Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 133

ความรักกันฉันพี่น้อง

บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา ของดาวิด

ดูเถิด เป็นสิ่งดีและน่าเบิกบานใจอะไรเช่นนี้
    เวลาพี่น้องได้มาอยู่ร่วมกันอย่างมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เสมือนน้ำมันอันประเสริฐชโลมไว้บนศีรษะ
    ที่ไหลลงอาบบนเครา
บนเคราของอาโรน
    ไหลรินลงสู่คอเสื้อของท่าน
เสมือนน้ำค้าง ณ ภูเขาเฮอร์โมน
    ที่พร่างพรมสู่เทือกเขาของศิโยน
นั่นคือสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้มอบพระพร
    คือการมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์

1 ซามูเอล 20:1-23

โยนาธานเตือนดาวิด

20 ดาวิดก็หนีจากนาโยทในรามาห์ ไปหาโยนาธานและพูดว่า “ข้าพเจ้าได้กระทำอะไรหรือ ข้าพเจ้าทำผิดอะไร และข้าพเจ้าทำอะไรที่เป็นบาปในสายตาของบิดาของท่าน ท่านจึงจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า” โยนาธานตอบว่า “ไม่มีวัน ท่านจะไม่ตาย ดูเถิด บิดาของเราไม่กระทำสิ่งใดโดยไม่เปิดเผยให้เรารู้ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ บิดาจะปกปิดเรื่องนี้กับเราไปทำไม ไม่เป็นเช่นนั้นแน่” แต่ดาวิดสาบาน และพูดอีกว่า “บิดาของท่านทราบดีว่า ข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานของท่าน ซ้ำยังคิดด้วยว่า ‘อย่าให้โยนาธานทราบเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเขาจะเศร้าใจ’ แต่เป็นความจริง ตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด และตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ ความตายอยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้าเพียงก้าวเดียว” โยนาธานจึงบอกดาวิดว่า “อะไรที่ท่านต้องการ เราจะทำให้” ดาวิดพูดกับโยนาธานว่า “ดูเถิด พรุ่งนี้เป็นวันเทศกาลข้างขึ้น และข้าพเจ้าควรจะต้องไปนั่งร่วมโต๊ะกับกษัตริย์ แต่ปล่อยให้ข้าพเจ้าไปเถิด จะได้ซ่อนตัวอยู่ในทุ่งนาจนกระทั่ง 3 วันนับจากนี้ในตอนเย็น ถ้าหากว่าบิดาของท่านสังเกตเห็นว่าข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ด้วย ก็ช่วยบอกว่า ‘ดาวิดขออนุญาตลาข้าพเจ้า เพื่อรีบไปเบธเลเฮมเมืองของเขา เพราะว่าทั้งตระกูลมีงานถวายเครื่องสักการะประจำปีที่นั่น’ ถ้าท่านตอบว่า ‘ดีแล้ว’ ผู้รับใช้ของท่านก็จะปลอดภัย แต่ถ้าท่านโกรธกริ้ว ก็ขอทราบไว้เถิดว่าท่านประสงค์จะทำร้าย ฉะนั้นขอให้ท่านมีความกรุณาต่อผู้รับใช้ของท่าน เพราะท่านให้ผู้รับใช้ของท่านร่วมสาบานตนกับท่าน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า[a] แต่ถ้าหากว่าข้าพเจ้ามีความผิด ท่านก็ประหารข้าพเจ้าด้วยตัวท่านเอง ทำไมจึงจะนำตัวข้าพเจ้าไปมอบให้แก่บิดาของท่าน” โยนาธานพูดว่า “ไม่มีวันจะเป็นอย่างนั้น ถ้าหากเราทราบว่า บิดาประสงค์จะทำร้ายท่าน แล้วเราจะไม่บอกท่านหรือ” 10 ดาวิดจึงพูดกับโยนาธานว่า “ถ้าบิดาของท่านตอบอย่างแข็งกร้าว แล้วใครจะบอกข้าพเจ้า” 11 โยนาธานตอบดาวิดว่า “มาเถิด ออกไปที่ทุ่งนากัน” ทั้งสองจึงออกไปที่ทุ่งนา

12 โยนาธานพูดกับดาวิดว่า “ให้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลเป็นพยาน ในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ประมาณเวลานี้ เราจะหยั่งดูให้รู้แน่ว่าบิดาของเราประสงค์ดีต่อดาวิด แล้วเราจะส่งคนไปบอกให้ท่านรู้อย่างแน่นอน 13 แต่ถ้าบิดาของเราประสงค์จะทำร้ายท่าน ก็ให้พระผู้เป็นเจ้ากระทำต่อโยนาธานเช่นนั้น หรือมากกว่านั้นถ้าหากว่าเราไม่บอกให้ท่านรู้ เพื่อให้ท่านหนีไปและได้รับความปลอดภัย ขอให้พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน เหมือนกับที่พระองค์สถิตกับบิดาของเรา 14 ถ้าหากว่าเรายังมีชีวิตอยู่ ก็ขอท่านแสดงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้าต่อเรา เราจะได้ไม่ตาย 15 ถึงแม้พระผู้เป็นเจ้าตัดขาดทุกคนในหมู่ศัตรูของท่านให้พ้นไปเสียจากโลก ก็ขอท่านอย่าตัดขาดความรักอันมั่นคงของท่านจากพงศ์พันธุ์ของเราไปตลอดกาลเลย”[b] 16 โยนาธานสาบานกับพงศ์พันธุ์ของดาวิดว่า “ขอให้พระผู้เป็นเจ้าลงโทษศัตรูของดาวิด” 17 และโยนาธานให้ดาวิดสาบานด้วยความรักที่มีต่อท่านอีก เพราะว่าท่านรักดาวิดประหนึ่งชีวิตของตน

18 แล้วโยนาธานพูดกับดาวิดว่า “พรุ่งนี้เป็นวันเทศกาลข้างขึ้น และจะเป็นที่สังเกตได้ว่าท่านไม่อยู่ เพราะที่นั่งของท่านจะว่าง 19 วันมะรืนเวลาใกล้เย็น จงไปยังที่ที่ท่านเคยซ่อนตัวเมื่อตอนเริ่มเกิดเรื่อง และรออยู่ที่ข้างๆ กองหิน 20 เราจะยิงลูกธนู 3 ลูกไปที่ข้างกองหิน ทำทีว่าเรายิงไปที่เป้า 21 ดูเถิด เราจะสั่งให้เด็กหนุ่มไปโดยพูดว่า ‘จงไปหาลูกธนู’ ถ้าเราพูดกับเขาว่า ‘ดูนั่น ลูกธนูอยู่ที่ข้างนี้ของเจ้า เอามันมาที่นี่’ และท่านก็ออกมาได้ เพราะตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด ท่านก็ปลอดภัยแน่ ไม่มีอันตรายใดๆ 22 แต่ถ้าเราพูดกับเด็กหนุ่มว่า ‘ดูนั่น ลูกธนูอยู่ข้างหน้าเจ้า’ ท่านก็จงไปเสีย เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าให้ท่านจากไป 23 และเรื่องที่ท่านกับเราคุยกันนั้น จำไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานระหว่างท่านกับเราตลอดไป”

1 ซามูเอล 20:35-42

35 ในเวลาเช้า โยนาธานออกไปในทุ่งนาตามนัดที่ให้กับดาวิด และมีเด็กไปด้วยหนึ่งคน 36 ท่านบอกเด็กของท่านว่า “จงวิ่งไปค้นหาลูกธนูที่เรายิง” ขณะที่เด็กกำลังวิ่งไป ท่านยิงธนูลูกหนึ่งเลยเด็กไปอีก 37 เมื่อเด็กมาถึงจุดที่ลูกธนูที่โยนาธานยิง โยนาธานตะโกนถามเด็กว่า “ลูกธนูอยู่ข้างหน้าเจ้าไม่ใช่หรือ” 38 และโยนาธานตะโกนบอกเด็กว่า “รีบไปโดยเร็ว อย่าอยู่ที่นี่” เด็กของโยนาธานจึงเก็บลูกธนูแล้วกลับมาหาเจ้านายของตน 39 แต่เด็กไม่ทราบอะไรทั้งสิ้น โยนาธานและดาวิดเท่านั้นที่ทราบเรื่อง 40 และโยนาธานให้เด็กแบกอาวุธของท่านและบอกว่า “ไปได้แล้ว แบกอาวุธเข้าไปในเมือง” 41 ทันทีที่เด็กกลับไปแล้ว ดาวิดก็ลุกขึ้นจากข้างกองหิน ก้มหน้าลง และคำนับ 3 ครั้ง แล้วทั้งสองก็จูบแก้มและร้องไห้กัน ดาวิดร้องไห้มากยิ่งกว่า 42 ครั้นแล้วโยนาธานก็พูดกับดาวิดว่า “จงไปอย่างสันติสุขเถิด เพราะเราต่างก็ได้สาบานตนในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าแล้วว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานระหว่างเราและท่าน และระหว่างผู้สืบเชื้อสายของเราและของท่านไปตลอดกาล’” แล้วดาวิดก็จากไป ส่วนโยนาธานก็เข้าไปในเมือง

กิจการของอัครทูต 11:19-26

คริสตจักรที่เมืองอันทิโอก

19 ส่วนพวกที่หนีกระจัดกระจายไปเพราะถูกกดขี่ข่มเหงเนื่องมาจากสเทเฟน ก็ได้หนีไปถึงแคว้นฟีนิเซีย เกาะไซปรัสและเมืองอันทิโอก เขาเหล่านั้นพากันประกาศคำกล่าวแก่ชาวยิวเท่านั้น 20 อย่างไรก็ตาม บางคนที่มาจากเกาะไซปรัสและเมืองไซรีนได้ไปยังเมืองอันทิโอก เพื่อบอกข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้ากับชาวกรีกด้วย 21 มือของพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกเขา ผู้คนจำนวนมากเชื่อและหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า 22 ข่าวนี้ก็เล่าลือไปยังคริสตจักรที่เมืองเยรูซาเล็ม ผู้คนได้ขอให้บาร์นาบัสไปยังเมืองอันทิโอก 23 เมื่อท่านไปถึงก็เห็นจริงถึงพระคุณของพระเจ้า ท่านเกิดความยินดีและให้กำลังใจพวกเขาทุกคน ให้ยึดมั่นในพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ 24 ท่านเป็นคนดี เปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ และผู้คนจำนวนมากได้หันมาเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า 25 แล้วบาร์นาบัสก็ออกตามหาเซาโลที่เมืองทาร์ซัส 26 เมื่อพบแล้วก็พาเซาโลมาที่เมืองอันทิโอก ระยะเวลาตลอดทั้งปีบาร์นาบัสและเซาโลได้พบกับคริสตจักรและได้สั่งสอนผู้คนจำนวนมาก และที่เมืองอันทิโอกนั่นเองพวกสาวกได้รับการขนานนามว่า คริสเตียน เป็นครั้งแรก

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation