Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระเจ้าเป็นผู้ตัดสินแผ่นดินโลก
เพลงสดุดีของอาสาฟ
1 พระเจ้ายืนอยู่ในที่ประชุมของพระองค์
พระองค์ตัดสินอยู่ท่ามกลางบรรดาเทพเจ้า
2 “พวกเจ้าจะตัดสินอย่างไร้ความยุติธรรม
และเข้าข้างคนชั่วนานเพียงไร เซล่าห์
3 จงให้ความยุติธรรมแก่คนสิ้นไร้ไม้ตอกและผู้ที่กำพร้า
รักษาสิทธิของผู้ขัดสนและคนเป็นทุกข์
4 ช่วยคนสิ้นไร้ไม้ตอกและผู้ยากไร้ให้พ้นภัย
ช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของคนชั่ว”
5 พวกเขาไม่รู้และไม่เข้าใจ
เขาเดินอยู่ในความมืด
ฐานรากของแผ่นดินโลกสั่นคลอน
6 เราได้กล่าวว่า “พวกเจ้าคือบรรดาเทพเจ้า[a]
และบรรดาบุตรขององค์ผู้สูงสุด พวกเจ้าทุกคนนั่นแหละ
7 แต่เจ้าจะตายอย่างมนุษย์
และล้มลงอย่างผู้นำคนใดคนหนึ่ง”
8 โอ พระเจ้า ลุกขึ้นตัดสินแผ่นดินโลกเถิด
เพราะประชาชาติทั้งปวงเป็นของพระองค์
12 “แต่พวกเจ้าทำให้ชาวนาศีร์ดื่มเหล้าองุ่น
และสั่งบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า จงอย่าเผยคำกล่าว
13 ฉะนั้น บัดนี้เราจะบดขยี้พวกเจ้า
เหมือนกับเกวียนที่บรรทุกข้าวบดขยี้
14 ผู้ที่ว่องไวจะหนีไม่รอด
ผู้ที่แข็งแรงจะหมดเรี่ยวแรง
และนักรบจะเอาชีวิตไม่รอด
15 นายขมังธนูจะไม่สามารถยืนหยัดได้
ทหารที่ขาว่องไวจะหนีไปไหนไม่ได้
และทหารม้าจะเอาชีวิตไม่รอด
16 แม้บรรดานักรบผู้กล้าหาญ
ก็จะล่อนจ้อนเผ่นหนีในวันนั้น”
พระผู้เป็นเจ้าประกาศ
ความผิดของอิสราเอลและการลงโทษ
3 โอ ชาวอิสราเอลเอ๋ย จงฟังสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวคัดค้านพวกท่าน คัดค้านครอบครัวทั้งหมดที่พระองค์ได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์
2 “จากบรรดาครอบครัวทั้งปวงบนแผ่นดินโลก
มีพวกเจ้าเท่านั้นที่เราเลือกไว้แล้ว
ฉะนั้น เราจะลงโทษพวกเจ้า
เพราะบาปทั้งสิ้นของเจ้า”
3 คนสองคนเดินไปด้วยกันได้หรือ
นอกจากว่า เขาจะตกลงกันก่อน
4 สิงโตจะคำรามในป่าหรือ
เมื่อมันไม่มีเหยื่อ
แล้วมันจะทำเสียงขู่ในถ้ำของมันหรือ
เมื่อมันจับอะไรไม่ได้
5 นกติดกับดักที่พื้นดิน
เมื่อไม่มีบ่วงแร้วที่วางไว้หรือ
กับดักกระเด้งขึ้นจากพื้นดิน
เมื่อไม่มีอะไรจะจับหรือ
6 เมื่อแตรงอนส่งเสียงในเมือง
ประชาชนจะไม่หวาดกลัวหรือ
ความวิบัติเกิดขึ้นกับเมืองได้หรือ
ถ้าพระผู้เป็นเจ้าไม่เป็นผู้กระทำ
7 ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ทำสิ่งใด
โดยไม่เผยความลับให้แก่บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
ให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทราบ
8 เมื่อสิงโตคำรามแล้ว
ใครจะไม่กลัว
เมื่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้กล่าวแล้ว
ใครจะทำสิ่งใดได้นอกจากจะเผยความ
16 เพราะว่า พระเจ้ารักโลกยิ่งนัก จึงได้มอบพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อว่าผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ 17 ด้วยเหตุว่า พระเจ้ามิได้ส่งพระบุตรของพระองค์มาในโลกเพื่อกล่าวโทษ แต่เพื่อให้โลกได้รอดพ้นโดยผ่านพระองค์ 18 ผู้ที่เชื่อในพระองค์ก็ไม่ถูกกล่าวโทษ แต่ผู้ใดไม่เชื่อก็ถูกกล่าวโทษแล้ว เพราะเขาไม่เชื่อในพระนามของพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า 19 คำกล่าวโทษก็คือ ความสว่างได้ส่องมายังโลกแล้ว แต่คนมักชอบความมืดมากกว่าความสว่าง เพราะพวกเขาชอบทำความชั่ว 20 ทุกคนที่ทำความชั่วจะเกลียดความสว่าง และจะไม่เดินเข้าหาความสว่าง เพราะกลัวว่าการกระทำของเขาจะปรากฏแจ้ง 21 แต่คนที่ประพฤติถูกต้องตามความจริงจะเดินเข้าหาความสว่าง เพื่อให้การกระทำของเขาในพระเจ้าเป็นที่ปรากฏแจ้ง”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation