Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ยามกระหายหาพระเจ้า
เพลงสดุดีของดาวิด ครั้งที่ท่านอยู่ในถิ่นทุรกันดารของยูดาห์
1 โอ พระเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง
จิตวิญญาณของข้าพเจ้ากระหายหาพระองค์
ข้าพเจ้าปรารถนาพระองค์อย่างยิ่ง
ราวกับแผ่นดินอันแร้นแค้นและเหือดแห้ง
ปราศจากน้ำ
2 ข้าพเจ้าได้มองดูพระองค์ในสถานที่บริสุทธิ์
เห็นฤทธานุภาพและพระบารมีของพระองค์
3 เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดีเลิศยิ่งกว่าชีวิต
ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
4 ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะกราบนมัสการพระองค์ตราบที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่
ข้าพเจ้าจะยกมือขึ้นเวลาอธิษฐานต่อพระองค์
5 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างบริบูรณ์และสำราญใจ
และปากของข้าพเจ้ากล่าวคำสรรเสริญพระองค์ด้วยความยินดี
6 เวลาข้าพเจ้าอยู่บนเตียงนอนก็นึกถึงพระองค์
ข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงพระองค์ในทุกยาม
7 เพราะพระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้าตลอดมา
และข้าพเจ้าร้องเพลงด้วยความยินดีภายใต้ร่มเงาปีกของพระองค์
8 จิตวิญญาณของข้าพเจ้ายึดพระองค์ไว้แนบแน่น
มือขวาของพระองค์ปกป้องข้าพเจ้าไว้
9 ส่วนพวกที่ตามล่าเอาชีวิตข้าพเจ้า
จะลงไปสู่ส่วนลึกสุดของแผ่นดินโลก
10 พวกเขาจะอยู่ภายใต้อำนาจของพลังดาบ
และตกเป็นเหยื่อของหมาใน
11 แต่กษัตริย์จะยินดีในพระเจ้า
บรรดาผู้สาบานในพระนามของพระเจ้าจะสรรเสริญพระองค์
แต่ปากของพวกคนพูดปดจะถูกปิดไว้
15 ยิ่งกว่านั้น ยังมีแท่นบูชาที่เบธเอลอันเป็นสถานบูชาบนภูเขาสูงที่เยโรโบอัมบุตรเนบัทสร้างขึ้น และก็เป็นเหตุให้อิสราเอลกระทำบาป โยสิยาห์พังแท่นบูชาบนภูเขาสูงนั้น และเผาจนเป็นเถ้าถ่าน ท่านเผาเทวรูปอาเชราห์ด้วย 16 ขณะที่โยสิยาห์หันดูรอบๆ ก็แลเห็นถ้ำเก็บศพที่ภูเขา ท่านจึงให้ไปเอากระดูกออกจากถ้ำไปเผาบนแท่นบูชาและทำให้แท่นมีมลทิน ตามคำของพระผู้เป็นเจ้า ดังที่คนของพระเจ้าประกาศ และได้เป็นผู้เผยให้ทราบถึงสิ่งเหล่านี้ล่วงหน้าไว้แล้ว[a] 17 และโยสิยาห์พูดว่า “อนุสาวรีย์ที่เรามองเห็นนั้นคืออะไร” ชาวเมืองบอกท่านว่า “นั่นเป็นถ้ำบรรจุศพของคนของพระเจ้า ที่มาจากยูดาห์ และเผยให้ทราบถึงสิ่งเหล่านี้ล่วงหน้าว่า ท่านกระทำอะไรบ้างต่อแท่นบูชาที่เบธเอล” 18 ท่านพูดว่า “ปล่อยเขาไว้ อย่าให้ใครย้ายกระดูกของเขา” เขาเหล่านั้นจึงไม่ย้ายกระดูกของท่าน รวมถึงกระดูกของผู้เผยคำกล่าวที่มาจากสะมาเรียด้วย 19 และโยสิยาห์โค่นวิหารทุกแห่งที่สถานบูชาบนภูเขาสูงที่อยู่ในเมืองต่างๆ ของสะมาเรีย ซึ่งกษัตริย์แห่งอิสราเอลได้สร้างและยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า ท่านกระทำต่อแท่นบูชาเหล่านั้น เหมือนทุกสิ่งที่ได้กระทำแล้วที่เบธเอล 20 และท่านประหารบรรดาปุโรหิตบนแท่นบูชา ซึ่งประจำอยู่บนสถานบูชาบนภูเขาสูง และเผากระดูกคนบนแท่น แล้วท่านก็กลับไปยังเยรูซาเล็ม
โยสิยาห์ให้ฉลองเทศกาลปัสกา
21 กษัตริย์บัญชาประชาชนทั้งปวงว่า “จงฉลองเทศกาลปัสกาแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เหมือนที่บันทึกในหนังสือพันธสัญญาฉบับนี้”[b] 22 ด้วยว่า การฉลองเทศกาลปัสกาเหมือนอย่างนี้ไม่เคยมีมาตั้งแต่สมัยบรรดาผู้วินิจฉัยที่ปกครองอิสราเอล หรือระหว่างสมัยบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอลหรือยูดาห์ 23 แต่ในปีที่สิบแปดของกษัตริย์โยสิยาห์ มีการฉลองเทศกาลปัสกานี้เพื่อให้เกียรติแด่พระผู้เป็นเจ้าในเยรูซาเล็ม
24 ยิ่งกว่านั้น โยสิยาห์ได้กวาดล้างพวกคนทรงและพ่อมดแม่มด เทพเจ้าและรูปเคารพประจำบ้าน และสิ่งที่น่ารังเกียจทั้งปวงที่เห็นกันอยู่ในแผ่นดินของยูดาห์และเยรูซาเล็ม เพื่อท่านจะสถาปนาคำสั่งในกฎบัญญัติที่เขียนไว้ในหนังสือที่ฮิลคียาห์ปุโรหิตพบในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 25 ทั้งก่อนหน้าท่านและหลังจากท่าน ไม่มีกษัตริย์ที่เป็นเหมือนท่าน ที่หันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดดวงใจ สุดดวงจิต และสุดความคิดของท่าน ดังที่มีในกฎบัญญัติของโมเสสทั้งหมด
พยานทั้งสอง
11 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้รับไม้วัดที่ดูเหมือนไม้เท้าอันหนึ่ง พร้อมกับมีเสียงพูดกับข้าพเจ้าว่า “จงไปวัดขนาดพระวิหารของพระเจ้าและแท่นบูชา แล้วนับจำนวนคนที่นมัสการในนั้น 2 แต่ไม่รวมลานรอบนอกพระวิหาร ไม่ต้องวัดที่นั่นเพราะเป็นส่วนที่ได้ให้แก่บรรดาคนนอกแล้ว พวกเขาจะเหยียบย่ำเมืองบริสุทธิ์เป็นเวลา 42 เดือน 3 และเราจะให้อำนาจแก่พยานทั้งสองของเรา ไปประกาศสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบเป็นเวลา 1,260 วัน เขาจะสวมผ้ากระสอบ”
4 เขาทั้งสองคือ ต้นมะกอก 2 ต้น และคันประทีป 2 คันที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินโลก 5 ถ้าผู้ใดอยากจะทำร้ายเขา ก็จะเกิดไฟพลุ่งออกจากปากของเขาทั้งสอง แล้วทำลายศัตรูไปเสีย ถ้าผู้ใดอยากจะทำร้ายเขา ก็จะต้องถูกฆ่าตายโดยวิธีนี้ 6 ทั้งสองมีอานุภาพที่จะปิดท้องฟ้า เพื่อไม่ให้ฝนตกในขณะที่เขากำลังประกาศสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบ เขามีอานุภาพที่ทำให้น้ำกลายเป็นเลือดได้ และทำให้ภัยพิบัติทุกชนิดบังเกิดแก่โลกกี่ครั้งก็ได้ 7 เมื่อเสร็จสิ้นการยืนยันของเขาแล้ว อสุรกายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก ก็จะทำสงครามกับเขาทั้งสองจนชนะและฆ่าเขาเสีย 8 และร่างอันไร้ชีวิตของเขาจะอยู่บนถนนในเมืองอันยิ่งใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าของเขาถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วย ชื่อของเมืองนี้เปรียบเทียบโดยฝ่ายวิญญาณได้เหมือนกับโสโดมและอียิปต์ 9 บรรดาผู้ที่มาจากชนชาติ เผ่า ภาษา และประเทศต่างๆ จะมองดูร่างอันไร้ชีวิตของเขาเป็นเวลาสามวันครึ่ง และจะไม่ยอมให้ร่างที่ไร้ชีวิตของเขาฝังไว้ในถ้ำ 10 คนทั้งปวงที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลกจะร่าเริงใจกับความตายของเขา พวกเขาจะเฉลิมฉลองและมอบของขวัญให้กันและกัน เพราะผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าทั้งสองคนได้นำความทุกข์ทรมานมาให้คนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลก 11 แต่หลังจากสามวันครึ่งผ่านพ้นไปแล้ว ลมหายใจแห่งชีวิตจากพระเจ้าก็จะเข้าสู่ตัวเขาทั้งสอง และเขาจะลุกขึ้น ส่วนพวกที่เห็นก็จะพากันหวาดกลัว 12 เขาได้ยินเสียงดังจากสวรรค์กล่าวกับเขาว่า “ขึ้นมาที่นี่เถิด” แล้วพวกศัตรูก็เห็นเขาลอยขึ้นไปในหมู่เมฆสู่สวรรค์ 13 ในขณะนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หนึ่งในสิบส่วนของเมืองก็ถล่มลง และคน 7,000 คนตายเพราะแผ่นดินไหว ส่วนคนที่เหลืออยู่ก็ตกใจกลัว และได้ถวายพระบารมีแด่พระเจ้าแห่งสวรรค์
14 ความวิบัติอย่างที่สองก็ผ่านไปแล้ว ดูเถิด ความวิบัติอย่างที่สามก็จะมาในไม่ช้านี้เอง
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation