Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
ของดีทุกอย่างมาจากพระยาห์เวห์
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร บทเพลงของโซโลโมน
1 ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้สร้างบ้าน
พวกคนสร้างก็เสียเวลาเปล่าๆ
ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้เฝ้าดูแลเมืองแล้ว
พวกยามที่เฝ้าเวรอยู่ก็เสียเวลาเปล่าๆ
2 มันเป็นการเหนื่อยเปล่าที่จะตื่นแต่เช้าตรู่
และทำงานหาเลี้ยงชีพจนดึกดื่นเที่ยงคืน
เพราะพระยาห์เวห์จัดหาให้กับคนที่พระองค์รัก
แม้ในขณะที่เขานอนหลับอยู่
3 ลูกชายทั้งหลายเป็นของขวัญมาจากพระยาห์เวห์
เด็กจากครรภ์เป็นรางวัลจากพระเจ้า
4 พวกลูกชายที่เกิดจากพ่อตอนที่เขาเป็นหนุ่ม
เป็นเหมือนพวกลูกศรในมือของนักรบ
5 ชายที่มีลูกชายอยู่เต็มแล่งธนูนั้นถือว่ามีเกียรติจริงๆ
เมื่อเขาต้องประจันหน้ากับพวกผู้กล่าวหาที่ประตูเมือง เขาจะได้ไม่อับอายขายหน้า
11 พวกผู้อาวุโส และทุกคนที่อยู่ตรงประตูเมืองนั้น ต่างก็พากันพูดว่า “พวกเราเป็นพยาน ขอให้พระยาห์เวห์ทำให้หญิงนี้ที่กำลังจะเข้ามายังบ้านของท่านเป็นเหมือนอย่างนางราเชล และนางเลอาห์ผู้ที่ร่วมกันสร้างครอบครัวอิสราเอลขึ้นมา ขอให้ท่านมีฐานะสูงส่งในเอฟราธาห์และมีชื่อเสียงในเบธเลเฮม 12 ขอให้ลูกหลานของท่านที่พระยาห์เวห์จะให้กับท่านผ่านมาทางหญิงนี้มีมากมายเหมือนลูกหลานของเปเรศ ลูกชายของทามาร์ และยูดาห์”
13 ดังนั้น โบอาสจึงรับนางรูธมาเป็นภรรยาของเขา และมีเพศสัมพันธ์กับนาง และพระยาห์เวห์ทำให้นางตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชาย 14 ส่วนพวกผู้หญิงก็พูดกับนาโอมีว่า “สรรเสริญพระยาห์เวห์ วันนี้พระองค์ไม่ได้ละทิ้งเจ้าไว้ให้ปราศจากญาติสนิทที่มีสิทธิ์ไถ่ ขอให้ทารกคนนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือในอิสราเอล 15 ให้เด็กคนนี้ทำให้ชีวิตเจ้าสดชื่นและเลี้ยงดูเจ้าในยามแก่เฒ่า เพราะเด็กคนนี้ได้เกิดมาจากลูกสะใภ้ที่รักเจ้าและนางก็ประเสริฐกว่าที่เจ้าเองจะมีลูกชายเจ็ดคน”
16 นาโอมี จึงอุ้มเด็กชายไว้บนตักของนาง และเลี้ยงดูเด็กคนนี้ 17 พวกเพื่อนบ้านหญิงบอกว่า “นาโอมีมีลูกชายแล้ว” และได้ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า “โอเบด” ต่อมาโอเบดก็ได้กลายเป็นพ่อของเจสซี ที่เป็นพ่อของกษัตริย์ดาวิด
15 นี่เป็นเหตุที่พระคริสต์ได้นำคำสัญญาใหม่[a]มาให้ พระองค์เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ เพื่อให้คนที่พระเจ้าเรียกมานั้น ได้รับมรดกถาวรตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ ความตายของพระเยซูทำให้มนุษย์ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระพ้นจากบาปที่ได้ทำไปภายใต้คำสัญญาแรก[b]แล้ว
16 มีพินัยกรรมอยู่ที่ไหนก็จำเป็นจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า คนทำพินัยกรรมนั้นตายแล้ว 17 เพราะพินัยกรรมจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อคนทำตายแล้วเท่านั้น แต่ถ้าคนทำพินัยกรรมนั้นยังอยู่ มันก็ไม่มีผลบังคับอะไรเลย 18 นั่นเป็นเหตุที่ถ้าไม่มีเลือด คำสัญญาแรกก็ยังไม่มีผลบังคับใช้ 19 เมื่อโมเสสได้ประกาศคำสั่งทุกข้อให้กับประชาชนแล้ว ท่านก็เอาเลือดของลูกวัวและแพะพร้อมกับน้ำและขนแกะสีแดงและกิ่งหุสบมาประพรมหนังสือม้วนของคำสัญญาและประชาชนทุกคน 20 โมเสสพูดว่า “นี่คือเลือดแห่งคำสัญญา คำสัญญานี้พระเจ้าได้สั่งให้พวกคุณรักษาไว้”[c] 21 แล้วโมเสสก็ได้ประพรมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และของทุกอย่างที่ใช้ในการนมัสการพระเจ้า 22 อันที่จริง ตามกฎของโมเสสนั้นถือว่าเกือบทุกอย่างที่จะต้องใช้เลือดชำระล้างให้บริสุทธิ์ และถ้าไม่มีการหลั่งเลือดออกมาก็จะไม่มีการยกโทษให้
พระคริสต์กำจัดบาปได้
23 ดังนั้น ของพวกนี้ที่จำลองแบบมาจากของจริงในสวรรค์ จำเป็นที่ต้องเอาเลือดของสัตว์มาชำระมัน แต่กับของจริงที่อยู่ในสวรรค์นั้นจะต้องใช้เครื่องบูชาที่ดีกว่านี้ชำระ 24 เพราะพระคริสต์ไม่ได้เข้าไปในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่มือมนุษย์สร้าง หรือที่จำลองแบบจากของจริง แต่ตอนนี้พระองค์ได้เข้าไปอยู่ต่อหน้าพระเจ้าในสวรรค์ที่แท้จริงเพื่อเรา
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International