Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 2:4-13

พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ
    ที่เป็นตระกูลต่างๆที่สืบเชื้อสายมาจากอิสราเอล ฟังคำของพระยาห์เวห์ไว้ให้ดี
พระยาห์เวห์พูดไว้อย่างนี้
“บรรพบุรุษของเจ้าไม่พอใจเราตรงไหนหรือ พวกเขาถึงอยากจะไปให้ไกลจากเรา
    พวกเขาหันไปติดตามสิ่งที่ไร้ค่า ก็เลยทำให้พวกเขาไร้ค่าไปด้วย
บรรพบุรุษของเจ้าไม่ได้พูดว่า ‘พระยาห์เวห์อยู่ที่ไหนแล้ว
    พระองค์ผู้ที่ได้นำเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
ผู้ที่นำเราในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง
    ในดินแดนที่รกร้างและหุบเขาลึก
ในดินแดนที่แห้งแล้งและอันตราย
    ในดินแดนที่ไม่มีใครเคยผ่านเข้าไปมาก่อน
    เป็นดินแดนที่ไม่เคยมีคนอยู่มาก่อน’

พระยาห์เวห์พูดว่า

แต่เราได้นำเจ้าไปยังแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์
    เพื่อให้เจ้าได้กินผลไม้และผลผลิตต่างๆของมัน
แล้วเมื่อเจ้าเข้ามาอยู่ เจ้าก็ได้ทำให้แผ่นดินของเราไม่บริสุทธิ์
    และเจ้าได้ทำให้มรดกของเรากลายเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง
พวกนักบวชไม่ได้ถามว่า ‘พระยาห์เวห์อยู่ที่ไหน’
    และคนพวกนั้นที่เชี่ยวชาญกฎโมเสส ก็ไม่รู้จักเรา
เหล่าผู้เลี้ยงแกะ ก็ได้ทรยศต่อเรา
    ส่วนพวกผู้พูดแทนพระเจ้าก็พูดแทนพระบาอัล
    ผู้คนก็ไปติดตามสิ่งต่างๆที่ไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครเลย”

พระยาห์เวห์พูดว่า “เพราะฉะนั้นเราจะยังโต้แย้งกับเจ้าต่อไป
    และโต้แย้งกับลูกของเจ้าและหลานของเจ้าด้วย
10 ข้ามไปที่เกาะไซปรัสสิ ไปดูว่าคนที่นั่นทำอะไรกัน
    หรือไม่ก็ส่งคนไปที่เคดาร์ ไปสำรวจให้ละเอียด
    ไปดูสิว่ามีใครเคยทำอะไรอย่างนี้เหมือนกับที่ยูดาห์บ้างไหม
11 มีชนชาติไหนบ้างที่เอาพระเจ้าของพวกเขาไปแลกกับพระอื่นๆ ไม่มีหรอก
    นี่ขนาดพระของคนพวกนั้นไม่ใช่พระเจ้าเที่ยงแท้สักหน่อย
    แต่คนของเราสิ กลับเอาศักดิ์ศรีของเราไปแลกกับของที่ไม่ให้ประโยชน์อะไรเลย

12 ฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย ให้ตกตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
    ให้สะดุ้งกลัว และหมดเรี่ยวแรงไป”
พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้แหละ
13 “ที่เราพูดอย่างนี้ เพราะคนของเราได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายต่อเราสองอย่าง คือ
    พวกเขาได้ละทิ้งเราซึ่งเป็นน้ำพุที่ไหลริน
เพื่อจะได้ขุดแอ่งเก็บน้ำสำหรับตัวเอง
    แต่แอ่งน้ำพวกนั้นเป็นแอ่งน้ำแตกที่กักเก็บน้ำไม่ได้

สดุดี 81:1

เพลงแห่งเทศกาล

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงนี้ตามทำนองกิททีธ[a] บทเพลงของอาสาฟ

ให้ร้องเพลงด้วยความยินดีให้กับพระเจ้าผู้ให้พละกำลังกับพวกเรา
    ให้โห่ร้องคำสรรเสริญให้กับพระเจ้าของยาโคบ

สดุดี 81:10-16

10 เราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
    เราคือผู้ที่นำเจ้าออกมาจากอียิปต์
    อ้าปากของเจ้าให้กว้าง และเราจะเติมให้เต็ม

11 แต่คนของเราไม่ยอมฟังเสียงของเรา
    ชาวอิสราเอลไม่ยอมทำตามสิ่งที่เราบอก
12 เราก็เลยปล่อยให้พวกเขาไปตามทางที่ดื้อรั้นของพวกเขา
    และทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากทำ
13 ถ้าเพียงแต่คนของเราฟังเสียงเรา
    ถ้าเพียงแต่คนอิสราเอลจะเดินในทางทั้งหลายของเรา
14 เราก็จะปราบศัตรูของพวกเขาในไม่ช้า
    และจะลงโทษคู่ต่อสู้ของพวกเขา
15 เราจะบีบบังคับคนที่เกลียดชังเรา ให้ต้องมายอมจำนนต่อเรา
    และพวกเขาจะต้องอับอายขายหน้าตลอดไป
16 แต่อิสราเอล เราจะเลี้ยงเจ้าด้วยข้าวสาลีที่ดีที่สุด
    และเราจะให้เจ้าอิ่มหนำด้วยน้ำเชื่อมผลไม้ที่ไหลออกมาจากหิน

ฮีบรู 13:1-8

13 ขอให้เรารักกันอย่างพี่น้องต่อไป อย่าลืมที่จะเลี้ยงดูแขกแปลกหน้าที่มาบ้าน เพราะบางคนที่ทำอย่างนั้นได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว อย่าลืมช่วยดูแลคนเหล่านั้นที่ถูกขังคุกอยู่เหมือนกับถูกขังร่วมกับเขาด้วย ให้เราช่วยเหลือคนที่ถูกกดขี่ข่มเหงราวกับว่าถูกกดขี่ข่มเหงเสียเอง

ขอให้ทุกคนให้เกียรติกับชีวิตสมรส และขอให้เตียงสมรสนั้นบริสุทธิ์ เพราะพระเจ้าจะลงโทษคนที่มีชู้และทำผิดทางเพศ อย่าเป็นคนที่รักเงิน แต่ให้พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เพราะว่าพระเจ้าได้พูดว่า

“เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า
    เราจะไม่หนีเจ้าไป”[a]

ดังนั้น เราจึงพูดด้วยความมั่นใจได้ว่า

“องค์เจ้าชีวิตเป็นผู้ช่วยของผม ผมจะไม่กลัวอะไร
    มนุษย์จะทำอะไรผมได้”[b]

ให้ระลึกถึงพวกผู้นำของคุณ คนที่เคยประกาศถ้อยคำของพระเจ้าให้กับคุณ ให้สังเกตดูชีวิตของเขาว่าเขาอยู่และตายอย่างไร แล้วให้เลียนแบบความเชื่อของคนเหล่านั้น

พระเยซูคริสต์เหมือนเดิมเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อวานนี้ วันนี้ หรือตลอดไป

ฮีบรู 13:15-16

15 ดังนั้น เพราะสิ่งที่พระเยซูทำ เราควรถวายเครื่องบูชาต่อพระเจ้าเสมอ เครื่องบูชานั้นคือคำสรรเสริญที่ออกมาจากริมฝีปากที่ยกย่องพระองค์ 16 อย่าลืมทำความดีและแบ่งปันสิ่งของให้กับคนอื่นด้วย เพราะการทำอย่างนี้เป็นการถวายเครื่องบูชาต่อพระเจ้าจริงๆ

ลูกา 14:1

ผิดหรือไม่ที่รักษาในวันหยุดทางศาสนา

14 ครั้งหนึ่งในวันหยุดทางศาสนา พระเยซูไปกินอาหารที่บ้านของผู้นำฟาริสีคนหนึ่ง พวกฟาริสีก็จับตามองพระองค์อย่างใกล้ชิด

ลูกา 14:7-14

อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่น

เมื่อพระเยซูเห็นว่าแขกที่มาในงานชอบเลือกนั่งในที่ที่มีเกียรติ พระองค์ก็เลยใช้เรื่องเปรียบเทียบสอนว่า “เมื่อมีคนเชิญคุณไปงานแต่งงาน อย่าไปเลือกนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะเจ้าภาพอาจจะเชิญแขกที่สำคัญกว่าคุณมา แล้วเจ้าภาพจะมาบอกกับคุณว่า ‘ช่วยลุกให้แขกคนนี้นั่งหน่อย’ คุณก็จะเสียหน้า และต้องเลื่อนไปนั่งที่ที่ไม่มีเกียรติ 10 ทำอย่างนี้สิ เวลาไปงานเลี้ยงให้ไปนั่งในที่ที่ไม่มีเกียรติ ซึ่งเมื่อเจ้าภาพเห็นก็จะมาบอกกับคุณว่า ‘เพื่อนรัก ย้ายขึ้นมานั่งในที่ที่มีเกียรตินี้เถิด’ คุณก็จะได้หน้าต่อหน้าแขกคนอื่นๆ 11 เพราะคนที่ยกตัวเองจะต้องถูกกดลง และคนที่ถ่อมตัวจะถูกยกขึ้น”

คุณจะได้รับรางวัล

12 แล้วพระเยซูก็หันมาพูดกับเจ้าของบ้านว่า “เมื่อคุณจัดงานเลี้ยงมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็นก็ตาม อย่าเชิญเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่มีอันจะกินมา เพราะคนพวกนี้จะเลี้ยงตอบแทน 13 แต่เมื่อคุณจัดงานเลี้ยง ให้เชิญคนยากจน คนพิการ คนขาเป๋ คนตาบอด 14 เพราะคนพวกนี้ไม่สามารถจ่ายคืนได้ แต่พระเจ้าจะให้เกียรติ และให้รางวัลกับคุณ ในวันที่คนที่ทำตามใจพระเจ้าจะฟื้นขึ้นจากความตาย”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International