Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ที่ลี้ภัยที่เป็นภัย
ถึงหัวหน้านักร้อง บทกวีแห่งมัสคิล[a] ของกษัตริย์ดาวิด จากตอนที่โดเอก คนเอโดมไปบอกกับกษัตริย์ซาอูลว่า “ดาวิดได้เข้าไปในบ้านของอาคีเมเลค”
1 เฮ้ย เจ้านักเลงโต ทำไมเจ้าถึงได้โอ้อวดถึงเรื่องชั่วๆที่เจ้าทำ
ในขณะที่พระเจ้าแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ตลอดเวลา
2 ไอ้จอมลวงโลก เจ้าชอบวางแผนทำลายล้างผู้อื่น
ลิ้นของเจ้าอันตรายเหมือนมีดโกนที่คมกริบ
3 เจ้ารักความชั่วมากกว่าความดี
และพูดโกหกมากกว่าพูดความจริง เซลาห์
4 ตัวเจ้าและลิ้นอันปลิ้นปล้อนของเจ้า
รักที่จะทำร้ายผู้อื่น
5 ดังนั้นพระเจ้าจะรื้อเจ้าลงตลอดกาล
พระองค์จะคว้าและกระชากตัวเจ้าออกไปจากเต็นท์ของเจ้า
พระองค์จะถอนรากถอนโคนเจ้าให้พ้นจากแผ่นดินของคนเป็น เซลาห์
6 คนดีจะเห็นสิ่งนี้และตลึงงัน
และจะหัวเราะเยาะคนชั่ว แล้วพูดว่า
7 “ดูคนที่แข็งแรงนั่นสิ เขาไม่ได้เอาพระเจ้าเป็นที่ลี้ภัย
แต่กลับพึ่งความร่ำรวยของตน
เขาพยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น ด้วยการทำลายล้างผู้อื่น”
8 แต่ข้าพเจ้าเปรียบเหมือนต้นมะกอกสีเขียวที่เจริญเติบโตอยู่ในลานในวิหารของพระเจ้า
ข้าพเจ้าจะพึ่งพิงความรักมั่นคงของพระเจ้าตลอดไป
9 ต่อหน้าผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ตลอดกาล
สำหรับสิ่งที่พระองค์ทำ
และข้าพเจ้าจะฝากความหวังของข้าพเจ้า
ไว้ในชื่อของพระองค์ เพราะพระองค์นั้นดี
อิสราเอลที่หยิ่งยโสจะไม่มีชีวิตที่ฟู่ฟ่าอีกต่อไป
6 นี่ พวกเจ้า พวกเจ้าที่ชอบอยู่อย่างสบายๆในเมืองศิโยน
พวกเจ้าที่รู้สึกปลอดภัยบนภูเขาสะมาเรีย
พวกเจ้าที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำที่สำคัญมากของชนชาติที่ดีที่สุด
คนที่ครอบครัวของอิสราเอลต้องมาพึ่งพิง
2 พวกผู้นำของเจ้าอวดกับเจ้าว่า “ข้ามไปที่เมืองคาลเนห์[a] และไปดูสิ
จากที่นั่นก็ให้ไปที่เมืองฮามัท[b] ที่ยิ่งใหญ่
แล้วให้ลงไปที่กัทของชาวฟีลิสเตีย
เมืองพวกนั้นดีกว่าเมืองศิโยนกับเมืองสะมาเรียหรือ
หรือดินแดนของพวกเขาใหญ่กว่าดินแดนของเจ้าหรือ”
3 พวกเจ้าคิดที่จะผลักวันแห่งความพินาศออกไปไกลๆ
แต่เจ้ากลับนำบัลลังก์แห่งความโหดร้ายให้เข้ามาใกล้ๆ
4 พวกเจ้านอนลงบนเตียงที่ตกแต่งด้วยงาช้าง
เจ้าเหยียดแข้งเหยียดขานอนอยู่บนโซฟา
และกินพวกลูกแกะที่คัดมาจากฝูง
และพวกลูกวัวอ้วนพีจากคอก
5 พวกเจ้าร้องตามเสียงพิณใหญ่
เหมือนกับดาวิด พวกเจ้าแต่งเพลงให้ตัวเองเข้ากับเครื่องดนตรี
6 พวกเจ้าดื่มจากชามเหล้าองุ่น
และทาตัวเองด้วยน้ำมันอย่างดี
แต่ไม่เศร้าโศกเสียใจกับความล่มจมของครอบครัวโยเซฟ
7 ดังนั้น ตอนนี้พวกเจ้าก็จะถูกจับไปเป็นเชลยชุดแรก และงานเลี้ยงของพวกเจ้าที่นอนเหยียดแข้งเหยียดขาอยู่บนโซฟาก็จะถึงจุดจบ 8 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้สาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์เอง นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นบอก
“เราเกลียดชังความหยิ่งยโสของยาโคบ
และเราเกลียดชังป้อมปราการของเขา
ดังนั้นเราจะปล่อยให้ศัตรูมายึดเมืองสะมาเรีย
และทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนั้นไป”
จะมีคนอิสราเอลรอดชีวิตไม่กี่คน
9 ถ้ามีสิบคนหลงเหลืออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง พวกเขาจะตายหมดทุกคน 10 แล้วญาติที่ใกล้ชิดที่สุดและสัปเหร่อก็จะมาแบกศพเหล่านั้นออกจากบ้านและจะมีคนหนึ่งถามคนที่อยู่ในสุดของบ้านว่า “ยังมีใครเหลืออยู่กับเจ้าในนั้นหรือเปล่า” เขาจะตอบว่า “ไม่มี” แล้วคนแรกก็จะพูดว่า “จุ๊ จุ๊ อย่าเอะอะไป อย่าได้เอ่ยชื่อของพระยาห์เวห์”
11 เพราะ ดูสิ พระยาห์เวห์จะออกคำสั่ง
พระองค์ก็จะขยี้บ้านหลังใหญ่ให้เป็นชิ้นๆ
และบ้านหลังเล็กให้ละเอียดไป
12 ม้าวิ่งอยู่บนชะเงื้อมหินได้หรือ
หรือว่าเขาเอาวัวมาไถทะเลหรือ
แต่เจ้าได้เปลี่ยนความยุติธรรมให้กลายเป็นยาพิษ
และเปลี่ยนผลไม้แห่งความถูกต้องให้กลายเป็นบอระเพ็ด
13 พวกเจ้าที่ชื่นชมยินดีที่ได้ยึดเมืองโลเดบาร์[c]
พวกเจ้าที่พูดว่า “เราได้ยึดเอาคารนาอิม[d] มาเป็นของเราด้วยกำลังของเราเองไม่ใช่หรือ”
14 “ครอบครัวอิสราเอลเอ๋ย คอยดูให้ดี เราจะทำให้ชนชาติหนึ่งมาต่อสู้กับพวกเจ้า” พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดว่าอย่างนั้น “และพวกเขาก็จะกดขี่ข่มเหงเจ้าจากเมืองลีโอฮามัทไปจนถึงลำธารอาราบาห์”
เรื่องชาวนาหว่านเมล็ดพืช
(มธ. 13:1-17; มก. 4:1-12)
4 มีชาวบ้านมากมายจากเมืองต่างๆมาหาพระเยซู พระองค์เล่าเรื่องเปรียบเทียบให้พวกเขาฟังว่า
5 “มีชาวนาคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช ขณะที่หว่านอยู่นั้น พืชบางเมล็ดตกตามถนนหนทาง ถูกเหยียบย่ำ และถูกนกมาจิกกิน 6 บางเมล็ดก็ตกลงในดินที่ชั้นล่างเป็นหิน หลังจากที่งอกแล้วก็เหี่ยวแห้งไป เพราะรากตื้นจึงขาดความชุ่มชื้น 7 บางเมล็ดก็ตกอยู่ในพงหนาม เมื่องอกขึ้นมาก็ถูกพงหนามปกคลุมจนทำให้ไม่เจริญเติบโต 8 บางเมล็ดตกในที่ดินดี เมื่องอกขึ้นมาก็เกิดผลเป็นร้อยเท่าของที่หว่านไว้” เมื่อพระองค์เล่าเสร็จแล้ว ก็พูดว่า “ใครมีหู ก็ฟังไว้ให้ดี”
9 พวกศิษย์ถามพระองค์ว่า “เรื่องที่เล่าให้ฟังนี้ หมายถึงอะไรครับ”
10 พระองค์ตอบว่า “มีแต่พวกคุณเท่านั้นที่เราจะบอกให้รู้ถึงเรื่องความลับของอาณาจักรของพระเจ้า แต่สำหรับคนอื่น เราจะพูดเป็นเรื่องเปรียบเทียบให้ฟัง เพื่อว่า
‘แม้พวกเขามองดู
ก็จะไม่เห็น
แม้พวกเขาได้ยิน
ก็จะไม่เข้าใจ’”[a]
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International