Revised Common Lectionary (Semicontinuous)
พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายเรา
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร บทเพลงของดาวิด
1 “ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา”
ขอให้อิสราเอลพูดว่า
2 “ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
ตอนที่ผู้คนโจมตีพวกเรานั้น
3 ศัตรูของพวกเราก็คงกลืนกินเราทั้งเป็น
ตอนที่พวกเขาโกรธเกรี้ยวเรา
4 แล้วพวกเขาก็คงจะซัดเราซะเรียบเหมือนน้ำท่วม
กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวก็คงท่วมท้นหัวเรา
5 น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากก็คงท่วมท้นหัวเราไปแล้ว”
6 สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
ที่พระองค์ไม่ปล่อยให้เราเป็นเหยื่อของเขี้ยวศัตรู
7 เราเป็นเหมือนนกที่หนีรอดออกมาจากตาข่ายดักนกของนายพราน
ตาข่ายนั้นฉีกขาด เราจึงหนีออกมาได้
8 ความช่วยเหลือของเรามาจากพระยาห์เวห์
ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก
แผนของฮามานที่จะทำลายชาวยิว
3 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น กษัตริย์อาหสุเอรัสได้เลื่อนยศให้กับฮามาน ลูกชายของฮัมเมดาธา ชาวอากัก พระองค์เลื่อนตำแหน่งให้กับเขาสูงกว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่กับพระองค์ 2 เจ้าหน้าที่ทุกคนของพระองค์ที่ทำหน้าที่รับใช้อยู่ในวัง ต่างพากันคุกเข่าลงก้มกราบต่อฮามาน ตามคำสั่งของกษัตริย์ แต่โมรเดคัยไม่ยอมคุกเข่าลงก้มกราบเขา[a] 3 พวกเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ที่รับใช้อยู่ในวังจึงถามโมรเดคัยว่า “ทำไมเจ้าถึงไม่คุกเข่าลงก้มกราบฮามานตามคำสั่งของกษัตริย์”
4 พวกเขาได้พูดเรื่องนี้กับโมรเดคัยหลายครั้งหลายหน แต่โมรเดคัยก็ยังไม่ฟังพวกเขา พวกเขาจึงไปฟ้องฮามาน พวกเขาอยากรู้ว่าข้อแก้ตัวที่โมรเดคัยให้นั้นฟังขึ้นหรือเปล่า เพราะโมรเดคัยบอกกับพวกเขาว่าโมรเดคัยเป็นชาวยิว 5 เมื่อฮามานเห็นว่าโมรเดคัยไม่ยอมคุกเข่าลงก้มกราบเขา เขาก็โกรธมาก 6 เพราะเขารู้ว่าโมรเดคัยเป็นคนยิว เขาจึงคิดว่าฆ่าแค่โมรเดคัยคนเดียวไม่พอ ต้องกำจัดคนของโมรเดคัยด้วย คือชาวยิวทุกคนที่อาศัยอยู่ทั่วราชอาณาจักรของกษัตริย์อาหสุเอรัส
7 ในปีที่สิบสองที่กษัตริย์อาหสุเอรัสครองราชย์ ในเดือนแรก คือเดือนนิสาน ฮามานได้ทำการเสี่ยงทายเพื่อหาวันและเดือนที่จะกำจัดชาวยิว และมันก็ตกเป็นวันที่สิบสามของเดือนสิบสองคือเดือนอาดาร์ (ในสมัยนั้นสิ่งที่ใช้ในการเสี่ยงทายนี้ มีชื่อเรียกว่า “เปอร์”) 8 ฮามานพูดกับกษัตริย์อาหสุเอรัสว่า “มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่กระจัดกระจายอาศัยอยู่ทั่วทุกมณฑลในราชอาณาจักรของพระองค์ แต่พวกเขาแยกตัวออกจากคนอื่น กฎหมายของพวกเขาแตกต่างจากกฎหมายของคนอื่นๆทั้งหมด พวกนี้ไม่ยอมเชื่อฟังกฎหมายของพระองค์ ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับพระองค์ที่จะเก็บคนพวกนั้นไว้
9 ถ้าพระองค์เห็นดีด้วย ขอพระองค์เขียนเป็นกฎออกมาให้ทำลายคนพวกนี้เสีย และข้าพเจ้าจะถวายเงินประมาณสามร้อยสี่สิบห้าตัน ให้กับเจ้าหน้าที่ของกษัตริย์เพื่อเอาไปเก็บไว้ในคลังหลวง”
10 กษัตริย์จึงถอดแหวนจากนิ้วมือของพระองค์ มอบให้กับฮามาน ลูกชายของฮัมเมดาธา ชาวอากัก ฮามานเป็นศัตรูของชาวยิว 11 กษัตริย์พูดกับฮามานว่า “เราจะมอบเงินและคนเหล่านั้นให้กับเจ้า เจ้าอยากจะทำอะไรกับพวกเขา ก็ไปทำได้เลย”
12 แล้วในวันที่สิบสามของเดือนแรก ฮามานได้เรียกพวกเสมียนของกษัตริย์มา และให้พวกเสมียนเขียนทุกอย่างตามที่เขาสั่ง พวกเขาเขียนเป็นภาษาของคนต่างๆเหล่านั้น และส่งไปยังพวกผู้ควบคุมภาค พวกผู้ว่าราชการของแต่ละมณฑล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของประชาชนทุกคนในทุกมณฑล คำสั่งนี้ได้เขียนขึ้นภายใต้ชื่อของกษัตริย์อาหสุเอรัส และประทับตราด้วยแหวนของพระองค์
13 แล้วพวกผู้ส่งสารก็นำจดหมายเหล่านี้ไปแจกจ่ายตามมณฑลต่างๆทั่วทุกแห่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ ในจดหมายเขียนว่า “ให้ทำลายล้างและฆ่าชาวยิวทุกคนให้พินาศสิ้นไป ทั้งคนหนุ่มและคนแก่ ทั้งผู้หญิงและเด็กเล็กๆ ให้ลงมือในวันที่สิบสามของเดือนสิบสอง ซึ่งเป็นเดือนอาดาร์ และให้ยึดข้าวของทั้งหมดของพวกเขาไว้
14 พวกสำเนาของจดหมายคำสั่งนี้ ให้ประกาศเป็นกฎหมายออกไปทั่วทุกมณฑล และประกาศออกไปให้กับทุกชนชาติได้รับรู้ เพื่อทุกคนจะได้เตรียมพร้อมสำหรับวันนั้น”
15 คนส่งสารเหล่านั้น จึงรีบออกไปทำตามคำสั่งของกษัตริย์ ในขณะที่กฎหมายนี้ก็ได้ประกาศในเขตวังของเมืองสุสาเหมือนกัน พระองค์นั่งดื่มอยู่กับฮามาน ในขณะที่เมืองสุสาตกอยู่ในภาวะตื่นกลัว
เกลือและแสงสว่าง
(มก. 9:50; 4:21; ลก. 14:34-35; 8:16)
13 พวกคุณเป็นเกลือ[a]ของโลกนี้ ถ้าเกลือหมดรสเค็มแล้ว จะทำให้เค็มอีกได้อย่างไร มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว นอกจากเอาไปทิ้งให้คนเหยียบย่ำ 14 พวกคุณเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่สร้างอยู่บนภูเขาจะเอาไปซ่อนไว้ไม่ให้คนเห็นก็ไม่ได้ 15 เหมือนกับเมื่อจุดตะเกียง ก็ไม่มีใครเอาไปไว้ใต้ถัง แต่จะเอาไปตั้งไว้บนเชิงตะเกียง เพื่อจะได้ส่องสว่างให้กับทุกคนที่อยู่ในบ้าน 16 พวกคุณก็เหมือนกัน ให้ส่องสว่างออกไปเพื่อคนจะได้เห็นความดีที่คุณทำ และจะได้สรรเสริญพระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์
พระเยซูสั่งสอนเกี่ยวกับกฎปฏิบัติ
17 อย่าคิดว่าเรามายกเลิกกฎปฏิบัติของโมเสส หรือมายกเลิกข้อความที่ผู้พูดแทนพระเจ้าเขียนไว้ เราไม่ได้มายกเลิกแต่มาทำให้มันสำเร็จ[b] 18 เราจะบอกให้รู้ว่า ตราบใดที่ฟ้าและดินยังอยู่ จะไม่มีวันที่ตัวหนังสือตัวเล็กๆหรือจุดเล็กๆสักจุดเดียวจะหายไปจากกฎปฏิบัติ จนกว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริงตามนั้น 19 คนที่ไม่ยอมเชื่อฟังข้อเล็กๆข้อหนึ่งในกฎปฏิบัติ แล้วยังสอนให้คนอื่นไม่เชื่อฟังด้วย คนนั้นก็จะเป็นคนที่เล็กน้อยที่สุดในอาณาจักรแห่งสวรรค์ แต่คนที่เชื่อฟังกฎปฏิบัติและสอนให้คนอื่นเชื่อฟังด้วย คนๆนั้นก็จะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ 20 เพราะเราจะบอกให้รู้ว่า ถ้าพวกคุณไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้ามากไปกว่าที่พวกครูสอนกฎปฏิบัติและพวกฟาริสีเชื่อฟังพระองค์ คุณก็จะไม่มีวันได้เข้าไปในอาณาจักรแห่งสวรรค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International