Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
การสารภาพของชายผู้ได้รับทุกข์ทรมาน
ถึงหัวหน้าวงดนตรี ถึงเยดูธูน เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะเฝ้าระวังวิถีทางของข้าพเจ้า
และไม่ทำบาปด้วยลิ้นของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะครอบปากด้วยตะกร้อ
ตราบที่คนชั่วอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า”
2 ข้าพเจ้านิ่งเงียบ ข้าพเจ้าไม่ปริปาก
แม้แต่ในเรื่องดีใดๆ
และความทุกข์ก็ยิ่งทวีขึ้น
3 ใจข้าพเจ้าร้อนรุ่มในทรวงอก
ยิ่งข้าพเจ้ากังวล ข้าพเจ้ายิ่งรู้สึกแย่ลง
ครั้นแล้วลิ้นของข้าพเจ้าขยับและพูดว่า
4 “พระผู้เป็นเจ้า ให้ข้าพเจ้าล่วงรู้ถึงบั้นปลายชีวิตเถิด
และมีชีวิตอยู่นานเพียงไร
ให้ข้าพเจ้าทราบว่าชีวิตข้าพเจ้าผ่านไปรวดเร็วเพียงไร
5 ดูเถิด พระองค์ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่เพียงระยะสั้นๆ
และในสายตาของพระองค์ ช่วงชีวิตข้าพเจ้าเป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม
แน่ละ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนยืนยาวเพียงแค่ลมหายใจเท่านั้น เซล่าห์
6 แน่นอนทีเดียว คนที่ไปโน่นมานี่เป็นเช่นเดียวกับเงา
เขาดิ้นรนโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน
คนสะสมความมั่งมีไว้ แต่ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ที่กอบโกยในภายหลัง
7 โอ พระผู้เป็นเจ้า มาบัดนี้ ข้าพเจ้าหวังอะไรเล่า
ความหวังของข้าพเจ้ามีในพระองค์
8 โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากบาปทั้งปวงของข้าพเจ้า
อย่าให้ข้าพเจ้าเป็นที่ดูหมิ่นของคนโง่เขลา
9 ข้าพเจ้านิ่งเงียบ ข้าพเจ้าไม่ปริปากพูด
เพราะพระองค์ทำให้เป็นเช่นนี้
10 ให้ข้าพเจ้าได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติที่มาจากพระองค์เถิด
ข้าพเจ้าหมดกำลังเพราะพลังแรงจากมือของพระองค์
11 พระองค์ทำโทษมนุษย์เพราะบาปของเขาเป็นการตักเตือน
พระองค์เผาผลาญสิ่งที่เขารักหวงแหนประหนึ่งแมลงกัดกิน
แน่ละ ชีวิตของมนุษย์ทุกคนเป็นเพียงแค่ลมหายใจเท่านั้น เซล่าห์
12 โอ พระผู้เป็นเจ้า ฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าเถิด
เงี่ยหูฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า
และอย่าเมินเฉยกับน้ำตาของข้าพเจ้า
ด้วยว่าข้าพเจ้าเป็นผู้มาเยี่ยมเพียงชั่วครู่ชั่วยาม
ผู้อาศัยชั่วคราวเหมือนบรรพบุรุษทั้งปวงของข้าพเจ้า
13 อย่าเอาเรื่องกับข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจะได้ทราบว่าความสุขคืออะไร
ก่อนข้าพเจ้าจะจากไปและหามีชีวิตอีกไม่”
เอลีฮูเริ่มตำหนิเพื่อนโยบ
32 ดังนั้น พวกเพื่อนชายทั้งสามคนจึงหยุดโต้ตอบโยบ เพราะโยบมีความชอบธรรมในสายตาของตนเอง 2 แต่เอลีฮูบุตรของบาราเคลชาวบูซตระกูลรามโกรธมาก เขาโกรธโยบมาก เพราะโยบเห็นว่าตนเป็นฝ่ายถูกต้อง แทนที่จะเป็นพระเจ้า 3 เขาโกรธเพื่อนทั้งสามคนของโยบมากด้วย เพราะพวกเขาตอบคำถามโยบไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาประกาศว่าโยบเป็นฝ่ายผิด 4 เอลีฮูรอให้พวกเขาพูดกับโยบก่อน เพราะพวกเขามีอาวุโสกว่า 5 แต่ในเมื่อเอลีฮูเห็นว่าไม่มีคำตอบจากชายทั้งสาม เขาจึงเคืองยิ่งนัก
6 เอลีฮูบุตรของบาราเคลชาวบูซจึงพูดว่า
“ข้าพเจ้ามีอายุน้อย
พวกท่านอาวุโส
ฉะนั้นข้าพเจ้ากลัว
และไม่กล้าออกความคิดเห็นกับท่าน
7 ข้าพเจ้าคิดในใจว่า ‘ปล่อยให้ผู้ที่มีอายุมากกว่าพูด
และให้ผู้อาวุโสสอนเรื่องสติปัญญา’
8 แต่ว่าเป็นวิญญาณที่อยู่ในมนุษย์
เป็นลมหายใจขององค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพ ที่ทำให้พวกเขาเข้าใจ
9 ไม่ใช่ว่าผู้ใดสูงอายุแล้วจะเรืองปัญญา
และไม่ใช่ว่าผู้ใดอาวุโสแล้วจะเข้าใจถึงความเป็นธรรม
10 ฉะนั้น ข้าพเจ้าขอบอกว่า ‘ฟังข้าพเจ้า
ให้ข้าพเจ้าออกความคิดเห็นเถิด’
11 ดูเถิด ข้าพเจ้ารอให้พวกท่านพูด
ข้าพเจ้าฟังสิ่งที่ท่านพูดจากความเข้าใจ
ขณะที่พวกท่านพิจารณาดูว่าจะพูดอะไร
12 ข้าพเจ้าตั้งใจฟังพวกท่าน
ดูเถิด ไม่มีใครในพวกท่านที่พิสูจน์ได้ว่า โยบเป็นฝ่ายผิด
และพวกท่านไม่ได้ตอบคำถามโยบ
13 พวกท่านพูดได้อย่างไรว่าท่านพบสติปัญญาแล้ว
ให้พระเจ้าเป็นผู้ตอบโยบเถิด ไม่ใช่มนุษย์
14 โยบไม่ได้โต้ตอบต่อว่าข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะไม่ตอบโยบอย่างที่ท่านทำ
15 เพื่อนทั้งสามนิ่งอึ้งและไม่ได้พูดตอบอีก
พวกเขาไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป
16 ในเมื่อพวกเขาไม่พูดสิ่งใด
และก็ยังยืนอยู่ที่นี่ ไม่โต้ตอบอีกแล้ว ข้าพเจ้าควรจะรอต่อไปอีกหรือ
17 ข้าพเจ้ามีคำตอบจะให้ท่านเช่นกัน
ข้าพเจ้าจะออกความเห็นด้วย
18 เพราะข้าพเจ้ามีเรื่องจะพูดมากมาย
จนรั้งไว้ไม่อยู่
19 ดูเถิด ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนเหล้าองุ่นใหม่ที่ยังถูกบรรจุอยู่
เหมือนถุงหนังใหม่ที่เกือบจะปริออก
20 ข้าพเจ้าจำเป็นต้องพูดให้บรรเทาลง
ข้าพเจ้าต้องเปิดปากตอบ
21 ข้าพเจ้าจะไม่ลำเอียงต่อผู้ใด
และไม่ยกยอผู้ใด
22 เพราะข้าพเจ้าไม่ชำนาญเรื่องการยกยอปอปั้น
แต่ถ้าทำเช่นนั้น อีกไม่นานองค์ผู้สร้างของข้าพเจ้า ก็จะพรากตัวข้าพเจ้าไป
อุปมาเรื่องชายผู้มั่งมีกับลาซารัส
19 ครั้งหนึ่งมีคนมั่งมีผู้หนึ่งนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อดีและใช้ชีวิตอย่างหรูหราทุกวัน 20 ส่วนลาซารัสเป็นชายขอทานที่มีแผลเต็มตัว ได้มานอนอยู่ที่หน้าประตูบ้านของคนมั่งมี 21 เขามักจะคอยกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของคนมั่งมี แม้แต่พวกสุนัขก็ยังมาเลียแผลของเขา 22 เมื่อชายขอทานตายลง บรรดาทูตสวรรค์มารับเขาไปอยู่ใกล้ทรวงอกของอับราฮัม คนมั่งมีก็ตายเช่นกันและถูกฝัง 23 เขาอยู่ในแดนคนตายซึ่งเต็มด้วยความทุกข์ทรมาน เมื่อเขาแหงนหน้าขึ้นเห็นอับราฮัมอยู่ไกลๆ โดยมีลาซารัสอยู่ข้างๆ 24 เขาจึงร้องเรียกว่า ‘คุณพ่ออับราฮัม โปรดสงสารข้าพเจ้าด้วย ช่วยส่งลาซารัสมาหยดน้ำจากปลายนิ้วสู่ลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็นชุ่มหน่อย ข้าพเจ้าทรมานเหลือเกินที่อยู่ท่ามกลางไฟนรกเช่นนี้’ 25 แต่อับราฮัมตอบว่า ‘ลูกเอ๋ย จำไว้ด้วยว่าในชีวิตของเจ้า เจ้าได้รับความสบาย ขณะที่ลาซารัสได้รับสิ่งตรงกันข้าม ขณะนี้ ณ ที่นี้เขาได้รับความสำราญ และเจ้าทนทุกข์ทรมาน 26 และนอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ยังมีเหวลึกซึ่งกั้นระหว่างเราและเจ้า ผู้ที่ปรารถนาจะข้ามจากที่นี่ไปหาเจ้าก็มิอาจทำได้ และใครจะข้ามจากที่โน่นมาหาเราก็มิอาจทำได้’ 27 เขาจึงตอบว่า ‘ถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอร้องท่าน คุณพ่ออับราฮัมช่วยส่งลาซารัสไปยังบ้านคุณพ่อของข้าพเจ้าเถิด 28 เพื่อตักเตือนน้องชายอีก 5 คน พวกเขาจะได้ไม่ต้องมาทรมานในที่นี้ด้วย’ 29 อับราฮัมตอบว่า ‘คนพวกนั้นมีโมเสสและเหล่าผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า จงให้น้องๆ ของเจ้าฟังพวกเขาเถิด’ 30 เขาพูดว่า ‘อย่าเลย คุณพ่ออับราฮัม ถ้าคนที่ตายแล้วไปบอกพวกเขา เขาจะได้กลับใจ’ 31 อับราฮัมตอบว่า ‘ถ้าเขาไม่ฟังโมเสสและเหล่าผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า แม้จะมีผู้ฟื้นคืนชีวิตจากความตาย เขาก็จะไม่มีวันเชื่อ’”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation