Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
1 พระผู้เป็นเจ้าครองบัลลังก์ พระองค์พรั่งพร้อมด้วยความยิ่งใหญ่
พระผู้เป็นเจ้าพรั่งพร้อมด้วยอานุภาพ
โลกถูกสร้างขึ้นอย่างมั่นคง และไม่อาจเคลื่อนย้ายไปที่ใดๆ ได้
2 บัลลังก์ของพระองค์ถูกจัดตั้งไว้อย่างมั่นคงนับแต่แรกเริ่ม
พระองค์ดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาล
3 โอ พระผู้เป็นเจ้า กระแสน้ำดังครืนครั่น
กระแสน้ำส่งเสียงครืนๆ
กระแสน้ำคำรามด้วยคลื่นกระทบ
4 แต่ผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าเสียงครืนครั่นของกระแสน้ำหลายสาย
และมีอานุภาพยิ่งกว่าคลื่นในท้องทะเล
คือพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงส่งผู้มีมหิทธานุภาพ
5 คำสั่งของพระองค์เป็นสิ่งแน่นอน
โอ พระผู้เป็นเจ้า ความบริสุทธิ์เหมาะกับพระตำหนักของพระองค์
นานแสนนาน
16 ผู้ชายจากเผ่าเบนยามินและเผ่ายูดาห์บางคนไปหาดาวิดที่ป้อมปราการอันแข็งแกร่ง 17 ดาวิดออกไปพบพวกเขา และพูดว่า “ถ้าพวกท่านมาหาเราอย่างสันติเพื่อช่วยเรา ใจของเราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน แต่ถ้ามาเพื่อจะทรยศเราให้กับศัตรูของเรา แม้ว่ามือของเราบริสุทธิ์ ก็ขอให้พระเจ้าของบรรพบุรุษของเราเห็นและห้ามท่านไว้เถิด”
18 ครั้นแล้วอามาสัยหัวหน้าของทหารทั้งสามสิบก็เปี่ยมด้วยพระวิญญาณ และพูดว่า
“โอ ท่านดาวิด พวกเราเป็นของท่าน
โอ บุตรของเจสซี พวกเราอยู่กับท่าน
สันติภาพ สันติภาพจงมีแก่ท่าน
และสันติภาพจงมีแก่ผู้ช่วยของท่าน
เพราะว่าพระเจ้าของท่านช่วยท่าน”
และดาวิดก็รับพวกเขาไว้ และแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองทหารของท่าน
19 ผู้ชายบางคนจากเผ่ามนัสเสห์หนีไปเป็นพวกของดาวิด เมื่อเขามากับพวกฟีลิสเตีย และไปสู้รบกับซาอูล (แต่ดาวิดกับพรรคพวกไม่ได้ช่วยพวกฟีลิสเตีย เพราะหลังจากที่บรรดาผู้นำของฟีลิสเตียปรึกษากันแล้ว ก็ให้ดาวิดกลับไป พวกเขาพูดว่า “ถ้าหากว่าดาวิดหันไปเข้าข้างซาอูลเจ้านายของเขา พวกเราต้องหัวหลุดจากบ่าแน่”) 20 ขณะที่ดาวิดกลับไปยังศิกลาก ชายชาวมนัสเสห์เหล่านี้หนีไปเป็นพวกของท่าน ตามรายชื่อดังต่อไปนี้ อัดนาห์ โยซาบาด เยดียาเอล มีคาเอล โยซาบาด เอลีฮู และศิลเลธัย พวกเขาแต่ละคนนำทหารจำนวน 1,000 คนจากเผ่ามนัสเสห์ 21 พวกเขาช่วยดาวิดสู้กับกลุ่มปล้นได้ เพราะล้วนแต่เป็นนักรบผู้กล้าหาญและเป็นผู้บัญชากองพัน 22 แต่ละวันก็มีผู้ชายที่เข้ามาช่วยดาวิด จนกระทั่งเป็นกองทัพใหญ่ เหมือนกองทัพของพระเจ้า
5 องค์ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์กล่าวว่า “ดูเถิด เราทำทุกสิ่งใหม่หมด” และพระองค์กล่าวว่า “จงเขียนไว้เถิด เพราะว่าคำกล่าวเหล่านี้วางใจได้และเป็นความจริง” 6 พระองค์ได้กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “สิ้นสุดแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา คือเป็นจุดแรกเริ่มและจุดสุดท้าย ผู้ที่กระหาย เราก็จะให้ดื่มจากน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียค่าอะไรเลย 7 ผู้ที่มีชัยชนะก็จะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก เราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา 8 แต่สำหรับคนขลาด คนที่ไม่มีความเชื่อ คนที่มีมลทิน ฆาตกร คนผิดประเวณี คนที่ใช้วิทยาคม คนที่บูชารูปเคารพ และคนโกหกทั้งหลาย เขาเหล่านี้จะอยู่ในทะเลเพลิงที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟและกำมะถัน นั่นคือความตายครั้งที่สอง”
9 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่มีขัน 7 ใบที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติสุดท้ายทั้งเจ็ด ก็มาพูดกับข้าพเจ้าว่า “มานี่เถิด เราจะให้ท่านดูเจ้าสาวคือภรรยาของลูกแกะ” 10 ครั้นแล้วก็ได้พาข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่ในฝ่ายวิญญาณ เพื่อให้ข้าพเจ้าดูเมืองบริสุทธิ์คือเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งลงมาจากสวรรค์โดยมาจากพระเจ้า 11 เมืองนั้นส่องแสงเรืองรองด้วยพระบารมีของพระเจ้า ความเจิดจรัสดั่งเพชรนิลจินดาอันมีค่ายิ่ง ดุจมณีสีเขียว และกระจ่างใสอย่างแก้วเจียระไน 12 เมืองนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีประตู 12 บาน และประตูแต่ละบานมีทูตสวรรค์ 1 องค์ ชื่อของแต่ละเผ่าของชนชาติอิสราเอลจารึกไว้ที่ประตูแต่ละบาน 13 ทางด้านตะวันออกมีประตู 3 บาน ทางด้านเหนือมีประตู 3 บาน ทางด้านใต้มีประตู 3 บาน และทางด้านตะวันตกมีประตู 3 บาน 14 กำแพงเมืองมีฐานราก 12 ฐาน ซึ่งมีชื่อของอัครทูตทั้งสิบสองของลูกแกะอยู่บนฐานนั้น
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation