Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระผู้เป็นเจ้ากรุณาต่อชนชาติของพระองค์
1 จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ
เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
2 ใครจะประกาศการกระทำอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า
หรือประกาศคำสรรเสริญพระองค์
3 บรรดาผู้ปฏิบัติตามความเป็นธรรมก็เป็นสุข
คือผู้กระทำด้วยความชอบธรรมเสมอไป
4 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดระลึกถึงข้าพเจ้า เวลาพระองค์โปรดปรานชนชาติของพระองค์
เวลาพระองค์ช่วยพวกเขาให้รอดพ้น ก็โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วย
5 เพื่อข้าพเจ้าจะได้เห็นคนที่พระองค์เลือกเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองขึ้น
และข้าพเจ้าจะได้เป็นสุขด้วยกันกับประชาชาติของพระองค์
และสรรเสริญร่วมกับผู้สืบมรดกของพระองค์
6 พวกเราได้ทำบาปเหมือนๆ กับบรรพบุรุษของเรา
เรากระทำผิดไปแล้ว เรากระทำความชั่ว
7 บรรพบุรุษของพวกเราในอียิปต์
ไม่ได้คำนึงถึงสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์
พวกเขาไม่นึกถึงความรักมั่นคงอันอุดมของพระองค์
แต่กลับฝ่าฝืนที่ริมฝั่งทะเลที่ทะเลแดง
8 แม้กระนั้น พระองค์ยังช่วยพวกเขาให้รอดพ้นเพื่อพระนามของพระองค์
เพื่อให้อานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นที่ประจักษ์
9 พระองค์ออกคำสั่งกับทะเลแดง และทะเลก็แห้งเหือดลง
ครั้นแล้วพระองค์นำพวกเขาไปทางทะเลลึกราวกับไปทางถิ่นทุรกันดาร
10 พระองค์ช่วยพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรู
และช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากอำนาจของข้าศึก
11 และกระแสน้ำก็ท่วมเหล่าปรปักษ์
โดยไม่มีใครรอดพ้นไปได้สักคน
12 แล้วพวกเขาก็เชื่อในคำพูดของพระองค์
และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
บุตรหญิงของเศโลเฟหัด
27 บรรดาบุตรหญิงของเศโลเฟหัดบุตรของเฮเฟอร์ ผู้เป็นบุตรของกิเลอาด ผู้เป็นบุตรของมาคีร์ ผู้เป็นบุตรของมนัสเสห์ อยู่ในครอบครัวมนัสเสห์บุตรของโยเซฟ ชื่อของบรรดาบุตรหญิงคือ มาลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์ และทีรซาห์ 2 หญิงเหล่านี้เดินเข้าไปยืนต่อหน้าโมเสสและเอเลอาซาร์ปุโรหิต และต่อหน้าบรรดาหัวหน้าและมวลชนทั้งปวงที่ทางเข้ากระโจมที่นัดหมาย และพูดว่า 3 “บิดาของเราตายในถิ่นทุรกันดาร แต่ท่านไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้ติดตามของโคราห์ที่รวมกลุ่มกันต่อว่าพระผู้เป็นเจ้า ท่านตายเพราะบาปของท่านเองและไม่มีบุตรชายเลย 4 ทำไมชื่อของบิดาของเราต้องถูกลบออกเสียจากครอบครัวของท่านเพราะท่านไม่มีบุตรชาย ขอให้เราได้รับที่ดินร่วมกับพี่น้องของบิดาของเราด้วยเถิด”
5 โมเสสจึงนำเรื่องของเขามารายงานต่อพระผู้เป็นเจ้า 6 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 7 “บุตรหญิงของเศโลเฟหัดพูดถูกต้องแล้ว เจ้าจงแบ่งที่ดินให้เป็นมรดกร่วมกับพี่น้องของบิดาของพวกนาง และยกมรดกของบิดาให้เป็นของพวกนางไป 8 และเจ้าจงบอกชาวอิสราเอลว่า ‘ถ้าชายใดตายโดยไม่มีบุตรชาย เจ้าก็จงยกมรดกของเขาให้เป็นของบุตรหญิงไป 9 และถ้าเขาไม่มีบุตรหญิง เจ้าจงยกมรดกของเขาให้เป็นของพี่น้องของเขา 10 และถ้าเขาไม่มีพี่น้อง เจ้าจงยกมรดกของเขาให้เป็นของพี่น้องฝ่ายบิดาของเขา 11 และถ้าบิดาของเขาไม่มีพี่น้อง เจ้าก็จงยกมรดกของเขาให้เป็นของญาติใกล้ชิดครอบครัวมากที่สุด เพื่อให้เขาเป็นเจ้าของที่ดิน นี่คือกฎเกณฑ์และคำบัญชาสำหรับชาวอิสราเอล ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาโมเสส’”
ดวงตาคือตะเกียงของร่างกาย
33 ไม่มีผู้ใดที่จุดตะเกียงแล้วซ่อนหรือวางไว้ใต้ภาชนะ แต่จะตั้งไว้บนขาตั้งตะเกียงเพื่อผู้ที่เข้ามาจะได้เห็นแสงสว่าง 34 ดวงตาของเจ้าเป็นเสมือนตะเกียงของร่างกาย เมื่อดวงตาของเจ้าดี ร่างกายของเจ้าก็เต็มด้วยความสว่าง ถ้าดวงตาของเจ้าไม่ดี ร่างกายก็มีแต่ความมืด 35 จงดูให้ดีว่าเจ้ามีความสว่างภายใน ไม่ใช่ความมืด 36 ฉะนั้นถ้าทั่วทั้งร่างกายของเจ้าสว่างและไม่มีส่วนใดเลยที่มืด มันก็จะสว่างตลอดเหมือนเวลาที่แสงของตะเกียงส่องมาที่เจ้า”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation