Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
5 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า
“ผู้ที่ถูกสาปแช่งคือผู้ที่ไว้วางใจในมนุษย์
และในพละกำลังของสิ่งที่เป็นเพียงเนื้อหนัง
จิตใจของเขาหันเหไปจากพระผู้เป็นเจ้า
6 เขาเป็นอย่างพุ่มไม้ในทะเลทราย
และจะไม่เห็นสิ่งดีอันใดเกิดขึ้น
เขาจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
ในแผ่นดินเค็มซึ่งไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่
7 ผู้ที่เป็นสุขคือผู้ที่ไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้า
พระผู้เป็นเจ้าคือผู้ที่เขาไว้วางใจ
8 เขาเป็นอย่างต้นไม้ที่ปลูกไว้ข้างริมน้ำ
ที่แผ่รากไปถึงแหล่งน้ำ
และไม่กลัวเมื่ออากาศร้อน
เพราะใบยังเขียวชอุ่ม
และไม่กังวลเมื่อแล้งฝน
เพราะออกผลได้เสมอ”
9 จิตใจลวงหลอกยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
และบิดเบือนยิ่งนัก
ใครจะเข้าใจได้
10 “เราคือพระผู้เป็นเจ้า ผู้สำรวจจิตใจ
และทดสอบความคิด
เพื่อตอบแทนทุกคนตามวิถีทางที่เขาดำเนิน
ตามผลของการกระทำของเขา”
ภาค 1
บทที่ 1-41
สองทางที่แตกต่าง
1 คนมีความสุขคือ
คนที่ไม่กระทำตามคำแนะนำของหมู่คนชั่ว
ไม่ยืนอยู่ในที่ของคนบาป
และไม่นั่งอยู่ในที่ของคนช่างเย้ยหยัน
2 แต่ความยินดีของเขาอยู่ที่กฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า
และเขาใคร่ครวญถึงกฎบัญญัติของพระองค์ตลอดทั้งวันและคืน
3 เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ใกล้แหล่งน้ำ
ซึ่งให้ผลตามฤดูกาล
ใบไม่เหี่ยวเฉา
และทุกสิ่งที่เขาทำก็บังเกิดผลดียิ่ง
4 ส่วนคนชั่วร้ายไม่เป็นเช่นนั้น
เพราะพวกเขาเป็นเหมือนเปลือกข้าว
ที่ถูกลมพัดปลิวไป
5 ฉะนั้น พวกคนชั่วร้ายจะไม่อาจทนต่อวันพิพากษาได้
และพวกคนบาปจะอยู่ในที่ประชุมของผู้มีความชอบธรรมไม่ได้เช่นกัน
6 ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าทราบทางของผู้มีความชอบธรรม
ส่วนทางของคนชั่วร้ายจะพินาศ
การฟื้นคืนชีวิตของคนตาย
12 ในเมื่อเราประกาศว่าพระคริสต์ได้ฟื้นคืนชีวิตจากความตายแล้ว พวกท่านบางคนพูดได้อย่างไรว่า ไม่มีการฟื้นคืนชีวิตของคนตาย 13 ถ้าไม่มีการฟื้นคืนชีวิตของคนตายแล้ว ดังนั้นแม้แต่พระคริสต์ก็ไม่ได้ฟื้นคืนชีวิต 14 และถ้าพระคริสต์ไม่ได้ฟื้นคืนชีวิต การประกาศของเราก็ไร้ประโยชน์ และความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน 15 ยิ่งกว่านั้นจะกลายเป็นว่า เราเป็นพยานเท็จในเรื่องพระเจ้า เพราะเรายืนยันเกี่ยวกับพระเจ้าว่า พระองค์ได้ให้พระคริสต์ฟื้นคืนชีวิต แต่ถ้าคนตายไม่ได้ฟื้นคืนชีวิตจริงแล้ว พระองค์ก็ไม่ได้ให้พระคริสต์ฟื้นคืนชีวิต 16 เพราะถ้าคนตายทั้งหลายไม่ได้ฟื้นคืนชีวิตแล้ว พระคริสต์ก็ไม่ได้ฟื้นคืนชีวิตด้วย 17 และถ้าพระคริสต์ไม่ได้ฟื้นคืนชีวิต ความเชื่อของท่านก็ไร้ประโยชน์ ท่านก็ยังตกอยู่ในบาป 18 พวกที่ล่วงลับไปขณะที่เชื่อในพระคริสต์ ก็พินาศไปเสียแล้วด้วย 19 ถ้าเราหวังในพระคริสต์แค่ช่วงชีวิตนี้เท่านั้น เราก็เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในบรรดาคนทั้งปวง
20 แต่บัดนี้พระคริสต์ได้ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย พระองค์เป็นผลแรก[a]ของบรรดาผู้ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว
ความสุขและความวิบัติ
17 พระเยซูลงมาจากภูเขาพร้อมด้วยอัครทูต มายังที่ราบแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยสาวกกลุ่มใหญ่ของพระองค์ ผู้คนจำนวนมากมาจากทั่วแคว้นยูเดีย เมืองเยรูซาเล็ม และจากชายฝั่งทะเลของเมืองไทระและไซดอน 18 ต่างก็มาเพื่อฟังพระองค์ และมาขอรับการรักษาให้หายจากโรคต่างๆ รวมทั้งพวกที่ถูกวิญญาณร้ายทั้งหลายรังควานก็ได้รับการรักษาหาย 19 ฝูงชนทั้งปวงก็พยายามจะแตะต้องพระเยซู เพราะฤทธานุภาพที่ออกมาจากกายของพระองค์ ทำให้คนทั้งปวงหายจากโรคภัยต่างๆ ได้
20 พระองค์มองดูพวกสาวกของพระองค์แล้วกล่าวว่า
“ท่านผู้ยากไร้จะเป็นสุข
เพราะว่าอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่าน
21 ท่านผู้ที่หิวกระหายเวลานี้ก็เป็นสุข
เพราะว่าท่านจะได้อิ่มหนำ
ท่านผู้ร่ำไห้เวลานี้ก็เป็นสุข
เพราะว่าท่านจะได้หัวเราะ
22 ท่านจะเป็นสุขเมื่อถูกคนทั้งหลายเกลียดชัง
เมื่อเขาตัดขาด ดูถูก
และประณามชื่อของท่านว่าชั่ว
เหตุเพราะบุตรมนุษย์
23 วาระนั้นจงชื่นชมยินดีและโลดเต้นด้วยความยินดี เพราะรางวัลอันเลิศของท่านอยู่ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาทั้งปวงได้กระทำต่อผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าด้วยวิธีเดียวกัน
24 แต่วิบัติจงเกิดแก่ผู้มั่งมี
เพราะว่าท่านได้รับความสบายแล้ว
25 วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่อิ่มหนำเวลานี้
เพราะว่าท่านจะมีความอดอยาก
วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่หัวเราะเวลานี้
เพราะว่าท่านจะมีความเศร้าโศกและร้องไห้
26 วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่เวลาคนทั่วไปพูดยกยอท่าน
เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาทั้งหลายได้กระทำเช่นเดียวกัน ต่อบรรดาผู้เผยคำกล่าวจอมปลอม
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation