Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อาโมส 8:1-12

นิมิตเกี่ยวกับผลไม้ที่สุกงอม

พระยาห์เวห์แสดงสิ่งนี้ให้ผมเห็น คือผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่ง พระยาห์เวห์พูดว่า “อาโมส เจ้าเห็นอะไร”

ผมตอบว่า “ผลไม้ที่สุกงอมตะกร้าหนึ่งครับ”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “จุดจบ[a] มาถึงอิสราเอลคนของเราแล้ว เราจะไม่ยอมยกโทษให้กับพวกเขาอีกต่อไป ในวันนั้น เสียงร้องเพลงต่างๆในวิหารจะกลายเป็นเสียงร้องไห้คร่ำครวญ” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น “จะมีซากศพมากมาย และผู้คนก็จะมาขนพวกมันไปทิ้งอย่างเงียบๆในที่ทุกหนแห่ง”

นักธุรกิจสนใจแต่กำไรเท่านั้น

ฟังให้ดีเจ้าที่ชอบเหยียบย่ำคนจน
    และพยายามกำจัดพวกเขาให้หมดไปจากแผ่นดิน
เจ้าพูดว่า “เมื่อไหร่เทศกาลพระจันทร์ใหม่จะหมดนะ
    เราจะได้ไปขายข้าวสารของเราซะที
เมื่อไหร่วันหยุดทางศาสนาจะหมดนะ
    เราจะได้เปิดคลังข้าวสารของเราออกขาย
    เราจะทำถ้วยตวงให้เล็กกว่าปกติ ทำลูกตุ้มให้หนักกว่ามาตรฐานและโกงตราชั่ง
เราจะเอาแกลบมาผสมข้าวสารขาย
    แล้วเราจะเอาเงินซื้อคนจนมาเป็นทาส
    และซื้อคนที่ขัดสนด้วยราคาเท่ากับรองเท้าสานคู่เดียว”

พระยาห์เวห์ ที่คนอิสราเอลภาคภูมิใจนั้น พระองค์สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เองว่า

“เราจะไม่มีวันลืมความชั่วร้ายทั้งหลายที่พวกเขาทำลงไป
แผ่นดินจะสะท้านเพราะสิ่งที่เจ้าทำนี้
    และทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนั้นก็จะเศร้าโศกเสียใจ
ทั้งแผ่นดินก็จะเอ่อท่วมท้นขึ้นมาเหมือนแม่น้ำไนล์
    และจะซัดไปซัดมา สุดท้ายก็จมลงเหมือนแม่น้ำไนล์ในอียิปต์”
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
    “ในวันนั้นเราจะทำให้ดวงอาทิตย์ตกในตอนเที่ยงวัน
    และจะทำให้โลกนี้มืดมนไปตอนกลางวัน
10 เราจะเปลี่ยนการเฉลิมฉลองของเจ้าให้กลายเป็นเวลาเศร้าหมอง
    และเปลี่ยนเสียงเพลงของเจ้าให้กลายเป็นเพลงไว้ทุกข์
เราจะทำให้เจ้าต้องสวมใส่ผ้ากระสอบรอบเอวของเจ้าทุกคน
    และจะทำให้พวกเจ้าต้องโกนหัวเพราะเศร้าโศกเสียใจ
เราจะทำให้ความเศร้าโศกนั้นเหมือนเศร้าโศกที่สูญเสียลูกชายเพียงคนเดียวไป
    วันเวลานั้นจะขมขื่นถึงที่สุด”

เวลาแห่งความอดอยากพระคำของพระเจ้า

11 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“ดูสิ วันเหล่านั้นกำลังจะมาแล้ว
    เป็นวันที่เราจะส่งความอดอยากหิวโหยมาในแผ่นดินนี้
มันไม่ใช่ความอดอยากหิวโหยอาหารและก็ไม่ใช่ความกระหายน้ำด้วย
    แต่จะเป็นความอดอยากหิวโหยโอกาสที่จะได้ฟังพระคำของพระยาห์เวห์
12 พวกเขาท่องไปจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงทะเลตาย
    และท่องจากเหนือจดตะวันออก
พวกเขาจะท่องกลับไปกลับมาเพื่อแสวงหาพระคำของพระยาห์เวห์
    แต่พวกเขาก็จะหาไม่เจอ

สดุดี 52

ที่ลี้ภัยที่เป็นภัย

ถึงหัวหน้านักร้อง บทกวีแห่งมัสคิล[a] ของกษัตริย์ดาวิด จากตอนที่โดเอก คนเอโดมไปบอกกับกษัตริย์ซาอูลว่า “ดาวิดได้เข้าไปในบ้านของอาคีเมเลค”

เฮ้ย เจ้านักเลงโต ทำไมเจ้าถึงได้โอ้อวดถึงเรื่องชั่วๆที่เจ้าทำ
    ในขณะที่พระเจ้าแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ตลอดเวลา
ไอ้จอมลวงโลก เจ้าชอบวางแผนทำลายล้างผู้อื่น
    ลิ้นของเจ้าอันตรายเหมือนมีดโกนที่คมกริบ
เจ้ารักความชั่วมากกว่าความดี
    และพูดโกหกมากกว่าพูดความจริง เซลาห์

ตัวเจ้าและลิ้นอันปลิ้นปล้อนของเจ้า
    รักที่จะทำร้ายผู้อื่น
ดังนั้นพระเจ้าจะรื้อเจ้าลงตลอดกาล
    พระองค์จะคว้าและกระชากตัวเจ้าออกไปจากเต็นท์ของเจ้า
    พระองค์จะถอนรากถอนโคนเจ้าให้พ้นจากแผ่นดินของคนเป็น เซลาห์
คนดีจะเห็นสิ่งนี้และตลึงงัน
    และจะหัวเราะเยาะคนชั่ว แล้วพูดว่า
“ดูคนที่แข็งแรงนั่นสิ เขาไม่ได้เอาพระเจ้าเป็นที่ลี้ภัย
    แต่กลับพึ่งความร่ำรวยของตน
    เขาพยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น ด้วยการทำลายล้างผู้อื่น”

แต่ข้าพเจ้าเปรียบเหมือนต้นมะกอกสีเขียวที่เจริญเติบโตอยู่ในลานในวิหารของพระเจ้า
    ข้าพเจ้าจะพึ่งพิงความรักมั่นคงของพระเจ้าตลอดไป
ต่อหน้าผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ตลอดกาล
    สำหรับสิ่งที่พระองค์ทำ
และข้าพเจ้าจะฝากความหวังของข้าพเจ้า
    ไว้ในชื่อของพระองค์ เพราะพระองค์นั้นดี

โคโลสี 1:15-28

เมื่อเรามองดูพระคริสต์เราเห็นพระเจ้า

15 พระคริสต์เป็นภาพสะท้อนของพระเจ้าผู้ที่ตามนุษย์มองไม่เห็น พระคริสต์เป็นลูกหัวปีที่อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา 16 พระเจ้าใช้พระคริสต์สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในสวรรค์หรือบนโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มองเห็นหรือมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นพวกวิญญาณที่นั่งบนบัลลังก์ หรือพวกผู้ครอบครองแผ่นดิน หรือพวกผู้ปกครอง หรือพวกผู้มีสิทธิอำนาจ พระคริสต์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างนี้ และทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็เกิดขึ้นมาเพื่อให้เกียรติกับพระองค์ 17 ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกสร้างขึ้นมา ก็มีพระองค์อยู่แล้ว และทุกอย่างยังคงอยู่ได้ก็เพราะพระองค์ยึดมันไว้ด้วยกัน 18 พระองค์เป็นศีรษะของร่างกาย ซึ่งก็คือหมู่ประชุมของพระองค์ พระองค์เป็นจุดเริ่มต้น เป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นจากความตาย เพื่อพระองค์จะได้เป็นที่หนึ่งในทุกเรื่อง 19 เพราะพระเจ้าตัดสินใจว่าจะให้ความเต็มบริบูรณ์ของพระองค์อยู่ในตัวพระคริสต์ 20 พระองค์ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งบนโลกและในสวรรค์กลับมาคืนดีกับพระองค์ คือทำให้เกิดสันติภาพขึ้น ด้วยเลือดของพระคริสต์ที่หลั่งบนไม้กางเขนนั้น

21 ในอดีตนั้นพวกคุณเคยเหินห่างจากพระเจ้า และมีใจที่เป็นศัตรูกับพระองค์ เพราะสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่ตัวเองทำ 22 แต่เดี๋ยวนี้พระเจ้าทำให้คุณกลับมาคืนดีกับพระองค์ โดยการตายของพระคริสต์ในร่างมนุษย์นี้ พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพื่อจะได้ถวายคุณต่อหน้าพระเจ้าอย่างคนบริสุทธิ์ ไม่มีข้อเสื่อมเสียและไม่มีข้อกล่าวหา 23 แต่คุณจะต้องยืนหยัดและยึดมั่นในความเชื่อต่อไป และไม่เลิกหวังในข่าวดีที่คุณได้ยินแล้วนั้น ข่าวดีนี้เป็นสิ่งที่ได้ประกาศไปแล้วกับทุกคนที่อยู่ใต้ฟ้านี้ ผมเปาโล ได้มาเป็นผู้รับใช้ในการประกาศข่าวดีนี้

งานที่เปาโลทำเพื่อหมู่ประชุมของพระเจ้า

24 ผมดีใจที่ในขณะนี้ผมกำลังทนทุกข์เพื่อพวกคุณ และมีความทุกข์ที่ยังเหลืออยู่ที่พระคริสต์จะต้องแบกอยู่อีก ผมกำลังทำให้ความทุกข์ที่เหลือนี้สำเร็จในตัวผม ผมทำทั้งหมดนี้เพื่อร่างกายของพระองค์ คือหมู่ประชุมของพระองค์ 25 พระเจ้าได้มอบหมายให้ผมมาเป็นผู้รับใช้หมู่ประชุมของพระองค์เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของพวกคุณ เพื่อประกาศถ้อยคำของพระเจ้าอย่างครบถ้วนให้กับพวกคุณ 26 ความจริงที่ลึกลับนี้ได้ถูกซ่อนไว้มาหลายยุคหลายสมัย แต่ตอนนี้พระเจ้าได้เปิดเผยให้กับพวกคนที่เป็นของพระองค์ 27 พระเจ้าอยากให้คนที่เป็นของพระองค์รู้ว่า ความจริงอันลึกลับที่ได้เปิดเผยในหมู่คนที่ไม่ใช่ยิวนั้น รุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ความจริงอันลึกลับนั้นคือ พระคริสต์ผู้อยู่ในพวกคุณนั้นเอง ทำให้เราเกิดความหวังที่จะได้มีส่วนร่วมในเกียรติของพระเจ้า 28 เราประกาศเรื่องของพระคริสต์ เราเตือนสติทุกคนและสั่งสอนทุกคนด้วยปัญญาทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อเราจะได้นำทุกคนไปอยู่ต่อหน้าพระเจ้าอย่างเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวในพระคริสต์

ลูกา 10:38-42

มารีย์กับมารธา

38 ในระหว่างทางนั้น พระเยซูและพวกศิษย์เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีหญิงคนหนึ่งชื่อมารธา นางเชิญพระองค์พักที่บ้านของนาง 39 มารีย์ซึ่งเป็นน้องสาวของมารธา มานั่งอยู่ที่เท้าขององค์เจ้าชีวิต และฟังพระองค์พูดอย่างตั้งใจ 40 ส่วนมารธานั้นกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมต่างๆ นางก็มาตัดพ้อกับพระเยซูว่า “อาจารย์ ไม่สนใจเลยหรือที่น้องสาวปล่อยให้ดิฉันทำงานอยู่คนเดียว สั่งให้เธอมาช่วยหน่อยได้ไหม”

41 แต่องค์เจ้าชีวิตตอบนางไปว่า “มารธา มารธาเอ๋ย เธอกำลังกังวลและวุ่นวายกับหลายเรื่องนัก 42 แต่มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จำเป็น และมารีย์ก็เลือกเอาสิ่งนั้นที่ดีกว่าไว้แล้ว และจะไม่มีใครแย่งสิ่งนั้นไปจากเธอ”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International