Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 75

พระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงสดุดีของอาสาฟ บทเพลง

พวกเราขอบคุณพระองค์ โอ พระเจ้า
    พวกเราขอบคุณเพราะพระองค์อยู่ใกล้
ผู้คนประกาศถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์กระทำ

พระองค์กล่าวว่า “เราจะเลือกเวลาตามที่ได้กำหนดไว้
    เราจะตัดสินด้วยความชอบธรรม
เมื่อแผ่นดินโลกและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกสั่นไหว
    เรานั่นแหละเป็นผู้ทำให้ฐานรากมั่นคงไว้ เซล่าห์
เราบอกคนขี้อวดว่า ‘อย่าโอ้อวดเลย’
    และบอกคนชั่วว่า ‘อย่าเอาพละกำลังของเจ้ามาอวดอ้างเลย
อย่ายกพละกำลังของเจ้าขึ้นมาเหนือสิ่งอื่น
    หรือเชิดหน้าเวลาพูดจา’”

เพราะว่าไม่มีผู้ใดจากทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก
    หรือจากถิ่นทุรกันดารที่จะถูกเชิดจนสูงขึ้นได้
เพราะพระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน
    พระองค์ทำให้คนหนึ่งถ่อมลง และให้อีกคนได้รับการยกย่อง
เพราะถ้วยอยู่ในมือของพระผู้เป็นเจ้า
    มีเหล้าองุ่นผสมไว้ผุดเป็นฟอง
เวลาพระองค์เทออก พวกคนชั่วทั้งปวงบนแผ่นดินโลกก็พากันดื่ม
    อย่างแน่นอน ดื่มจนเกลี้ยง
    ไม่เหลือแม้ก้นตะกอนด้วยซ้ำ

สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะประกาศไปตลอดกาล
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของยาโคบ
10 พระองค์จะกำจัดพละกำลังทั้งหมดของคนชั่วร้าย
    ส่วนพละกำลังของบรรดาผู้มีความชอบธรรมจะถูกเชิดชูขึ้น

2 พงศ์กษัตริย์ 3:4-20

ส่วนเม-ชากษัตริย์แห่งโมอับเป็นผู้เพาะพันธุ์แกะ ท่านต้องมอบลูกแกะ 100,000 ตัว และมอบขนจากแกะตัวผู้ 100,000 ตัว ให้แก่กษัตริย์แห่งอิสราเอล แต่เมื่ออาหับสิ้นชีวิตแล้ว กษัตริย์แห่งโมอับจึงแข็งข้อต่อกษัตริย์แห่งอิสราเอล ในครั้งนั้น กษัตริย์โยรัมจึงยกทัพจากสะมาเรีย โดยรวบรวมกำลังทหารอิสราเอลทั้งหมด และท่านส่งข่าวไปยังเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า “กษัตริย์แห่งโมอับได้แข็งข้อต่อเรา ท่านจะไปโจมตีโมอับร่วมกับเราไหม” ท่านตอบว่า “เราจะไปด้วย เราก็เป็นเหมือนท่าน ทหารของเราก็เป็นเหมือนทหารของท่าน ม้าของเราก็เป็นเหมือนม้าของท่าน” ท่านถามว่า “แล้วเราจะเดินทัพกันไปทางไหน” โยรัมตอบว่า “ไปทางถิ่นทุรกันดารของเอโดม”

ดังนั้น กษัตริย์แห่งอิสราเอลจึงไปกับกษัตริย์แห่งยูดาห์และกษัตริย์แห่งเอโดม หลังจากที่ได้เดินจนรอบเป็นเวลา 7 วันแล้ว น้ำสำหรับกองทัพและสัตว์ที่ไปด้วยก็หมด 10 กษัตริย์แห่งอิสราเอลจึงพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าได้เรียกกษัตริย์ทั้งสามนี้มา เพื่อมอบไว้ในมือของโมอับ” 11 เยโฮชาฟัทถามว่า “ที่นี่ไม่มีผู้เผยคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าที่พวกเราจะได้ปรึกษาพระผู้เป็นเจ้าผ่านท่านหรือ” ผู้รับใช้คนหนึ่งของกษัตริย์แห่งอิสราเอลตอบว่า “เอลีชาบุตรชาฟัทอยู่ที่นี่ ท่านเคยเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดของเอลียาห์” 12 เยโฮชาฟัทพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านท่าน” ดังนั้นกษัตริย์แห่งอิสราเอล และเยโฮชาฟัท และกษัตริย์แห่งเอโดมจึงไปหาท่าน

13 เอลีชาพูดกับกษัตริย์แห่งอิสราเอลว่า “ข้าพเจ้าเกี่ยวข้องอย่างไรกับเรื่องของท่าน ท่านไปหาบรรดาผู้เผยคำกล่าวของบิดาของท่าน และของมารดาของท่านเถิด” แต่กษัตริย์แห่งอิสราเอลพูดกับท่านว่า “ไม่หรอก เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่เรียกพวกเรากษัตริย์ทั้งสามมาเพื่อมอบไว้ในมือของโมอับ” 14 เอลีชาพูดว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธามีชีวิตอยู่ฉันใด ข้าพเจ้ายืนอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์ หากว่าข้าพเจ้าไม่ได้เคารพต่อเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์แล้ว ข้าพเจ้าจะไม่มองท่าน หรือแม้แต่จะสังเกตเห็นท่านเลย 15 แต่บัดนี้ ขอท่านพาผู้เล่นเครื่องสายมาให้ข้าพเจ้าคนหนึ่ง” และเมื่อผู้เล่นเครื่องสายบรรเลง มือของพระผู้เป็นเจ้าก็สถิตกับเอลีชา 16 ท่านพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘เราจะทำหุบเขาที่แห้งแห่งนี้เป็นแอ่งเก็บน้ำเต็มไปหมด’ 17 เพราะพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘เจ้าจะไม่เห็นลมหรือฝน แต่ว่าหุบเขาที่แห้งนั้นจะมีน้ำขังเต็มไปหมด เพื่อให้ท่านดื่ม ท่านและฝูงโค และพวกสัตว์เลี้ยงของท่าน’ 18 นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ยังจะมอบชาวโมอับไว้ในมือของท่านด้วย 19 ท่านจะโจมตีเมืองที่ถูกคุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่งได้ทุกเมือง และทุกเมืองที่ท่านพึงปรารถนา ท่านจะโค่นต้นไม้ดีทุกต้น ถมบ่อน้ำพุทุกแห่ง และเอาหินไปโยนทิ้งในไร่นาที่อุดมสมบูรณ์ทุกแห่งจนเสียหาย” 20 วันรุ่งขึ้น เมื่อถึงเวลาถวายเครื่องบูชา ดูเถิด มีน้ำไหลมาจากทางเขตแดนเอโดม จนทั่วอาณาเขตมีน้ำขังเต็มไปหมด

เอเฟซัส 5:6-20

อย่าให้ใครหลอกลวงท่านด้วยคำพูดเหลวไหล เพราะด้วยเหตุเหล่านี้ การลงโทษของพระเจ้าจึงตกอยู่กับคนที่ไม่เชื่อฟัง ฉะนั้นอย่าข้องเกี่ยวกับคนเหล่านั้น ด้วยว่าแต่ก่อนท่านเคยอยู่ในความมืด แต่เดี๋ยวนี้ท่านอยู่ในความสว่างในพระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตเหมือนบรรดาบุตรแห่งความสว่างเถิด ด้วยว่าผลแห่งความสว่างคือความดีทุกประการ ความชอบธรรม และความจริง 10 จงพยายามเรียนให้รู้ว่าสิ่งใดเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า 11 อย่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของความมืดอันไร้ประโยชน์ แต่จงเปิดโปงให้คนรู้ 12 ด้วยว่า เป็นที่น่าละอายแม้จะมีผู้ใดกล่าวถึงพวกที่ไม่เชื่อฟังว่าเขากระทำอะไรบ้างในที่ลับ 13 แต่เมื่อสิ่งใดถูกเปิดโปงออกโดยความสว่าง สิ่งนั้นก็จะเป็นที่รู้แจ้งเห็นจริง 14 ด้วยว่าความสว่างทำให้เห็นทุกสิ่ง จึงมีคำกล่าวว่า

“ผู้หลับใหลเอ๋ย จงตื่นเถิด
    จงฟื้นขึ้นจากความตาย
    และพระคริสต์จะส่องความสว่างให้แก่ท่าน”

15 ฉะนั้น จงระวังให้ดีว่าท่านใช้ชีวิตอย่างไร อย่าเป็นเหมือนคนไร้ปัญญาแต่เป็นเช่นคนมีปัญญา 16 จงทำดีที่สุดในทุกโอกาสเพราะยามนี้เป็นเวลาแห่งความชั่ว 17 ดังนั้น อย่าโง่เขลา แต่จงเข้าใจว่าพระผู้เป็นเจ้ามีความประสงค์อย่างไร 18 อย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งนำไปสู่ราคะตัณหา แต่จงเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณ 19 จงสนทนากันด้วยการใช้คำจากสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายวิญญาณ จงร้องเพลงและร้องสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าจากใจท่าน 20 จงขอบคุณพระเจ้า ผู้เป็นพระบิดาสำหรับทุกสิ่งในพระนามของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation