ้าไปตลอดกาล
13 เจ้าจงเพียงยอมรับความผิดของเจ้าว่า
เจ้าขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
และเจ้าวิ่งตามเทพเจ้าต่างชาติ
ที่ใต้ต้นไม้อันเขียวชอุ่มทุกต้น
และเจ้าไม่ได้เชื่อฟังคำของเรา”
พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
14 “โอ ลูกๆ ที่สิ้นความเชื่อเอ๋ย จงกลับมา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เพราะเราเป็นนายของเจ้า เราจะเลือกเจ้ามาจากเมืองละ 1 คน และจากครอบครัวละ 2 คน และเราจะพาเจ้าไปยังศิโยน
การทักทายของเปาโล
1 ข้าพเจ้าเปาโลผู้รับใช้ของพระเจ้า และอัครทูตของพระเยซูคริสต์ ได้รับมอบให้มาช่วยในเรื่องความเชื่อของคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ และเพื่อให้พวกเขาทราบความจริงซึ่งนำไปสู่ทางของพระเจ้า 2 ด้วยมีความหวังว่าจะได้ชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ซึ่งพระเจ้าผู้กล่าวแต่ความจริงได้สัญญาไว้ก่อนปฐมกาล 3 และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม พระองค์ให้คำกล่าวของพระองค์ปรากฏ โดยมอบให้ข้าพเจ้าประกาศตามคำสั่งของพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดพ้นของเรา
4 ถึง ทิตัสบุตรแท้ของข้าพเจ้าในความเชื่อเดียวกัน
ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้า ผู้เป็นพระบิดา และจากพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดพ้นของเรา จงอยู่กับท่านเถิด
งานของทิตัสที่เกาะครีต
5 เหตุที่ข้าพเจ้าปล่อยท่านไว้ที่เกาะครีต ก็เพื่อท่านจะได้ดำเนินการกับสิ่งที่ยังคั่งค้างอยู่ให้เสร็จสิ้น และแต่งตั้งพวกผู้ปกครองไว้ทุกเมือง ตามที่ข้าพเจ้ากำชับท่านแล้ว 6 ผู้ปกครองต้องเป็นผู้ไม่มีใครติเตียนได้ มีภรรยาคนเดียว[a] มีลูกๆ ที่มีความเชื่อ และไม่นับว่าเป็นนักเลงหรือไม่เชื่อฟัง 7 ในเมื่อผู้ดูแลสาวกได้รับมอบหมายให้ดูแลการงานของพระเจ้า จึงต้องเป็นผู้ไม่มีใครติเตียนได้ ไม่หยิ่งผยอง ไม่โกรธง่าย ไม่เสพติดเหล้าองุ่น ไม่เป็นคนก้าวร้าว ไม่ทุจริตเพราะความโลภ 8 แต่มีอัธยาศัยดีในการต้อนรับ รักความดี ควบคุมตนเองได้ มีความชอบธรรม บริสุทธิ์และมีวินัย 9 ต้องยึดมั่นในคำสั่งสอนที่ไว้ใจได้ ตามที่ได้เรียนรู้มาแล้ว เพื่อจะได้สนับสนุนผู้อื่นด้วยหลักคำสอนที่ดี และทักท้วงบรรดาคนที่ต่อต้านหลักคำสอนนั้นได้
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation