Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Revised Common Lectionary (Semicontinuous)

Daily Bible readings that follow the church liturgical year, with sequential stories told across multiple weeks.
Duration: 1245 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
อิสยาห์ 6:1-8

อิสยาห์เห็นภาพนิมิตของพระผู้เป็นเจ้า

ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นชีวิต[a] ข้าพเจ้าเห็นพระผู้เป็นเจ้านั่งบนบัลลังก์สูงและได้รับการยกย่อง ชายเสื้อคลุมยาวของพระองค์แผ่เต็มพระวิหาร มีตัวเสราฟ[b]ยืนเหนือพระองค์ แต่ละตัวมี 6 ปีก ใช้ 2 ปีกปกใบหน้า 2 ปีกปกเท้า และอีก 2 ปีกใช้บิน ต่างก็ส่งเสียงร้องตอบกันและกันว่า

“บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา
    ทั่วแผ่นดินโลกเต็มด้วยพระบารมีของพระองค์”

ฐานที่ยึดธรณีประตูสั่นสะเทือนเนื่องจากเสียงขององค์ผู้เรียก และพระตำหนักเต็มด้วยควัน และข้าพเจ้าพูดว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องย่อยยับ เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่บริสุทธิ์ และข้าพเจ้าอาศัยอยู่ท่ามกลางประชาชนที่ริมฝีปากไม่บริสุทธิ์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์กษัตริย์ คือพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา

ครั้นแล้วเสราฟตัวหนึ่งบินมาหาข้าพเจ้า ในมือมีถ่านที่ลุกเป็นไฟอยู่ ซึ่งใช้คีมคีบมาจากแท่นบูชา เสราฟแตะปากข้าพเจ้า และพูดว่า “ดูเถิด เราได้แตะถ่านที่ริมฝีปากของท่านแล้ว ความผิดบาปของท่านถูกรับไปจากท่านแล้ว และบาปของท่านก็ได้รับการชดใช้ด้วย”

อิสยาห์ได้รับมอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “เราจะส่งใครไป และใครจะไปเพื่อเรา” ข้าพเจ้าตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่ โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด”

อิสยาห์ 6:9-13

พระองค์กล่าวว่า “จงไป และบอกชนชาตินี้ว่า

‘ได้ยินเรื่อยไป แต่ไม่มีวันที่จะเข้าใจ
    มองดูเรื่อยไป แต่ไม่มีวันที่จะเห็น’
10 จงทำให้ใจของคนเหล่านี้แข็งกระด้าง
    หูตึง
    และปิดตา
มิฉะนั้นแล้วตาของเขาจะมองเห็น
    หูจะได้ยิน
    และจิตใจของเขาจะเข้าใจ
และหันกลับมา และได้รับการรักษาให้หายขาด”[a]

11 ครั้นแล้วข้าพเจ้าพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า จะนานเพียงไร”

พระองค์กล่าวว่า

“จนกระทั่งเมืองพังทลาย
    ไร้ผู้อยู่อาศัย
และบ้านถูกทิ้งร้าง
    และแผ่นดินพินาศ จนไม่เหลือแม้แต่ซาก
12 และพระผู้เป็นเจ้าทำให้ผู้คนกระจัดกระจายไปไกล
    และมีหลายแห่งในแผ่นดินถูกทิ้งร้าง
13 และแม้ว่าจะมีคนจำนวนหนึ่งในสิบของผู้ที่ยังเหลืออยู่ในแผ่นดิน
    แต่แผ่นดินก็จะถูกกำหนดให้พังพินาศซ้ำลงไปอีก
เหมือนกับต้นเทเรบินธ์หรือต้นโอ๊ก
    ที่เหลือแต่ตอเมื่อถูกโค่นลง
    ตอนั้นคือเชื้อสายอันบริสุทธิ์”

สดุดี 138

ขอบคุณพระเจ้า เพราะพระองค์สถิตกับข้าพเจ้า

ของดาวิด

ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าบรรดาเทพเจ้า
ข้าพเจ้าขอก้มกราบลง ณ พระวิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระนามของพระองค์
    ในความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์
เพราะพระองค์ได้ทำให้พระนามและคำกล่าวของพระองค์
    เหนือสิ่งทั้งปวง
ในวันที่ข้าพเจ้าร้องเรียก พระองค์ตอบข้าพเจ้า
    ทำให้ข้าพเจ้ากล้าหาญและมีพละกำลังยิ่งขึ้น

โอ พระผู้เป็นเจ้า ให้บรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกขอบคุณพระองค์
    เพราะท่านเหล่านั้นล้วนได้ยินคำกล่าวจากปากของพระองค์
และให้พวกท่านร้องเพลงถึงวิถีทางของพระผู้เป็นเจ้า
    เพราะพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าใหญ่ยิ่งนัก

แม้ว่าพระผู้เป็นเจ้าสูงส่งมากเพียงไหน พระองค์ก็ยังใส่ใจคนต่ำต้อย
    ส่วนคนยโสพระองค์ก็สังเกตเห็นได้แต่ไกล
แม้ในยามที่ข้าพเจ้าเดินอยู่ในท่ามกลางความยากลำบาก
    พระองค์ก็ช่วยชีวิตข้าพเจ้าไว้
คราวศัตรูโกรธ พระองค์ก็ยื่นมือออกมา
    มือขวาของพระองค์ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
พระผู้เป็นเจ้าจะกระทำตามความประสงค์ของพระองค์เพื่อข้าพเจ้า
    โอ พระผู้เป็นเจ้า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
    โปรดอย่าทอดทิ้งคนที่พระองค์สร้างขึ้นด้วยมือของพระองค์เอง

1 โครินธ์ 15:1-11

พระคริสต์ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย

15 บัดนี้ ข้าพเจ้าต้องการเตือนพี่น้องทั้งหลายถึงข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศแก่ท่าน ซึ่งท่านก็ได้รับและยืนหยัดอยู่ได้ หากว่าท่านยึดมั่นในสิ่งที่ข้าพเจ้าประกาศแก่ท่าน ท่านก็จะมีชีวิตรอดพ้นเพราะข่าวประเสริฐนี้ มิฉะนั้นความเชื่อของท่านจะไร้ประโยชน์

สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับนั้น ข้าพเจ้าได้มอบให้แก่ท่าน อันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือพระคริสต์ได้สิ้นชีวิตเพื่อบาปของเรา ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ พระองค์ถูกฝัง ได้ฟื้นคืนชีวิตในวันที่สาม ตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ พระองค์ได้ปรากฏกายแก่เคฟาส และต่อจากนั้นก็ได้ปรากฏแก่อัครทูตทั้งสิบสอง หลังจากนั้นพระองค์ปรากฏแก่พี่น้องกว่า 500 คนในคราวเดียวกัน ซึ่งส่วนมากก็ยังมีชีวิตอยู่ แม้จะมีบางคนที่ได้ล่วงลับไปแล้วก็ตาม จากนั้นพระองค์ก็ได้ปรากฏแก่ยากอบและอัครทูตทั้งหมด พระองค์ก็ยังปรากฏแก่ข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้ายด้วย ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนที่เกิดมาไม่ตรงตามกำหนดเวลา ข้าพเจ้าเป็นคนด้อยที่สุดในหมู่อัครทูต และไม่สมควรที่จะให้ผู้ใดเรียกข้าพเจ้าว่าอัครทูต เพราะข้าพเจ้าได้กดขี่ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้า 10 ข้าพเจ้าเป็นอยู่อย่างที่เป็นนี้ได้ ก็เพราะพระคุณของพระเจ้า และพระคุณนี้ก็มิได้ไร้ผล แต่ในทางตรงกันข้าม คือข้าพเจ้าทำงานหนักกว่าทุกคนที่กล่าวมานี้ แม้จะไม่ใช่ด้วยตัวข้าพเจ้าเอง แต่ด้วยพระคุณของพระเจ้าที่มีต่อข้าพเจ้า 11 ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นข้าพเจ้าหรือเขาเหล่านั้น คือพวกเราประกาศกัน และพวกท่านก็ได้เชื่อแล้ว

ลูกา 5:1-11

สาวกกลุ่มแรกติดตามพระเยซู

วันหนึ่งขณะที่พระองค์กำลังยืนอยู่ข้างทะเลสาบเยนเนซาเรท ฝูงชนก็พากันมารายล้อมพระองค์เพื่อฟังคำกล่าวของพระเจ้า พระองค์มองไปยังเรือ 2 ลำที่จอดอยู่ริมทะเลสาบ ส่วนชาวประมงกำลังล้างแหและอวนอยู่นอกเรือ พระเยซูจึงลงเรือซึ่งเป็นของซีโมน แล้วขอให้เขาแล่นเรือออกจากฝั่งไปเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงเพื่อสั่งสอนผู้คน เมื่อพระองค์กล่าวจบแล้วก็หันมากล่าวกับซีโมนว่า “จงออกเรือไปเขตน้ำลึกและหย่อนอวนลงจับปลาเถิด” ซีโมนตอบว่า “นายท่าน แม้เราลงแรงกันมามากตลอดคืนและไม่สามารถจับอะไรได้เลย แต่เพราะเป็นคำพูดของท่าน ข้าพเจ้าจะหย่อนอวนลง” เมื่อพวกเขาหย่อนอวนลงแล้ว ก็จับปลาได้เป็นจำนวนมากจนอวนเริ่มปริ แล้วพวกเขาจึงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังเพื่อนประมงที่อยู่ในเรืออีกลำ ให้ช่วยบรรทุกจนเพียบเรือทั้ง 2 ลำ เมื่อซีโมนเปโตรเห็นดังนั้น ก็ทรุดตัวลงแทบเท้าพระเยซูพลางพูดว่า “พระองค์ท่าน กรุณาไปให้ไกลจากข้าพเจ้าเถิด เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป” เขาและเพื่อนที่ไปด้วยกันต่างก็แปลกใจที่สามารถจับปลาเหล่านั้นมาได้ 10 ยากอบและยอห์นบุตรของเศเบดีซึ่งมีหุ้นกับซีโมนก็ประหลาดใจเช่นกัน แล้วพระเยซูก็กล่าวกับซีโมนว่า “อย่ากลัวเลย นับแต่นี้ไปเจ้าจะเป็นชาวประมงที่นำฝูงชนมาหาเรา” 11 เมื่อชาวประมงเหล่านั้นนำเรือเข้าฝั่งแล้วก็ได้สละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์ไป

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation